พฤกษาจัดงาน “Agent Day” เฉลิมฉลองยอดขายกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากความร่วมมือกับเอเจนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศ สร้างยอดขายเติบโตกว่า 114% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีแรกที่ขยายตลาดไปยังโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและโครงการระดับลักชัวรี ระดับราคาเริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท สร้างยอดขายรวมกว่า 2,300 ล้านบาท ตั้งเป้า เพิ่มจำนวนเอเจนต์ ขยายตลาดต่อเนื่อง
นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับเอเจนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ ที่จะช่วยให้พฤกษาประสบความสำเร็จในการขยายตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเปิดโอกาสให้เอเจนต์ทั้งไทยและต่างชาติมาร่วมเป็นพันธมิตรกับพฤกษา เนื่องจากพฤกษามีโครงการที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างชาติได้ ขณะเดียวกัน เอเจนต์หรือบริษัทตัวแทนขายก็มีฐานลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทย จึงมีการร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยทิศทางต่อไปในอนาคต มุ่งขยายตลาดไปยังโครงการระดับลักชัวรีและแนวราบ ระดับราคาเริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท เพิ่มเติมจากโครงการแนวสูง และพร้อมเปิดโอกาสรับพันธมิตรบริษัทตัวแทนขายรายใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยขยายเครือข่ายการขายให้กว้างขึ้นด้วย
“ในปีที่ผ่านมา พฤกษามียอดขายกลุ่มลูกค้าที่มาจากความร่วมมือกับเอเจนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศ รวม 2,300 ล้านบาท (เติบโตกว่า 114% เมื่อเทียบกับปีก่อน) โดยที่ผ่านมา พฤกษาได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนขาย เข้ามาช่วยขายโครงการแนวสูง แต่ปัจจุบันเราต้องการขยายตลาดไปยังกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยมุ่งเจาะกลุ่มตลาดระดับลักชัวรี เราจึงต้องการเปิดรับเอเจนต์ทั้งไทยและต่างประเทศเพิ่มเติม และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ ในโอกาสนี้ จึงได้ประกาศขยายเวลาแคมเปญ Ultimate Incentive รับเพิ่มสูงสุดอีก 1.2% และแคมเปญพิเศษรับเพิ่มอีก 10,000 บาทต่อยูนิต รวมคอมมิชชั่นและ incentive สูงสุดกว่า 11% สำหรับทุกยูนิตที่เอเจนต์ขายและโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในปี 2567 นี้ โดยหวังว่าแคมเปญส่งเสริมการขายนี้จะเป็นการกระตุ้นแรงจูงใจ และสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในช่วงส่งท้ายปลายปี”
สำหรับการจัดงาน “Agent Day” ในครั้งนี้ ถือเป็นการฉลองความสำเร็จ และแสดงความขอบคุณเอเจนต์พันธมิตรทุกท่าน ที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุน และเติบโตไปพร้อมกับพฤกษา ภายในงาน "Agent Day" มีการคัดเลือกเอเจนต์ผู้มีผลการขายยอดเยี่ยม 30 บริษัทร่วมงาน และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทีมผู้บริหาร จัดขึ้นภายใต้ธีม "Glamorous Green" ที่ห้องอาหารเธียนดอง บ้านดุสิตธานี ซึ่งเป็นห้องอาหารเวียดนามระดับ Michelin Bib Gourmand ท่ามกลางบรรยากาศการพบปะกันอย่างเป็นกันเอง และร่วมมือกันผลักดันการเติบโตของธุรกิจต่อไป
RML ผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ โชว์ฟอร์มไตรมาสแรก ปี 2566 กวาดยอดขาย (Presales) รวม 518* ล้านบาท โตขึ้น 63%* จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 318* ล้านบาท หลังคอนโดฯ อัลตร้าลักชัวรี่ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ และ ดิ เอ็มดิสทริค (The Em District) ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ (The Estelle Phrom Phong) โครงการภายใต้การร่วมทุนกับ โตเกียว ทาเทโมโนะ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ยอดโอนมากถึง 3,000* ล้านบาท หรือประมาณ 80%* ของจำนวนยูนิตพร้อมโอน มั่นใจปิดการขายปีนี้ตามเป้า
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML (บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด มหาชน) เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทฯ มีผลงานที่ดี เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ โดยสิ้นไตรมาสแรก ยอดโอนดีเกินคาด ส่วนยอดขายกวาดไปแล้วกว่า 85%* อีกทั้ง ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ โกยยอดขายแล้วถึงประมาณ 90%* รวมถึงบริษัทฯ ยังมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานเกรดเอ ระดับลักชัวรี่ อย่าง ‘โอซีซี (วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์)’ ที่เป็น ที่กล่าวถึงมากที่สุดแห่งหนึ่งในขณะนี้ โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทลรวมถึงความสนใจจากลูกค้าแล้วประมาณ 70%* ตอกย้ำแบรนด์ RML ที่ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจ ในขณะเดียวกัน ปีที่ผ่านมาจวบจนถึงปีนี้ บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี จากกลยุทธ์แอสเสท ไลท์ (Asset light) ที่ไม่ต้องซื้อที่ดิน แต่ใช้ที่ดินของเจ้าของที่ดิน ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าที่ดินและต้นทุนทางการเงินจากการพัฒนาโครงการในอนาคต สร้างเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 บริษัทฯ จะมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ เพื่อให้บริษัทฯ มีรากฐานทางการเงิน ที่แข็งแกร่ง และก้าวเข้าสู่แบรนด์อันดับ 1 ที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่”
บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 จำนวน 4,959* ล้านบาท ลดลงจาก 4,965 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 สืบเนื่องมาจากการทยอยโอนการกรรมสิทธิ์ของโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ ที่เริ่มโอนตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565
“สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 มองว่ามีแนวโน้มสดใสจากปัจจัยบวกของเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยความต้องการซื้ออสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ยังคงคึกคัก ทั้งจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งพม่า, กัมพูชา, จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ และรัสเซีย พิสูจน์จากยอดขายไตรมาสแรกที่ผ่านมา ซึ่งแผนธุรกิจของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ จะรุกจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ประเดิมด้วยการจัด ‘RML Pop-Up Lounge’ มอบข้อเสนอสุดเอ็กคลูซีฟให้ลูกค้า ครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามในไตรมาสแรก อีกทั้งยังจัดแคมเปญทางการตลาด เพื่อมุ่งปิดการขายยูนิตที่เหลืออีก 15%* ของโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ ตลอดจนยังคงหา ผู้เช่า ‘โอซีซี’ เพื่อเติมเต็มพื้นที่เช่าของอาคารทั้งหมด 61,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานต่อจากนี้ไปจะมุ่งมั่นทำให้ ผลประกอบการของบริษัทฯ ปรับเพิ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้อีกจำนวนมาก จากการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3 และยอดขายจากโครงการ ‘โรสวูด เรสซิเดนซ์เซส กมลา’ (Rosewood Residences Kamala) จังหวัดภูเก็ต ที่เตรียมเปิดขายรอบพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ (Private Sales) ในครึ่งปีหลัง ซึ่งเรามั่นใจว่าจะเป็นโครงการอัลตร้า ลักชัวรี่ แบรนด์เด็ด เรสซิเดนซ์ (Ultra-Luxury Branded Residence) รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทยอย่างแน่นอน” นายกรณ์ กล่าวปิดท้าย
อีกหนึ่งธุรกิจที่มีความน่าสนใจในตลาดลักชัวรี่คือ ธุรกิจการบริการ การบริการนั้นหากพูดไปแล้วก็สามารถจำแนกออกมาได้หลากหลายประเภท