September 16, 2024

อัปเดตสถานการณ์การลงทุนทั่วโลก พร้อมคว้าโอกาสท่ามกลางความท้าทาย ในช่วงครึ่งหลังปี 67

กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง นำโดย นางสาวกนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ (กลาง) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) และพันธมิตรด้านการลงทุนชั้นนำระดับโลก แบล็คร็อค จัดสัมมนาพิเศษสำหรับลูกค้ากรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง ในหัวข้อ ‘The Prime Time of PRIVATE CREDIT’ แนะโอกาสการลงทุนในตราสารหนี้นอกตลาด ผ่านกองทุนเปิดกรุงศรี Private Credit - ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFPCD-UI) ซึ่งบริหารโดย BlackRock สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น โดยได้รับเกียรติจาก Mr. George Maltezos (ที่ 1 จากขวา), Managing Director, Head of Alternatives Specialist Team – Asia Pacific of BlackRock มาร่วมแบ่งปันมุมมองการลงทุน พร้อมเจาะลึกสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของกองทุนตราสารหนี้นอกตลาด งานสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ

สำหรับกองทุน KFPCD-UI เป็นการลงทุนผ่านกองทุน BlackRock Private Credit Fund (Institutional Shares) (กองทุนอ้างอิง) ที่บริหารโดย BlackRock บริษัทจัดการที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นนำในตลาด Private Credit เน้นลงทุนด้วยการปล่อยกู้นอกตลาด (Private credit) ประมาณ 80% ของมูลค่าทรัพย์สินกองทุนให้แก่บริษัทขนาดกลางในประเทศสหรัฐอเมริกา เสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 2 – 9 กรกฎาคม 2567

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เปิดเผยความคืบหน้าของแคมเปญ “กรุงศรี มั่งมี ช้อป ใช้กรุงศรี มั่งมี ทุกร้าน” จัดคาราวานลงพื้นที่พบปะร้านค้าธุรกิจ SME ในย่านการค้า ตลาดขนาดใหญ่ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการแอปพลิเคชัน กรุงศรี มั่งมี ช้อป (Krungsri Mung-Mee SHOP) โดยตรง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา โดยมียอดธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 30% และมีร้านค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การลงพื้นที่พบปะกับลูกค้าทั่วประเทศในแคมเปญ “กรุงศรี มั่งมี ช้อป ใช้กรุงศรี มั่งมี ทุกร้าน” นี้ ทำให้เรามีโอกาสแนะนำและสร้างการรับรู้ให้กับร้านค้ารายย่อยมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดธุรกรรมและจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรายังได้รับข้อมูลเชิงลึก (Insight) จากลูกค้าที่เป็นประโยชน์นำมาใช้พัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อตอบโจทย์ร้านค้าได้ดียิ่งขึ้น ทำให้แอปพลิเคชันกรุงศรี มั่งมี ช้อป เข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ชีวิตพ่อค้าแม่ค้าง่ายขึ้น ตอกย้ำแนวคิดของกรุงศรี SME ที่พร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านค้า SME ทุกระดับ ให้สามารถค้าขาย ทำธุรกิจได้อย่างคล่องตัว

“หนึ่งในฟีเจอร์ของแอปพลิเคชัน กรุงศรี มั่งมี ช้อป ที่ได้รับความสนใจจากร้านค้า คือ ความสามารถในการรองรับการจ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่าน WeChat และ Alipay ซึ่งทำให้เห็นถึงโอกาสในการขายสินค้าของตนเองได้มากขึ้น โดยธนาคารเริ่มเห็นปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่าน WeChat และ Alipay เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 3 เท่า สะท้อนถึงการพัฒนาฟีเจอร์และระบบรองรับการชำระเงินที่ดีมีประสิทธิภาพ ช่วยปิดการขายได้มากขึ้น” นางสาวดวงกมล กล่าว

ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา กรุงศรี ได้จัดแคมเปญ “กรุงศรี มั่งมี ช้อป ใช้กรุงศรี มั่งมี ทุกร้าน” นำคาราวานและขบวนพาเหรดลงพื้นที่พบปะร้านค้าธุรกิจ SME ในย่านการค้า ตลาดขนาดใหญ่ ที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ใน 6 จังหวัด ทั้งในกรุงเทพฯ ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี สมุทรสงคราม เชียงใหม่ และสงขลา ทำให้เข้าถึงร้านค้า SME จำนวนมาก โดยทีมงานได้แนะนำฟีเจอร์และบริการต่างๆ ให้กับร้านค้าอย่างใกล้ชิด ทำให้ร้านค้าสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

แอปพลิเคชัน กรุงศรี มั่งมี ช้อป เป็นระบบรับชำระเงินสำหรับร้านค้า SME ที่สามารถแก้ Pain Point ของลูกค้าได้ดีเยี่ยม นอกจากจะสามารถรับชำระเงินทั้งค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่าน QR Codeได้จากหลากหลายช่องทาง ทำให้รับเงินได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีฟีเจอร์การแจ้งเตือนพร้อมเสียงพูดให้ทันที จึงวางใจจากภัยมิจฉาชีพ

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้กรุงศรี มั่งมี ช้อป สามารถใช้บริการทั้งการขายหน้าร้าน การขายผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลคอมเมิร์ซ โดยการสร้าง QR รับชำระเงินและส่งเรียกเก็บเงินทาง Facebook Messenger, Instagram และ LINE ได้ส่วนผู้ซื้อสินค้าและบริการจะจ่ายด้วยช่องทางการเงินแบบใดก็ได้ ทั้งสแกน QR จากโมบาย แบงก์กิ้ง แอปหรือจะใช้แอปพลิเคชันบัตรเครดิต Visa / Master Card นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวชาวจีนก็สามารถจ่ายได้ด้วยกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) Alipay, WeChat Pay, QR Code และนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ กัมพูชา มาเลเซีย ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และ ฮ่องกง สามารถสแกนจ่ายได้ Krungsri Mung-Mee SHOP จึงไม่ใช่แค่เป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ตอบโจทย์ลูกค้าคนไทย แต่ยังเปิดโอกาสทางการค้าสำหรับร้านค้าที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพร้อมอำนวยความสะดวกด้านบัญชี โดยจะสรุปยอดขาย แยกยอดขายให้เห็นชัดเจน และตรวจสอบสลิปได้ในแอปเดียว

ร้านค้าที่สนใจและมีบัญชีกรุงศรีและใช้งาน KMA krungsri app อยู่แล้ว สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Krungsri Mung-Mee SHOP สมัครใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาของธนาคาร ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/personal/banking-services/e-solution/mungmee-shop หรือ Krungsri Call Center 1572 และสาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยาทั่วประเทศ

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) คัดกองทุนตัวเด็ดหลากหลายสินทรัพย์คุณภาพทั่วโลกจากหลาย บลจ. ชั้นนำ เพื่อโอกาสผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมจัดแคมเปญพิเศษ เมื่อลงทุนสะสมในกองทุนที่ร่วมรายการผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในระหว่างวันที่ 2 พฤษภาคม – 30 สิงหาคม 2567 รับเงินคืนล้านละ 1,000 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดกองทุนที่ร่วมรายการและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/promotions/personal/fif-focus  

*ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้จากสื่อต่าง ๆ ของธนาคาร

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ยืนหนึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่คว้ารางวัลยอดเยี่ยมระดับเอเชียด้านสังคมและความยั่งยืนมากที่สุด โดยได้รับรางวัล “ซีเอสอาร์ ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” (Asia’s Best CSR Award) และรางวัล “ความยั่งยืนแห่งเอเชีย 2024” (Sustainable Asia Award 2024) จากงาน Asian Excellence Award 2024 ครั้งที่ 14 จัดโดยนิตยสาร Corporate Governance Asia หนึ่งในนิตยสารชั้นนำด้านการส่งเสริมบรรษัทภิบาลและ ESG ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สะท้อนความเป็นองค์กรธุรกิจที่ยึดมั่นในพันธกิจด้านความยั่งยืน พร้อมเป็นต้นแบบด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ กรุงศรียังได้รับรางวัลเกียรติยศด้านความเป็นเลิศแห่งภูมิภาคเอเชียอีกสี่รางวัลได้แก่ รางวัล “ซีอีโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” (Asia’s Best CEO) มอบให้แก่ นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  รางวัล “ซีเอฟโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” (Asia’s Best CFO) มอบให้แก่ นางสาวดวงดาว วงค์พนิตกฤต ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน รางวัล “นักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม” (Best Investor Relations Professional) และรางวัล “บริษัทนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม” (Best Investor Relations Company)  

X

Right Click

No right click