

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และพันธมิตร เปิดรับสมัครผู้ท้าชิงที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.1-ม.6 หรือเทียบเท่า ร่วมสร้างทีมจำนวน 4-15 คน (ควรมีสมาชิกผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน (inclusive member) เพื่อส่งเสริมความหลากหลาย) เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ FIRST® Tech Challenge Thailand ครั้งที่ 7 มุ่งสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ STEM Education พัฒนาผู้เรียนด้านทักษะกระบวนการคิด การแก้ปัญหา การออกแบบ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพิชิตภารกิจในหัวข้อ “DECODE Presented by RTX” ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2568 ณ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา และได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่สหรัฐอเมริกา ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถสแกน QR Code ในโปสเตอร์รับสมัครภายในวันที่ 17 ตุลาคม 2568 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/FIRSTTechChallengeTHAILAND/
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับ สถาบันแห่งชาติเพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเสวนา “สร้างเด็ก เก่ง ดี มีสุข ด้วย EF” พร้อมสรุปโครงการให้ความรู้การพัฒนาทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ หรือ EF (Executive Function) ในเด็กเล็กแบบออนไลน์ที่ได้ทำร่วมกันตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีคุณครูและผู้ปกครองเข้าร่วมอบรม กว่า 17,407 คน พร้อมเผยผลวิจัยการเลี้ยงดูเด็กด้วยแนวทาง EF ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ รวมถึงระดับ IQ ของเด็กเพิ่มขึ้นกว่า 17% ใน 5 ปี นอกจากนี้ เสียงจากพ่อแม่ยังสะท้อนว่า การเล่นแบบ EF ทำให้ลูกรู้จักตั้งเป้าหมาย อดทนรอคอย และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัว กล่าวว่า “สถาบันฯ จะยังคงมุ่งมั่นสร้างและขยายตลาดการเรียนรู้ EF เชื่อมต่อผู้เรียนระดับอุดมศึกษาสู่การศึกษาทั่วไปพร้อมเพิ่มจำนวนนักพัฒนาหรือนักต่อสู้ EF ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ คุณครู นักศึกษา ให้มีมากขึ้น ทำยังไงให้พวกเขาเหล่านี้ เข้าไปอยุ่ในทุกชุมชน สังคม และครอบครัว ให้เกิดการเรียนรู้ตามอัธยาศัย” พร้อมมีแผนการขยายผลให้เกิดการสะสมและแบ่งปันความรู้กันระหว่างผู้เรียน โดยปัจจุบันบทเรียน EF ยังได้ถูกพัฒนาให้เป็นบทเรียนหนึ่งสำหรับหลักสูตรปริญญาโทแล้วด้วย”

นางภรณี กองอมรภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่องค์กรสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “เรามุ่งเน้นพัฒนาเด็กให้เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง โดยเริ่มโครงการพัฒนา EF ที่ระยองเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เพื่อช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดในระยะยาว ปัจจุบันโครงการ “ดาว – อีเอฟ พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อระยองผาสุก” มีอาสาสมัครกว่า 1,500 คน และ มีองค์กรพันธมิตรกว่า 40 องค์กร ทำให้เด็กกว่า 50,000 คนได้รับการเรียนการสอนแบบ EF นอกจากนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา Dow ยังขยายโครงการสู่โรงเรียนในกรุงเทพฯ โดยร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ร่วมกับพันธมิตรจัดทำบทเรียนออนไลน์ Basic EF 101 ในรูปแบบ E-learning และสารคดี EF 200 ตอนบนยูทูป Dow Thailand และ ในปีนี้เราจะมีกิจกรรม EF Symposium ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2568 ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ”
“ทักษะสมอง EF ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่ต้องฝึกฝน ทั้งจากครอบครัวและโรงเรียน หลักการสำคัญ 7 ข้อในการส่งเสริม EF ในเด็ก ได้แก่ การเป็นต้นแบบที่ดี, สร้างสัมพันธภาพที่ดี, เปิดโอกาสการเรียนรู้, สนับสนุนอย่างเหมาะสม, สนใจใส่ใจสิ่งที่เด็กทำ, ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ, และหากิจกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เด็กได้ใช้ทักษะ EF ใหม่ๆ และเรียนรู้จากความผิดพลาด” อาจารย์ ดร.นุชนาฏ รักษี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันแห่งชาติเพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัวกล่าว

นายธัชชัย ใจคง อดีตรองนายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า “เราเริ่มขับเคลื่อน EF ในปี 2559 ซึ่งขณะนั้น IQ ของเด็กในจังหวัดต่ำมาก เพียง 91.26 โดยในปี 2564 IQ ของเด็กเราเพิ่มขึ้นเป็น 107.35 และ EQ ก็ดีขึ้นด้วย ซึ่งการพัฒนาทักษะสมอง EF ในเด็กต้องเริ่มจากผู้ใหญ่ เน้นการฝึกฝนเด็กอย่างต่อเนื่องและมีการวัดผลอย่างจริงจัง”
อาจารย์ลัดดา กังวานนวกุล ผู้อำนวยการกองการศึกษา เทศบาลตำบลศาลายา กล่าวว่า “หลังจากเข้าร่วมอบรม EF Platform กับมหิดลในเดือนก.พ. 67 เราได้เชิญอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ EF มาพูดคุยกับผู้ปกครอง ทำให้ผู้ปกครองเข้าใจเรื่อง EF มากขึ้น คุณครูได้ทดลองจัดกิจกรรม EF เช่น การเล่านิทาน ร้องเพลง และเล่นเกม พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเด็กจริงๆ”

นางวณิดา เติมชัยโรจน์ (แม่ปลา) ผู้ปกครองจากจังหวัดสระบุรี ที่เข้าร่วมอบรม EF Platform ทั้ง 11 ตอน เล่าว่า “แพลตฟอร์มนี้แบ่งเป็น EP เหมือนซีรีส์เกาหลี มีผู้เชี่ยวชาญด้าน EF มาช่วยสอน ทำให้เรียนรู้ง่ายและค่อยๆ พัฒนาได้ทีละระดับ สิ่งที่นำมาใช้ได้ดีกับลูกคือ “การเล่น” ในแบบ EF โดยเฉพาะการทำขนม ซึ่งช่วยให้ลูกตั้งเป้าหมาย มีสมาธิ และความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ว่าครอบครัวเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ควรร่วมเป็นแรงผลักดันให้เด็กเกิด EF ควบคู่กับโรงเรียน”
ท่านสามารถดูย้อนหลังกิจกรรมเสวนา “สร้างเด็ก เก่ง ดี มีสุข ด้วย EF” พร้อมสรุปโครงการ EF Platform ได้ที่ https://www.facebook.com/NICFDMahidol/videos/596923312959626
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) โดยนางสาววชิราพร โพธิพงษ์ ผู้จัดการแผนกองค์กรสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ เข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณจาก สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในฐานะองค์กรที่ให้การสนับสนุนการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ Pure and Applied Chemistry International Conference (PACCON 2025) และกิจกรรม Thailand Younger Chemists Network (TYCN) Chemistry Board Games ซึ่งจัดโดยสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและบุคลากรด้านการศึกษาของไทย

นอกจากนี้ ครูที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมในการประกวด DOW-CST Award ประจำปี 2567 ภายใต้โครงการ ห้องเรียนเคมีดาว ได้แก่ นางรัตนาพรรณ อุตมีมั่ง โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร จ.น่าน และนายมุตตาฆีน เจ๊ะและ โรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม จ.นราธิวาส ยังได้รับพระราชทานโล่เกียรติยศภายในงาน ณ เขาใหญ่คอนเวนชั่นเซนเตอร์ (KYCC) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

Dow ยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาทักษะด้านวิทยาศาสตร์ของเยาวชนไทย ผ่านความร่วมมือกับภาคการศึกษา เพื่อสร้างบุคลากรคุณภาพและขับเคลื่อนอนาคตของประเทศอย่างยั่งยืน
งานหลังคาเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของงานก่อสร้างอาคารทุกประเภท ปัจจุบันหลังคาเมทัลชีทที่มีการนำน้ำยาพียูโฟม (PU Foam) มาฉีดเป็นฉนวนหรือ “หลังคาพียู” เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากขึ้นและถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เพราะสามารถช่วยลดความร้อนสะสมในอาคารได้มากกว่าการติดตั้งหลังคาเมทัลชีทโดยไม่มีฉนวน ช่วยลดค่าไฟฟ้าจากการใช้งานเครื่องปรับอากาศลดลง และช่วยซับเสียงดังเวลาฝนตก เนื่องจากโฟมพียูในหลังคาเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาจากฉนวนที่ใช้ในตู้เย็น ทำให้มีประสิทธิภาพกันความร้อนได้ดีที่สุด มีน้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระกับโครงสร้างหลังคามากเกินไป อีกทั้งติดตั้งง่าย และมีความสวยงามไม่น้อยกว่าวัสดุหลังคาประเภทอื่น อย่างไรก็ตามแม้โฟมพียูในหลังคาเมทัลชีทจะดูเหมือนๆ กัน แต่แท้จริงแล้วโฟมพียูของผู้ผลิตแต่ละรายนั้นมีความแตกต่างกันทั้งในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพการเป็นฉนวน ขึ้นอยู่กับสารเคมีในน้ำยาที่ใช้ฉีด
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) บริษัทด้านวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลก คำนึงถึงความสำคัญของคุณภาพของโฟมโพลียูริเทน หรือ โฟมพียูที่เป็นส่วนประกอบในการผลิตหลังคาพียู จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำยาพียูโฟมที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์การผลิตและการใช้งานหลังคาที่หลากหลาย โดยผลิตภัณฑ์น้ำยาพียูโฟมของ Dow มีคุณสมบัติสำคัญที่โด่ดเด่นและเป็นผู้นำตลาดในด้านการเป็นฉนวนที่มีประสิทธิภาพสูงในการกันความร้อนและเสียงรบกวน โฟมพียูที่ฉีดขึ้นรูปจึงมีลักษณะเนื้อแข็ง ที่สำคัญ Dow ได้ใส่สารกันลามไฟในผลิตภัณฑ์น้ำยาพียูโฟมทุกเกรดที่วางจำหน่าย ช่วยเพิ่มคุณสมบัติความหน่วงระยะเวลาในการลุกลามไฟกรณีเกิดติดไฟ ผลิตภัณฑ์ของ Dow จึงได้รับความนิยมอย่างสูงในอุตสาหกรรมการผลิตหลังคาพียู

ปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำยาพียูโฟมสำหรับฉีดหลังคาของ Dow ภายใต้เครื่องหมายการค้า “โวราคอร์” (VORACOR™) มีอยู่ด้วยกันถึง 4 เกรด ให้เจ้าของโครงการหรือผู้รับเหมาได้เลือกใช้ตามความต้องการ ตั้งแต่การก่อสร้างขนาดใหญ่ อย่างโรงงาน คอมมูนิตี้ มอลล์ อาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ โรงเรียน บ้านเดี่ยวทรงโมเดิร์น และทาว์นโฮม จนถึงงานก่อสร้างขนาดเล็ก เช่น ร้านค้าขนาดเล็กและการต่อเติมครัว หรือ โรงจอดรถ โดยผลิตภัณฑ์น้ำยาพียูโฟมของ Dow ทั้ง 4 เกรดมีรายละเอียด ดังนี้

VORACOR™ CM 1040 เหมาะกับผู้ที่ต้องการโฟมคุณภาพสูง ต้องการหลังคาพียูเพื่อไปใช้ในงานโปรเจคใหญ่ ๆ เช่น สร้าง คอมมูนิตี้ มอลล์ ร้านสะดวกซื้อ โรงงาน หรืออาคาร เป็นเกรดสูงสุดของ Dow เป็นโฟมที่เรียกว่าเซลล์ปิด มีความหนาแน่นและแข็งมากที่สุด กันความร้อนได้ดีกว่าโฟมเซลล์เปิด เนื่องจากไม่มีช่องอากาศให้ไอร้อนผ่านไปได้ เนื้อโฟมมีความแข็งกว่าแบบเซลล์เปิด จึงมีความทนทานกว่า ใช้งานได้นานกว่า

VORACOR™ CM 1076/1077 เหมาะกับงานที่ต้องการโฟมที่ยังกันความร้อนได้ดี เช่น ทำหลังคาบ้าน โรงจอดรถ คาเฟ่ ร้านอาหารต่างๆ เป็นโฟมเซลล์ปิด เนื้อโฟมแข็งสวยงาม แต่ใช้น้ำหนักฉีดน้อยลง

VORACOR™ CM 1075 เหมาะกับงานที่ต้องการบริหารจัดการต้นทุนให้แข่งขันได้ สำหรับผู้ฉีดหลังคา น้ำยาชนิดนี้ใช้น้ำหนักฉีดน้อยกว่า และเป็นโฟมชนิดเซลล์เปิดที่ยังมีผิวแข็ง

และ VORACOR™ CM 1118 เหมาะกับงานที่เน้นประหยัดต้นทุนเป็นหลัก ใช้สำหรับงานทั่วๆ ไป สำหรับผู้ฉีดหลังคา เกรดนี้เป็นเกรดโฟมเซลล์เปิดที่ใช้น้ำหนักฉีดน้อยที่สุด จึงประหยัดที่สุด และแข่งขันกับตลาดได้
“Dow เป็นผู้ผลิตน้ำยาพียูโฟมที่มีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศไทยตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง จึงมีความน่าเชื่อถือสูง สามารถตรวจสอบได้ การที่โรงงานตั้งอยู่ในประเทศไทยทำให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาในการนำเข้าส่งออก อีกทั้งเรายังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากความเป็นบริษัทระดับโลก มีฝ่ายบริการด้านเทคนิคและทีมวิจัยที่จะช่วยให้คำแนะนำและบริการในการแก้ไขปัญหาการใช้งานต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทันท่วงที ที่สำคัญผลิตภัณฑ์น้ำยาพียูโฟมของ Dow สามารถนำไปใช้ในการผลิตหลังคาพียูของทุกโรงงาน เพราะมีเกรดเฉพาะที่สามารถเข้ากันได้กับสารที่ใช้ประกอบการฉีดโฟม ที่เรียกว่า “สารฟูตัว” แต่ละชนิดในท้องตลาด ผลิตภัณฑ์ VORACOR™ ของ Dow จึงใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก” นายเมธี กฤษณาสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าว
แม้ว่าปัจจุบันตลาดหลังคาพียูจะมีผู้ผลิตและผู้ใช้งานมากขึ้นจนเกิดการแข่งขันด้านราคา และอาจจะเป็นการยากสำหรับผู้บริโภคที่จะเลือกผลิตภัณฑ์โฟมพียูจากการมองด้วยตาเปล่า แต่การเลือกใช้โฟมพียูจากผู้ผลิตหรือแหล่งที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือจะช่วยให้เจ้าของบ้านหรือเจ้าของโครงการก่อสร้างไม่ต้องประสบปัญหาจากหลังคาพียูที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อโฟมที่นิ่มและกันความร้อนได้ไม่ดี หรือเนื้อโฟมนิ่มที่อุ้มน้ำฝนจนเกิดความชื้นสะสมและเชื้อราได้ง่าย ทำให้มีโอกาสเกิดรอยรั่วและน้ำรั่วตามมา ดังนั้น โฟมพียูคุณภาพสูงที่มีความแข็งเพียงพอ สามารถกันความร้อนและลดเสียงได้ดี และให้ความปลอดภัยมากขึ้นจากคุณสมบัติความหน่วงการลามไฟ จึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่ผู้บริโภคจะพิจารณาเลือกนำมาใช้ให้เหมาะสมและเกิดความคุ้มค่าในระยะยาว