BDMS เปิดแผนใหญ่ส่งท้ายปี ส่งแอปพลิเคชัน BeDee แอปสุขภาพครบวงจรเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ที่ต้องการดูแลสุขภาพและพบแพทย์แบบทันท่วงที ดูแลตั้งแต่ยังไม่มีอาการป่วย จนถึงช่วงการรักษา ในรูปแบบ Holistic ครบครัน สะดวกสบาย ในแอปเดียว ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็น No.1 Digital Healthcare Ecosystem มุ่งเจาะตลาด 10% ของผู้ใช้งาน Digihealth ที่มีอยู่ 26 ล้านคนทันที หลังเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคม 2566

พันตรี สมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เฮลท์ พลาซ่า จำกัด ในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เปิดเผยว่า หลังการระบาดของโรคโควิด 19 วงการ Healthcare มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน มีความต้องการดูแลสุขภาพแบบทันท่วงทีมากขึ้น ต้องการพบแพทย์แบบทันท่วงทีมากขึ้นโดยไม่ต้องรอให้มีอาการป่วยหรือเป็นโรคต่างๆ ดังนั้นใน BDMS ในฐานะที่มีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของโรงพยาบาล ที่ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือกว่า 58 แห่ง และบริการด้านสุขภาพต่าง ๆ อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลเปาโล, BDMS Wellness Clinic, ร้านขายยา Save Drug และศูนย์แลป N Health เป็นต้น จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee ขึ้นมา เพื่อให้คนไทยเข้าถึง Healthcare คุณภาพจากเครือ BDMS ซึ่งตอบโจทย์ได้ในหลายกลุ่ม ทั้งคนรุ่นใหม่, คนรักสุขภาพ, ผู้ป่วยโรคทั่วไปและเรื้อรัง รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยวและกลุ่มที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย

หนึ่งในเป้าหมายของ BDMS ที่เปิดแอปพลิเคชัน BeDee เพื่อหวังเจาะเข้าถึงผู้ใช้งานด้าน Wellness ที่ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งแต่คนที่ยังไม่ป่วยจนถึงป่วยแล้วด้วย 3 บริการหลักในแอปเดียว คือ 1.Teleconsultation ให้บริการปรึกษาอาการป่วยจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 สาขาจากเครือ BDMS ที่พร้อมให้คำแนะนำและรักษาอาการป่วยผ่านแอป โดยไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล มีค่าบริการเริ่มต้นเพียง 240 บาท ในช่วงเปิดตัว 2.Telepharmacy ให้บริการปรึกษาเรื่องยากับเภสัชกรฟรี ในส่วนของยาสามัญทั่วไป (Over-the-Counter Drugs) ยาเฉพาะทาง หรือยาที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์พร้อม

จัดส่งด่วนถึงบ้าน 3. Health Mall ศูนย์รวมสินค้าเพื่อสุขภาพ และสินค้าเฉพาะแต่ละกลุ่มโรค นอกจากบริการหลักที่ช่วยดูแลด้านสุขภาพ แอป BeDee ยังเตรียมเปิดบริการเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้อีก 3 บริการ Health Content, Health Check up และ Health Package ซึ่งจะให้บริการแบบ Holistic เป็น One Stop Service ที่ให้การดูแลทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ โภชนาการ การออกกำลังกาย และอีกหลายด้าน ทั้ง Curative และ Preventive ซึ่ง BeDee ถือเป็นแอปเจ้าแรกในเมืองไทยที่ให้บริการได้ครบวงจรและรอบด้านที่สุด ภายใต้มาตรฐานระดับสูงจากเครือ BDMS และยังมีบริการต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งดูแลได้ตั้งแต่ก่อนเกิดโรค ด้วยแนวคิดเชิง Preventive Healthcare แบบไม่ต้องรอให้ป่วยถึงค่อยมาหาหมอ BeDee จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยให้เรื่องสุขภาพของคนไทยเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ใช้ชีวิตทุกวันในรูปแบบที่ส่งเสริมให้ตัวเองมีสุขภาพดี หรือที่เรียกว่า Live with Wellness

พันตรีสมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ กล่าวว่า “BDMS ได้ใช้เวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee เกือบ 1 ปี ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ต.ค. 2566 นี้ ช่วงแรกจะใช้งบทำตลาดไม่น้อยกว่า 25 ล้านบาท พร้อมอัดรายการโปรโมชันให้ส่วนลดเงินสด 100 บาท แบบไม่มีขั้นต่ำ ใช้ได้กับทุกบริการในแอป เพียงใส่โค้ด BDPR01 ก่อนชำระ ตั้งแต่วันนี้ - 30 พ.ย. 2566 และค่าส่งสินค้าราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชันลดสินค้าสุขภาพ On top เพื่อสร้างการรับรู้และทดลองใช้ แอปพลิเคชัน BeDee ในวงกว้างมากขึ้น ตั้งเป้าช่วงเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2566 มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแอป BeDee เป็นจำนวนมากหรือประมาณ 10% จากจำนวนผู้ใช้งานในตลาด Digihealth ที่มีอยู่ประมาณ 26 ล้านคนในปัจจุบัน และภายในปี 2568 คาดว่า BeDee จะขึ้นมาครองตลาดอันดับ 1 ในเมืองไทย เนื่องจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ BeDee วางแผนเจาะเข้าไปในทุกตลาดทั้ง B2B B2C และต่อยอดให้บริการลูกค้าของ BDMS ที่มีจำนวนคนไข้นอกต่อวัน (OPD visit per day) มากกว่าสามหมื่นคน เป็นคนไทย 85% นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 15%”

“BDMS จะไม่หยุดพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลาย Milestone ที่จะช่วยขยาย service เพื่อให้แอปสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านของ Healthcare Ecosystem และปี 2567 มีเป้าหมายขยายการให้บริการแอปพลิเคชัน BeDee ไปสู่ประเทศในแถบเอเซียด้วย เพราะมีฐานลูกค้าของ BDMS อยู่เป็นจำนวนมากในหลาย ๆ ประเทศแถบเอเชีย และทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือ 2 แห่งอยู่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งยังไม่รวมคู่ค้าที่เป็นโรงพยาบาล และคลินิกอีกเป็นจำนวนมาก” พันตรี สมิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) บริษัทในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ร่วมกับ บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ asap ผู้ให้บริการรถยนต์ให้เช่าของประเทศไทย ประกาศความสำเร็จในการพัฒนา “Utility Token พร้อมใช้” ภายใต้ชื่อโทเคน “asap coin”

มุ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและรถยนต์ที่หลากหลายของบริษัทได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส พร้อมสร้างการมีส่วนร่วม (Customer Engagement) ระหว่างลูกค้าและองค์กรด้วยสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ด้านการเดินทางที่เหนือกว่าและไม่เคยมีมาก่อน ผ่านการนำระบบบล็อกเชนและ Tokenization มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างมิติใหม่กับธุรกิจให้บริการรถเช่าครบวงจรของประเทศไทย โดยเปิดให้ลูกค้าสามารถใช้งาน “asap coin” บนแอปพลิเคชัน asap ได้แล้ววันนี้ โดยความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Token X ในการเป็น “Tokenization Success Partner” ร่วมสร้างความสำเร็จร่วมกับลูกค้าองค์กรจากหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศไทย

 

นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ asap กล่าวว่า “asap ในฐานะผู้ให้บริการรถยนต์ให้เช่าชั้นนำของเมืองไทย เรายังคงเดินหน้าสานต่อกลยุทธ์ธุรกิจหลักในการมุ่งขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มลูกค้าองค์กรไปสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อยเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจการเดินทางและรถยนต์แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการ บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น (Drive) บริการรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ (Limousine) ไลฟ์สไตล์ สตรีทมอลล์ (asap Auto Park) แฟรนไชส์ asap Select แพลตฟอร์มซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยน และประมูลออนไลน์ (Casap) และขายประกันภัย (asap Protect) ฯลฯ โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการนําเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การพัฒนาแอปพลิเคชัน asap ตามแนวคิด Mobility Solution Driven จนมาถึง ความร่วมมือกับ Token X ในการพัฒนา “asap coin” บนแอปพลิเคชัน asap ในครั้งนี้ เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถของแอปพลิเคชัน asap ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการง่ายขึ้น รวมถึงได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า โดยลูกค้าสามารถรับ “asap coin” ผ่าน แอปพลิเคชัน asap จากการร่วมกิจกรรมมากมายของบริษัท และสามารถนำ “asap coin” มาแลกส่วนลดสินค้าและบริการ หรือเข้าร่วมเป็นสมาชิก เพื่อแลกรับสินค้าและบริการ รวมถึงสิทธิพิเศษของบริษัทและพันธมิตรชั้นนำ เช่น บริการจองรถเช่ารายวัน บริการรถหรูในวันสำคัญ รวมไปถึงการซื้อประกัน หรือ ซื้อขายแลกเปลี่ยนรถมือสอง ฯลฯ โดยความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มใหม่และยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้ารูปแบบใหม่ ๆ ในอนาคตพร้อมสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมต่อทุกสินค้าและบริการได้ด้วยโทเคนดิจิทัลเดียว เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่อย่างเทคโนโลยีบล็อกเชนมาปรับใช้

 

นางสาวจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) กล่าวว่า “หลังจาก Token X และ asap ได้ร่วมมือกันศึกษาโอกาสทางธุรกิจในการจัดทำโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ หรือ “Utility Token พร้อมใช้” ภายใต้ชื่อโทเคน “asap coin” บนแอปพลิเคชัน asap เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา โดยเราได้ให้บริการด้าน Tokenization แบบครบวงจร (End-to-End Tokenization Service) เริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษาและออกแบบโทเคนดิจิทัล รวมถึงโครงสร้างด้านเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับองค์กรซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แอปพลิเคชัน asap สามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบบล็อกเชนและสามารถออกโทเคนดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายบนเครือข่ายบล็อกเชน TKX Chain ที่พัฒนาขึ้นโดย Token X ซึ่งวันนี้การออก “asap coin” ได้ประสบความสำเร็จและสามารถนำมาใช้ได้จริงบนแอปพลิเคชัน asap แล้ว โดยเรามุ่งหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกค้าของ asap สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและรถยนต์ ของ asap ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส พร้อมสร้างการมีส่วนร่วม (Customer Engagement) ระหว่างลูกค้าและองค์กรด้วย

สิทธิประโยชน์ด้านการเดินทางที่เหนือกว่า นับเป็น use case ที่สามารถพิสูจน์ความสำเร็จของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและโทเคนดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจด้านการเดินทางได้อย่างแท้จริง ก่อนเดินหน้าวางรากฐานด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและโทเคนดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ร่วมกับลูกค้าองค์กรในอุตสาหกรรมอื่นๆ ต่อไปในอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันธุรกิจในประเทศไทย ให้ก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

“asap coin” เป็น Utility Token พร้อมใช้ ที่มีการกําหนดจำนวนโทเคนดิจิทัล หรือสิทธิที่เฉพาะเจาะจงในการได้มาซึ่งสินค้าและบริการของบริษัทและพันธมิตร โดยสามารถพร้อมใช้ได้ทันทีในวันที่ออกและกระจายโทเคนดิจิทัล ผ่านทางแอปพลิเคชัน asap

 

โดยในช่วงเปิดตัวนี้ บริษัทได้มอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าที่สนใจใช้บริการ แอปพลิเคชัน asap โดยลูกค้าบุคคลทั่วไปที่เปิดใช้งาน Digital Wallet ผ่าน แอปพลิเคชัน asap เป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2566 – 3 กันยายน 2566 รับทันที Airdrop “asap coin” จำนวน 500 asap coin (แลกรับ voucher ส่วนลดเงินสดสูงสุด 280 บาท) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ www.asapcoin.co

ปล่อยแคมเปญ Diners’ Choice 2022 ชวนลูกค้าร่วมโหวตสุดยอดร้านอาหาร

เปิดมุมมองให้กว้าง พร้อม “ยินดีที่ได้รู้จัก” เพื่อนใหม่ที่ Ablo จุดประกายความรู้สึกดี ๆ และเริ่มต้นบทสนทนาครั้งแรกที่มีความหมาย

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click