นายนำพล รุ่งสว่าง ผู้ร่วมก่อตั้ง กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์โก้เอ็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงโอกาสและการเติบโตของธุรกิจขนส่งพัสดุของไทยว่า แม้ว่าจะมีอัตราการแข่งขันสูงแต่ธุรกิจขนส่งพัสดุยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เห็นได้จากแนวโน้มการเติบโตของภาคขนส่งไทยปี 2565 ที่เติบโตกว่า 17% มีมูลค่ารวมของตลาดสูงถึง 106,000 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของธุรกิจ E-commerce โดยการซื้อสินค้า Online และยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เน้นการซื้อที่สามารถส่งถึงบ้านมากขึ้น
แม้ปัจจุบันจะมีผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งอยู่หลายราย แต่ยังมีโอกาสอีกมากสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่มองเห็นช่องว่างทางการตลาด ดังนั้นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ในการพัฒนาแพลตฟอร์มและนักลงทุนสัญชาติไทย
(Startup) จึงได้ร่วมมือกันให้บริการแพลตฟอร์มขนส่งพัสดุใหม่ในชื่อ คาร์โก้เอ็กซ์ (CargoX) โดยในระยะที่ 1 ได้ร่วมมือกับพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจรถโดยสารสาธารณะ อาทิเช่น บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด หรือ กรีนบัสไทยแลนด์ ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ กรุงสยามทัวร์ แอร์เมืองเลย และบุษราคัมทัวร์ ฯลฯ รวมถึงในระยะถัดไปจะมีการให้บริการส่งพัสดุผ่านสายการบินภายในประเทศ รถไฟและเรือ เพื่อเป็นการให้บริการได้อย่างเหมาะสมกับทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (B to B) และลูกค้าทั่วไป (B to C) ทั้งนี้ยังมีแผนที่จะขยายเครือข่ายการให้บริการเพื่อเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาวและกัมพูชา ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
โดยบริการของ คาร์โก้เอ็กซ์ ประกอบไปด้วย ขนส่งพัสดุด่วน ขนส่งพัสดุที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ แบบรับ-ส่งถึงบ้าน หรือรับที่จุดให้บริการของ คาร์โก้เอ็กซ์ ส่วนราคาในการส่งพัสดุด่วนเริ่มต้นที่ 108 บาท และพัสดุควบคุมอุณหภูมิราคาเริ่มต้น 156 บาท ส่วนจุดแข็งของการให้บริการนั้น คาร์โก้เอ็กซ์ สามารถกำหนดเวลารับพัสดุได้ ขนส่งพัสดุได้หลากหลายประเภท ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ขนส่งได้อย่างรวดเร็ว ตรงเวลา ตรวจสอบได้และเข้าถึงในทุกพื้นที่ของประเทศ
ด้านแผนการตลาดนั้น คาร์โก้เอ็กซ์ เป็นตัวเลือกในการขนส่งเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมที่เคยใช้บริการขนส่งพัสดุทางรถโดยสารอยู่แล้ว แต่ช่วยให้มีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งในกลุ่มธุรกิจรถโดยสารสาธารณะ คาร์โก้เอ็กซ์ สามารถช่วยในการเชื่อมต่อการขนส่งพัสดุกับผู้ประกอบการขนส่งในหลายเส้นทางให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งในช่วงกลาง (Middle mile) ได้อีกด้วย ส่วนการเปิดและขยายจุดให้บริการรับ-ส่งสินค้าวางเป้าหมายไว้ว่า ในปีแรกจะต้องมีจุดให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งจะมีความเป็นไปได้อย่างมากเพราะส่วนหนึ่งจะใช้จุดให้บริการของพันธมิตรผู้ประกอบการรถโดยสารที่วิ่งประจำทางอยู่แล้วทั่วประเทศ สำหรับด้านเป้าหมายรายได้ของ คาร์โก้เอ็กซ์ ภายในปี 2568 นั้น คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท