November 24, 2024

เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ผู้นำธุรกิจพอลิเมอร์ครบวงจรเพื่อความยั่งยืน พลิกเกมช่วงธุรกิจปิโตรเคมีขาลง เชื่อมั่นในการเติบโตของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในภูมิภาค เดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจด้วยการลงทุนโครงการเพิ่มวัตถุดิบก๊าซอีเทนในบริษัท ลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals – LSP) ด้วยงบประมาณลงทุนรวมประมาณ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 23,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้โรงงาน LSP สามารถรับวัตถุดิบก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลง และเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับวัตถุดิบในการผลิตได้มากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ ปลายปี 2570

นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC เผยว่า “กระบวนการผลิตโอเลฟินส์ของโรงงาน LSP ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบตั้งต้นประเภทก๊าซมากขึ้น งบประมาณลงทุนส่วนใหญ่จะนำไปใช้สำหรับการสร้างระบบการจัดการและถังจัดเก็บวัตถุดิบก๊าซอีเทน ซึ่งต้องอยู่ภายใต้อุณหภูมิต่ำประมาณ -90 องศาเซลเซียส รวมทั้งสาธารณูปโภคการรับวัตถุดิบ (supporting facilities) เมื่อโครงการแล้วเสร็จ โรงงาน LSP จะสามารถรับก๊าซอีเทนได้มากถึงสองในสามของปริมาณวัตถุดิบทั้งหมด โดยส่วนที่เหลือจะเป็นก๊าซโพรเพนและแนฟทา”

ทั้งนี้ โรงงาน LSP ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 สามารถผลิตและจำหน่ายพอลิเมอร์คุณภาพสูงเพื่อป้อนตลาดในประเทศเวียดนามและส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยผลิตภัณฑ์จากโรงงาน LSP ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล

“อย่างไรก็ตาม ในช่วงธุรกิจปิโตรเคมีขาลง SCGC มีแนวทางบริหารจัดการการผลิตของโรงงานทั้ง 3 แห่ง ได้แก่  โรงงานระยองโอเลฟินส์ (ROC) โรงงานมาบตาพุดโอเลฟินส์ (MOC) และโรงงาน LSP ให้เหมาะสมกับราคาวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันสูงสุด ซึ่งขณะนี้ โรงงาน LSP ได้หยุดการเดินเครื่องชั่วคราว เพื่อบริหารต้นทุนธุรกิจโดยภาพรวม ทั้งนี้ SCGC จะประเมินการกลับมาเดินเครื่องอีกครั้งเมื่อสถานการณ์เหมาะสม โดยระหว่างนี้ โรงงาน LSP จะมุ่งเน้นการยกระดับประสิทธิภาพ (Operational Excellence) และการบำรุงรักษาเครื่องจักรต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมผลิตในทันทีที่สภาวะตลาดโลกฟื้นตัว” นายศักดิ์ชัย กล่าวทิ้งท้าย

ONNEX by SCG Smart Living ปรับโฉมพื้นที่ชั้น 1 ที่ SCG HOME Experience นำเสนอระบบโซลาร์จาก SCG Solar Roof Solutions พร้อมนวัตกรรมเพื่อคุณภาพอากาศภายในบ้าน อาทิ SCG Active AIR Quality เติมอากาศดีพร้อมป้องกันฝุ่น PM 2.5 และ SCG Active AIRflow™ System ช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อนให้อยู่สบาย พร้อมโปรโมชัน Top-Up ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจดูแลคุณภาพชีวิตในบ้านให้ดีขึ้น

นายดุสิต ชัยรัตน์ Head of Smart Solution Business เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง กล่าวว่า “การปรับปรุงพื้นที่ใหม่ของ ONNEX by SCG Smart Living (ออนเนกซ์ บาย เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง) บริเวณชั้น 1 ของ SCG HOME Experience เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (CDC) ในครั้งนี้ เพื่อนำเสนอโซลูชันต่าง ๆ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตภายในบ้านให้ดียิ่งขึ้น โดยเน้นให้บริการด้านข้อมูลและการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการตัดสินใจซื้อที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด โดยไฮไลท์ของพื้นที่คือโซนระบบโซลาร์ ที่นำเสนอสินค้าและอุปกรณ์เกี่ยวกับการติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์ทั้งหมด อาทิ แผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่อินเวอร์เตอร์ และนวัตกรรม Solar Fix สิทธิบัตรเฉพาะเอสซีจี ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อลดปัญหาหลังคารั่วซึมจากการติดตั้งระบบโซลาร์ โดยลูกค้าสามารถรับบริการ One Stop Services จาก SCG Solar Roof Solutions แบบครบวงจร ตั้งแต่ตรวจเช็กสภาพหลังคาเพื่อแก้ไขทุกปัญหาก่อนการติดตั้ง ตลอดจนดำเนินการเรื่องเอกสารขออนุญาตติดตั้งกับภาครัฐ จนถึงบริการหลังการขาย

สำหรับโซนโซลูชันเพื่อคุณภาพอากาศภายในบ้าน  ONNEX by SCG Smart Living ได้นำเสนอ SCG Active AIR Quality โซลูชันที่ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 และเติมอากาศดีภายในบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหลักการ Positive Pressure ของระบบจะช่วยป้องกันมลภาวะและเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่ภายในบ้าน รวมทั้งยังมีพื้นที่สาธิตกระบวนการทำงานของ SCG Active AIRflow™ System โซลูชันเพื่อการถ่ายเทอากาศและระบายความร้อนออกจากตัวบ้านและโถงหลังคา ช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อนอบอ้าว ลดการสะสมเชื้อโรคและความอับชื้นในบ้าน จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการภูมิแพ้ ทำให้รู้สึกสบายและปลอดโปร่งตลอดเวลาที่อยู่ภายในบ้าน ทั้งนี้ โซลูชันระบบโซลาร์และระบบคุณภาพอากาศภายในบ้าน ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้นตามแนวทางของธุรกิจ”

นอกจากนี้ ONNEX by SCG Smart Living  ยังมีโปรโมชันฉลองเปิดพื้นที่ใหม่ส่งท้ายปี 2567 จาก SCG Solar Roof Solutions SCG Active AIR Quality และ SCG Active AIRflow™ System ด้วยการขยายเวลาโปรโมชันที่ได้รับความนิยมจากงานบ้านและสวนแฟร์ 2024 จนถึงสิ้นปีนี้ และพิเศษสุดในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 จะมี 3 แพ็กเกจ Top up ได้แก่

  • แพ็กเกจที่ 1 : มัดจำ SCG Solar Roof Solutions + ซื้อ SCG Active Air Quality ลด 15% พร้อมรับส่วนลดเพิ่ม 1,000 บาท
  • แพ็กเกจที่ 2 : ซื้อ SCG Active AIRflow™ System ลด 10% พร้อมรับสิทธิพิเศษ อัปเกรดเปลี่ยน Steel เป็น Stainless
  • แพ็กเกจที่ 3 : ซื้อ SCG Active AIR Quality ทุกรุ่น แถมทันทีเซ็นเซอร์ PM 5 มูลค่า 2,500 บาท

พบกับพื้นที่ใหม่พร้อมโปรโมชันตลอดปลายปี 2567 ที่โซน ONNEX by SCG Smart Living ชั้น 1 SCG HOME Experience หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.onnexbyscg.com

พร้อมบริษัทในกลุ่ม SCGP, SCGJWD และ Q-CON คว้ารวม 5 รางวัล ในงาน SET AWARDS 2024

แก้เกมระยะสั้น เร่งลดต้นทุนทั้งองค์กร ปิดกิจการไม่ทำกำไร เดินเกมระยะยาวลุยโครงการอีเทนปิโตรเคมีเวียดนาม ดันปูนคาร์บอนต่ำ-พลาสติกรักษ์โลกมูลค่าเพิ่มสูงเติบโตตามแนวทาง Inclusive Green Growth  

ONNEX by SCG Smart Living เปิดบ้านโชว์ศักยภาพความพร้อมในงานระบบโซลาร์ ส่งแผน EPC+ BUSINESS MODEL รุกตลาดโซลาร์ ตั้งเป้าสู่ความเป็นผู้นำ มุ่งตอบโจทย์ทุกกลุ่มพันธมิตรสำคัญทั้งกลุ่มธุรกิจต่างๆ และนักลงทุน คาดภายใน 5 ปี ปั้นธุรกิจ ขยายกำลังการผลิตติดตั้งโตขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 1,000 เมกะวัตต์  

นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง กล่าวว่า ONNEX by SCG Smart Living เน้นนวัตกรรมและบริการด้านระบบโซลาร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2011 โดยเริ่มต้นจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้เองภายในโรงงานต่างๆ ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากสุดถึง 40% ด้วยประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนาน จึงมีความพร้อมที่จะตอบรับความต้องการในตลาดโซลาร์ที่มีอัตราการเติบโตสูงมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการติดตั้งระบบโซลาร์ในปัจจุบันนั้นมีราคาที่ถูกลง  ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้ายังคงมีราคาสูง

นายดุสิต ชัยรัตน์ Smart Home Living Solution Director ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง กล่าวว่า ด้วยแนวโน้มตลาดที่เปลี่ยนไป ทั้งด้วยนโยบายจากภาครัฐและจากความต้องการของลูกค้าในการใช้พลังงานสะอาด  อีกทั้งในระยะหลังมีนักลงทุนที่สนใจลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดมากขึ้นจากผลตอบแทนการลงทุนที่ดีและมีความผันผวนต่ำในระยะยาว ทาง ONNEX by SCG Smart Living ได้จัดให้มีบริการ EPC (Engineering Procurement and Construction) ทั้งด้านการออกแบบทางวิศวกรรม  การขออนุญาตโครงการ รวมถึงการติดตั้งโครงสร้างระบบแบบครบวงจรอยู่แล้ว เพื่อขยายตลาดให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จึงได้เตรียมกลยุทธ์ EPC+ Business Model ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้เกี่ยวข้องแต่ละกลุ่มในระบบโซลาร์ ที่จะช่วยสร้าง ecosystem ให้แข็งแกร่งเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโซลาร์ให้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งกลุ่มธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ส่งผลดีให้กับกลุ่มผู้บริโภค เพื่อลดภาวะโลกร้อนและสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ โดยคาดว่า EPC+ Business Model  จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งในระบบพลังงานโซลาร์รวมแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายใน 5  ปี

สำหรับ EPC+ Business Model  เบื้องต้นมี 5 รูปแบบ คือ

  • EPC+F (Finance) เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเปลี่ยนระบบไฟฟ้าพื้นฐานมาติดตั้งระบบโซลาร์ นอกจากธุรกิจจะได้ใช้พลังงานสะอาดแล้ว ผู้ประกอบการยังได้ประโยชน์จากส่วนลดค่าไฟสูงสุดถึง 40% ซึ่งแผน EPC+F นี้ ทางผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนเอง แต่ทาง ONNEX จะดำเนินการหาผู้ลงทุนให้
  • EPC+D (Project Development) เหมาะสำหรับนักลงทุน ที่เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ สถาบัน กองทุน ที่สนใจลงทุนในโครงการโซลาร์ แต่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีทีมงานจัดทำโครงการ หรือไม่สามารถหาโครงการที่เหมาะสมได้ ทาง ONNEX จะทำหน้าที่คัดสรรโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายการลงทุน ขนาดโครงการ ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีผลประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ลงทุน
  • EPC+Alliance รูปแบบความร่วมมือกับพันธมิตร EPC ด้วยกัน โดยมีแนวคิดที่จะช่วยให้ในกลุ่มพันธมิตรสามารถมีศักยภาพในการบริหารต้นทุนที่ดีที่สุดในระบบการจัดซื้อ (Cost effectiveness) โดยทาง ONNEX มีแผนงานเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาแผงและอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบโซลาร์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว โดย EPC+Alliance ได้เริ่มดำเนินการและเปิดรับกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสนใจร่วมกันอยู่ในขณะนี้
  • EPC+Authorized Referral เหมาะสำหรับตัวแทนอิสระ ที่มีเครือข่ายลูกค้าที่มีศักยภาพในธุรกิจโซลาร์ สามารถเข้ามาเป็น Authorized Referral ได้ เพื่อร่วมธุรกิจและรับผลตอบแทนจากโครงการ

ด้านนายสุชาติ นอกพุดซา Associate Director – Solar Roof ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง กล่าวว่า ONNEX by SCG Smart Living มีประสบการณ์ในการติดตั้งระบบโซลาร์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกรูปแบบ (Solar Roof, Solar Floating, Solar Farm และ Solar Carport) ที่ผ่านมา สามารถผลิตพลังงานสะอาดไปแล้วกว่า 200 เมกะวัตต์ (MWp) และยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการอีกถึง 400-600 เมกะวัตต์ (MWp) โดยพื้นที่โซลาร์ฟาร์มขนาด 47.5 ไร่ ที่จังหวัดสระบุรี ถือเป็นโซลาร์ฟาร์มต้นแบบที่นำเสนอแพลตฟอร์มการบริหารจัดการพลังงานโรงไฟฟ้าเสมือนจริง (Virtual Power Plant) ภายใต้แนวคิด Smart Utilization -  Smart Investment -  Smart Flexibility  และ Smart Monitoring  ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับรู้ปริมาณการผลิตโซลาร์และการนำพลังงานสะอาดไปใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งถือเป็นโซลาร์ฟาร์มต้นแบบที่มีความสำคัญอย่างมากในการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในโรงงานต่างๆ ในพื้นที่ โดยในส่วนของอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ที่ทาง ONNEX by SCG Smart Living เคย Develop ได้สูงสุดจะอยู่ที่ IRR 34% และระยะเวลาคืนทุนภายใน 3ปี

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ONNEX Solar หรือสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแผน EPC+ Business Model สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.onnexbyscg.com/th/product/solar-solutions   และไลน์ @SCGSolarRoof หรือสอบถามได้ที่เบอร์ 02-586-2222

Page 1 of 64
X

Right Click

No right click