

มหกรรมบ้านและคอนโดประกาศเปิดตัวหัวเรือใหญ่คนใหม่ต้อนรับปีมังกรทอง โดยได้ผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง ‘บอสมิ้นท์’ ภูมิภัทร พรหมมา ประธานกรรมการของค่ายเอพลัส เรียลเอสเตท มานั่งเป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน ครั้งที่ 45 ที่จะใช้คอนเซ็ปต์ “Property Solutions ทางเลือกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” มาสร้างมุมมองใหม่ให้กับมหกรรมบ้านและคอนโด ในแบบที่เป็นงานอสังหาฯ เพื่อทุกเพศทุกเจนทุกไลฟ์สไตล์ ผู้บริโภคสนใจที่อยู่อาศัยแบบไหน เพราะอะไร งานนี้ตอบโจทย์ตรงใจได้หมด ครบครันทั้งทำเลที่เพอร์เฟกต์สำหรับอยู่อาศัย ใกล้ที่ทำงาน หรือลงตัวกับความชอบพิเศษ เช่น รักธรรมชาติหรือ pet lover หรืออยากได้วิวสวยจากมุมสูงหรือติดแม่น้ำ หรือกำลังคิด แต่ติดที่สินเชื่อ งานนี้ก็มีโซลูชั่นจากแบงค์ดังมารอให้บริการถึงที่ งานนี้ บอสมิ้นท์ ออกปากเลยว่าใครที่กำลังจะซื้อบ้านและยังไม่เคยมางานมหกรรมบ้านและคอนโด ต้องลองมาสักวัน จะไม่ผิดหวังชัวร์ โดยงานจะมีขึ้น 21 – 24 มีนาคม 2567 ณ Hall 5 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จับมือร่วมกับ ธนาคารออมสิน มอบความสุขแก่น้องๆ เนื่องในวันเด็ก 2567 เตรียมส่งตู้ HAKO SOFT CREAM ตู้จำหน่ายไอศกรีมซอฟต์เสริฟ (soft serve) หรือไอศกรีมสดอัตโนมัติเจ้าแรกในประเทศ แจกไอศกรีมซอฟต์เสริฟเกรดพรีเมี่ยม รสชาติ HAKO-นมจิตรลดา จำนวน 2,000 ถ้วย เพื่อเป็นของขวัญวันเด็ก ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม นี้ ที่บริเวณสนามกีฬา ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 12.00 น.
นาย วิโรจน์ ศิริรัตนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าว “แบรนด์ Advance Vending ภายใต้บริษัท บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เราเป็นผู้พัฒนาและผลิตตู้ Vending Machine อันดับต้นๆ ของเมืองไทย รวมไปถึงตู้ HAKO SOFT CREAM ตู้กดไอศกรีมซอฟต์เสริฟ (soft serve) อัตโนมัติเจ้าแรกในประเทศ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในวงการไอศกรีมบ้านเรา และนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ HAKO SOFT CREAM ได้เข้าร่วม โครงการ GSB Smart Franchise ที่ธนาคารออมสินจัดขึ้น ในการตอกย้ำภารกิจเพื่อสังคม และการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้ประกอบการ โดย ตู้ HAKO SOFT CREAM ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 Selected GSB Smart Franchise 2023

โดยวันเด็กเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 นี้ บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ได้จับมือร่วมกับ ธนาคารออมสิน ส่งมอบความอร่อย และความสุข พร้อมทั้งเปิดประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมการให้บริการตู้กดสินค้าอัตโนมัติ HAKO SOFT CREAM ให้น้องๆ ได้กดสัมผัส ได้สนุก และทำความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีตู้กดไอศกรีมอัตโนมัติ เพื่อเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์และพัฒนาการการเรียนรู้ทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เกี่ยวกับตู้ Vending Machine โดยไอศกรีมที่นำไปแจก คือ รสชาติ HAKO-นมจิตรลดา ซึ่งเป็นรสชาตินมอัดเม็ดที่หลายๆคนคุ้นเคย แต่มาบริการในรูปแบบของไอศกรีมซอฟต์เสริฟ จำนวน 2,000 ถ้วย ทั้งนี้ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในวันเด็กปี 2567 นี้ น้องๆ จะได้ชิมไอศกรีมที่มีความอร่อย มีความสุข และได้เรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ จากตู้กดไอศกรีมอัตโนมัติ HAKO SOFT CREAM ครับ”
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้จัดกิจกรรมจับรางวัลสำหรับผู้โชคดี แคมเปญ “TIP แจกจริงชิงทอง ฉลองยิ่งใหญ่ 72 รางวัล” เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 72 ปีของบริษัทฯ โดยมี ดร.พลรัตน์ เอกโยคยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จับรางวัล และผู้บริหารบริษัท อะมิตี้ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด พร้อมด้วย เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ กรมการปกครอง ให้เกียรติมาเป็นสักขีพยานในการจับรางวัล
โดยการจับรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับทองคำ 72 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท แบ่งออกเป็น
รางวัลที่ 1 ทองคำ 1 บาท จำนวน 2 รางวัล มูลค่ารวม 68,400 บาท
รางวัลที่ 2 ทองคำ 1 สลึง จำนวน 5 รางวัล มูลค่ารวม 44,500 บาท
รางวัลที่ 3 ทองคำ ครึ่งสลึง จำนวน 65 รางวัล มูลค่ารวม 292,500 บาท

โดยผู้ร่วมกิจกรรมสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีผ่านทาง FACEBOOK FANPAGE ทิพยประกันภัย ในวันที่ 11 ม.ค. 2567 สำหรับผู้โชคดีต้องติดต่อกลับทาง Inbox Facebook ทิพยประกันภัย ภายใน 30 วัน หลังประกาศผล เพื่อยืนยันการรับรางวัลและปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด มิเช่นนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ บริษัทฯจะทำการมอบสิทธิ์ให้ผู้โชคดีในลำดับถัดไป ทั้งนี้ผลการจับรางวัลและคำตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด
ทิพยประกันภัยขอแสดงความยินดีกับผู้โชคดี ทั้ง 72 ท่าน และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจร่วมกิจกรรมของเรา รอติดตามความสนุกครั้งใหม่ได้ในครั้งต่อไป
ท่ามกลางการแข่งขันของร้านค้าออนไลน์ที่ดุเดือด การชูจุดเด่นผ่านการขายสินค้าที่ดีมีคุณภาพอาจยังไม่เพียงพอที่จะสร้างยอดขายให้ร้านค้าโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากผู้ขายที่ต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงแล้ว การนำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ง่ายและสะดวก เพื่อตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ก็ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับร้านค้าเป็นร้านโปรดในดวงใจของลูกค้าได้ กับ 7 เครื่องมือ ปั้นร้านธรรมดาสู่นักขายมือโปรฯ บน LINE SHOPPING
1) LINE SHOPPING LIVE
ตัวช่วยดันยอดขายด้วยการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า พูดคุยและตอบคำถามลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ และสะดวกสบายด้วย LINE Ecosystem ที่เชื่อมต่อระบบการขายแบบครบวงจร ตั้งแต่การยิง Broadcast บน LINE OA ให้เข้าถึงผู้ติดตามทุกคนได้โดยไม่ปิดกั้นการมองเห็น ช่วยแจ้งเตือนให้ลูกค้าไม่พลาดทุกการไลฟ์ จนถึงระหว่างการไลฟ์ และออเดอร์จะเข้าระบบทันทีเมื่อลูกค้ากดเช็คเอาท์สินค้าในตะกร้า
นอกจากนี้ยังได้พื้นที่โปรโมตร้านฟรีบน LIVE Hall บริเวณหน้าแรกของ LINE SHOPPING เพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้อีกด้วย
2) เครื่องมือออกออเดอร์ผ่านแชท (Chat Invoice)
ฟีเจอร์สำหรับผู้ขายที่ต้องการปิดการขายผ่านแชท จบการขายได้ภายในหน้าแชทเดียวไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เลือกสินค้าและจำนวนสินค้าที่ลูกค้าตัดสินใจสั่งซื้อ ก็สามารถออกใบออเดอร์ผ่านแชทได้ทันที และยังสามารถเลือกระบบขนส่งที่ลูกค้าพึงพอใจ รวมถึงการมอบส่วนลดให้กับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเลือกชำระเงินด้วย LINE POINTS และใช้คูปองส่วนลดได้เช่นกัน
3) ป้ายกำกับ ”ร้านแนะนำ”
ป้ายกำกับ “ร้านแนะนำ” หรือ “SELECTED” เป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้า โดยใช้รับรองร้านค้าที่ผ่านคุณสมบัติตามข้อกำหนดของ LINE SHOPPING อาทิ มีระบบการชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัย เป็นร้านที่มีตัวตนจริง และ มีการให้บริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด
4) SEND GIFT
มิติใหม่ของการส่งของขวัญ ให้ทุกโอกาสสำคัญของเพื่อนเป็นเรื่องง่ายได้บน LINE โดยลูกค้าสามารถเลือกหาของขวัญที่ถูกใจบน LINE SHOPPING พร้อมเขียนการ์ดอวยพรออนไลน์ให้เพื่อน โดยไม่ต้องรู้ที่อยู่ผู้รับก็ส่งได้ ทำให้ฟีเจอร์ SEND GIFT เป็นอีกหนึ่งอาวุธ ในการสร้างโอกาสขยายฐานลูกค้าให้ร้านค้าเติบโตได้ 2 ต่อ เพราะหากผู้รับของขวัญถูกใจสินค้า อาจเกิดการกลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็นลูกค้าประจำได้ในอนาคต
5) เพิ่มทางเลือกการขนส่งด่วนทันใจกับ LINE MAN Messenger
ล่าสุด LINE SHOPPING เพิ่มอีกทางเลือกระบบขนส่งที่จะช่วยเสริมการให้บริการของร้านค้าได้โดนใจนักช้อปได้ดีกว่าเดิม ด้วยการจับมือกับ LINE MAN Messenger นำเสนอบริการส่งของด่วนทันใจ เพียงกดสั่ง ชำระเงิน แล้วรอรับของส่งตรงจากมือผู้ขายได้เลย
ด้วยทางเลือกการขนส่งด่วนแบบใหม่ด้วย LINE MAN Messenger ที่ระบบจะคำนวณและแสดงราคาค่าส่งสินค้าได้ทันที พร้อมแสดงสถานะการติดตามการจัดส่งให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อรับทราบ ให้สินค้าไปถึงมือผู้รับได้ทันใจ
6) อัปเกรดระบบการชำระเงินใหม่ ร้านค้าใช้ง่าย ลูกค้าจ่ายสะดวก
ให้ลูกค้าจ่ายง่ายไม่ต้องแนบสลิป ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายผ่าน QR Payment หรือ Mobile Banking ที่รองรับทั้ง K PLUS และ SCB EASY, ช้อปก่อน จ่ายทีหลังด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต หรือ Rabbit LINE Pay แค่มีเงินใน Wallet ก็จ่ายได้เลย และสามารถสะสม LINE POINTS มาใช้เป็นส่วนลดได้ (1 พอยท์ = 1 บาท)
7) Dashboard เจาะลึกทุกอินไซต์ ปรับแผนรู้ใจลูกค้า
ตัวช่วยสู่การเป็นสุดยอดร้านค้าที่รู้ใจลูกค้ามากที่สุด ด้วย Dashboard เครื่องมือเจาะลึกอินไซต์ที่ช่วยให้ผู้ขายรู้จักกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นผ่านการเข้าถึงข้อมูลในหลากหลายมิติ อาทิ ความชอบและพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า ช่องทางการชำระเงิน และการเลือกใช้บริการขนส่ง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปยกระดับและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายให้มีประสิทธิภาพตรงใจลูกค้ามากขึ้น นำไปสู่โอกาสในการเติบโต
ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของอาวุธหรือเครื่องมือร้านค้าที่ LINE SHOPPING เตรียมไว้ให้นักขายได้ติดเครื่องก่อนทะยานยอดขายสู่ความสำเร็จ โดย LINE SHOPPING ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องมือให้ตอบโจทย์การขาย ใช้งานง่าย แค่สมัคร LINE Official Account ก็เริ่มเปิดร้านได้เลย ดูทริคการใช้งานเครื่องมือร้านค้ากับ LINE SHOPPING เพิ่มเติมทาง www.lineshoppingseller.com

สำหรับผู้ขาย และผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ที่สนใจสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน กับงาน LINE SHOPPING CONNECT ครบทุกเรื่องกับการขายของบน LINE ในหัวข้อ “เรียนรู้วิธีชนะใจลูกค้าด้วย Humanization” ในวันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 เวลา 10:30 น. - 12:00 น. กับออนไลน์อีเวนต์โดย LINE SHOPPING ที่คัดสรรหัวข้อที่น่าสนใจ จากตัวจริงผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ 1) ครบทุกเรื่องขายออนไลน์ กับ LINE COMMERCE : ทำความรู้จักเครื่องมือจาก LINE ที่ช่วยธุรกิจได้ครบทุกขั้นตอนการขาย 2) Chat & Shop สำหรับโลกการขายยุคใหม่ : ฟีเจอร์เด็ดมัดใจลูกค้าเพื่อปิดการขายและสร้างลูกค้าประจำ 3) ธุรกิจโตไม่สิ้นสุด ด้วย Humanized Engagement : พบอาวุธเด็ดจาก LINE SHOPPING สร้างความใกล้ชิดและประสบการณ์ที่ดีให้กับร้าน 4) แผนพัฒนาเครื่องมือการขายให้ง่ายและเก่งขึ้น ด้วย LINE SHOPPING : อัปเดตเครื่องมือใหม่ในปี 2024 ที่ช่วยยกระดับธุรกิจให้โตได้อีก เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://lin.ee/bs1teuf/wcvn และติดตามรับชมไลฟ์ได้ทาง LINE Official Account: @linemyshop หรือ Facebook: LINE SHOPPING Seller ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://lineshoppingseller.com
มหาวิทยาลัยทักษิณ (TSU) มีการจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลายและยืดหยุ่น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนตามความต้องการ และเพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยในปีการศึกษา 2567 นี้ มหาวิทยาลัยทักษิณ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนหลักสูตร 2 ปริญญา (Dual/Double Degree Program) ภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อเสริมสร้างทักษะและสมรรถนะของผู้เรียนให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน และตอบโจทย์สังคมโลกที่เปลี่ยนแปลง
รองศาสตราจารย์ ดร.สุทธิพร บุญมาก รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยทักษิณ (TSU) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดหลักสูตร 2 ปริญญา Double Degree ว่า หลักสูตร 2 ปริญญา (Dual/Double Degree Program) คือ หลักสูตรในสาขาวิชาต่างกันภายในมหาวิทยาลัยทักษิณที่เปิดให้ผู้เรียนศึกษาพร้อมกันสองหลักสูตร โดยผู้เรียนจะได้รับประโยชน์จากการเรียนหลักสูตร 2 ปริญญา คือ 1. เพิ่มทักษะและสมรรถนะในการทำงานที่แตกต่างกันจากการศึกษาสองสาขาวิชาที่แตกต่างกัน 2. เพิ่มโอกาสในการทำงานที่หลากหลายจากการจบปริญญา 2 ใบ 3. ประหยัดค่าใช้จ่าย เรียนที่เดียวได้ปริญญา 2 ปริญญา ซึ่งประหยัดกว่าการเรียนแบบปกติ และ 4. ประหยัดเวลาในการเรียน เรียนจบได้ปริญญา 2 ปริญญา ไม่ต้องเรียนทีละใบปริญญา สำหรับโครงการหลักสูตร 2 ปริญญา ของมหาวิทยาลัยทักษิณ ประกอบด้วย 3 ประเภท ได้แก่

ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2567 นี้ มหาวิทยาลัยทักษิณ เปิดรับสมัครนิสิตใหม่เพื่อเข้าศึกษาต่อในโครงการหลักสูตร 2 ปริญญา จำนวน 5 หลักสูตร ได้แก่

ในยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว มหาวิทยาลัยทักษิณจึงมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ยืดหยุ่นและเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผู้เรียนมากขึ้น โดยพยายามพัฒนาหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและตอบสนองความต้องการของผู้เรียนที่แตกต่างและหลากหลาย โดยผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทักษิณเพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถของตนเองให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานโดยมุ่งยกระดับทักษะและความสามารถของตนเองที่แตกต่างและมากกว่าบัณฑิตอื่น ๆ โดยทั่วไป ทั้งนี้ผู้สนใจที่จะสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร 2 ปริญญา สอบถามข้อมูลและดูรายละเอียดได้ที่ ภารกิจรับนิสิต มหาวิทยาลัยทักษิณ โทรศัพท์ 074-317608, 074-317600 ต่อ 7107, 7110, 7112 อีเมล์ : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ facebook : ภารกิจการรับนิสิต มหาวิทยาลัยทักษิณ
กรุงเทพประกันชีวิต จัดงานยิ่งใหญ่แห่งปี Bangkok Life Agency Kick Off 2024 ภายใต้แนวคิด “Together Nothing is Impossible” งานรวมพลังตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินเพื่อพิชิตเป้าหมายความสำเร็จ และจุดประกายความคิดการมีส่วนร่วมในการดูแลคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งการสร้างความมั่นคงทางการเงินและการดูแลสุขภาพ โดยมีตัวแทน ผู้บริหารตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินจากทั่วประเทศร่วมงานกว่า 2,000 คน ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการจัดงาน Bangkok Life Agency Kick Off 2024 ในปีนี้ว่า เพื่อจุดประกายความคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินทุกคนได้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2567 ภายใต้แนวคิด “Together Nothing is Impossible” หรือคติการทำงาน “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากพวกเรามีความพยายามและมีแรงบันดาลใจที่มากพอ” เพื่อให้สามารถรับมือกับการแข่งขัน นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจ ด้วยความใส่ใจลูกค้า สอดรับกับแนวโน้มของธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้ที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน
นายโชนกล่าวว่า ปัจจุบัน ประชาชนตระหนักเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่นับวันจะเป็นภาระมากขึ้น หากไม่ได้มีการบริหารจัดการที่ดีไว้ล่วงหน้าอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็น “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างเต็มรูปแบบแล้ว และยังมีข้อมูลสำคัญที่คนไทยอีกกว่า 60% ยังไม่มีความคุ้มครองหรือหลักประกันความมั่นคงในชีวิต และไม่มีหลักประกันสุขภาพที่ดี จึงถือเป็นหน้าที่ของธุรกิจประกันชีวิตที่ต้องมีส่วนร่วมในการวางแผนบริหารจัดการทางการเงินของสังคมที่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับสังคมไทย

“นับแต่นี้ คนในสังคมไทยต้องร่วมกันรับภาระในการดูแลและรักษาพยาบาลประชาชนกลุ่มผู้สูงวัยที่นับวันจะมีจำนวนสูงขึ้นตามกาลเวลาไปอีกหลายสิบปี ด้วยเหตุนี้ระบบประกันชีวิต ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยแนะนำการวางแผนสุขภาพ และการวางแผนเกษียณ ด้วยแบบประกันที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด ซึ่งกรุงเทพประกันชีวิต ได้สร้างความตระหนักแก่ตัวแทนประกันชีวิต และที่ปรึกษาทางการเงินมาอย่างต่อเนื่อง ให้ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องปฏิบัติด้วยความใส่ใจ และกระตือรือร้น เพื่อผลประโยชน์ต่อส่วนรวม และเกียรติภูมิที่ตัวแทนประกันชีวิตทุกท่านจะได้รับ” นายโชนกล่าวพร้อมเพิ่มเติมว่า
กรุงเทพประกันชีวิต มีนโยบายในการสร้างตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินมาอย่างต่อเนื่อง และในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการมีตัวแทนประกันชีวิตใหม่เพิ่มกว่า 2,000 คน คิดเป็นอัตราขยายตัวจากปีก่อนถึง 27% โดยมีคนรุ่นใหม่ก้าวเข้าสู่อาชีพตัวแทนประกันชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สังคมไทยเริ่มมีความเข้าใจและเห็นความสำคัญของอาชีพตัวแทนมากขึ้นว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีอิสรภาพ และความมั่นคงในระยะยาว โดยกรุงเทพประกันชีวิตพร้อมที่จะสนับสนุนตัวแทนและที่ปรึกษาการเงินทุกคนให้ก้าวสู่ความสำเร็จ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและสุขภาพไปพร้อมกัน พร้อมทั้งลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือการขายที่ทันสมัย ช่วยให้การบริหารจัดการลูกค้ามีประสิทธิภาพ ง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระดับตัวแทนหรือผู้บริหารตัวแทน

“เรามีเป้าหมายอยากเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเมื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ธุรกิจประกันชีวิตจำเป็นต้องปรับตัวให้ทัน เพื่อให้มีบทบาทสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศ เราจึงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนและที่ปรึกษาการเงินให้มีความรู้ มีความใส่ใจในการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ด้วยแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองอย่างเพียงพอต่อการเกษียณอายุ รวมทั้งประกันสุขภาพที่สอดคล้องกับรายได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดี” นายโชนกล่าวในที่สุด
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) นำโดย นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ (ขวา) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน และนายพิธา ตัณฑ์ไพโรจน์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกรรมการเงิน รับรางวัลชนะเลิศ Winner - Outstanding Cross Border Payment Solution for Corporates จากงาน Global Transaction Banking Innovation Awards 2023 จัดโดย The Digital Banker สำหรับความสำเร็จในการพัฒนาบริการชำระเงินข้ามประเทศ ไทย-ญี่ปุ่นผ่านการสแกนคิวอาร์ด้วยโมบายแอปพลิเคชัน KMA krungsri app (QR Cross-border Outbound-Japan) ทำให้ทั้งร้านค้าและลูกค้านักท่องเที่ยวที่เดินทางไปญี่ปุ่นสามารถชำระค่าสินค้าและบริการในต่างประเทศได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางการเงินที่มุ่งพัฒนาเพื่อทำให้ชีวิตของลูกค้ากรุงศรีง่ายขึ้นได้ในทุกๆ วัน สอดคล้องกับคำมั่นสัญญา “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน”