

วัตสัน ประเทศไทย ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งในใจคนไทย เดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนสู่สังคมไทย โดยล่าสุดผนึกกำลังพันธมิตรคนสำคัญ ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย
สมาคมความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน (PPP Plastics) ได้จัดแถลงเปิดตัวสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ ในงานเสวนา “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศไทยกับสนธิสัญญาพลาสติกโลก (Global Plastic Treaty)” ค้นหาแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศ สู่การยุติมลพิษพลาสติกตามสนธิสัญญาพลาสติกโลก ซึ่งจัดขึ้นภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025) ครั้งที่ 20 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนซันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยมี ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ กล่าวย้ำถึงพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดการขยะพลาสติกของประเทศไทยอย่างยั่งยืนภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติการจริงในพื้นที่ โดยเน้นสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนาระบบนิเวศเศรษฐกิจหมุนเวียนของพลาสติก (Circularity Ecosystem) ให้เกิดขึ้นได้จริง พร้อมตอบรับนโยบาย EPR และสนับสนุนการจัดการขยะบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร ตามแนวทางของ Global Plastic Treaty

ในการนี้ ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ในฐานะสมาชิกองค์กรภาคเอกชนของสมาคมฯ โดยมีนางสาวปาจารีย์ คุณชัยมัง Corporate Communications Manager เป็นผู้แทน ประกาศความร่วมมือภายใต้แนวคิด “Building Ecosystem for Plastic Circularity” บนเวทีเสวนาดังกล่าว ทั้งนี้ ยูนิลีเวอร์ฯ มุ่งเน้นการเสริมสร้างระบบจัดการขยะพลาสติกที่เป็นธรรมและยั่งยืน ผ่านโครงการต่างๆ ที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่การจัดการขยะของประเทศ
หนึ่งในโครงการสำคัญที่ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยร่วมขับเคลื่อนกับ PPP Plastics คือโครงการพัฒนาทักษะและเสริมสร้างศักยภาพให้กับซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่าในกรุงเทพฯ และการจัดตั้งศูนย์คัดแยกขยะรีไซเคิลเพื่อป้อนเข้าสู่โรงงานรีไซเคิลในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการนำพลาสติกหลังการบริโภคที่มีมูลค่าสูงถึง 50,000 ตัน เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้องและตรงตามมาตรฐานของโรงงานรีไซเคิล เพื่อเพิ่มอัตราการซื้อและการหมุนเวียนทรัพยากรในระบบ พร้อมส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของแรงงานในห่วงโซ่ดังกล่าว ผ่านการฝึกอบรม การจัดหาอุปกรณ์ป้องกัน และการตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

นางณัฏฐิณี เนตรอำไพ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราภูมิใจในความก้าวหน้าของยูนิลีเวอร์ในการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติก แต่เราก็ยอมรับว่ายังมีอีกหลายด้านที่ต้องร่วมกันพัฒนา เราเห็นถึงความสำคัญของการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถรีไซเคิลได้ตั้งแต่ต้นทาง รวมทั้งการจัดการขยะพลาสติกระหวางทางและปลายทางด้วยความร่วมมือกับภาคส่วนนอกระบบ และสนับสนุนให้มีพื้นที่เสียงของพวกเขาผ่านกลไกระดับโลก เช่น สนธิสัญญาพลาสติก (Global Plastic Treaty), นโยบาย EPR ในประเทศและมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เรามุ่งมั่นมีบทบาทเชิงบวกในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นธรรม เพื่อยกระดับสิทธิและคุณภาพชีวิตของแรงงานในภาคส่วนที่ไม่เป็นทางการร่วมกัน”
การจับมือกันระหว่างยูนิลีเวอร์และ PPP Plastics ครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการเดินหน้าสู่สังคมและเศรษฐกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และนำพลาสติกหลังการบริโภคเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืนในประเทศไทย
สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการสุขภาพและความงาม วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของไทย และ ยูนิลีเวอร์ บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับหนึ่งของเมืองไทย ตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์ชั้นแนวหน้ายอดนิยมของเมืองไทย ผนึกกำลังกันอีกครั้ง เพื่อส่งต่อความคุ้มค่าผ่านแคมเปญ "Summer Festival" ต่อเนื่องปี 3 พร้อมขนทัพสินค้ายูนิลีเวอร์คุณภาพดีราคาสุดปัง และโปรโมชันสุดพิเศษเอาใจขาชอปทั่วประเทศ ปฏิวัติประสบการณ์ชอปปิงช่วงซัมเมอร์ให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 23 เมษายน 2568 ที่ร้านวัตสันทุกสาขาและช่องทางออนไลน์

อิศราวดี มีป้อม Customer Controller วัตสัน ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือของสองพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ว่า "วัตสันเชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงาม รวมถึงมีเครือข่าย 750 สาขาทั่วประเทศที่แข็งแรง จึงมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ชอปปิงให้เหนือกว่า สะดวก และคุ้มค่ายิ่งขึ้น ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ โดยผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคยุคใหม่ฉลาดเลือกและต้องการความคุ้มค่า เกือบ 70%* ของลูกค้าให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่เข้าถึงง่ายและมอบโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ ซึ่งเป็นกุญแจหลักของการสร้างความผูกพันระยะยาว ดังนั้นการร่วมมือกับยูนิลีเวอร์พันธมิตรที่มีแบรนด์ในเครือหลากหลายกว่า 10 แบรนด์ Summer Festival ครั้งนี้ ตอกย้ำว่าเราไม่เพียงแค่มอบดีลสุดปัง แต่ยังส่งมอบสินค้าคุณภาพในราคาสุดคุ้มแก่ผู้บริโภค เพราะความภูมิใจสูงสุดของเราคือรอยยิ้มของลูกค้าทุกคน”
*(ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 4,000 ราย ในเดือน พฤศจิกายน 2567)

ด้าน ชนินทร ลาภชีวะสิทธิ์ Beauty & Wellbeing Thailand Modern Trade Lead & Customer Director ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เผยว่า “ยูนิลีเวอร์ได้รับความเชื่อมั่นในเรื่องของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามที่ครองใจผู้บริโภคมายาวนาน ดังนั้นเราจึงเชื่อมั่นในพลังของการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับวัตสัน เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือมุ่งมั่นในการนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนที่ผู้บริโภคต้องการการดูแลผิวเป็นพิเศษ เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับวัตสันในการขับเคลื่อนแคมเปญนี้อีกครั้ง เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพ ราคาคุ้มค่า เราหวังอย่างยิ่งว่าลูกค้าจะชื่นชอบแคมเปญในครั้งนี้"

แคมเปญ "Summer Festival" รวบรวมสินค้าการันตีคุณภาพจากยูนิลีเวอร์ ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ครีมกันแดด แชมพู และสินค้าสำหรับหน้าร้อน พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น โดฟ, ลักซ์, วาสลีน, ซันซิล, พอนด์ส, เรโซนา, เคลียร์ และเทรซาเม่ ทั้งหน้าร้านวัตสันทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ ด้วยโปรโมชัน 3 ต่อสุดคุ้มรับซัมเมอร์ ได้แก่
ต่อที่ 1 ดีลแรงสินค้าเริ่มต้นเพียง 45 บาท พร้อมโปร 1 แถม 1, สินค้าแลกซื้อ 50% และส่วนลดเพิ่มเติมเมื่อชอปครบตามเงื่อนไข
ต่อที่ 2 แลกซื้อของพรีเมียมลายลิมิเต็ด เมื่อซื้อสินค้ายูนิลีเวอร์ที่ร่วมรายการ โดยซื้อครบ 699 บาทที่หน้าร้านทุกสาขา รับแก้วทัมเบลอร์ ฟรี! 1 ใบ หรือครบ 1,599 บาททางวัตสันออนไลน์ รับเก้าอี้แคมปิ้ง ฟรี! 1 ตัว
และต่อที่ 3 ลุ้นรางวัลใหญ่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เฉพาะสมาชิก Watsons Club มีสิทธิ์ลุ้นรับ Art toy Size 400% จำนวน 12 รางวัล เมื่อซื้อครบ 499 บาท ทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ และรับคะแนนสะสมสูงสุด x5 เท่า เมื่อซื้อสินค้ายูนิลีเวอร์ที่ร่วมรายการ

รีบชอปก่อนหมดโปร! กับแคมเปญเด็ดท้าลมร้อน Summer Festival ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 23 เมษายน 2568 ที่ร้านวัตสันทุกสาขาทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สื่อประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย หรือ Line Official @WatsonsTH, เว็บไซต์ Watsons.co.th หรือผ่านแอป WatsonsTH ดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store และ App Store
ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้คน โดยได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจ Fast-moving Consumer Goods (FMCG) หรือสินค้าอุปโภคบริโภค ยูนิลีเวอร์ ในฐานะผู้นำของอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภค กล่าวคือผู้บริโภคมีศักยภาพมากขึ้นกว่าที่เคย ทั้งในแง่ของพฤติกรรมการรับสื่อที่เปลี่ยนไป การมีส่วนร่วมหรือปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ รวมถึงมีความคาดหวังต่อแบรนด์สูงขึ้น
ยูนิลีเวอร์ ในฐานะองค์กรชั้นนำที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 100 ปี และดำเนินธุรกิจโดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางเล็งเห็นความสำคัญของพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จึงได้ปฏิวัติองค์กรด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) ผ่านการนำนวัตกรรมต่างๆ ทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) และ Machine Learning ผสานรวมกับการใช้ข้อมูล (Data) และความสนใจเชิงลึก (Insight) เพื่อสร้างการเติบโตและเสริมความแกร่งให้องค์กรอย่างรอบด้าน ทั้งการสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาด การดำเนินงานทั่วไป รวมถึงทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างละเอียด และนำไปออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ด้านดิจิทัลเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการกลุ่มเป้าหมายและวางจำหน่ายในช่องทางที่เหมาะสม ยูนิลีเวอร์จึงไม่เพียงสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับแวดวง FMCG แต่ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านดิจิทัลของยูนิลีเวอร์ที่มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคพร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม รวมถึงสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมได้อย่างยั่งยืน
การปรับตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยการนำข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในองค์กรอย่างชาญฉลาดและรอบด้านมากขึ้นเปรียบเสมือนเข็มทิศในการดำเนินธุรกิจของยูนิลีเวอร์ นอกจากนั้น การออกแบบกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อผู้บริโภคในยุคดิจิทัลยังทำให้ยูนิลีเวอร์รักษาความเป็นผู้นำในการสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ทรงพลังและคว้ารางวัล Thailand Digital Excellence Awards 2024 สาขา Data and AI Go-to-Market Innovation จากสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย และเป็น FMCG เดียวที่ได้รับรางวัลต่อเนื่องถึง 3 ปีซ้อน (พ.ศ. 2565 - 2567)

อันชุล อะซาวา ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ครัวเรือนภาคพื้นอาเซียน และประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย
กลยุทธ์การผสานพลังของข้อมูลและ AI
หัวใจสำคัญของการดำเนินงานของยูนิลีเวอร์คือ ‘ผู้บริโภค’ การทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ยูนิลีเวอร์ใช้ AI และ Machine Learning พร้อมใช้ระบบการจัดการข้อมูลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งความสนใจ ความชอบ ความต้องการ พฤติกรรมการซื้อ และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์จากแหล่งต่างๆ มาไว้ในฐานข้อมูลส่วนกลางที่ควบคุมการเข้าถึงอย่างเข้มงวด ก่อนจะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้ลึกซึ้งมากขึ้น โดยข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์แล้วจะถูกนำมาแบ่งกลุ่มตามบุคลิกของผู้บริโภค และใช้ AI ในการคาดการณ์และขยายกลุ่มผู้บริโภคให้กว้างขึ้น นอกจากนั้น ข้อมูลเหล่านี้ยังช่วยให้ยูนิลีเวอร์ออกแบบเนื้อหาสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสมเพื่อการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคอย่างรอบด้านผ่าน Digital Touchpoints
จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลพบว่า ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อสินค้าจากจุดขายเพียงจุดเดียวอีกต่อไป ยูนิลีเวอร์จึงยกระดับทุกช่องทางการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค (Touchpoints) ให้มีประสิทธิภาพโดยใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างความเหนือกว่าของแบรนด์ในการมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค รวมถึงตอบสนองและสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างราบรื่นตลอดเส้นทางตั้งแต่ก่อนตัดสินใจซื้อจนซื้อสินค้า (Consumer Journey) อย่างครอบคลุมทุกจุด

นิดารัตน์ อุไรเลิศประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า กัมพูชา และลาว
การหลอมรวมของข้อมูลและประโยชน์ของเทคโนโลยีขั้นสูง
ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ใช้ระบบการบริหารจัดการข้อมูลที่ปลอดภัย จำกัดการเข้าถึงเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาไว้ด้วยกัน และใช้พลังของเทคโนโลยีขั้นสูงมาวิเคราะห์ด้วยโมเดล AI และ Machine Learning ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งช่วยให้ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับแต่ง เพื่อทำความเข้าใจความต้องการ ความชอบ ความคาดหวัง พฤติกรรมการซื้อ และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังใช้ AI สำหรับคาดการณ์เพื่อขยายและระบุผู้ซื้อที่มีศักยภาพเพิ่มเติมมากขึ้น
LeverU กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของกลยุทธ์ Social-First ของยูนิลีเวอร์
ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นที่จะขยายขอบเขตความเป็นไปได้โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อปลดล็อกศักยภาพการดำเนินงานรวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ จึงพัฒนา LeverU แพลตฟอร์มที่ใช้โซลูชัน AI สามประเภทในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ Social First ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย
Unilever Excellence Lab: พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความเป็นเลิศที่เหนือกว่า
นับตั้งแต่เปิดตัว Digital Hub ในปี 2561 ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดด้วยด้วยนวัตกรรมและข้อมูล และความสำเร็จของโครงการในประเทศไทยยังเป็นแบบอย่างสำหรับการขยายกลยุทธ์นี้ไปทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งความเป็นเลิศในด้านดิจิทัลนี้ ทำให้ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เป็น "ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการทดลองและเรียนรู้" (Test & Learn) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทดสอบและพัฒนาโครงการต่างๆ และหากประสบความสำเร็จจึงจะขยายโครงการไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค จึงช่วยให้ยูนิลีเวอร์สามารถ "เรียนรู้จากความผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว" (Fail fast and learn fast) รวมถึงมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดในการขยาย ปรับปรุง หรือยุติโครงการ โดยคำนึงถึงต้นทุนและประสิทธิภาพสูงสุดเป็นหลักสำคัญ ซึ่งกลยุทธ์นี้ยังถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว