

เอสซีจี ร่วมแสดงความยินดีกับ โปรโม-โมรียา และ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล รับรางวัลการทูตสาธารณะ โดยกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับมูลนิธิไทย มอบให้ผู้ทำงานสาธารณประโยชน์ สร้างชื่อเสียงให้ไทยในต่างประเทศ และประสบความสำเร็จในกีฬากอล์ฟระดับโลก เป็นบุคคลต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ รุ่นถัดไป

นายปรเมศวร์ นิสากรเสน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ดิสทริบิวชั่นแอนรีเทล ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี ขอแสดงความยินดีกับสองพี่น้อง โปรโม-โมรียา และ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล ที่รับรางวัลการทูตสาธารณะ ทั้งคู่เป็นแบบอย่างที่ดีของนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จทั้งในระดับประเทศและระดับโลก อาทิ โปรเม อดีตนักกอล์ฟหญิงมือ 1 ของโลก และคว้าแชมป์รายการใน LPGA มาแล้วรวม 12 รายการ เช่น U.S.Woman’s Open ปี 2018 และRolex Player of the Year ส่วนโปรโม ได้รับรางวัล Rookie of the Year และแชมป์รายการ Hugel-JTBC LA Open ปี 2018 ซึ่งสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้คนไทย ทั้งยังเป็นต้นแบบของนักกีฬาที่ได้ร่วมส่งเสริมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมที่ดี และยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เดินตามความฝัน สร้างความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
รางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2566 (Public Diplomacy Award 2023) จัดโดยกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับมูลนิธิไทย เพื่อมอบรางวัลให้บุคคล หรือองค์กรที่ทำงานสาธารณประโยชน์ หรือสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในต่างประเทศ เช่น ด้านมนุษยธรรม สาธารณสุข วัฒนธรรม นวัตกรรม กีฬา ฯลฯ
บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด นำโดย นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business, SCG (ที่ 4 จากขวา) ร่วมกับ Mr.Christian Weeks, Chief Executive Officer of enVerid Systems, Inc. (ที่ 3 จากขวา) พันธมิตรผู้ให้บริการโซลูชันดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคารอย่างยั่งยืน ผนึกกำลังร่วมกันนำเสนอเทคโนโลยี SCG Air Scrubber เทคโนโลยีหนึ่งเดียวภายใต้ความร่วมมือระหว่าง SCG และ enVerid จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับเกียรติให้จัดแสดงในงาน COP28 (Conference of the Parties) หรือ การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีเป้าหมายในการสร้างแนวทางข้อตกลงระดับโลก เพื่อร่วมกู้วิกฤติการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยมีผู้นำกว่า 200 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 28 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 2566 ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยงานนี้ นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี (ที่ 3 จากซ้าย) ได้เข้าเยี่ยมชมงานแสดงเทคโนโลยี SCG Air Scrubber พร้อมให้กำลังใจแก่ทีมงานตัวแทนจากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี อีกด้วย
นายวชิระชัย คูนำวัฒนา กล่าวว่า “การได้รับเกียรติให้เข้าร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรบริษัท enVerid ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ดีอย่างยิ่งในการได้นำเสนอเทคโนโลยีหนึ่งเดียวที่มีประสิทธิภาพทั้งการช่วยลดปัญหา Global Boiling เนื่องจากคุณสมบัติหลักของ SCG Air Scrubber คือสามารถช่วยลดการใช้พลังงานจากระบบปรับอากาศในอาคารลงได้สูงสุดถึง 30% และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างน้อย 8 Kg CO2/sq.m/year นอกจากนี้ระบบ SCG Air Scrubber ยังสามารถดูดซับก๊าซพิษและบำบัดอากาศเสียในอาคารได้ ถือเป็นการดูแลคุณภาพอากาศที่ปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัย ไปพร้อมกับการทำให้อาคารใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังเป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถทำได้ในปัจจุบัน
ซึ่งในอนาคต SCG และ enVerid มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนตามแนวทางของสากล ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีที่สุด” นายวชิระชัย กล่าวทิ้งท้าย

โดยระบบ SCG Air Scrubber คือเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบปรับอากาศและระบายอากาศ (HVAC System) โดยการบำบัดมลพิษอากาศภายในอาคาร ช่วยป้องกันไม่ให้ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ (HVAC System) ชำรุด เสียหาย และลดภาระการทำความเย็นที่ต้องดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาเกินความจำเป็น ตลอดจนสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในอาคารให้มีค่าไม่เกิน 750 ppm โดยอ้างอิงจากปริมาณที่อนุญาตตามมาตรฐานคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQP ASHRAE Standard 62.1) ทั้งนี้ ระบบ SCG Air Scrubber ยังสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้อย่างน้อย 8 Kg CO2/sq.m/year ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมา SCG Air Scrubber ถูกรับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 นวัตกรรมที่มีความโดดเด่นในสาขา Smart Heat & Air จาก The Clean Fight 2020 นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรที่รับการสนับสนุนจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนา พลังงานแห่งรัฐนิวยอร์ก New York State Energy Research & Development (NYSERDA) มาแล้วอีกด้วย
คุณชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) (คนที่ 2 จากซ้าย) เป็นประธานในพิธี อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2566 ถวายแด่พระสงฆ์ พร้อมด้วย นางภควิภา เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายลูกค้า บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต (คนซ้ายสุด) คณะผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ของสำนักงาน คปภ. ตลอดจนผู้บริหารจากภาคอุตสาหกรรมประกันภัย และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมพิธีดังกล่าว ณ วัดทองธรรมชาติ วรวิหาร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร โดยบริษัทฯ ได้ถวายจตุปัจจัยเพื่อสมทบองค์ผ้าพระกฐิน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 200,000 บาท เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม ทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทยให้มีความเจริญมั่นคงสืบไป ตามนโยบายหลักขอบริษัทฯ ที่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป
‘ดุสิตธานี’ ชวนส่งมอบความสุขกับกระเช้าของขวัญ ที่คัดสรรผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจาก ‘เลอ กอร์ดอง เบลอ’ได้แก่ เค้กผลไม้, ช็อกโกแลต สเปรด และ ซอล์ต คาราเมล สเปรด รวมถึงอาหารทั้งคาวและหวานจาก ‘ดุสิตกูร์เมต์’ ตั้งแต่ชาหอมกรุ่น พายบัตเตอร์ฟลายโฮมเมด ข้าวหอมมะลิออแกนิค ไปจนถึงเครื่องแกงและอีกหลายรายการ ในราคาเริ่มต้นเพียงกระเช้าละ 1,290 บาท พร้อมกันนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกผลิตภัณฑ์จัดกระเช้าแบบที่ต้องการเพื่อส่งมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ที่บ่งบอกความใส่ใจของผู้ให้ได้ดีที่สุดอีกด้วย
รายการอาหารสำหรับจัดกระเช้า อาทิ คุ้กกี้แสนอร่อย (150 บาท) ขนมเคลือบชอคโกแลต (220 บาท) แยมผลไม้ (210 บาท) น้ำผึ้งป่า (180 บาท) พายบัตเตอร์ฟลายโฮมเมด (330 บาท) เค้กผลไม้จาก เลอ กอร์ดอง เบลอ (850 บาท) เครื่องแกงรสต่างๆ (120 บาท) ข้าวหอมมะลิออแกนิค (159 บาท) รวมไปถึงใบชาออแกนิค (330 บาท)
เลือกกระเช้าของขวัญจาก “ดุสิตกูร์เมต์” และดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
สามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 มกราคม 2567 ที่
ร้านดุสิต กูร์เมต์ ณ โรงแรมดุสิต สวีท ราชดำริ กรุงเทพฯ (โทร 02 264 6464)
บ้านดุสิตธานี กรุงเทพฯ (โทร 02 200 9009)
โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ (โทร 02 721 8400)
โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน (โทร 03 252 0009)
สำหรับสมาชิกดุสิตโกลด์ (Dusit Gold) และลูกค้าองค์กรที่สั่งซื้อจำนวนมาก รับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติม โดยสั่งได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (Tel: 02 200 9999)
เราต่างใช้ LINE เพื่อสื่อสารและทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน จนคุ้นชินกับปุ่มเดิม ๆ โดยที่อาจไม่รู้ว่ามีการอัปเดตใหม่ ๆ จากแอปฯและบริการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การสื่อสารและชีวิตประจำวันรอบด้านของเรานั้นสะดวกสบายและสนุกกว่ามากยิ่งขึ้น แม้บางเรื่องดูเป็นเหมือนจุดเล็ก ๆ แต่รับรองว่าจะทำให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นแน่นอน
เปิด 4 สิ่งอัปเดตใหม่บนแอป LINE มีอะไรบ้าง มาดูกัน…
1. LINE Chat: เพิ่มไอคอนเตือน “พิมพ์ค้าง” - ทางลัดเข้าอัลบั้มภาพ

2. LINE STICKERS: เพิ่มบริการสติกเกอร์แบบจ่ายรายเดือน ใช้ได้ไม่อั้น

3. LINE ดูดวง: ไม่ใช่แค่มู แต่ทำบุญบริจาคได้เหมือนกัน

4. LINE SHOPPING: เปิดช่องทางให้ผู้ใช้ LINE เลือกซื้อประกันพร้อมเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่า
นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย (ผจก.กปว.) เผยถึงการดำเนินงานของกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) ในปี 2566 ว่าสามารถพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้แทนบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ที่ กปว. กำลังดำเนินการอยู่ จำนวน 8 บริษัท ซึ่งดำเนินการพิจารณาฯ ณ สิ้นปี 2566 ไปแล้วกว่า 128,092 คำทวงหนี้ คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 7.49 พันล้านบาท และในปี 2567 ยังคงเหลือคำทวงหนี้ที่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา จำนวน 599,767 คำทวงหนี้ คิดเป็นเงินประมาณ 5.1 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2567 กปว. จะเร่งรัดการตรวจพิสูจน์คำขอรับชำระหนี้ให้ได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 10,000 กรมธรรม์ ส่วนการอนุมัติจ่ายเจ้าหนี้จะดำเนินการจ่ายตามรายได้จากเงินสมทบตามมาตรา 80/3
ซึ่งได้ปรับอัตราการนำส่งจากร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 0.50 เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี

การพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2566 ที่ผ่านมา กปว. ได้มีการเปิดตัวการใช้ LINE Official Account (LINE OA) “@gifsmart” เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อให้กับเจ้าหนี้หรือประชาชนให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการติดต่อสื่อสารกับทาง กปว. และสามารถเช็คสถานะคำทวงหนี้ พร้อมทั้งสามารถยืนยันสิทธิผ่าน @gifsmart ได้เลย โดยผลประกอบการหลังจากเปิดตัวการใช้ LINE OA “@gifsmart” แล้วนั้นมีผลตอบรับที่ดีเนื่องจากสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหนี้และประชาชนได้จริง ซึ่งมีจำนวนการเข้าใช้งานเพื่อตรวจสอบสถานะคำทวงหนี้จนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนมาก

ในส่วนของการส่งเสริมพัฒนาการประชาสัมพันธ์พัฒนาธุรกิจประกันภัยให้มีความมั่นคง โดยมีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในการลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานภายนอกและภาคีเครือข่าย จำนวนไม่น้อยกว่า 50 ครั้ง เช่น การจัดโครงการบรรยายความรู้เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ ภารกิจ และสถานการณ์ในปัจจุบันของ กปว. ให้แก่ ประชาชน ตัวแทนนายหน้าประกันภัย และผู้เอาประกันภัยหรือเจ้าหนี้ที่เกิดจากกรณีบริษัทประกันวินาศภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ. ในส่วนภูมิภาค เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางและเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์แทน กปว. ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
นอกจากนี้ ผจก.กปว. ยังกล่าวถึงแนวโน้มการดำเนินงานของ กปว. ในปี 2567 เพิ่มเติมอีกว่าจะมีการขออนุมัติต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพื่อยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ บมจ.สัจจะประกันภัย ตกเป็นบุคคลล้มละลายและคาดการณ์ว่าจะดำเนินการนำ บมจ.เจ้าพระยาประกันภัย เข้าสู่กระบวนการล้มละลายเช่นเดียวกัน และในส่วนของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของ กปว. จะมีการเพิ่มช่องทางการสื่อสารโดยการนำระบบคุ้มครองสิทธิเชื่อมโยงกับระบบพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชน (Citizen Portal) ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์กรมหาชน) (สพร.) และพร้อมเพิ่มความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าใช้งานระบบคุ้มครองสิทธิ ด้วยการใช้ระบบ ThaiD ของกรมการปกครอง ตลอดถึงการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทั่วประเทศในเชิงรุกอีกด้วย
ส่งมอบบ้านให้คนพิการ เติมเต็มคุณภาพชีวิต สร้างสังคม “อยู่ดี มีสุข”
บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เบเยอร์ จำกัด ผู้นำสีนวัตกรรมรักษ์โลก รักคุณ พลิกโฉม “ปัญญาคาเฟ่” ร้านกาแฟบนถนนเพชรบุรี ซอย 12 ที่ดำเนินงานโดยผู้พิการทางปัญญา ให้กลายเป็นร้านกาแฟสุดฮิปใจกลางเมือง เปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านี้ได้แสดงความสามารถและพรสวรรค์ของตนเอง พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไป
“ปัญญาคาเฟ่” ดำเนินการโดยมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นมากกว่าร้านกาแฟทั่วไป แต่เป็นสถานที่สำหรับบุคคลที่มีความพิการทางปัญญาในการฝึกฝนทักษะวิชาชีพและการปรับตัวเข้ากับสังคม มีบาริสต้าและพนักงานเสิร์ฟที่มีความพิการทางปัญญาจะคอยให้บริการลูกค้าด้วยความอบอุ่นและทุ่มเท แต่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างที่ควร แม้ว่าร้านกาแฟแห่งนี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองและห่างจากสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี เพียง 200 เมตรเท่านั้น
โมเดอร์นฟอร์มและเบเยอร์ เห็นถึงศักยภาพของ “ปัญญาคาเฟ่” พร้อมขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นในเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่างของบุคคล (DEI) ได้ร่วมมือกันปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงคาเฟ่แห่งนี้ โดยโมเดอร์นฟอร์มเป็นผู้ออกแบบตกแต่งและดูแลเรื่องเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงป้ายสัญลักษณ์ทั้งหมด เพื่อสร้างบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกให้ดูสะดุดตา น่าสนใจและดึงดูดผู้ที่ผ่านไปมา ส่วนเบเยอร์ดูแลในเรื่องสีทั้งหมดทั้งภายในและภายนอก ซึ่งเลือกใช้สีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมสร้างให้คาเฟ่แห่งนี้ให้โดดเด่นและรักษ์โลกในที่เดียวกัน

สายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมป์ กล่าวว่า “ร้านปัญญาคาเฟ่ เปิดเมื่อปี 2561 เป็นสถานที่ที่ให้โอกาสและความหมายใหม่ในการใช้ชีวิตแก่เด็กที่พิการทางปัญญา โดยการฝึกอาชีพและจ้างงานน้อง ๆ โดยมีมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมป์ เป็นผู้รับผิดชอบสำคัญในการดำเนินการร้านปัญญาคาเฟ่ จึงตั้งใจที่จะทำให้เป็นสถานที่ฝึกอาชีพ สร้างโอกาสให้กับน้อง ๆ ได้ฝึกทักษะและทำงานอย่างมีความสุข รวมถึงช่วยให้น้องมีรายได้จากการทำงาน
“ขอขอบคุณโมเดอร์นฟอร์มและเบเยอร์ที่ให้ความสำคัญกับเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญา และร่วมปรับปรุงร้านปัญญาคาเฟ่ในครั้งนี้ เชื่อว่าการปรับปรุงร้านในครั้งนี้ จะช่วยให้ร้านแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ จะช่วยสร้างโอกาสและแรงบันดาลใจให้กับเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญา” เพราะเราเชื่อว่า “ผู้พิการทางปัญญาพัฒนาได้ ถ้าใส่ใจและให้โอกาส"
กิติพัฒก์ เนื่องจำนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัญญาคาเฟ่ มีความสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของโมเดอร์นฟอร์มที่ให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่างของบุคคล (DEI) รวมถึงได้เห็นถึงศักยภาพของ “ปัญญาคาเฟ่” ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางปัญญาได้มีโอกาสเรียนรู้ และได้แสดงศักยภาพในแบบที่เป็นตัวเอง

พร้อมทั้งต่อยอดแนวความคิด ‘เปลี่ยนทุกสเปซให้ Make Sense’ จึงได้ออกแบบ ตกแต่งพื้นที่ ปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ และเลย์เอ้าท์ให้ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งาน รองรับจำนวนลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับมูลนิธิ พร้อมทั้งยังรักษาบรรยากาศความอบอุ่นและเป็นมิตรของร้านกาแฟ ด้วยการเลือกใช้โทนสีละมุนตา เพื่อให้ดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ให้มาใช้บริการ นอกจากจะได้ความสดชื่น อร่อยของเครื่องดื่มและขนมแล้ว ยังได้มีโอกาสช่วยเหลือน้อง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้เรายังตั้งใจให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่จุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิต ตามแบรนด์ไอเดียที่ว่า ‘ทุกแรงบันดาลใจ เป็นจริงได้ในแบบคุณ’
“โมเดอร์นฟอร์มรู้สึกดีใจที่ได้ร่วมมือกับเบเยอร์ และปัญญาคาเฟ่ พลิกโฉมคาเฟ่แห่งนี้ให้กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ใจกลางเมือง” กิติพัฒก์กล่าวเสริม "เราเชื่อว่าทุกคนสมควรได้รับโอกาสและเราดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือน้อง ๆ ที่ปัญญาคาเฟ่ ให้เข้าถึงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่"
ดร. วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ กล่าว “เบเยอร์ ผู้นำด้านโซลูชันการทาสีที่เป็นนวัตกรรม มุ่งมั่นสร้างความสุขในสังคม ด้วยโครงการ "Beger Be Happy สีเบเยอร์สีแห่งความสุข" ซึ่งเป็นโครงการซีเอสอาร์แบบยั่งยืน ที่มุ่งสนับสนุนและสร้างสรรค์จุดเริ่มต้นในการร่วมมือกันแสดงพลังแห่งความดีช่วยเหลือสิ่งที่เป็นประโยชน์ ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์สีชนิดต่าง ๆ ให้แก่สถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ

การปรับปรุงพื้นที่ “ปัญญาคาเฟ่” เป็นการสานต่อปณิธานและแนวคิด Eco-Wellness Innovation สีนวัตกรรม รักษ์โลก รักคุณ ร่วมขับเคลื่อนสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ด้วยการใช้สีเบเยอร์คูล ไดมอนด์ชิลด์ 15 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากลดโลกร้อน รายแรกและรายเดียวในในธุรกิจสีในประเทศไทย เป็นนวัตกรรมสีบ้านเย็น โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเซรามิก คูลลิ่ง หนึ่งเดียวในไทย ที่มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนความร้อน ลดอุณหภูมิห้อง ลดใช้พลังงานไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังมีเทคโนโลยีพันธะเพชร ช่วยเพิ่มพลังการยึดเกาะ ทำให้บ้านสีสวยสด ทนต่อทุกสภาวะ โดยมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อมที่ดี และยืนหยัดร่วมแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อนไปด้วยกันพร้อมกับคนไทยทุกคน
"เราเชื่อว่าสภาพแวดล้อมที่สวยงามและน่าสนใจสามารถสร้างความสะดุดตาให้กับผู้ที่ผ่านไปมาได้ และมั่นใจว่าปัญญาคาเฟ่แห่งใหม่จะเป็นสถานที่ที่น้อง ๆ ที่พิการทางปัญญาจะทำงานได้อย่างมีความสุข"

ความร่วมมือระหว่างโมเดอร์นฟอร์มและเบเยอร์ในการเปลี่ยนโฉม “ปัญญาคาเฟ่” เป็นความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและสนับสนุนบุคคลที่มีความพิการทางปัญญา และตั้งใจว่าร้านกาแฟที่ปรับปรุงใหม่จะกลายเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ สนับสนุนให้สังคมยอมรับความหลากหลายและตระหนักถึงศักยภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล
เชิญมาจิบกาแฟและรับประทานของว่างที่บริการโดยน้องผู้พิการทางปัญญา ที่ “ปัญญาคาเฟ่” โฉมใหม่ ปากซอยเพชรบุรี ซอย 12 ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น. น. ลงรถไฟฟ้า สถานีราชเทวี เดินประมาณ 200 เมตร