ชิ้นเพราะความชื่นชอบในรูปทรงหรือการออกแบบที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ควบคู่ไปกับสไตล์การแต่งกาย
“โรสแมนคลับ” (Rosemanclub) ถือเป็นแบรนด์สัญชาติไทยแท้ๆ ที่ไปโด่งดังในระดับอินเตอร์ โรสแมนคลับ เกิดจากการหยิบเอาค่านิยมยุโรปยุคคลาสสิก ที่เราทราบกันดีถึงคุณภาพการผลิตสินค้าในสมัยนั้น ซึ่งไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์สวยเท่านั้น แต่สินค้าหลายๆ ชิ้นยังใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่า Timeless หรือไร้กาลเวลา นำมาเป็นแรงบันดาลใจของการออกแบบแว่นตาที่มีดีไซน์ร่วมสมัยและเน้นการสร้างแบรนด์อย่างมืออาชีพผ่านโซเชียลคอมมูนิตี้ในเมืองแฟชั่นระดับโลก และปีนี้โรสแมนคลับพร้อมที่จะให้คุณได้รู้จักกับความนิ่งเท่อย่างเต็มรูปแบบ กับแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกของโลกตั้งอยู่ใจกลางมหานครกรุงเทพ
จุดเริ่มต้นเกิดจากความหลงใหลของดีไซเนอร์ที่ชอบสะสมของแต่งบ้านเก่าๆ อุปกรณ์โบราณ เฟอร์นิเจอร์วินเทจยุโรป และแว่นตาวินเทจดีไซน์แปลกๆ จนความชอบเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้อยากสร้างแบรนด์ที่เป็นสไตล์ของตัวเองโดยมีแว่นตาเป็นตัวกลางสื่อคำว่า “คลาสสิก” และ “โรแมนติก” ออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับการใช้งานได้จริง โดยเหตุผลที่เลือกแว่นตาเพราะแว่นถือเป็น functional accessories หรือเครื่องประดับที่มีการใช้งานในตัวเอง ซึ่งในด้านดีไซน์ถือว่าน่าสนใจ และยังสามารถช่วยเสริมบุคลิกภาพ และสไตล์ได้ชัดเจนมากที่สุดอย่างหนึ่ง
การรวบรวมแนวความคิดและแรงบันดาลใจทั้งหมดทำให้แบรนด์โรสแมนคลับ เกิดจุดเด่นที่ชัดเจนคือ การมีดีไซน์เรียบเท่ร่วมสมัย กระบวนการผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง อายุการใช้งานจึงยาวนาน กับราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยนี้จะเป็นเฟืองหลักสำคัญต่อการพัฒนาและเติบโตของแบรนด์ในระยะยาว เมื่อโปรดักส์ตอบโจทย์ชัดเจน การดึงดูดเหล่าฮิปสเตอร์และ Gen-Y ทั่วโลกให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสนุก ภายใต้คอนเซ็ปต์หลักของแบรนด์ “Unique Urban Lifestyle” ก็คงไม่ยากเย็นอะไร
ถึงแม้ว่าโรสแมนคลับจะเป็นแบรนด์ไทยหน้าใหม่ เพิ่งเปิดตัวได้เพียงปีเศษตั้งแต่เมษายน 2557 ทว่าได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด โดยได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์สินค้าแนะนำ ลงคอลัมน์นิตยสารแฟชั่นหัวนอกชั้นนำหลายฉบับ อาทิ Monocle Magazine, Vogue British, GQ British, Tatler UK, Esquire UK และ Au Courant Magazine Amsterdam ทั้งยังมีวางจำหน่ายและเป็นฮอตไอเทมในกลุ่มตลาดหัวเมืองแฟชั่นแถวหน้าหลายแห่งของยุโรปอย่าง ลอนดอน ปารีส เบอร์ลิน อัมสเตอร์ดัม เวียนนา และออกโชว์ที่นครเซี่ยงไฮ้ในงาน Shanghai Fashion Week 2015 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมไปถึงการจำหน่ายผ่านออนไลน์สโตร์ต่างๆ ในประเทศออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ส่วนตัวสินค้าเองก็มีเรื่องราวมากมายไม่แพ้กัน โครงสร้างและดีไซน์ของตัวแว่นเน้นการออกแบบที่สามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง แว่นโรสแมนคลับได้รับการออกแบบสำหรับใส่ใช้งานได้ทุกวัน ทุกวาระโอกาส และเน้นการออกแบบสำหรับคนใส่แว่นเลนส์สายตาโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่กำลังมองหาแว่นตาคุณภาพดีสำหรับทุกโอกาสของทุกวัน
อีกหนึ่งจุดเด่นคือการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำของโลก กรอบแว่นผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูงที่เรียกว่า “อะซิเตท” ที่มีทั้งความยืดหยุ่นและทนทาน บวกกับการใช้เทคนิคของการผลิตเนื้อสีพิเศษให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเนื้อสีจะไม่หลุดร่อนตลอดอายุการใช้งาน กระบวนการผลิตแว่นแฮนด์เมด ควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญการผลิตแว่นตาประสบการณ์กว่า 20 ปี จากแหล่งผลิตแว่นตาแฮนด์เมดชื่อดังในจังหวัดฟุกุอิ (Fukui) ประเทศญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่ความพิถีพิถันในการออกแบบและผลิตเท่านั้น แต่ทุกรายละเอียดของแพ็กเกจที่มีดีไซน์เรียบหรูแบบคลาสสิก ก็ยังเป็นสื่อกลางในการเล่าเรื่องราวของโรสแมนคลับได้เป็นอย่างดี กล่องแว่นเลือกใช้หนังคุณภาพระดับพรีเมียม ภายในบุกำมะหยี่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน เพื่อรักษาแว่นตาให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ตลอดจนกล่องบรรจุด้านนอกสีดำทองที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร มั่นใจได้เลยว่าสินค้าจะส่งถึงมือผู้รับทุกมุมโลกอย่างปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้นแว่นทุกชิ้นของโรสแมนคลับมาพร้อมบริการสั่งตัดเลนส์สายตา หรือตัดเป็นเลนส์กันแดดป้องกันยูวี 100% ให้ฟรีอีกด้วย มีดีทั้งดีไซน์และฟังก์ชันขนาดนี้ โรสแมนคลับจึงเป็นที่จับตามองของสื่ออินเตอร์มากมาย ในฐานะครีเอทีฟแบรนด์น้องใหม่ที่น่าสนใจจากโซนเอเชีย
รู้จักกับ “โรสแมนคลับ” มาระดับนึงแล้ว มาร่วมซึมซับความคลาสสิกแบบสงบเรียบเท่ ผ่านคอลเลคชั่นทั้งหมด 15 ดีไซน์ รวมแล้วกว่า 40 สไตล์ พร้อมให้เลือกลองกันได้แล้ววันนี้ที่แฟลกชิพสโตร์ ที่บรรจงออกแบบและตกแต่งในสไตล์โรแมนติกภายใต้คอนเซ็ปต์ “วอล์คอิน คลอเซ็ท” ในบรรยากาศห้องแต่งตัวกึ่งห้องนั่งเล่นกลิ่นอายอบอุ่น ที่เน้นการตกแต่งด้วยของสะสมส่วนตัวทั้งหมด สนุกกับดีเทลเพลินตาของเฟอร์นิเจอร์ไม้วินเทจผสมผสานไปกับเครื่องทองเหลืองโบราณจากยุโรป
ล่าสุดได้ออก “คอลเลคชั่นใหม่ Autumn/Winter 2015” โดยหยิบเอาแรงบันดาลใจจากรายละเอียดเล็กๆ ของชีวิต คนเมือง (urban lifestyle) ทว่าแฝงด้วยลูกเล่นจากสีสันและลวดลายที่เพิ่มขึ้นแต่ยังคงเอกลักษณ์ความเรียบเท่อย่างมีสไตล์เอาไว้ได้เช่นเดิม กับดีไซน์เฟรมใหม่ถึง 15 แบบ 36 สไตล์ พร้อม 30 โมเดลที่มาพร้อมคลิปออนกันแดด อย่างรุ่น ฮารุ แบล็ค ลาวา และ ฮารุ มอส ที่หลายคนต่างแห่กันจับจอง รวมถึงรุ่นที่สร้างกระแสให้กับโรสแมนคลับได้ไม่แพ้กันกับรุ่น ธีโอ, สมิธ ทูเฟสส์, สมิธ โรสท์, สมิธ ร็อคแซนด์ และ มิโนรุ เทอร์ทอยส์ เป็นต้น
รุ่น “ฮารุ แบล็ค ลาวา” (Haru Black Lava) รุ่นยอดฮิตตลอดกาลของโรสแมนคลับ ที่ใช้เทคนิคทำสีพิเศษผ่านกระบวนการผลิตของพลาสติกคุณภาพสูง “อะซิเตท” จากอิตาลี ทั้งยังได้แรงบันดาลใจหลักในการสร้างสรรค์สีของรุ่นฮารุจากแสงอาทิตย์ที่ขอบฟ้า โดยคำว่า Haru ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า แสงอาทิตย์ จึงให้ชื่อรุ่นตรงตามความหมาย
รุ่น “ฮารุ มอส” (Haru Moss) อีกหนึ่งในรุ่นยอดฮิตที่มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับคอลเลคชั่นใหม่ออกแบบมาในโทนสีเขียวอมเทา จากใบหญ้ามอสที่ช่วยจุดประกายไอเดียให้สรรสร้างสีใหม่ โดยลดความเป็นทางการลงด้วยการเพิ่มสีใสเข้าไปในครึ่งกรอบล่าง ที่จะช่วยเปลี่ยนคาแรกเตอร์ให้ดูสนุกสนานเป็น “Unique Urban Lifestyle”
รุ่น “ธีโอ” (Theo) ด้วยการดีไซน์ให้บางเบาเป็นพิเศษ จึงช่วยตอบโจทย์สำหรับเลนส์สายตาสั้นมากๆ แต่ยังคงความเบาและใส่สบายตลอดทั้งวันอีกทั้งยังมีสไตล์ในอันเดียวกัน กับดีไซน์กรอบสี “วอลนัท”
รุ่น “มิโนรุ เทอร์ทอยส์” (Minoru Tortoise) แว่นกรอบ โอเวอร์ไซส์ถือเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่นิยมกันตลอดกาล มิโนรุผ่านขั้นตอนการพัฒนาดีไซน์ให้ตัวโครงสร้างบางลง ช่วยให้แว่นมีน้ำหนักเบาขึ้น บางขึ้น จึงเป็นตัวช่วยให้คุณได้ลุคเนิร์ดและใส่สบายได้ทั้งวัน
รุ่น “สมิธ โรสท์” (Smith Roast) ด้วยกาแฟถือเป็นหนึ่งสิ่งในยามเช้าที่ชีวิตคนเมืองทั่วโลกขาดกันไม่ได้ โรสแมนคลับไม่ถนัดการชงกาแฟ จึงเลือกที่จะเสิร์ฟสีกาแฟผ่านการดีไซน์แว่นแทน ซึ่งมอบความสุขได้ไม่แพ้กันกับคำนิยามใหม่ของแว่นตาซึ่งพัฒนาจากดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของโรสแมนคลับ
รุ่น “สมิธ ร็อคแซนด์” (Smith Rocksand) แรงบันดาลใจเกิดขึ้นได้ในทุกวัน ด้วยการเติบโตมาพร้อมกับความเจริญในตัวเมือง ตึกสูง อิฐดิน โรสแมนคลับจึงนำสีวัสดุเหล่านี้มาเป็นแรงบันดาลใจ หลักในการออกแบบสีใหม่ของรุ่นนี้
จากกรณีศึกษาข้างต้นแสดงให้เห็นว่า Everyday Product สามารถถูกสร้างคุณค่าผ่านแบรนด์ กรรมวิธีการผลิตที่มีคุณภาพและการออกแบบ เหล่านี้เองคือปัจจัยที่สามารถสร้างคุณค่าในใจผู้บริโภคเพื่อก้าวเข้าสู่ Top of mind brand ได้ในที่สุด
เรื่องโดย : ดร.กรรวิภา เมธานันทกูล