December 05, 2025

นายอลี บาดาร์เนห์ (คนแรกซ้าย) หัวหน้าหน่วยความมั่นคงทางอาหารและระบบอาหาร กรมพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและโครงสร้างพื้นฐาน ยูไนเต็ด เนชั่น อินดัสเทรียล ดิเวลเลิพเมินท ออกาไนซ์เซชั่น หรือ ยูนิโด้ (UNIDO), ออสเตรีย (United Nations Industrial Development Organization : UNIDO) นางลูเซียนา เปลเลกรีโน (ที่สองจากซ้าย) ประธานองค์กรบรรจุภัณฑ์โลก (World Packaging Organization : WPO) ดร. โจเซฟ รอส เอส. จอคสัน (คนแรกขวา) ประธานสหพันธ์บรรจุภัณฑ์แห่งเอเชีย (Asian Packaging Federation : APF) และนายสรรชาย นุ่มบุญนํา (ที่สองจากขวา) ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย แสดงความร่วมมือเป็นพันธมิตรในการสนับสนุนและพัฒนาการจัดงาน ProPak Asia เพื่อยกระดับให้เป็นงานสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิต แปรรูป และบรรจุภัณฑ์ระดับโลก พร้อมประกาศย้ายสถานที่จัดงาน ProPak Asia 2026 ไปที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อรองรับบริษัทชั้นนำของโลกที่ต้องการเข้าร่วมงานและผู้เข้าเยี่ยมชมงานจากนานาชาติที่เพิ่มขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้

งาน ProPak Asia 2026 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน 2569 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้สนใจข้อมูลรายละเอียดการจัดงานฯ เยี่ยมชมได้ที่ www.propakasia.com

นายสรรชาย นุ่มบุญนํา ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวถึงการเติบโตและโอกาสของประเทศไทยในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มโลก ข้อมูลจาก Credence Research บริษัทวิจัยตลาดและที่ปรึกษาระดับโลกคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดอาหารและเครื่องดื่มจะมีการขยายตัวจาก 6.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2024 เป็นเกือบ 9.8 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2032 โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ความต้องการอาหารสะดวกซื้อ-อาหารพร้อมทาน การให้ความสำคัญกับสุขภาพและหากเจาะลึกในระดับภูมิภาคจะพบว่าเอเชีย-แปซิฟิกเติบโตเร็วที่สุด โดยเฉพาะจีน อินเดีย ไทย และเวียดนาม การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค รวมถึงนวัตกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่มทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

โดยในปีนี้ ProPak Asia 2025 ที่พึ่งจบไปมีผู้ร่วมจัดแสดงงานสูงถึง 2,000 แบรนด์ จาก 42 ประเทศ มีผู้เข้าเยี่ยมชมงานกว่า 72,000 คน จากทั่วโลก ใช้พื้นที่จัดแสดงงานถึง 55,000 ตารางเมตร และสร้างมูลค่าการค้าการเจรจาธุรกิจสูงกว่า 5.5 พันล้านบาท ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในทุกครั้งของการจัดงานและความต้องการพื้นที่จัดงานที่เพิ่มขึ้นจากทั้งผู้เข้าร่วมจัดงานแสดงสินค้าและบริษัทชั้นนำรายใหม่ๆ ที่ต้องการเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้สถานที่จัดงานเดิมไม่สามารถรองรับการเติบโตของการจัดงานที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตได้

ดังนั้น การจัดงาน ProPak Asia 2026 จึงมองหาสถานที่จัดงานใหม่ที่มีความเหมาะสม โดยศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค (IMPACT) เมืองทองธานี เป็นสถานที่จัดงานฯ ใหม่ และมีพื้นที่เพียงพอต่อการขยายงานให้ใหญ่ขึ้น การเดินทางที่สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยรถไฟฟ้า รถยนต์ส่วนตัว หรือรถขนส่งสาธารณะ ใกล้สนามบิน และง่ายต่อการเดินทางจากนิคมอุตสาหกรรม อาทิ ชลบุรี อยุธยา ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ฯลฯ อีกทั้งยังสามารถรองรับเป้าหมายการพัฒนาการจัดงานฯ ที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมการผลิต แปรรูป และบรรจุภัณฑ์ระดับโลกอย่างแท้จริง

ProPak Asia 2026 นับเป็นการก้าวสู่มิติใหม่แห่งการขยายตัวอย่างไร้ขีดจำกัด ที่จะเดินหน้าสู่การยกระดับการจัดงานฯ ให้เป็นงานสำคัญของอุตสาหกรรมแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในปี 2027 และก้าวขึ้นสู่การเป็นงานระดับโลก (World Class) ในปี 2028 โดยระหว่างการจัดงาน ProPak 2025 มีผู้ร่วมแสดงสินค้า และผู้สนใจงานร่วมจองพื้นที่จัดงานล่วงหน้าของ ProPak Asia 2026 แล้วถึง 95% เป็นการเสริมความเชื่อมั่นให้กับผู้เข้าร่วมชมงานว่า ProPak Asia 2026 จะเป็นศูนย์กลาง ที่รวมเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรม แปรรูปและบรรจุภัณฑ์โดยจะเชื่อมโยงผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า ผู้ประกอบการ หน่วยงาน และ ผู้เข้าเยี่ยมชมงาน เข้ากับ ProPak Connect ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลและเครือข่ายธุรกิจจากการจัดงาน ProPak ทั่วโลก ช่วยให้ทุกส่วนของระบบนิเวศในอุตสาหกรรมฯ เชื่อมต่อกันได้ในทุกมิติ

ด้านนางลูเซียนา เปลเลกรีโน ประธานองค์กรบรรจุภัณฑ์โลก (World Packaging Organization : WPO) เผยถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ว่า มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ยา สินค้าอุปโภคบริโภคและธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยมูลค่าของอุตสาหกรรมฯ คาดว่าจะขยายตัวจาก 1.28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 เป็น 1.69 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2034 โดยแนวโน้มสำคัญขณะนี้ คือ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทของ WPO ในการส่งเสริมเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ ความยั่งยืน และนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ ควบคู่ไปกับการเผยแพร่ข้อมูลและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างองค์กรบรรจุภัณฑ์ระดับนานาชาติ ทั้งนี้ WPO ได้ยกให้ ProPak Asia เป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักที่มีบทบาทสำคัญ และรู้สึกยินดีต่อความสำเร็จของงานในแต่ละปี สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในปี 2026 ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ พร้อมเปิดรับความท้าทายเพื่อก้าวสู่การเป็นงานแสดงระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต ซึ่ง WPO พร้อมให้การสนับสนุนงาน ProPak Asia ต่อไปอย่างเต็มที่

ส่วน ดร. โจเซฟ รอส เอส. จอคสัน ประธานสหพันธ์บรรจุภัณฑ์แห่งเอเชีย (Asian Packaging Federation : APF) กล่าวถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกว่า อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีขนาดใหญ่และการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าของอุตสาหกรรมฯ จะอยู่ที่ 190.55 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2025 และคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 4.98% ตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2033 จากบทบาทในฐานะศูนย์กลางการผลิตระดับโลก โดนเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงยังได้รับประโยชน์จากการบริโภคภายในภูมิภาคที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการมีประชากรจำนวนมาก สำหรับแนวโน้มสำคัญของอุตสาหกรรมที่ต้องติดตาม ได้แก่ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ การใช้วัสดุที่ยั่งยืนมากขึ้น การเติบโตของบรรจุภัณฑ์ระดับพรีเมียมและเฉพาะบุคคล รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยทางสหพันธ์ฯ ได้ร่วมมือกับงาน ProPak Asia มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนและผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาค จากความร่วมมืออย่างเข้มแข็งทำให้วันนี้งาน ProPak Asia เติบโตและพัฒนาไปในอีกก้าวสำคัญ ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ผลิตและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ทั่วทั้งภูมิภาค โดยทางสหพันธ์บรรจุภัณฑ์แห่งเอเชียจึงพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนการจัดงาน ProPak Asia 2026 และปีต่อๆ ไปอย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนอนาคตและการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก

ขณะที่นายอลี บาดาร์เนห์ หัวหน้าหน่วยความมั่นคงทางอาหารและระบบอาหาร กรมพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและโครงสร้างพื้นฐาน ยูไนเต็ด เนชั่น อินดัสเทรียล ดิเวลเลิพเมินท ออกาไนซ์เซชั่น หรือ ยูนิโด้ (UNIDO), ออสเตรีย กล่าวว่า องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) เป็นหน่วยงานเฉพาะทางของสหประชาชาติที่ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างครอบคลุมและยั่งยืน ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระยะยาวของ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ และ งาน ProPak Asia รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่วันนี้งาน ProPak Asia กำลังก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ของการเติบโต โดย UNIDO ยืนยันที่จะร่วมสนับสนุนการจัดงาน ProPak Asia 2026 และปีต่อๆ ไปอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งส่งเสริมความรู้ระดมความคิด

ระหว่างผู้นำในอุตสาหกรรม ผู้กำหนดนโยบาย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมอาหาร ที่จะร่วมสร้างห่วงโซ่คุณค่าและการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมฯ ให้เป็นโซลูชันที่นำไปใช้ได้จริงในระดับท้องถิ่น ซึ่งหลายพื้นที่ของโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างเร่งด่วนจากภาวะความหิวโหยที่เพิ่มขึ้น การสูญเสียและขยะอาหาร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ดังนั้น UNIDO หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือนี้จะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างระบบอาหารที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคและทั่วโลก

สำหรับงาน ProPak Asia 2026 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน 2569 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้สนใจข้อมูลรายละเอียดการจัดงานฯ สามารถเยี่ยมชมได้ที่www.propakasia.com

ภาครัฐเผยตัวเลขส่งออกไทยปี 67 ทะลุ 300,529.5 ล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดปี 68 ผ่าคลื่นสถานการณ์โลกโตได้อีก 2-3% ด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เผยอุตสาหกรรมอาหารไทยกลุ่มอาหารแช่แข็งและแปรรูปยังเป็นดาวรุ่ง พร้อมเดินหน้ายกระดับงาน ProPak Asia 2025 เป็นเวทีการค้าและเจรจาธุรกิจสำคัญสำหรับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมอาหารระดับภูมิภาค ด้านผู้เชี่ยวชาญและบริษัทชั้นนำร่วมจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปอาหารล่าสุด คาดปีนี้ผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 80,000 คน มูลค่าเจรจาการค้าทะลุ 5,500 ล้านบาท

นายสรรชาย นุ่มบุญนํา ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวถึงแนวโน้มและทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยในปีที่ผ่านมา (ปี 2567) เป็นปีที่อุตสาหกรรมอาหารไทยมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับข้อมูลของ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่ล่าสุดเผยว่าการส่งออกไทยปี 2567 สามารถส่งออกได้ 300,529.5 ล้านดอลลาร์ ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีการขยายตัวถึง 5.4% โดยการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 6.0% โดยสินค้าเกษตรขยายตัว 10.7% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 6.7%

ส่วนปี 2568 นั้น ภาพรวมของสถานการณ์โลกยังอยู่บนความไม่แน่นอน จากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก แต่อย่างไรก็ตามยังมีสัญญาณเชิงบวกของปัจจัยทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของ GDP โลกที่คาดว่าจะโตประมาณ 2.7% เศรษฐกิจในอาเซียนซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดี อัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลงและความต้องการสินค้าเกษตรเพื่อเป็นวัตถุดิบและบริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยสินค้ากลุ่มอาหารที่ขยายตัวได้ดี อาทิ ไก่สดแช่เย็นและแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สดแช่แข็งและแห้ง อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารสำเร็จรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ฯลฯ

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต โดยใช้งานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มายกระดับสินค้าให้มีมาตรฐานและความปลอดภัยที่สูงขึ้น เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและพัฒนาอาหารแห่งอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคสมัยใหม่ รวมถึงจำเป็นต้องมีกระบวนการผลิตและการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาสู่เศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) ซึ่งจะสอดรับกับนโยบายภาครัฐที่เดินหน้าหาตลาดการค้าใหม่ๆ และทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศและเขตเศรษฐกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดได้มีการทำข้อตกลง FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือเอฟตา (EFTA) เป็นผลสำเร็จและยังมีการเร่งเจรจา FTA อีกหลายฉบับ อาทิ FTA ไทย-สหภาพยุโรป (EU) / ไทย-เกาหลีใต้ / ไทย-ภูฏาน / ไทย – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) / อาเซียน – แคนาดา โดยทั้งหมดจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการส่งออกและภาคอุตสาหกรรมอาหารของไทย

ในส่วนของ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน ProPak Asia งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยี เครื่องจักรและโซลูชั่นในกระบวนการผลิต การแปรรูป บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ที่ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมอาหาร อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ชั้นนำของเอเชียนั้น ได้มีการยกระดับการจัดงาน ProPak Asia 2025 ให้มีความสำคัญในการเป็นเวทีความร่วมมือทางธุรกิจ การเจรจาการค้า การลงทุน การสร้างพันธมิตรธุรกิจ รวมถึงเป็นประตูเชื่อมต่ออุตสาหกรรมแปรรูปและผลิตอาหารของภูมิภาค ในการนำเสนอ ถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยีล่าสุดของโลกสู่ผู้ประกอบการ

สำหรับแนวคิดการจัดงาน ProPak Asia 2025 ครั้งนี้ คือ “เส้นทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในอุตสาหกรรมการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน” (Carbon-Neutral Pathways to Sustainable Processing and Packaging Ecosystem) ที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแนวทางหรือกลยุทธ์ที่มุ่งลดหรือชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เท่ากับศูนย์ (Carbon Neutral) ในทุกกระบวนการของการผลิต การแปรรูปและการบรรจุภัณฑ์ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสียและวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมกันลดการปล่อยคาร์บอนในทุกส่วน

ดังนั้นงาน ProPak Asia 2025 จึงไม่ได้เป็นเพียงการจัดงานแสดงสินค้าที่นำเสนอเพียงโซลูชันล้ำสมัย จากบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ด้านการผลิตและแปรรูป ผู้ผลิตวัตถุดิบ ผู้ออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากทุกส่วนของอุตสาหกรรมฯ แต่ยังช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคและเป็นช่องทางสร้างโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกได้พบกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ ผ่านการเข้าร่วมงานในปีนี้

งาน ProPak Asia 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจรายละเอียดการจัดงานและต้องการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมงาน ProPak Asia 2025 สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.propakasia.com

นางสาวกชสร โตเจริญธนาผล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวถึง แนวโน้มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์โลกปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องคาดว่ามีมูลค่าอยู่ที่ 1.14 ล้านล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มเป็น 1.38 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2572 จากความต้องการและการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ที่เริ่มมีการเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่น การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของไทยนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยปีที่ผ่านมา (2566) มีมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้านบาท ส่วนปี 2567 คาดว่าจะเติบโตเพิ่มกว่า 10% หรือประมาณ 3.85 แสนล้านบาท จากปัจจัยบวกด้านยุทธศาสตร์รัฐที่ต้องการยกระดับการผลิตอาหารของไทยให้เป็นศูนย์กลางอาหารโลก รวมถึงการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ฟื้นตัวและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะเพิ่มการบริโภคภายในประเทศและมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

แนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบต้องเตรียมพร้อมและพัฒนาการผลิตให้ดีขึ้น ความสำคัญของบรรจุภัณฑ์ในวันนี้มีหลายมิติ ทั้งคุณสมบัติในการสร้างความปลอดภัยและยืดอายุให้สินค้า ส่งเสริมการขายและเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าด้วยการออกแบบและความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งการพัฒนาการผลิตต้องเริ่มตั้งแต่เลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ใช้วัสดุที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ (recycled materials) หรือวัสดุที่มีความสามารถในการย่อยสลาย (biodegradable materials) พร้อมปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ใช้ AI หุ่นยนต์และระบบการผลิตอัตโนมัติ (Automation) มาช่วยคำนวณการใช้ทรัพยากร พลังงานและการลดต้นทุน ฯลฯ ให้ดียิ่งขึ้น

งาน ProPak Asia เป็นงานแสดงเทคโนโลยีกระบวนการผลิตและแปรรูปอาหาร บรรจุภัณฑ์ การจัดเก็บและการขนส่งตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำในระดับเอเชีย ที่มีส่วนสนับสนุนและร่วมพัฒนาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตและบรรจุภัณฑ์ของไทยให้มีความสามารถมากขึ้น โดยงาน ProPak Asia 2024 ปีนี้ ได้ยกโซน PackagingTech Asia เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์และกระบวนการบรรจุภัณฑ์ DrinkTech Asia เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม PharmaTech Asia เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมยา Packaging Solution Asia เทคโนโลยีเพื่อการผลิตบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สำเร็จรูป Coding, Marking & Labelling Asia เทคโนโลยีเพื่อการเขียนรหัส ติดป้ายและปักหมายเลขบนสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ รวมถึง Lab&Test Asia เทคโนโลยีการตรวจสอบและควบคุมมาตรฐานของอาหารและบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนกิจกรรมในโซนนี้ให้เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการจัดงานฯ โดยกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย

· I-Stage เวทีความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและการลงทุนสำหรับโซลูชั่นทางธุรกิจในห่วงโซ่อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ธุรกิจ FMCG (Fast-Moving Consumer Goods) สินค้าอุปโภค บริโภค

· Packaging Design Clinic โซนให้คำปรึกษาด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ เพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ ลดต้นทุน เสริมศักยภาพการผลิต โดยร่วมกับสมาคมออกแบบบรรจุภัณฑ์ไทย (Thai PDA)

· Design Box การนำเสนอผลงานการออกแบบ โดยคุณสมชนะ กังวารจิตต์ นักออกแบบบรรจุภัณฑ์รางวัลระดับโลกจาก Prompt Design

· ThaiStar, AsiaStar, WorldStar Display พื้นที่จัดแสดงตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลชนะการประกวดออกแบบระดับประเทศ ระดับภูมิภาคและระดับโลก ด้วยความร่วมมือจาก Thai-IDC, DIPROM (รางวัล ThaiStar) และ Asian Packaging Federation (รางวัล AsiaStar) และ The World Packaging Organisation (WPO) (รางวัล WorldStar)

นายโวล์ฟกัง คอนราด รองประธานฝ่ายการตลาดและสื่อสาร ไอดับเบิลยูเค แฟร์แพคคุงเทคนิก เจเอ็มเบอฮ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์จากประเทศเยอรมนี ซึ่งดำเนินงานในประเทศไทยภายใต้ชื่อ บริษัท ไอดับเบิลยูเค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมการผลิตที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง การผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานต้องปลอดภัย ถูกสุขอนามัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทุกภาคส่วนต่างให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ที่เป็นวัสดุรีไซเคิลและย่อยสลายได้ ใช้ทรัพยากรน้อยลงในการผลิต มีการออกแบบอย่างสร้างสรรค์และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโรงงานของเรามีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและผลิตบรรจุภัณฑ์ในหลายอุตสาหกรรม อาทิ เวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องสำอาง อาหาร ฯลฯ ส่วนคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการไทยในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาตินั้น ต้องเพิ่มขีดความสามารถ ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและมีพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ซึ่งไอดับเบิลยูเค พร้อมให้คำแนะนำ แลกเปลี่ยนความรู้และอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ กับผู้ประกอบการไทยตลอดเวลา

สำหรับการร่วมจัดงานกับ ProPak Asia นั้น นับว่าประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านเป็นอย่างมาก เพราะเป็นงานแสดงสินค้าเครื่องจักรและเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในเอเชีย ทำให้ผู้ร่วมงานได้รับประสบการณ์ที่ดี โดยงาน ProPak Asia 2024 ครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้เตรียมเปิดตัว CABLIblue 870 ซึ่งเป็นระบบผลิตบรรจุภัณฑ์แบบ “Blister on Carton” ที่ใช้กระดาษแข็ง 100% นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ตอบสนองต่อกระแสความยั่งยืน โดยระบบนี้จะช่วยให้สินค้าลดการใช้พลาสติกจากบรรจุภัณฑ์แบบ Blister Pack ลงได้ และอีกหนึ่งไฮไลท์ คือ ระบบบรรจุกล่องรุ่น CH4 ที่ประหยัดพลังงานได้มากกว่า 20% รวมถึงเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์และบริการของ ไอดับเบิลยูเค อีกมากมาย

นายลำพูล อุ่นเรือน ประธาน บริษัท เซนต้า แพ็ค แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตอาหารจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้ผลิตอาหารเพื่อการส่งออกทั้งอาหารคนและอาหารสัตว์ ได้ให้ความเห็นถึงโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทยว่า มีโอกาสเติบโตอีกมากเพราะไทยเป็นฐานการผลิตอาหารสำคัญของโลก สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องติดตาม คือ แนวโน้มบรรจุภัณฑ์ที่ต้องรักษ์โลกมากขึ้น ผู้ผลิตบางรายมีการปรับมาใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกจากวัสดุเพียงชนิดเดียว (Mono Material) ที่สามารถระบุชนิดของวัสดุที่สอดคล้องกับกระบวนการรีไซเคิลได้ เพื่อเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าและกฎระเบียบทางการค้าของแต่ละประเทศ พร้อมรักษาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้ทันสมัย โดยในส่วนของบริษัทฯ นั้น ได้มีการพัฒนาเทคโลยีการบรรจุสินค้าแบบใช้ความร้อนและความดันสูงเพื่อฆ่าเชื่อ (Retort) ให้รองรับกับบรรจุ

ภัณฑ์ของลูกค้า เช่น การใช้ Ultrasonic Sealing Method สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ต้องการความแม่นยำในการซีลสูงและสามารถใช้กับสินค้ากลุ่ม Mono Material ได้

การร่วมจัดแสดงงานกับ ProPak Asia นั้น เป็นโอกาสที่ดีที่ได้นำเสนอเทคโนโลยีเครื่องจักรใหม่ๆ ได้สร้างความสัมพันธ์ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมถึงมุมมองต่างๆ กับลูกค้าเก่าและได้พบลูกค้าใหม่ในทุกครั้งของการจัดงาน ส่วนไฮไลท์ที่จะนำมาร่วมจัดแสดงในปีนี้ คือ เครื่อง Vacuum Rotary ในกลุ่มสินค้า Curry paste และมีการจัดแสดงโซลูชั่นในการบรรจุแบบอัตโนมัติที่จะช่วยผู้ประกอบการที่มีปัญหาการเพิ่มกำลังการผลิตแต่ขาดแคลนแรงงานอีกด้วย

งาน ProPak Asia 2024 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ผู้สนใจรายละเอียดการจัดงานและต้องการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมงานฯ สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.propakasia.com

นางสาวกชสร โตเจริญธนาผล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน ProPak Asia 2024 กล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ภาครัฐที่ต้องการยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นแรงส่งสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปอาหารของไทย ซึ่งไทยมีข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์อุตสาหกรรมอาหารที่ครบวงจรและครอบคลุมห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการแปรรูป การบรรจุ จนส่งถึงมือผู้บริโภค แต่ทั้งหมดต้องถูกพัฒนาและสร้างมูลค่าให้สูงขึ้น ซึ่งการส่งออกอาหารไทยในปี 2567 คาดว่าจะมีมูลค่า 1.65 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.5% มีปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ภาคการบริการและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะที่แรงกดดันจากเงินเฟ้อเริ่มคลายตัวลง นับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการที่ต้องผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตซึ่งเป็นหัวใจที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้

นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เป็นกุญแจความสำเร็จวันนี้ อาทิ การใช้ IoT (Internet of Things) มาช่วยติดตาม ตรวจสอบ ควบคุมกระบวนการผลิตภายในโรงงาน การใช้วัตถุดิบและพลังงาน ลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต การพัฒนาเครื่องจักรและโรงงานอัตโนมัติ (Automation) เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robot) ช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและจัดการ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการบริหารจัดการเพื่อติดตามบันทึกข้อมูลการบริโภค และวิเคราะห์พัฒนาสินค้า การใช้ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในการควบคุมและปรับปรุงกระบวนการผลิตและการทำงาน ประมวลผล ช่วยตัดสินใจ รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพวัตถุดิบ สภาพแวดล้อมการผลิต ประสิทธิภาพเครื่องจักร จำลองกระบวนการผลิต ทดสอบ และปรับปรุงกระบวนการโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรจริง ฯลฯ ซึ่งผู้ประกอบการที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาธุรกิจและการผลิตจะมีแต้มต่อในการบริหารจัดการลดต้นทุน ลดความเสี่ยง และเพิ่มความสามารถการแข่งขันได้อีกด้วย

งาน ProPak Asia นั้น มีส่วนช่วยสนับสนุนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปอาหารของไทยให้ก้าวไปเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารของภูมิภาคอย่างเต็มที่ เพราะเป็นงานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ระดับเอเชีย ที่เชื่อมโยงและส่งเสริมการเข้าถึงความรู้ของผู้ประกอบการ ผ่านงานแสดงสินค้า โดยแนวคิดการจัดงาน ProPak Asia 2024 คือ ยกระดับความสำเร็จในกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนด้วย แนวคิด นวัตกรรม และ การลงทุน (Sustainably Empowering Processing & Packaging Success with Ideation, Innovation and Investment) เพื่อเป็นแรงกระตุ้น สร้างแรงบัลดาลใจ สร้างความคิดสร้างสรรค์ให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

นายรังสรรค์ อ่วมมี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด ธุรกิจเกษตรภัณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารให้ความเห็นว่า อุตสาหกรรมการผลิตและแปร

รูปอาหารเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจไทย และไทยมีศักยภาพในการผลิตอาหารที่เหมาะสม จากภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยและทรัพยากรทางการเกษตรที่เพียงพอ ซึ่งในปี 2567 แนวโน้มที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมฯ คือ การเน้นย้ำเรื่องความยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนั้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ การวิเคราะห์ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังปฏิวัติกระบวนการผลิตทั้งหมด ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพ คุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีขึ้น ส่วนกฎระเบียบด้านความปลอดภัยอาหาร ห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงัก และความผันผวนของตลาดยังคงเป็นสิ่งที่ต้องระวัง การปรับตัวรับความท้าทายเหล่านี้ ต้องมีกลยุทธ์ที่คล่องตัวและมีนวัตกรรมที่ต่อเนื่อง

ธุรกิจเกษตรภัณฑ์เป็นบริษัทคนไทยที่มีประสบการณ์กว่า 50 ปี ให้บริการด้านวิศวกรรมอย่างครบวงจร ด้วยทีมงานวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญ ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง การผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง การสรรหาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอดจนวิศวกรรมบริการหลังการขาย ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ และสัตว์เลี้ยง ระบบจัดเก็บและลำเลียงวัตถุดิบ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์และอุปกรณ์การเลี้ยง โรงงานแปรรูปอาหารและผลิตอาหารสำเร็จรูป รวมถึงการให้บริการด้านพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วย

ส่วนการร่วมงานกับ ProPak Asia นั้น ทางบริษัทฯ ได้เข้าร่วมต่อเนื่องมากว่า 7 ปี เนื่องจากเป็นงานที่เป็นศูนย์รวมของผู้ให้บริการสินค้าและเทคโนโลยีด้านการผลิตอาหารที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ผลที่ได้รับเป็นประโยชน์ทั้งต่อลูกค้า คู่ค้า และบริษัทฯ เป็นการอัพเดทเทคโนโลยีการผลิตอาหารจากบริษัทและจากคู่ค้า ได้มีโอกาสในการเชื่อมโยงเครือข่ายสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่ต่อยอดความร่วมมือได้ในอนาคต มีโอกาสทำความรู้จักกับลูกค้ารายใหม่ เพื่อสร้างยอดขายได้ และยังสร้างการรับรู้ สร้างแบรนด์ แก่นักลงทุนได้ว่าธุรกิจเกษตรภัณฑ์มีความพร้อมในการให้บริการด้วยศักยภาพด้านวิศวกรรม โดยไฮไลท์ที่นำมาจัดแสดงในงานฯ ปีนี้ จะให้ความสำคัญกับสินค้าและเทคโนโลยีที่เน้นการเพิ่มศักยภาพการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้แก่ลูกค้า มีการนำเสนอเครื่องจักรและเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติในกระบวนการแปรรูปและบรรจุอาหาร พร้อมบริการครบวงจรด้านวิศวกรรมที่ออกแบบและบริหารงานได้ตามต้องการ ทั้งการออกแบบ ก่อสร้าง เครื่องจักร เทคโนโลยี และงานระบบ ตลอดจนวิศวกรรมบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจถึงความพร้อมการให้บริการด้านวิศวกรรมสำหรับธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย

นายสุทธา มีสุข ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไฮเทค ฟู๊ด อีควิปเมนท์ จำกัด ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารจากต่างประเทศมีสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารฮาลาล ผนวกกับแรงหนุนภาครัฐที่ส่งเสริมสินค้าอาหารของไทยให้ได้รับความนิยมในตลาดโลกและตลาดใหม่ๆ มากขึ้น จึงเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการไทยในการนำผลิตภัณฑ์ขยายสู่ตลาดนานาชาติ แต่การสร้างผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต้องมีการพัฒนาเพิ่มมูลค่าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคด้วย โดยใช้การวิจัยพัฒนา นวัตกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในกระบวนการผลิต ลดข้อผิดพลาด สร้างความปลอดภัย ความสะอาด และยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น

การดำเนินงานของบริษัทฯ ก็มีส่วนช่วยผู้ประกอบการด้วย เนื่องจากเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมทั้งอาหารคนและอาหารสัตว์ ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลัก ทั้งสัตว์บก สัตว์ปีก อาหารทะเล เบเกอร์รี่ อาหารพร้อมทาน ผัก

ผลไม้ และ อาหารสัตว์ รวมถึงกระบวนการผลิต การเตรียม การขึ้นรูป การทำสุก และการบรรจุภัณฑ์ โดยมีพันธมิตรผู้ผลิตเครื่องจักรคุณภาพสูงจากทั่วโลก พร้อมบริการให้คำปรึกษาและการหา Solutions ที่เหมาะสมต่อความต้องการ หรือร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยผู้เชี่ยวชาญผู้ผลิตจากต่างประเทศ เช่น Butcher หรือ Food Technologist การให้บริการโปรแกรม PM (Preventive Maintenance) ฯลฯ ส่วนการร่วมจัดแสดงในงาน ProPak Asia 2024 นั้น เพราะเป็นงานใหญ่ระดับเอเชีย กลุ่มผู้เข้าชมงานเป็นผู้ประกอบการเป้าหมายตัวจริงที่ต้องการหาเครื่องจักรไปใช้ในธุรกิจ โดยในปีนี้ได้มีการเตรียมเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุดเข้าร่วมจัดแสดงถึง 7 กลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมสาธิตและทดสอบจริงอีกด้วย

งาน ProPak Asia 2024 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ผู้สนใจรายละเอียดการจัดงานและต้องการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมงานฯ สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.propakasia.com

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click