กัลฟ์ ไบแนนซ์ (Gulf Binance ) ผู้นำแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย มอบเซสชั่น อัปเดทเทรนด์การลงทุน และการจัดบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพในครึ่งปีหลัง โดยเหล่าผู้บริหารจากแพลตฟอร์มการลงทุนชั้นนำและนักลงทุนมืออาชีพ ผ่านงาน Binance TH Super Meetup: BULLiever ที่จัดขึ้น ณ Q Stadium ชั้น M ศูนย์การค้า EmQuartier เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์มากมายที่ส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติ Spot Bitcoin ETFs โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ (BTC) พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ หรือการเกิดปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ขึ้นในรอบ 4 ปี ที่ทำให้ราคาบิทคอยน์ลดลงมาเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน
ดร.กร พูนศิริวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และผู้อำนวยการโครงการ Binance TH Academy (ไบแนนซ์ ทีเอช อะแคดิมี) บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด อธิบายถึงวงจรของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลว่า เมื่ออ้างอิงจากประวัติศาสตร์ของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในอดีต สภาพคล่องของราคาการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงราคาบิทคอยน์จะเป็นไปตามวัฏจักร โดยช่วงเวลาที่เกิดปรากฎการณ์ Bitcoin Halving มักจะเป็นช่วงเวลาที่เงินในตลาดสะพัดและขึ้นสู่จุดสูงสุดซึ่งเป็นวงจรที่เกิดขึ้นในทุกๆ 4 ปี โดย ดร.กร มองว่าการเกิด Halving ในครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์อยู่ในระดับที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ทางเลือก
ในขณะที่ คุณบุริศร์ จีระมะกร จาก Enter to Start กล่าวว่า การที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ระดับโลกเข้ามามีบทบาทในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น เกิดจากการอนุมัติ Spot Bitcoin ETFs ซึ่งส่งผลให้เกิดการยอมรับการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นวงกว้าง เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือและมีกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจน นอกจากนี้ด้วยสถานการณ์โลก อย่างเช่น ภูมิศาสตร์การเมือง ยังส่งผลให้ผู้คนจำเป็นต้องกระจายความเสี่ยงจากการถือครองสินทรัพย์แบบดั้งเดิม สู่การถือครองสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ทั้งจากปัจจัยในด้านการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล การอนุมัติ Spot Ethereum ETFs โดย ก.ล.ต.สหรัฐ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้
การเติบโตของ Memecoin
นอกจากเหรียญยอดนิยมอย่างบิทคอยน์แล้ว คุณพีรพัฒน์ หาญคงแก้ว จาก Cryptomind Advisory ยังได้แบ่งปันความคิดเห็นที่มีต่อการเติบโตของเหรียญมีม หรือ Memecoin ว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ดีที่สุดในวงการ คริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากเป็นการนำเอาความรู้สึกของผู้คนในคอมมูนิตี้สินทรัพย์ดิจิทัลมาแปลงเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและสามารถจับต้องได้ในชีวิตจริง
“อย่างไรก็ตามหากจะเลือกลงทุนใน Memecoin การศึกษาคอมมูนิตี้ของเหรียญเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน นอกเหนือจากความเข้าใจในตลาดและการจัดการการเงินที่ดี เนื่องจากมูลค่าและความผันผวนของราคาเหรียญจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของชุมชน” คุณพีรพัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากเหรียญยอดนิยมอย่าง Bitcoin และ Memecoin แล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่นๆ อย่าง Real Word Asset (RWA) ที่ถึงแม้ว่าในแง่ของการพัฒนาจะยังอยู่ในช่วง Left Curve แต่มูลค่าตลาดของสินทรัพย์ดิจิทัลในประเภทนี้กลับเติบโตจนเกือบจะก้าวเข้าสู่ระยะ Mid Curve แล้วในปัจจุบัน นอกจากนี้ SocialFi และ GameFi ก็ยังถือเป็นกลุ่มโทเค็นที่น่าจับตามองเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นประเภทเหรียญที่สามารถจับต้องได้ ทำให้มีโอกาสที่จะกลายมาเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ได้รับความนิยมในอนาคต
คริปโตเคอร์เรนซีและการจัดการพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีหลากหลายปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการยอมรับการใช้งานในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สินทรัพย์ดิจิทัลก็ยังเป็นเรื่องใหม่ของนักลงทุนหลายท่าน โดยเฉพาะนักลงทุนที่เคยถือครองสินทรัพย์ดั้งเดิมและไม่เคยลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมาก่อน ด้วยเหตุนี้ การบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอเพื่อจัดการกับความเสี่ยง จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่นักลงทุนทุกท่านควรตระหนักถึง
คุณกวิน สุวรรณตระกูล เจ้าของเพจ TarKawin และคุณยศสรัล พิเชียรสุนทร เจ้าของเพจเด็กการเงิน DekFinance ได้แบ่งปันทริคด้านการลงทุนในแบบฉบับของตนเองว่า การ DCA หรือ Dollar-Cost Averaging เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถทำให้พอร์ตการลงทุนสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง หากนักลงทุนมองว่าเหรียญที่ตนเองต้องการลงทุนมีศักยภาพมากพอที่จะเติบโตขึ้นได้ในอนาคต การทยอยซื้อเก็บเป็นประจำก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีเพื่อสร้างความมั่งคั่งและความมั่นคงในระยะยาว
ในขณะที่คุณจิรภัทร โบสุวรรณ เจ้าของเพจ Fun Manager มองว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีสถาบันการเงินขนาดใหญ่ร่วมลงเล่นในตลาดจากการอนุมัติ Spot Bitcoin ETFs และ Spot Ethereum ETFs ยิ่งทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งตัวเลขที่เหมาะสมสำหรับการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล ที่จัดเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง คือ จำนวน 3-5% ของพอร์ตโฟลิโอ
อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการการเงินที่ดี และการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนในการบริหารจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
ฟีเจอร์ใหม่บน Binance TH
ภายในงาน นาย นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด ยังได้ทำการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเหล่านักลงทุนที่ใช้งานแพลตฟอร์ม ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัลฟ์ ไบแนนซ์ (Binance TH by Gulf Binance) ถึง 4 ฟีเจอร์ด้วยกัน ประกอบด้วยฟีเจอร์ Easy Buy/Sell ที่จะมาช่วยให้นักลงทุนชาวไทยสามารถซื้อเหรียญได้ง่ายภายใน 4 ขั้นตอน ซึ่งมาพร้อมแคมเปญพิเศษ ค่าธรรมเนียม 0% ฟีเจอร์ Small Convert ที่จะทำให้นักลงทุนสามารถเปลี่ยนเศษเหรียญต่างๆ เป็นเหรียญ BNB ได้อย่างง่ายดาย ฟีเจอร์ Graph with Transaction History ที่ทำให้นักลงทุนทราบราคาการซื้อขายสินทรัพย์ของตนเองได้ทันทีผ่านหน้ากราฟการซื้อขาย และฟีเจอร์ KYC Foreigner ที่ช่วยมอบการเข้าถึงทางการเงินและการลงทุนให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติในประเทศไทย ให้สามารถใช้งานแพลตฟอร์ม Binance TH by Gulf Binance ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กัลฟ์ ไบแนนซ์ จะยังคงสานต่อความมุ่งมั่นด้านการเสริมสร้างคริปโตคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง โดยการมอบโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและการลงทุน ผ่านเซสชั่นมอบความรู้ในงาน Binance TH Super Meetup ตลอดจนโครงการริเริ่มด้านการศึกษาอย่าง Binance Academy เพื่อส่งเสริมให้เกิดการยอมรับการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยต่อไป