เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส เปิดเผยข้อมูลวิเคราะห์เทรนด์ดิจิทัลที่กำหนดทิศทาง อีคอมเมิร์ซยุคต่อไป

December 10, 2021 2058

เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) บริษัทในเครือเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (FedEx Corp.) (NYSE: FDX)

และผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยข้อมูล “เทรนด์ยิ่งใหญ่ของอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง’ เพื่อเจาะลึกแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลกด้านอีคอมเมิร์ซ

ข้อมูลดังกล่าวจากเฟดเอ็กซ์ชี้ให้เห็นเทรนด์อันยิ่งใหญ่ด้านดิจิทัล 7 อย่างที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาด อีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก[1] และผลกระทบที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์อีคอมเมิร์ซทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และที่อื่นๆ

สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นตัวผลักดันให้อีคอมเมิร์ซเติบโตทั่วโลก ในขณะที่ธุรกิจทุกขนาดต้องการนำ อีคอมเมิร์ซมาใช้ ผู้นำในตลาดอีคอมเมิร์ซก็กำลังคิดหาหนทางเพื่อพัฒนาอีคอมเมิร์ซขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ข้อมูลชิ้นนี้ทำการศึกษาปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภค และยังเปิดเผยเทรนด์ที่ธุรกิจควรนำมาพิจารณาในการวางกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซในระยะยาวของตน

“ผลสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา จะเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตด้านอีคอมเมิร์ซสูงในอีกหลายปีข้างหน้า และด้วยรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่มากขึ้น และอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ชี้ให้เห็นว่าโอกาสในการเติบโตนั้นยังมีอยู่มากในภูมิภาคนี้” คาวาล พรีท ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA) ของเฟดเอ็กซ์ เอ็กซเพรส กล่าว “ลอจิสติกส์เป็นส่วนสำคัญของอีคอมเมิร์ซ การคลิกเพื่อซื้ออย่างง่ายๆ จะต้องมีความรวดเร็วและความสะดวกของการจัดส่งมารองรับ เฟดเอ็กซ์ยังคงสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งเพื่อนำเสนอโซลูชั่นด้านซัพพลายเชนที่ชาญฉลาดรวมถึงบริการขนส่งแบบเฉพาะบุคคลเพื่อช่วยปลดล็อคโอกาสใหม่ๆ ให้ธุรกิจต่างๆ พร้อมๆ ไปกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ”

“เช่นเดียวกับผู้บริโภคที่คาดหวังชีวิตที่มีบริการดิจิทัลที่ทำให้ มีการเชื่อมโยงติดต่อที่น่าตื่นเต้น สามารถแชร์และแบ่งปันสิ่งต่างๆ ได้ ธุรกิจตก็ต้องการที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ ขณะนี้อุตสาหกรรมโลจิสติกส์อยู่ในจุดเชื่อมระหว่างการจัดการทางกายภาพและดิจิทัล ทำให้เรามีบทบาทสำคัญในอนาคตของอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งเพิ่มทางเลือกในการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งแก่ผู้บริโภคและธุรกิจ SME เช่นกัน” พรีทกล่าวสรุป

เป็นที่คาดว่า อีคอมเมิร์ซจะเติบโตโดยเฉลี่ย 47 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกภายในอีกห้าปีข้างหน้า นำโดยตลาดเอเชียที่ 51 เปอร์เซ็นต์ ยุโรป (42 เปอร์เซ็นต์) และอเมริกาเหนือ (35 เปอร์เซ็นต์) สำหรับในตะวันออกกลางและแอฟริกาคาดว่า มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซโดยรวมน่าจะสูงถึง 73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568[2]  อย่างไรก็ตาม การเติบโตเฉพาะในประเทศจีนก็สามารถบดบังส่วนที่เหลือในเอเชียด้วยยอดขายของอีคอมเมิร์ซในปี 2563 ที่สูงถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 [3]แนวโน้มที่สดใสนี้ยังสร้างโอกาสเติบโตอีกมากมายให้กับตลาดลอจิสติกส์อีกด้วย โดยคาดว่า ตลาดโลจิสติกส์ที่เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ ทั่วโลกจะเติบโตสูงสุดประมาณ 6.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปีระหว่าง 2563-2571 โดยตัวเลขจะเพิ่มเป็น 118,847 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571[4]

ต่อไปนี้คือ ข้อมูลสำคัญบางส่วนจากการศึกษาครั้งนี้:

  1. ประสบการณ์ลูกค้าในนิยามใหม่: การศึกษาครั้งนี้เผยให้เห็น เทรนด์ที่ยิ่งใหญ่หลายประการที่เกี่ยวข้องกันของ เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และบ้านเรือน ผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่มีการเชื่อมต่อกัน การตลาดเชิงประสบการณ์ และการพลิกโฉมประสบการณ์ช็อปปิ้ง ซึ่งทำให้เส้นแบ่งระหว่างประสบการณ์ช็อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์เกือบหายไป ในตลาดอย่างประเทศจีน อเมริกาเหนือ และยุโรป ที่มีโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า ผู้บริโภคมักมองหาประสบการณ์ค้าขายที่ดีกว่าผ่านบริการจากเทคโนโลยีเด่นๆ เช่น Cloud Shelf และประสบการณ์เสมือนจริงแบบ Augmented Reality (AR) สำหรับร้านค้าออฟไลน์ หรือประสบการณ์จริง Virtual Reality (VR) ในการพาทัวร์โรงแรม หรือการไลฟ์สดขายสินค้าผ่านมือถือ และด้วยเทคโนโลยี 5G ธุรกิจต่างๆ จะสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Near Field Communications, Artificial Intelligence บอทเพื่อนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลและบริการที่ปรับตามที่ลูกค้าต้งการ มาสร้างประสบการณ์ค้าปลีกที่มากกว่าการขายสินค้า

ควบคู่ไปกับเทรนด์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมโลจิสติกส์พยายามมอบข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้า อาทิระบบ FedEx Surround ซึ่งรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับพัสดุที่จัดส่งว่าเดินทางไปถึงจุดไหนแล้ว เพื่อให้ผู้ทำธุรกิจสามารถติดตามการจัดส่งสินค้า และสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันท่วงทีเมื่อต้องการ

  1. การเข้าถึงส่วนที่ยังเข้าไม่ถึง: เทรนด์สำคัญอีกประการที่กำลังได้รับความสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงของตลาดต่างๆ ในขณะที่บางพื้นที่ของโลกกลายเป็นพื้นที่ที่มีการทำฟาร์มมากเกินไป บางพื้นที่มีประชากรมากเกินไป หรือได้พัฒนาไปจนสุดศักยภาพแล้ว ทำให้แบรนด์ต่างๆ หันมามองหาโอกาสในเมืองรองและพื้นที่ชนบทมากขึ้น ส่งผลให้ร้านค้าปลีกในแบบดั้งเดิมหรือร้านเล็กๆ ที่เป็นธุรกิจในครอบครัวหันมาเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ B2B และทำการค้าขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ประโยชน์จากโครงสร้างดิจิทัลและการขนส่ง ประกอบกับชนชั้นกลางที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในเมืองรองเป็นปัจจัยที่ทำให้ร้านค้าปลีกในแบบดั้งเดิมหรือร้านเล็กๆ ที่เป็นธุรกิจในครอบครัวในประเทศจีน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลางฟื้นตัวด้วยอีคอมเมิร์ซ การแข่งขันในพื้นที่เหล่านี้จะมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปีต่อๆ ไป

การขนส่งข้ามประเทศ เครือข่ายที่ครอบคลุมกว้างขวาง และการเชื่อมต่ออย่างสะดวกราบรื่นจะทำให้มีผู้ค้าขายแบบ อีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น ผู้ที่จะประสบความสำเร็จคือผู้ที่ปรับตัวได้เร็ว สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกกับลูกค้าและเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวาง


[1] https://www.statista.com/topics/1007/e-commerce-in-china/

[2] https://www.statista.com/statistics/1190541/e-commerce-revenue-in-africa/

https://www.weforum.org/agenda/2021/09/e-commerce-fast-growth-online-sales-china-europe-america/ 

[3] https://www.weforum.org/agenda/2021/09/e-commerce-fast-growth-online-sales-china-europe-america/#:~:text=China%20is%20by%20far%20the,almost%20%242%20trillion%20by%202025.

[4]  https://www.prnewswire.com/news-releases/e-commerce-logistics-market-to-hit-new-levels-of-growth-with-usd-118-8-billion-earnings-by-2028--zion-market-research-301407410.html

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Friday, 10 December 2021 16:08
X

Right Click

No right click