โครงการ FC Bayern Youth Cup Thailand 2019 (เอฟซี บาร์เยิร์น ยูธ คัพ ไทยแลนด์ 2019) อันเป็นความร่วมมือระหว่าง สโมสรฟุตบอล บาเยิร์น มิวนิค บุนเดสลีก้า บริษัท สปอร์ตไทย-บาวาเรีย จำกัด กลุ่มวังขนาย และ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต  เปิดตัว 10 ตัวแทนเยาวชนไทยฝีเท้าเด่น เตรียมบินลัดฟ้าร่วมแข่งขันในรายการ FC Bayern Youth Cup World Final 2019 (เอฟซี บาร์เยิร์น ยูธ คัพ เวิร์ล ไฟนัล 2019) ณ อลิอันซ์ อารีน่า เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 15-19 พฤษภาคม 2562 พร้อมได้สัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต พบปะตำนานผู้เล่นของบาเยิร์น มิวนิค และร่วมเข้าชมการแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาล

โครงการ FC Bayern Youth Cup Thailand 2019 ดำเนินการต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 4 มีเยาวชนกว่า 10,000 คนเข้าร่วมโครงการนี้มาแล้ว ล่าสุดได้รางวัล เหรียญทอง ในประเภท โครงการสุดยอดการพัฒนาเยาวชนในประเทศไทย จาก SPIA ASIA AWARD 2018  สำหรับปีนี้ ได้เปิดรับสมัครเยาวชนจากทั่วประเทศมาตั้งแต่เดือนมกราคม มีเยาวชนสมัครเข้าร่วมคัดเลือกกว่า 3,500 คน โดยโครงการได้คัดเลือกเยาวชนจำนวน 120 คน มาร่วมแข่งรอบ National Final ณ สนามกีฬาไทย ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2562 โดยมี มร.เคราซ์ เอาเกนธาเลอร์ ตำนานบาเยิร์นและแชมป์บุนเดสลีก้า 7สมัย ร่วมเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือก จนได้เยาวชนฝีเท้าเด่นรวม 15 คนเข้าค่ายเก็บตัว Thailand Camp วันที่ 22 -26 เมษายน 2562 ณ กิเลนวัลเล่ย์  จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมทักษะฟุตบอลเพิ่มเติม ในค่ายฯ มีการทำกิจกรรมร่วมกันทั้ง Team Building รวมถึงฝึกซ้อมอย่างหนัก จนขณะนี้ได้คัดเหลือ 10 คนสุดท้าย ที่มีฝีเท้าโดดเด่นที่สุด เป็นตัวแทนทีมประเทศไทย ที่จะเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลในสนามระดับโลกอย่าง อลิอันซ์ อารีน่า

นายวินิจ เลิศรัตนชัย  กรรมการผู้จัดการ บริษัท สปอร์ตไทย – บาวาเรีย จำกัด กล่าวว่า  “ก่อนอื่นผมขอแสดงความยินดีกับเยาวชนทั้ง 10 คนที่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งเป็นผลของความตั้งใจและการทำงานหนักในการเข้าแคมป์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และขอเป็นกำลังใจให้กับเยาวชนอีก 5 คนที่ไม่ผ่านการคัดเลือก แค่เพียงกล้าออกมาร่วมกิจกรรมและผ่านเข้าสู่รอบประเทศก็เป็นชัยชนะต่อตนเองที่ยิ่งใหญ่แล้ว อย่าย่อท้อขอให้มุ่งมั่นฝึกซ้อมพัฒนาตนเองต่อไป ผมมีความภูมิใจและยินดีเป็นอย่างมากที่โครงการ FC Bayern Youth Cup Thailand ได้สร้างโอกาสให้กับเยาวชนที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลและมีฝีเท้าที่ดี เป็นตัวแทนเยาวชนไทยไปแข่งขันที่เยอรมนี และสามารถทำผลงานได้ดีด้วยการคว้าแชมป์ 2 สมัย และเป็นเอเชียชาติเดียวที่สามารถคว้าแชมป์มาครอง มาถึงปีนี้น้องๆ ที่ผ่านมาถึงรอบนี้ทุกคนล้วนมีความสามารถ และผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งให้กับประเทศไทยได้สำเร็จ”

นางสาวธัญรักษ์ ณ วังขนาย ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มวังขนาย กล่าวว่า  ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะอยู่ในความทรงจำของน้องๆทั้ง 15 คน กลุ่มวังขนายได้ให้การสนับสนุนโครงการ FC Bayern Youth Cup มาอย่างต่อเนื่อง 4 ปีแล้ว และมีความภาคภูมิใจที่เห็นเยาวชนไทยมีฝีเท้าที่ดีเยี่ยม และกล้าออกมาทำความความฝัน สำหรับในปีนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับเยาวชนไทยที่ผ่านการคัดเลือกมาทั้ง 10 คนไปคว้าแชมป์ให้สำเร็จอีกครั้ง สำหรับเยาวชนที่ไม่ผ่านการคัดเลือกก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ขอให้หมั่นฝึกฝน พัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลต่อไป

นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารงานลูกค้า บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า ในปีนี้ อลิอันซ์ อยุธยา มุ่งมั่นส่งเสริมเยาวชนภายใต้แนวคิด Explore the Future With Us โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เยาวชนไทยออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ รอบตัว พร้อมเดินหน้าล่าฝัน ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์เยาวชนที่ครอบคลุมทุกมิติ สำหรับโครงการ FC Bayern Youth Cup Thailand 2019 อลิอันซ์ อยุธยา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับเยาวชนผู้ได้รับการคัดเลือกทั้ง 10 คน  เชื่อว่าจะเป็นประสบการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ไปสัมผัสกับประสบการณ์ระดับโลก กับ สุดยอดทีมบาเยิร์น มิวนิค พร้อมโอกาสลงเตะ ณ สนาม อลิอันซ์ อารีน่า ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของ อลิอันซ์ อยุธยา ที่ได้มีส่วนผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย ที่แม้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ทั้งนี้เราเชื่อว่าเยาวชนทั้ง 10 คน จะเตรียมตัวและมีความพร้อมเป็นอย่างดี  ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ขอให้ทุกคนกล้าที่จะแสดงฝีเท้าและศักยภาพตนเองให้เต็มที่ เพื่อจะได้ไปถึงสิ่งที่ทั้งทีมและตนเองมุ่งหวังได้สำเร็จ ทั้งนี้อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ ได้มอบกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและอุบัติเหตุ พร้อมด้วยค่ารักษาพยาบาล ตลอดระยะเวลาเดินทาง แก่นักกีฬา สื่อมวลชน และทีมงาน รวม 25 ท่าน  ด้วยทุนประกันท่านละ 4 ล้านบาท  รวมเป็นทุนประกันทั้งสิ้น 100 ล้านบาท

เยาวชนทั้ง 10 คน ที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่  1)โอ๊ต - เผด็จ  แก้วมณี  2)เกมส์ - ปฏิภาณ เตี้ยงสูงเนิน 3)ลีซอ - เดชานนท์ ศรีเมือง 4)ฟิว - เกริกพล อาบรัมย์ 5) เกมส์ - นรากรณ์ แก่งกระโทก 6)คีม - นิติพันธ์ สุกใส 7)คิว -  พิทยา  ใจยาว 8)กอล์ฟ - ธนกฤต ทองศรี 9)มิกซ์ - ศุภวิชญ์ มาน้อย 10)กอล์ฟ - ฌัฐกิตติ์ แสงคำ โดยจะร่วมเดินทางไปประเทศเยอรมนีในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และจะลงฝึกซ้อมเพื่อปรับตัวกับสภาพอากาศทันทีที่เดินทางไปถึงโดยจะเข้าแคมป์ฝึกซ็อมที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ก่อนเดินทางเข้าสู่เมืองมิวนิคเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันฟุตบอลในสนาม    อลิอันซ์ อารีน่า ระหว่างวันที่ 15-19 พฤษภาคม 2562 ซึ่งการแข่งขันจะแบ่งเป็น 2 สาย ในแต่ละสายลงทำการแข่งขันแบบพบกันหมด โดยจะมีการจับสลากแบ่งสายในช่วงค่ำของวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 เพื่อจะทำการแข่งขัน ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ในปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันจาก 8 ประเทศ อาทิ เยอรมนี, สิงค์โปร์ ,จีน, อินเดีย, ไนจีเรีย , สหรัฐอเมริกา และ ไทย ผู้สนใจสามารถร่วมชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันได้ทาง Facebook : Allianz Ayudhya

อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เดินหน้าสร้างสรรค์สังคมไทย ผ่านหลากหลายกิจกรรมส่งเสริมเยาวชนที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องภายใต้วิสัยทัศน์ “ปันความรู้สู่เด็กไทย” ล่าสุด เปิดตัวแนวคิด Explore the Future With Us” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการส่งเสริมเยาวชนในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เยาวชนไทยออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ รอบตัว พร้อมเดินหน้าล่าฝัน ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมที่ครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา อาชีพและความเป็นผู้นำ รวมทั้งงานด้านจิตอาสา ที่ขยายถึงทุกคนในสังคม  เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วยการปลูกฝังจิตสำนึกให้กับเยาวชนโดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน    

นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร  บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า กว่า 60 ปีที่ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิตได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์สังคมควบคู่ไปกับการทำธุรกิจอย่างซื่อตรง โดยตระหนักถึงบทบาทความรับผิดชอบในฐานะส่วนหนึ่งของสังคมไทยและยึดมั่นในปณิธานอันแน่วแน่ที่จะคืนกำไรตอบแทนสังคม ภายใต้วิสัยทัศน์ “ปันความรู้สู่เด็กไทย” ให้เป็นสังคมอุดมปัญญาที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ริเริ่มและดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมหลากหลายรูปแบบครอบคลุมทุกมิติ

สำหรับโครงการเพื่อสังคมในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าต่อยอดในเรื่องการสนับสนุนเยาวชน หากแต่ดำเนินนโยบายภายใต้แนวคิดที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัทในกลุ่มอลิอันซ์ นั่นคือ การขับเคลื่อนให้เยาวชนทุกคนมุ่งค้นพบสิ่งใหม่ๆ รอบตัว ภายใต้ชื่อ “Explore the Future with Us” ที่มุ่งส่งเสริม สนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการออกเดินตามความฝันของแต่ละคนในหลากหลายมิติ อันได้แก่

1.การสนับสนุนด้านกีฬา ด้วยการเข้าเป็นผู้สนับสนุนหลักในโครงการ เอฟซี บาร์เยิร์น ยูธ คัพ ไทยแลนด์ 2019 ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องสู่ปีที่ 4 มีเยาวชนกว่า 10,000 คนเข้าร่วมโครงการนี้มาแล้ว ถือเป็นการสนับสนุนเยาวชนไทยไปสู่สังเวียนลูกหนังระดับโลก แทนที่โครงการ “อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์” นอกจากนั้น บริษัทฯก็ยังคงสานต่อโครงการ “อลิอันซ์ อยุธยา สานฝัน ปันสนามฟุตบอลให้น้อง” จัดเป็นปีที่ 5 โดยที่ผ่านมาได้ทำการปรับปรุงสนามฟุตบอลมาแล้วทั้งหมด 28 แห่ง เข้าถึงเยาวชนไทยกว่า 10,000 คน ทั่วประเทศ ด้วยงบประมาณกว่า 11.5 ล้านบาท และปีนี้ ตั้งเป้าปรับปรุงสนามต่ออีก 4 แห่ง ที่จังหวัด ลำปาง หนองคาย กาญจนบุรี และชัยนาท

2. การสนับสนุนด้านอาชีพและความเป็นผู้นำ ผ่านโครงการ “อลิอันซ์ อยุธยา พาน้องเที่ยวบางกอก” โดยนำนักเรียนชั้น ป.5 สังกัดกรุงเทพมหานครไปเรียนรู้นอกห้องเรียนและได้ประสบการณ์จริงจากการไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ถือเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้โดยตรงให้กับนักเรียน และยังต่อยอดด้วยโครงการยุวมัคคุเทศก์ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่สนใจได้เรียนรู้ฝึกฝนและปฏิบัติงานเป็นยุวมัคคุเทศก์ นำชมสถานที่สำคัญทางประวิติศาสตร์ จนถึงปัจจุบัน มีเยาวชนที่เข้ารับการอบรมในหลักสูตรและได้ทำงานเป็นมัคคุเทศก์ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไปแล้วกว่า 200 คน

นอกจากนั้นผ่าน ยังได้จับมือกับกลุ่ม Music Sharing และ พันธมิตร จัดโครงการดนตรีเปลี่ยนชีวิต Music Change Children’s Lives  เป็นโครงการที่นำดนตรีเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเด็ก เยียวยาจิตใจให้มีความสุขและสามารถประกอบเป็นอาชีพได้ในอนาคต ซึ่งโครงการนี้ บริษัทฯ ได้รับความร่วมมือจากกลุ่ม Music Sharing ครูดนตรีอาสาจัดสอนดนตรีทุกวันศุกร์ช่วงบ่ายตลอดปี ณ สถานแรกรับเด็กชาย (บ้านภูมิเวท) โครงการนี้ได้รับการคัดเลือกจากกลุ่มอลิอันซ์ระดับโลกมอบทุน Social Innovation Fund จำนวน 50,000 ยูโร หรือประมาณ 2 ล้านบาท นำไปพัฒนาศักยภาพเด็กๆ ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์และเด็กด้อยโอกาสต่อเนื่อง 3 ปี

3. การสนับสนุนด้านจิตอาสา โดยระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งพนักงาน ตัวแทนประกัน ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านการบริจาค มุ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนทำความดีในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น งานวันเด็กแห่งชาติ การช่วยเหลือนักเรียนผู้ประสบภัย การบริจาคโลหิต ร่างกายและอวัยวะ กิจกรรมระดมทุนเพื่อมอบรายได้ให้กับมูลนิธิและองค์กรการกุศล เช่น มูลนิธิชัยพัฒนา จากกิจกรรม อลิอันซ์ อยุธยา ชาริตี้ฟันแฟร์ และการระดมทุนจัดจำหน่ายสินค้า เพื่อมอบรายได้ให้กับมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ โครงการที่โดดเด่นที่สุดในปีที่ผ่านมา คือ การจัดกิจกรรมเปลี่ยนโรงหมูให้เป็นโรงเรียนรู้ ซึ่งเป็นการรวมพลังของทุกฝ่ายปรับเปลี่ยนโรงหมูในชุมชนคลองเตยให้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของเด็กในชุมชน ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนและยังช่วยพัฒนาศักยภาพเด็กในพื้นที่คลองเตย สร้างภาวะผู้นำ และสร้างความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมของผู้คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี

“ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานจนถึงปีที่ 68 และปัจจุบันได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในบริษัทประกันชั้นนำที่นอกจากจะเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพแล้ว เรายังได้พิสูจน์แล้วว่า ในการดำเนินธุรกิจของเรา เราไม่ได้มุ่งแสวงหาแต่กำไรเพียงอย่างเดียว หากแต่เรายังได้ให้ความสำคัญกับการริเริ่มกิจกรรมสร้างสรรค์และส่งเสริมสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมที่เราทำอย่างยาวนานและตั้งใจจริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยให้พัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน” นางสาวพัชรา กล่าวทิ้งท้าย

ประกันสุขภาพ ถือว่าเป็น Segment ที่แท้จริง ปี 2568 (2025) “อลิอันซ์ อยุธยา” ตั้งเป้าเป็นผู้นำธุรกิจประกัน สุขภาพของไทย เห็นได้จาก ผลงานในปี 2561 ภาพรวม ตลาดประกันสุขภาพโต 10% โดย อลิอันซ์ อยุธยา เติบโตกว่า ตลาดรวมโดยอยู่อันดับ 3 ของธุรกิจกิจประกันสุขภาพ

สำหรับกลยุทธ์หลักเพื่อไปถึงเป้าหมาย การขายผ่านตัวแทน จะเป็นช่องทางหลักที่มีความสำคัญ และจะต้องมีเพิ่มสัดส่วนยอดขายประกันสุขภาพเป็น 42.5% จากปี 2561 ที่มีสัดส่วนที่ 40% และ เป้าหมายปี 2562 คาดการณ์ว่าภาพรวม ตลาดจะเติบโตประมาณ 10-20% อลิอันซ์ อยุธยา ตั้งเป้าจะมีอัตราการเติบโต 20% และภายในปี 2564 อลิอันซ์ อยุธยา จะก้าวขึ้นอันดับ 2 และภายใน 7 ปี ครองตลาดขึ้นเบอร์ 1 ในธุรกิจประกัน สุขภาพของไทย

 

นายไบรอัน สมิท กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยถึง 5 กลยุทธ์สำคัญ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายผู้นำประกันสุขภาพในอนาคตที่จะเดินไปนั้น ในเชิงกลยุทธ์ ของอลิอันซ์ อยุธยา ปีนี้ เราจะไม่ใช้กลยุทธ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับปีที่ผ่านมา และเป็นแผนระยะยาว 7 ปี ถึงปี 2568 (2025) โดยเน้นใน 5 ด้าน ได้แก่

  1. Digital การรุกธุรกิจเข้าไปสู่ช่องทางดิจิทัล เน้นใช้ช่องทางดิจิทัลผลักดันธุรกิจให้เติบโตผ่านการหาพันธมิตรรายใหม่ ในการพัฒนาช่องทางการขาย อาทิ การสานต่อความสัมพันธ์ของอลิอันซ์ และ Go-Jek สตาร์ตอัปยูนิคอร์นจากเอเชีย ในตลาดประเทศไทย นอกจากนั้น ยังเน้นการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้พัฒนา การให้บริการลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น Allianz Discover ใน ช่องทางตัวแทน Digital for Life เพื่อ สนับสนุนการขายของช่องทางธนาคาร ระบบ Robotics ที่เอามาช่วยการทำงานแบบอัตโนมัติในสายงานต่างๆ เช่น สายงานการเงิน การใช้ Big Data เพื่อมาวิเคราะห์ข้อมูล
  2. Health Leadership มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันสุขภาพแห่งอนาคต โดย จับมือกับผ้าด้านบริการสุขภาพอย่าง BMDS ในการให้บริการด้านสุขภาพดิจิทัลอย่างครบวงจร พร้อมสร้างการเติบโตให้ กับแพลตฟอร์มออนไลน์ Healthy Living ที่หวังจะให้เป็นชุมชนด้านสุขภาพขนาดใหญ่ขึ้นที่นอกจากจะช่วยสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้าและแบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังถือเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับบริษัทในการ พัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพอีกด้วย
  3. Professional Agency การพัฒนาช่องทางการขายผ่านตัวแทน เน้นสร้าง และพัฒนาตัวแทนที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาและพัฒนาตัวแทนเต็มเวลาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน สร้างตัวแทนมืออาชีพที่สร้างผลงานสม่ำเสมอ และพัฒนา ตัวแทนยุคดิจิทัลที่มุ่งสู่ระบบ Paperless ภายในปี 2563
  4. One Allianz Ayudhya การผสานพลังธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัย ภายใต้แบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา ซึ่งจะทําให้แบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา มีความแข็งแกร่ง และสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งในส่วนของประกันชีวิตและประกันภัยได้อย่างครบวงจร สร้างความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบ One Stop Service
  5. True Customer Centricity (TCC) วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ขับเคลื่อน อลิอันซ์ อยุธยา มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TCC ไม่ได้หมายความถึงเพียงผู้ถือ กรมธรรม์เท่านั้น แต่พนักงานฝ่ายขาย และพันธมิตรทางธุรกิจ ต่างก็เป็นลูกค้าที่สำคัญของกันและกัน โดยตัวชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญ ก็คือการสร้างความพึงพอใจจนลูกค้าอยากบอกต่อ หรือ NPS Score และความผูกพันที่พนักงานมีกับองค์กร หรือ AES Score ให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

นายไบรอัน กล่าวทิ้งทายว่า ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจทั้งหมดที่กล่าวมา รวมทั้งความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานทุกคน ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้อลิอันซ์ อยุธยา สามารถเติบโตธุรกิจในประเทศไทย ได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นแบรนด์ประกันอันดับหนึ่งในใจลูกค้า รวมทั้งสร้างความผูกพันกับพนักงาน พร้อมพิชิตยอดเบี้ย ประกันภัยรับรวม 33,000 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 6,500 ล้านบาท จากทุกช่องทาง และก้าวสู่ผู้นำด้านความ คุ้มครองชีวิตและสุขภาพได้อย่างมั่นคง

 

X

Right Click

No right click