December 05, 2025

HONOR จับมือ Alibaba ประกาศลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญอย่างเป็นทางการ ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน โดยมี นายเจมส์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออเนอร์ ดีไวซ์ จำกัด และ นายเอ็ดดี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาลีบาบา กรุ๊ป ร่วมเป็นสักขีพยาน

การลงนามข้อตกลงครั้งนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันในการขับเคลื่อนการเติบโตและกำหนดทิศทางกลยุทธ์หลักของทั้งสององค์กรที่ครอบคลุมในหลายมิติ โดยมุ่งเน้นในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาระบบนิเวศ AI การสร้างโมเดลและศักยภาพด้าน AI ตลอดจนการยกระดับบริการอัจฉริยะ เพื่อร่วมกันวางรากฐานระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน รองรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการบูรณาการระบบนิเวศอุปกรณ์อัจฉริยะที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคต

HONOR และ Alibaba จะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งทางเทคโนโลยีและเครือข่ายนิเวศที่โดดเด่น ทั้งในด้าน AI Agent, โมเดล AI ขนาดใหญ่, บริการอัจฉริยะ, และประสบการณ์การใช้งานเชิงนวัตกรรม โดยความร่วมมือครั้งนี้จะขยายไปสู่การพัฒนาบริการหลักที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทางและการเดินทาง บริการท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ การทำงานในมือถือ อีคอมเมิร์ซ ไปจนถึงความบันเทิง นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังจะร่วมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเทคนิคและการแบ่งปันทรัพยากรระหว่างสาขาต่าง ๆ เพื่อร่วมกันค้นหาฟีเจอร์ใหม่และรูปแบบการโต้ตอบล้ำสมัยสำหรับอุปกรณ์มือถือในอนาคต

ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนาร่วมกันบนพื้นฐานของโมเดลโอเพนซอร์ส Qwen ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างโมเดลแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับ AI บนอุปกรณ์ AI Agent ไปจนถึงความเข้าใจและการประมวลผลแบบมัลติโมดัล โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อยกระดับประสบการณ์อุปกรณ์อัจฉริยะผ่านแนวคิด “Cloud-Device Integrated” หรือการบูรณาการคลาวด์และอุปกรณ์ในระดับโลก อาศัยพลังของโมเดลขนาดใหญ่ Qwen ที่ถูกผสานเข้ากับฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ และสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลายของ HONOR ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีโมเดลขนาดใหญ่ที่เน้นการใช้งานจริง ทั้งในสถานการณ์เฉพาะและบนอุปกรณ์ เพื่อส่งมอบบริการและประสบการณ์ AI อัจริยะ ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัว ปลอดภัย และลื่นไหลมากขึ้นให้กับผู้ใช้งาน HONOR MagicOS

นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังมุ่งมั่นร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการพัฒนาศักยภาพ AI ในรูปแบบ Model-as-a-Service (MaaS) โดยครอบคลุมการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและผสานรวมความสามารถในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ มัลติโมดัล รูปภาพ วิดีโอ หรือเสียง อีกทั้งยังร่วมกันศึกษากระบวนการฝึกอบรม การปรับแต่ง และการประมวลผลของโมเดล AI ทั้งแบบ on-device และ cloud-based ไม่ว่าจะอิงจากโมเดลโอเพนซอร์ส Qwen หรือโมเดลที่พัฒนาร่วมกัน โดยเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างโมเดล on-device ขั้นสูงที่สามารถบรรลุศักยภาพระดับ State-of-the-Art (SOTA) และมอบประสบการณ์ AI ที่ชาญฉลาด ลื่นไหล และตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างเหนือชั้น

ในอนาคต ความร่วมมือเชิงลึกระหว่างทั้งสองบริษัทจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศบริการเชิงพาณิชย์ที่ครอบคลุมของ Alibaba ร่วมกับโปรโตคอล MCP (Multi-Cloud Platform) ชุด AI Agent เฉพาะด้าน เช่น Ele.me (บริการส่งอาหาร), Damai (การจองตั๋ว) และ Taopiaopiao (การจองตั๋วหนัง) จะถูกผสานรวมอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายระบบนิเวศ AI Agent ให้ครอบคลุมสถานการณ์เฉพาะทางที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งอาหาร ความบันเทิง การทำงานร่วมกันในสำนักงาน และอีคอมเมิร์ซ เพื่อมอบประสบการณ์ชีวิตที่สะดวกสบาย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างราบรื่นและครบวงจร

โครงการริเริ่มครั้งนี้มุ่งนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง โดย HONOR Magic8 Series ที่กำลังจะเปิดตัว ถูกออกแบบให้เป็นสมาร์ตโฟน AI Native ที่ทรงพลังที่สุดและสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่นี้จะมอบประสบการณ์การใช้งาน AI และบริการอัจฉริยะหลากหลายรูปแบบ ซึ่งพัฒนาร่วมกันโดย HONOR และ Alibaba สำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ ตลอดจนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ยังถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับเทคโนโลยี AI บนสมาร์ตโฟน และสร้างมาตรฐานใหม่ในการเชื่อมต่อระหว่างคลาวด์และอุปกรณ์ เพื่อมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ล้ำสมัย ลื่นไหล และเหนือระดับ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลและคนรุ่นใหม่อย่างครบวงจร

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ HONOR สามารถสอบถามข้อมูลและซื้อสินค้าได้ที่ HONOR Experience Store ทุกสาขา และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.honor.com/th หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจได้ที่เฟซบุ๊ก HONOR Thailand

Alibaba.com แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B)  ประกาศในงานเปิดตัวในกรุงปารีสว่า Alibaba.com เป็นพันธมิตรอีคอมเมิร์ซสำหรับงานโอลิมปิกและพาราลิมปิกรายแรกของโลก ที่ได้เข้าร่วมโครงการ Athlete365 Business Accelerator รุ่นที่สี่ (“Business Accelerator”) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่นำโดย คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) เพื่อสนับสนุนนักกีฬาในการสร้างอาชีพเสริมและการสานต่องานอาชีพ ผ่านการสนับสนุนและผลักดันศักยภาพนักกีฬาสู่การเป็นผู้ประกอบการในอนาคต 

Alibaba.com เชื่อมโยงผู้ซื้อและซัพพลายเออร์จากกว่า 200 ประเทศและหลากหลายภูมิภาคเข้าด้วยกัน โดยนำเสนอบริการที่เป็นนวัตกรรมและเครื่องมือทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้ SMEs เริ่มต้นและสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจ ด้วยการลดความยุ่งยากในการค้าขายทั่วโลกสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย มอบโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่น รวมถึงนักกีฬาทุกประเภท  

ข้อมูลใหม่จาก Alibaba.com* พบว่า เกือบสองในสาม (63%) ของอดีตนักกีฬาต้องดิ้นรนเพื่อหาอาชีพใหม่หลังจากการเป็นนักกีฬา และถึงแม้ว่าอดีตนักกีฬากว่า 76% คิดว่าตนเองมีทักษะในเชิงธุรกิจที่สามารถต่อยอดได้ แต่ปัจจุบันมีนักกีฬาเพียงครึ่งหนึ่ง (52%) เท่านั้นที่กำลังมีธุรกิจส่วนตัว 

โครงการ Athlete365 Business Accelerator เป็นศูนย์บ่มเพาะธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักกีฬามืออาชีพทั้งอดีตและปัจจุบันมีทักษะที่จำเป็นในการสร้างและบริหารธุรกิจของตนเอง โดยในฐานะพันธมิตรรายแรกที่เข้าร่วมโครงการนี้ Alibaba.com จะสร้าโครงการฝึกอบรมหลายช่วงที่เน้นด้านอีคอมเมิร์ซและการค้าระดับโลก ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้ของผู้เข้าร่วมในด้านที่สำคัญทางธุรกิจ เช่น การใช้เครื่องมือ AI การจัดหาสินค้าจากทั่วโลก และการส่งออก B2B ผ่านตลาดดิจิทัล 

Alibaba.com ตั้งเป้าในการเพิ่มศักยภาพให้กับนักกีฬาและอดีตนักกีฬาทั่วโลกมากกว่า 1,000 ราย ตลอดการฝึกอบรมในโปรแกรมดังกล่าว นอกจากนี้ Alibaba.com ยังจะเสนอแพ็คเกจ Business Accelerator สำหรับผู้สมัครที่น่าจับตามองจำนวน 50 ราย มูลค่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ** ต่อแพ็คเกจ ซึ่งจะผสมผสานการฝึกอบรมด้านการขนส่ง การปฏิบัติงานและการจัดหาสินค้า และเครดิต เพื่อช่วยให้ผู้สมัครปลดล็อกโอกาสการเติบโตในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน 

 

Kuo Zhang ประธานบริษัท Alibaba.com และ Tony Parker อดีตนักกีฬาโอลิมปิกและแอมบาสเดอร์ของ Alibaba.com 

Kuo Zhang ประธานบริษัท Alibaba.com กล่าวว่า "ที่ Alibaba.com เราได้เห็นผู้ค้าจำนวนมากที่ไม่มีพื้นฐานทางธุรกิจกลายเป็นผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงผ่านการใช้บริการและเครื่องมือบนแพลตฟอร์มของเรา สำหรับเหล่านักกีฬานั้น พวกเขามีชื่อเสียงในด้านความกล้าหาญ มุ่งมั่น และทัศนคติเชิงบวกในการเล่นกีฬา และด้วยการนำคุณลักษณะที่สำคัญแบบเดียวกันเหล่านี้มาสู่โลกธุรกิจ ความตั้งใจและความไม่ย่อท้อของพวกเขาจะทำให้พวกเขาได้เปรียบในฐานะผู้ประกอบการ พวกเราที่ Alibaba.com ยินดีอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนนักกีฬาในการเสริมสร้างทักษะการขาย เพื่อช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการ” 

Kaveh Mehrabi ผู้อำนวยการฝ่ายนักกีฬาของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ Alibaba.com มาร่วมงานในฐานะพันธมิตรสำหรับโครงการ Athlete365 Business Accelerator ของ IOC ด้วยการเตรียมพร้อมนักกีฬาผ่านการฝึกอบรมและบ่มเพาะทักษะที่เหมาะสม ที่ประกอบด้วยโครงการการให้คำปรึกษาและเครื่องมือดิจิทัลของ Alibaba.com โดยเราจะร่วมกันส่งเสริมนักกีฬาโอลิมปิกที่มีความมุ่งมั่นในการเริ่มต้นธุรกิจของตนเองให้ได้เริ่มลงมือทำจริง  โครงการนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจร่วมกันของเรา เพื่อช่วยให้นักกีฬาสามารถสร้างเส้นทางอาชีพถัดไปให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยความเชี่ยวชาญจากพันธมิตรชั้นนำของเรา” 

เพื่อช่วยเชื่อมโยงระหว่างโลกของการกีฬาและการค้า Alibaba.com เสนอโอกาสในการให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ Business Accelerator ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงและทีมงานระดับโลกจาก Alibaba.com รวมถึง Global Ambassadors โดยทุกคนนั้นได้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านจากการเป็นนักกีฬาสู่การเป็นผู้ประกอบการ อาทิ Tony Parker นักกีฬาโอลิมปิกสองสมัย, Elias Schwärzler นักปั่นจักรยานเสือภูเขามืออาชีพ และ Simona Galik Moore อดีตนักเทนนิสมืออาชีพชื่อดัง  Tony, Elias และ Simona ต่างใช้ Alibaba.com ในการขับเคลื่อนธุรกิจของตน โดยธุรกิจ SME ทั่วโลกก็สามารถได้รับประโยชน์จากข้อเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ของ Alibaba.com ได้เช่นกัน 

อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (NYSE: BABA และ HKEX: 9988, “อาลีบาบา” หรือ “อาลีบาบา กรุ๊ป”) ประกาศผลประกอบการทางการเงิน สำหรับไตรมาสเดือนกันยายน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565

"เรายังคงส่งมอบผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ผ่านมา แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพแวดล้อมระดับมหภาคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถในการปรับตัว ความยืดหยุ่นของธุรกิจ และความไว้วางจากลูกค้าที่มีต่อเรา อย่างไม่มีองค์กรใดเทียบได้" แดเนียล จาง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วทุกภูมิทัศน์ของโลก ยิ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราที่ต้องการสร้างขีดความสามารถ เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและมีคุณภาพสูงสำหรับทั้งลูกค้าและองค์กรของเราในระยะยาว  ซึ่งความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นของอาลีบาบาช่วยให้เราสามารถพัฒนาองค์กรมาได้อย่างต่อเนื่องตลอด 23 ปีที่ผ่านมา และเรามุ่งมั่นที่จะยกระดับผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นไปพร้อม ๆ กับการเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตของอาลีบาบา”  

“ถือเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่เราสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ที่ดี ซึ่งเติบโตขึ้นกว่า 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แม้จะต้องเผชิญกับผลกระทบจากอุปสงค์การบริโภคในช่วงหลังการฟื้นตัวของโควิด-19 ในประเทศจีน และสถานการณ์การค้าข้ามพรมแดนที่ชะลอตัวลง เนื่องจากต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่สูงขึ้นและความผันผวนของสกุลเงินต่างประเทศ” ซู หง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “เรายังคงยึดวิธีการบริหารงานโดยพิจารณาองค์ประกอบจากทุกมิติ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการจัดการต้นทุนทางธุรกิจที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้ กำไรก่อนหักค่าเสื่อมราคา (EBITA) ที่ปรับแล้ว โตขึ้น 29% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ด้วยสถานะเงินสดสุทธิและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง เราจึงได้ซื้อหุ้นคืนราว 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืน วงเงิน 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ที่เราได้ดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมการของเราได้อนุมัติให้มีการขยายโครงการซื้อหุ้นคืนอีก 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และขยายโครงการไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2568”

ผลประกอบการทางธุรกิจที่น่าสนใจ

จากไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565

  • รายได้ (Revenue) อยู่ที่ 207,176 ล้านหยวน (29,124 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • รายได้จากการดำเนินงาน (Income from operations) อยู่ที่ 25,137 ล้านหยวน (3,534 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบเป็นรายปี การเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปีนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรก่อนหักค่าเสื่อมราคา (EBITA) ที่ปรับแล้ว และการลดลงของรายจ่ายที่ใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ โดยเราได้แยกรายจ่ายที่ใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ ออกจากการวัดผลแบบ non-GAAP ของเรา สำหรับ กำไรก่อนหักค่าเสื่อมราคา (EBITA) ที่ปรับแล้ว ซึ่งเป็นการวัดผลแบบ non-GAAP นั้น ขยับเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็น 36,164 ล้านหยวน (5,084 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • การขาดทุนสุทธิของผู้ถือหุ้นสามัญ (Net loss attributable to ordinary shareholders) อยู่ที่ 20,561 ล้านหยวน (2,890 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่ การขาดทุนสุทธิ (Net loss) อยู่ที่ 22,467 ล้านหยวน (3,158 ล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 3,377 ล้านหยวน ในไตรมาสเดียวกันของปี 2564 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการขาดทุนสุทธิที่สูงขึ้น อันเนื่องมาจากการลดลงของมูลค่าหน่วยลงทุนในตราสารทุนของเราในตลาดสาธารณะ และการลดลงของส่วนแบ่งตามส่วนได้ส่วนเสียของผู้ลงทุน โดยส่วนหนึ่งถูกชดเชยด้วยการเพิ่มกำไรก่อนหักค่าเสื่อมราคา (EBITA) ที่ปรับแล้ว ทั้งนี้ เราไม่นับรวมกำไรหรือการขาดทุนสุทธิที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของเงินลงทุนของเรา จากการวัดผลแบบ non-GAAP ขณะที่รายได้สุทธิ (net income) แบบ non-GAAP อยู่ที่ 33,820 ล้านหยวน (4,754 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • การขาดทุนต่อหุ้นที่ปรับลดในตลาดหุ้นสหรัฐ (Diluted loss per ADS) เท่ากับ 77 หยวน (1.09 เหรียญสหรัฐ) และการขาดทุนต่อหุ้นที่ปรับลด (Diluted loss per share) เท่ากับ 0.97 หยวน (0.14 เหรียญสหรัฐ หรือ 1.07 เหรียญฮ่องกง) ขณะที่ กำไรต่อหุ้นที่ปรับลดในตลาดหุ้นสหรัฐ คำนวณแบบ Non-GAAP (Non-GAAP diluted earnings per ADS) อยู่ที่ 12.92 หยวน (1.82 เหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ กำไรต่อหุ้นที่ปรับลด คำนวณแบบ non-GAAP (Non-GAAP diluted earnings per share) เท่ากับ 1.61 หยวน (0.23 เหรียญสหรัฐหรือ 1.78 เหรียญฮ่องกง) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • เงินสดสุทธิที่ได้มาจากการดำเนินงาน (Net cash provided by operating activities) อยู่ที่ 47,112 ล้านหยวน (6,623 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับ 35,830 ล้านหยวน ในไตรมาสเดียวกันของปี 2564 กระแสเงินสดอิสระ (Free cash flow) ซึ่งเป็นการวัดสภาพคล่องแบบ non-GAAP อยู่ที่ 35,709 ล้านหยวน (5,020 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเปรียบเทียบกับ 22,239 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปี 2564

ผู้ประกอบการไทยรวม 28 ราย ร่วมประกาศจบหลักสูตรฝึกอบรม Alibaba Netpreneur Training (“ANT”) Program ประเทศไทย รุ่นล่าสุด

อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE: BABA และ HKEX: 9988, “อาลีบาบา” หรือ “อาลีบาบา กรุ๊ป”) ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสเดือนมิถุนายน ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

“ในไตรมาสที่ผ่านมา เราได้ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมระดับมหภาค และยังคงมุ่งเน้นการดำเนินงานตามกลยุทธ์ระยะยาว โดยยังคงเสริมสร้างขีดความสามารถองค์กรเพื่อสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า" แดเนียล จาง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “หลังผ่านพ้นช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคมที่การขับเคลื่อนเป็นไปค่อนข้างช้า เราก็มองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจต่าง ๆ ของอาลีบาบาในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราเชื่อมั่นในโอกาสการเติบโตระยะยาว อันเนื่องมาจากฐานผู้บริโภคคุณภาพสูง และความยืดหยุ่นของรูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าของเรา”

“แม้จะมีความท้าทายที่เกิดจากการฟื้นตัวหลัง COVID-19 แต่บริษัทก็ยังสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงเมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี เราขาดทุนน้อยลงในธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ อันเนื่องมากจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ” โทบี ซู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “ล่าสุด เราได้เปิดเผยถึงแผนการเพิ่มฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่เศรษฐกิจหลักที่เราให้ความสำคัญ เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และนิวยอร์ก ซึ่งเราตั้งเป้าที่จะขยาย และเพิ่มความหลากหลายในฐานนักลงทุนของเราต่อไป”

ผลประกอบการทางธุรกิจที่น่าสนใจ

จากไตรมาส 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565

  • รายได้ อยู่ที่ 205,555 ล้านหยวน (30,689 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และยังคงที่ เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้ของภาคการค้าจีน ที่ปรับตัวลดลง 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหลืออยู่ที่ 141,935 ล้านหยวน (21,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถูกชดเชยโดยรายได้จากกลุ่มธุรกิจคลาวด์ ที่โตขึ้น 10% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี คิดเป็น 17,685 ล้านหยวน (2,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • รายได้จากการดำเนินงาน อยู่ 24,943 ล้านหยวน (3,724 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 19% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี ขณะที่ตัวเลข EBITA (กำไรก่อนการปรับปรุง) ซึ่งเป็นรายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) ปรับตัวลดลง 18% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี เหลืออยู่ที่ 34,419 ล้านหยวน (5,139 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • รายได้สุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญ อยู่ 22,739 ล้านหยวน (3,395 ล้านเหรียญสหรัฐ) และรายได้สุทธิ อยู่ที่ 20,298 ล้านหยวน (3,030 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่รายได้สุทธิแบบที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) อยู่ที่ 30,252 ล้านหยวน (4,517 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 30% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี สาเหตุหลักมาจากการลดลงของ EBITA (กำไรก่อนการปรับปรุง) และส่วนแบ่งจำนวนหุ้นของผู้ลงทุน ตามวิธีส่วนได้เสียที่ลดลง
  • รายได้ปรับลด ต่อ ADS อยู่ที่ 51 หยวน (1.27 ดอลลาร์สหรัฐ) และกำไรต่อหุ้น อยู่ที่ 1.06 หยวน (0.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.24 ดอลลาร์ฮ่องกง) กำไรปรับลดแบบ Non-GAAP ต่อ ADS อยู่ที่ 11.73 หยวน (1.75 ดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 29% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี และกำไรต่อหุ้นปรับลดแบบ non-GAAP อยู่ที่ 1.47 หยวน (0.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.72 ดอลลาร์ฮ่องกง) ลดลง 29 % ปีต่อปี
  • เงินสดสุทธิที่ได้มาจากการดำเนินงาน คิดเป็นมูลค่า 33,869 ล้านหยวน (5,057 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับ 33,603 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปี 2564 ขณะที่กระแสเงินสดอิสระที่คำนวณแบบ Non-GAAP มีมูลค่าคิดเป็น 22 หยวน ,173 ล้าน (3,310 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับ 20,683 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปี 2564

สำหรับข่าวประชาสัมพันธ์ภาษาอังกฤษฉบับเต็ม โปรดคลิกที่นี่

 

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click