ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ “ดร.เอ้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว “เอ้ สุชัชวีร์” โดยระบุว่า น้ำทะเลทะลัก ที่บางขุนเทียน ถึงสมุทรเจดีย์ "กรุงเทพ กำลังจมทะเล" ปัญหาใหญ่ที่สุด ที่ถูกละเลย ท่านคิดว่าไง เมื่อน้ำทะเลสูงขึ้นทุกปี เมื่อกรุงเทพทรุดลงทุกวัน เราจะทำอย่างไร เพื่อรักษาเมืองนี้ไว้ เพราะกรุงเทพ เป็นอีกเมือง ที่นักวิชาการทุกสำนักทั่วโลก พยากรณ์ไว้ว่า ไม่น่ารอด จากการจมทะเล "หากไม่ทำการป้องกัน"
ดร.เอ้ ได้ออกมากล่าวย้ำถึงปัญหาน้ำทะเลหนุนท่วมพื้นที่กรุงเทพอีกครั้ง หลังวานนี้ (11-12 ก.พ.67) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นจนเข้าท่วมถนนในพื้นที่บางขุนเทียนถึงพระสมุทรเจดีย์ทำให้การจราจรเกิดปัญหา บ้านเรือนและชุมชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม โดยมีความห่วงใยคนกรุงเทพอย่างมากและมั่นใจว่า เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมยุคนี้ ช่วยชีวิตคนกรุงเทพได้ เหมือนหลายเมืองที่เคยเจอปัญหาเดียวกัน
โดย ดร.เอ้ ได้ถอดบทเรียนน้ำทะเลหนุน จากเวนิส สู่ ประเทศไทย “เวนิส”จากเมืองจมน้ำ วันนี้เเก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างไร ด้วยหลักวิศวกรรม โดยเวนิสได้มีการสร้าง MOSE System เป็นประตูจมน้ำลึกลงไป 30 เมตร ซึ่งในเวลาปกติจะนอนสงบนิ่ง แต่พอน้ำทะเลหนุนจะปั๊มอากาศไล่น้ำออกไป ทำให้ยกตัวสูงขึ้นกลายเป็นกำแพงกั้นน้ำในทันที เป็นระบบที่ใช้ในการป้องกันน้ำหนุนไม่ให้ท่วมเวนิส
“เวนิสอยู่ที่ประเทศอิตาลี เป็นเกาะอยู่ในทะเลเอเดรียติก ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกือบร้อยปีที่แล้วตั้งแต่ ค.ศ. 1930 น้ำทะเลหนุนสูง ท่วมพื้นที่ทั้งหมด โดยที่หนักก็คือปี ค.ศ. 1966 วันนั้นน้ำขึ้นสูงเกือบ 2 เมตร ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะเวนิสเป็นแหล่งทำมาหากิน เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของอิตาลี ประชาชนเดือดร้อน ประเทศสูญเสีย เนื่องจากเป็นมรดกโลก เขาจึงสร้าง MOSE System เป็นระบบที่ใช้ในการป้องกันน้ำหนุนไม่ให้ท่วมเวนิส ประเทศไทยต้องเริ่มได้แล้วครับ”ดร.เอ้ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ดร.เอ้ กล่าวว่า MOSE System ของเวนิสใช้เวลาก่อสร้างกว่า 10 ปี โดยมีความคิดที่จะทำตั้งแต่ปี 2003 กว่าจะมาเริ่มทำก็อีก 10 ปี คือ ค.ศ. 2013 เนื่องจากปัญหาการเมือง ดังนั้นการก่อสร้างประตูกั้นน้ำ ขนาดประเทศยุโรป ซึ่งถือเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังใช้เวลามากกว่า 10 ปี ประเทศไทยก็ทำได้ไม่เหนือความสามารถของวิศวกรไทย ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะไม่ใช่ปัญหาเฉพาะทางด้านวิศวกรรม มันเป็นปัญหาหลายอย่าง แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่เราจะทำหรือไม่ทำเท่านั้นเอง ประเทศไทยทำได้แน่นอน คนไทยเก่งมีฝีมือ และห้ามหมดสิ้นกำลังใจความหวังกับประเทศไทย ห้ามหมดสิ้นความหวังกับตัวเรา ต้องเชื่อว่ามันจะต้องดีขึ้น คนไทยเก่งไม่แพ้ใครในโลก
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ดร.เอ้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และเป็นอดีตนายกสภาวิศวกร ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพและวิธีการแก้ปัญหาโดยเสนอนโยบาย “Delta Works Thailand กรุงเทพต้องไม่จมน้ำ” ซึ่งประยุกต์มาจากโครงการ Delta Works ของเนเธอร์แลนด์ ที่ประสบความสำเร็จ มาประยุกต์ให้เข้ากับบริบทในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด 3 อย่าง คือ 1.แนวคิดทางด้านกฎหมาย สนับสนุนให้มีการออกกฎหมายและมาตรการระยะยาว เพื่อช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน มีการกำหนดพื้นที่ในการป้องกันน้ำท่วมจากปัญหาน้ำทะเลหนุนในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงให้มีความชัดเจน และมีการปรับปรุงกฎหมาย ทั้งเมือง เพื่อความเป็นธรรม แก่ประชาชน
2.ด้านกายภาพ ออกแบบและดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างระบบป้องกันน้ำทะเลหนุนในพื้นที่ที่กำหนด ด้วยโครงการต่าง ๆ ตามแผนการ เช่น คันกั้นน้ำ เขื่อน พนังกั้นน้ำ ในจุดต่าง ๆ และประตูกั้นขนาดใหญ่บริเวณปากแม่น้ำ เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนเข้ามาในพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ และ3.ด้านเทคโนโลยี มีการนำเทคโนโลยีระบบควบคุมอัจฉริยะโดยสอดประสาน (Synchronized) กับระบบประมวลผลพยากรณ์สภาพอากาศด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence : AI) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้กับโครงการ ในการควบคุมระบบประตูกั้นน้ำและระบบสูบน้ำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและทะเลหนุนที่เกิดขึ้นอย่างรัดกุม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน Delta Works Thailand จะช่วยป้องกันพื้นที่กรุงเทพมหานครจากปัญหาน้ำท่วมที่เป็นวิกฤตของกรุงเทพในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างแน่นอน สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ democrat.or.th
ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. ในฐานะประธานศูนย์ยุทธศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการสื่อสาร (DeSTIC) พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยกระดับงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการเข้าถึงปัญหาของประชาชนและการสนับสนุนการทำงานของทีมงานในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้จะเพิ่มช่องทาง LINE Official เป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสารกับพี่น้องประชาชน โดยคาดว่าภายในเดือนมีนาคม 2567 นี้จะมีผู้สนใจขอเป็น FRIEND กับ LINE Official Account พรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 หมื่นคน
“LINE Official Account พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็น One Stop Services ถือเป็นช่องทางหลักในการติดต่อออนไลน์ระหว่างสมาชิกหรือบุคคลทั่วไปกับพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากได้รับข่าวสารและความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ใครมีอะไรที่อยากแสดงความคิดเห็น อยากขอความช่วยเหลือ แจ้งปัญหา หรือเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ก็สามารถติดต่อผ่านช่องทาง LINE ได้เลย” ศ. ดร.สุชัชวีร์ กล่าว
ศ. ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการยกระดับการสื่อสารให้เข้าถึงประชาชน โดยใช้เทคโนโลยีที่ประชาชนคุ้นเคย พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน หรือเครือข่ายภาคประชาชน และแฟนคลับประชาธิปัตย์ ขอเป็น FRIEND อีกครั้งกับ LINE Official Account พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมาร่วมกิจกรรมและเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย
นอกจากนี้ศูนย์ DeSTIC กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมพัฒนาแอปพลิเคชั่นของพรรคเพื่อให้สมาชิกพรรคสามารถติดต่อสื่อสารกับพรรคได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น รวมไปถึงการปรับปรุงเว็บไซต์ โดยจะมีการเพิ่มเนื้อหาข้อมูลประวัติศาสตร์ของพรรค รวมไปถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น ความรู้ด้านกฎหมาย และจะมีระบบการแจ้งเตือนที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน เช่น ระบบการแจ้งเตือนเรื่องอากาศ หรือฝุ่นพิษ เป็นต้น
ทั้งนี้พี่น้องประชาชนสามารถขอเป็น FRIEND อีกครั้ง กับ LINE Official Account พรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเป็นช่องทางหลักในการติดต่อออนไลน์ โดยสามารถติดต่อสอบถามเรื่องต่าง ๆ เช่น การสมัครเป็นสมาชิกพรรค เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับข่าวสารและความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ในการทำงานด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพิ่มเป็นเพื่อนได้ที่ LINE OA ID: @democratpartyth
ศ. ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. เดินสายสถานศึกษา ประเดิม ม.เกษมบัณฑิต ร่มเกล้า ขอปลุกไฟไอเดียเด็กไทย ประชันปรับโฉมยูนิฟอร์ม ปชป.ยุคใหม่ ผ่านกิจกรรม “ประชาธิปัตย์ FASHION CONTEST” พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมส่งผลงานตั้งแต่วันนี้ - 29 กุมภาพันธ์ 2567 และประกาศผลรางวัลในวันที่ 9 มีนาคม 2567
ศ. ดร. สุชัชวีร์ กล่าวว่า กิจกรรมประกวดออกแบบยูนิฟอร์มพรรค “ประชาธิปัตย์ FASHION CONTEST” ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาซึ่งเป็นกลุ่มที่มีไอเดีย มีพลังความคิดสร้างสรรค์ จึงอยากเชิญชวนเยาวชนที่กำลังศึกษาในทุกระดับชั้นมาร่วมสนุก ร่วมประชันไอเดียกัน และวันนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักศึกษา หลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ ม.เกษมบัณฑิต ร่มเกล้า ที่สนใจจะส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในครั้งนี้
“วันนี้เราเดินสายมาสถานศึกษาที่ม.เกษมบัณฑิต ร่มเกล้า เป็นที่แรก มาเชิญชวนน้อง ๆ มาแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ และขอขอบคุณดร.วัลลภ สุวรรณดี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ด้วยที่สนับสนุนกิจกรรมนี้ รวมไปถึงมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่แสดงความสนใจ และตอบรับอย่างกว้างขวาง จนเป็น Talk Of The Town กิจกรรมนี้นอกจากจะปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ของน้อง ๆ แล้ว ยังถือเป็นสีสันของพรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงด้วย” ศ. ดร. สุชัชวีร์ กล่าว
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ศ. ดร. สุชัชวีร์ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น และประทับใจที่ได้เห็นถึงความตั้งใจของน้องๆ แผนก Fashion Desigh ซึ่งเป็นแผนกที่ทำการสอนมากว่า 20 ปีแล้ว น้องๆ หลายคนเริ่มออกแบบงานสำหรับประกวดไปบ้างแล้ว ทุกคนล้วนมีไอเดียที่น่าสนใจ มีการนำนวัตกรรมผสมผสานกับเอกลักษณ์ มีการเลือกใช้สีและชนิดของเนื้อผ้า ไปจนถึงการผสมผสานวัสดุรักษ์โลกมาอยู่ในชิ้นงานจริง กิจกรรมนี้จึงเป็นโอกาสที่ท้าทายและได้ทดลองสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่ควรพลาด
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่า การลงพื้นที่ที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตในครั้งนี้ของ ศ. ดร. สุชัชวีร์ ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากบรรดานักศึกษา โดยได้เข้ามาห้อมล้อมพูดคุยกันแบบใกล้ชิดเป็นกันเองและขอถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะรับผลงานไอเดียของทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ไม่จำกัดเพศและวัย โดยขั้นตอนการสมัครและรายละเอียดเต็มรูปแบบสามารถติดตามและส่งผลงานได้ที่ democrat.or.th/fashioncontest โดยเพียงแค่กรอกรายละเอียดส่วนตัว เบอร์ติดต่อ พร้อมอัปโหลดไฟล์ผลงาน รวมถึงอธิบายความหมาย รายละเอียด ที่ปรากฏในผลงาน ระยะเวลาการส่งผลงานตั้งแต่วันนี้ - 29 กุมภาพันธ์ 2567และประกาศผลรางวัลในวันที่ 9 มีนาคม 2567