December 22, 2025

ชวนทำความสะอาดผิวแบบมืออาชีพ พร้อมบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์

เตรียมร่วมเวิร์คชอปอัพสกิลกับผู้เชี่ยวชาญ พร้อมโอกาสร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสังคม “อยู่ดี มีสุข” 

บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย จัดเทศกาลสินค้านำเข้าจากประเทศอังกฤษ "British Fair” ยกขบวนสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และวัตถุดิบชั้นเลิศกว่า 200 รายการ มาให้เลือกสรร พร้อมจัดโปรโมชันลดสูงสุด 30% ตั้งแต่วันนี้ - 19 ธันวาคม 66 ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 10 สาขา

นายอัศวิน - นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารและคู่ค้าให้การต้อนรับ นายมาร์ก การ์นิเย่ (Mr. Mark Garnier) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้แทนการค้าของอังกฤษ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน British Fair” เทศกาลสินค้านำเข้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งบิ๊กซีร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย จัดขึ้น ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาพระราม 4

ภายในงาน “British Fair” ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบชั้นเลิศหลากหลายส่งตรงจากสหราชอาณาจักรกว่า 200 รายการมาให้ลูกค้าได้เลือกสรร พร้อมจัดโปรโมชันลดสูงสุด 30% อาทิ Twining, Cadbury, Hellmann's, Baxter, Batcherlor และ Fisherman's Friend เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าบิ๊กซีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เลือกชอปสินค้าในบรรยากาศที่ตกแต่งสไตล์อังกฤษ

ไฮไลต์ของงานในปีนี้ ผู้บริโภคจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ Morison ที่จัดจำหน่ายเฉพาะบิ๊กซีเท่านั้น! ดื่มด่ำรสชาติชายามบ่ายสไตล์ผู้ดีอังกฤษจากแบรนด์ TwiningและPgtips พร้อมลิ้มรสความอร่อยกับบิสกิตและแครกเกอร์แบรนด์McvitiesและWalker นอกจากนี้ มีกิจกรรมแข่งกินเร็วในเมนู Fish & Chips ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5,000 บาท 

ขอเชิญชวนลูกค้าสัมผัสและเลือกซื้อสินค้า ในงาน British Fair” ได้แล้ววันนี้ – 19 ธันวาคม 66 ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 10 สาขา ได้แก่ สาขาพระราม 4, อ่อนนุช, สะพานควาย, รัชดา, พัทยา 2, พัทยา 3, สมุย, ภูเก็ต 1, ภูเก็ต 2 และเชียงใหม่ 2 พิเศษ! สมาชิกบิ๊กพ้อยต์ “สุขไปกันใหญ่ บิ๊กพอยต์ แต้มความสุข แลกง่ายได้ทุกวัน” ยิ่งสะสมมากยิ่งได้มาก ทุกการใช้จ่าย 25 บาท = 1 คะแนน ใช้คะแนนแลกรับส่วนลดทันทีเช็กโปรโมชันดีๆ ทุกวันเพิ่มเติมได้ที่ www.bigc.co.th หรือเฟซบุ๊ก Big C https://www.facebook.com/BigCBigService บิ๊กซี คอล แชท ช้อป ไลน์หรือโทร.มาช้อป จัดส่งภายในวัน คลิกแอดไลน์สาขาใกล้บ้าน https://corporate.bigc.co.th/callchatshop 

นางนพวรรณ คล้ายโอภาส กรรมการความยั่งยืนขององค์กร และผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นนำของไทย กล่าวว่า SPC ได้นำบุคลากร ตั้งแต่กรรมการ ผู้บริหาร ตลอดจนพนักงานในองค์กร เข้าร่วมอบรมหลักสูตร Understanding Corporate Sustainability” โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บุคลากรทุกภาคส่วนมีความตระหนักเกี่ยวกับความสำคัญของการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจ สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความยั่งยืนของธุรกิจ การบริหารจัดการความยั่งยืนของธุรกิจ พร้อมบูรณาการแนวคิดเกี่ยวกับความยั่งยืนเข้าไปในการบริหารธุรกิจ เพื่อนำพาองค์กรเติบโตตามแนวทางของธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไป

การอบรมมีหลากหลายหัวข้อที่น่าสนใจ เนื้อหามุ่งสร้างองค์ความรู้เป็นการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มที่มีผลกระทบต่อความอยู่รอดและเติบโตของธุรกิจ เทรนด์ขององค์กรธุรกิจที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ “ความยั่งยืน” ความหมายของความยั่งยืนของธุรกิจ (Corporate Sustainability) ความแตกต่างระหว่างความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ (CSR) การบูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืนเป็นการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management) การขับเคลื่อนองค์กรด้วยเป้าหมายเชิงคุณค่า (High-Purpose Driven Organization) การนำ “แนวคิดด้านความยั่งยืน” เข้าไปบริหารจัดการในองค์กร ต้นแบบ “การเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืน” (Sustainability Transformation Model) ต้นแบบ “การบริหารจัดการความยั่งยืนของธุรกิจ” (Corporate Sustainability Management Model) การสร้างวัฒนธรรมด้านความยั่งยืนในองค์กร (Sustainability Culture)

หลักสูตร “Understanding Corporate Sustainability” เติมองค์ความรู้โดย อาจารย์อนันตชัย ยูรประถม วิทยากรผู้เชี่ยวชาญผู้ออกแบบและบรรยายหลักสูตรด้านการบริหารจัดการความยั่งยืนของธุรกิจ (ชุดหลักสูตรกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน) ให้แก่บริษัทจดทะเบียน (Listed Company) ในนามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ปี 2555-ปัจจุบัน) และยังเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการความยั่งยืนของธุรกิจ (Corporate Sustainability Management) แก่บริษัทจดทะเบียน บริษัทเอกชนชั้นนำ และรัฐวิสาหกิจ

อีกความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ SPC ภายใต้หลักธรรมาภิบาล วิสัยทัศน์ และการบริหารแบบยั่งยืน มุ่งสร้างองค์กรให้เติบโตตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน  

หลังจากที่ บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้จัด โครงการประกวดหนังสั้น TIPlife Short Flim Contest 2023 ภายใต้แนวคิด TIPlife LIFE PARTNER LIFE BETTER  เพื่อให้นักศึกษา คนรุ่นใหม่ มีเวทีได้คิดและทำในสิ่งสร้างสรรค์ มีประโยชน์เพื่อสังคมผ่านการประกวดหนังสั้น ภายใต้หัวข้อ “มุมมองประกันชีวิตกับคนรุ่นใหม่” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 150,000 บาท แล้วนั้น  บัดนี้ TIPlife ได้ประกาศผลรางวัลประกวดหนังสั้นที่ผ่านเข้ารอบ 10 ทีม โดยมี  คุณนพพร บุญลาโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นประธาน ประกาศผลรางวัลการประกวดหนังสั้น TIPlife Short Film Contest 2023 : หัวข้อ “มุมมองประกันชีวิตกับคนรุ่นใหม่” พร้อมด้วยคณะกรรมการตัดสินผลงานหนังสั้น นำโดย คุณวีรยุทธ ล้อทองพานิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิ้งค์วิ้งค์ โปรดักชั่น จำกัด และ หวานหวาน-อรุณนภา พาณิชจรูญ นักแสดง และ Content Creator เพจ SweetVarnvarn Fanpage เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงภาพยนตร์ Zigma Cinestadium presented by C2  SFX Cinema Central Rama9 

คุณนพพร บุญลาโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการตัดสินผลงานหนังสั้นฯ ว่า “TIPlife มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ดังเช่นการจัดโครงการประกวดหนังสั้นจนมาถึงการได้ทีมนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ที่เข้ารอบ 10 ทีม ซึ่ง TIPlife จะเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่ดีของคนรุ่นใหม่ในการเลือกรูปแบบการทำประกันชีวิตได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา เพราะเราเชื่อว่า อนาคตคุณกำหนดได้  เราพร้อมช่วยคุณวางแผน ผลงานหนังสั้นของทีมผู้เข้ารอบจะได้รับการเผยแพร่ในทุกช่องทางของบริษัทฯ เพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการวางแผนชีวิตที่มีความมั่นคงในอนาคตและยังสามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์การบริการด้านประกันชีวิตรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้โดยง่าย ตรงใจและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่มีต่อประกันชีวิต  สร้างความตระหนักถึงความสำคัญ ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์จนได้ผลงานคุณภาพเกินความคาดหมายของ TIPlife

คุณวีรยุทธ ล้อทองพานิชย์  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท วิ้งค์วิ้งค์ โปรดักชั่น จำกัด  หรือ   “พี่อู๋วิ้งค์วิ้งค์” โปรดิวเซอร์มือทองที่เคยมีผลงานโฆษณาคุณภาพทางจอโทรทัศน์มากมายและเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินกิจกรรมครั้งนี้ ได้กล่าวให้ความรู้ในการสร้างวีดีโอ โปรดักชั่นที่ถูกต้องและสามารถชนะใจคณะกรรมการตัดสินได้ว่า  “หนังสั้นคือศิลปะที่มีชีวิต การคิดพล็อตเรื่องให้โดนใจคนที่เราต้องการจะสื่อสารหรือกลุ่มเป้าหมาย เป็นเรื่องที่ต้องครีเอท มีความใส่ใจในรายละเอียดเพื่อให้ทัชกับความรู้สึกของผู้ชม ผู้คิดทำหนังสั้นคราวนี้เป็นกลุ่มนักศึกษาเยาวชนคนรุ่นใหม่ ผมในฐานะกรรมการคนหนึ่งรู้สึกชื่นชมและภูมิใจกับผลงานหนังสั้นของทุกทีมซึ่งพวกเขามีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สื่อสารในเรื่องของการวางแผนทำประกันชีวิตได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ ผมอยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ ให้ทดลองทำในสิ่งใหม่ๆ ด้วยความเชื่อมั่นว่าเราทำได้และทำได้ดีเหมือนอย่างที่น้องๆ เยาวชนทุกทีม ได้ทำหนังสั้นออกมาได้อย่างน่าสนใจ  ตัวผมเองผมขอมีส่วนร่วมในการสนับสนุนสร้างเสริมแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนทุกคน ผมเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้เราจะได้ชมภาพยนตร์หนังสั้นของ TIPlife ที่ทรงอิทธิพลและช่วยโน้มน้าวใจให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้หันมาใส่ใจในการวางแผนอนาคตที่มีความมั่นคงและปลอดภัยกับ TIPlife”

ด้าน หวานหวาน-อรุณนภา พาณิชจรูญ นักแสดงและ Content Creator เพจ SweetVarnvarn Fanpage กล่าวว่า “หลังชมหนังสั้นจบและได้ให้การตัดสิน รู้สึกชื่นชมผลงานของนิสิตทุกทีมที่สามารถถ่ายทอดผลงานของตัวเองออกมาได้อย่างดีเยี่ยม มีความคิดสร้างสรรค์ในการตัดต่อ เพราะหนังสั้นมีเวลาจำกัด จะต้องเล่าเรื่องให้กระชับและสรุปเรื่องให้เข้าใจภายใน 3 นาที และขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่ชนะการประกวดในครั้งนี้ หวานหวานเชื่อว่าน้องๆ มีฝีมือขนาดนี้กลับไปฝึกฝนต่อยอดต้องมีอนาคตไกลแน่นอนค่ะ”

โดยที่ผ่านมา โครงการประกวดหนังสั้น TIPlife Short Flim Contest 2023 ของบริษัททิพยประกันชีวิต ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ไม่จำกัดชั้นปี ไม่จำกัดคณะ (อยู่ต่างสถาบันได้) ไม่จำกัดจำนวนสมาชิกต่อทีม ส่งผลงานได้ไม่เกิน 1  เรื่องต่อทีม และมีเนื้อหาในหัวข้อ “มุมมองประกันชีวิตกับคนรุ่นใหม่” มีคำว่า LIFE PARTNER LIFE BETTER” และเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยตนเอง มิได้ทำซ้ำ คัดลอก เลียนแบบ หรือดัดแปลงของผู้อื่น อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่เคยส่งเข้าประกวดที่ใดมาก่อน ไม่เคยได้รับการเผยแพร่ในสื่อทุกประเภทและสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดย ทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 10 ทีม จะได้รับกรมธรรม์ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุเป็นเวลา 1 ปี ทั้งนี้ทีม ที่เข้ารอบทั้ง 10 ทีมนี้ได้มีโอกาสได้ workshop กับผู้บริหารและพี่อู๋ วิ้งค์ วิ้งค์ เป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง เพื่อต่อยอดการทำวีดีหนังสั้น ที่มีประสิทธิภาพ และเรายังมีรางวัลพิเศษ : รางวัล Popular Vote  1 รางวัลๆ มูลค่า 30,000 บาท  (Vote หนังสั้นที่เข้ารอบสุดท้ายจากผู้ชมในออนไลน์)

ทั้งนี้ ทีมที่ผ่านการตัดสินเข้ารอบจำนวน 10 ทีม ดังนี้

  1. ทีม Homeless Production มหาวิทยาลัยศรีปทุม ชื่อผลงาน Tip-ไลฟ์
  2. ทีม SunSun มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ชื่อผลงาน พ่อหมอ
  3. ทีม ประกันชั้นรักเธอ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ชื่อผลงาน ประกันชั้นรักเธอ
  4. ทีม ARAI มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชื่อผลงาน อีโก้โคม่า
  5. ทีม Mission Universe มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ชื่อผลงาน วันรุ่นยุคใหม่อ่ะ ใช้ชีวิตต้องสุด!!!
  6. ทีม Never give up มหาวิทยาลัยศรีปทุมวิทยาเขตขอนแก่น ชื่อผลงาน ชีวิตรวดเร็ว
  7. ทีม NEW ZTARS มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ชื่อผลงาน มนต์
  8. ทีม PR @ NPRU มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ชื่อผลงาน DREAM
  9. ทีม WE_BP มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ชื่อผลงาน พรุ่งนี้อาจสายไป
  10. ทีม กองนี้เน้นแหกตำรา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ชื่อผลงาน Game with Life

โดยผลงานที่ได้รับรางวัลทุกเรื่องถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ TIPlife โดยทีมที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่

  • รางวัลชนะเลิศ : ทีม ARAI มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชื่อผลงาน อีโก้โคม่า รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ และ Tiplife กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุทุนประกัน 100,000 บาท
  • รองชนะเลิศอันดับ 1 : ทีม Mission Universe มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ชื่อผลงาน วัยรุ่นยุคใหม่อ่ะ ใช้ชีวิตต้องสุด!!! รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร และ Tiplife กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุทุนประกัน 100,000 บาท
  • รองชนะเลิศอันดับ 2 : ทีม NEW ZTARS มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ชื่อผลงาน มนต์ รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร  และ Tiplife กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุทุนประกัน 100,000 บาท
  • รางวัลชมเชยพิเศษ ได้แก่ ทีม Homeless Production มหาวิทยาลัยศรีปทุม ชื่อผลงาน Tip-ไลฟ์ และ ทีมกองนี้เน้นแหกตำรา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ชื่อผลงาน Game with Life รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร  และ Tiplife กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุทุนประกัน 100,000 บาท
  • รางวัลชมเชย  6 -10 : เงินรางวัลมูลค่า 5,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร  และ Tiplife กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุทุนประกัน 100,000 บาท

เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เล็งเห็นปัญหาสุขภาพคนไทย จัดงาน REVIVE YOUR MOBILITY คืนอิสระการเคลื่อนไหว Orthopedic Holistic Care เปิดตัว นวัตกรรมใหม่ การรักษาฟื้นฟูอาการอักเสบและปวดข้อเข่าด้วยแผ่นแปะ Nano Patch แห่งแรก ลดปวดตรงจุดในครั้งเดียว ยกระดับการรักษาดูแลอาการปวดจากข้อเข่าเสื่อม ตอกย้ำการเป็นฮับด้านการรักษาข้อเข่าเสื่อมครบวงจรแบบ HOLISTEC CARE พร้อมคืนอิสระการเคลื่อนไหวให้ผู้ป่วยกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ศ.นพ.ธไนนิธย์ โชตนภูติ ผู้อำนวยการศูนย์อุบัติเหตุและออร์โธปิดิกส์ และ ศัลยแพทย์ ออร์โธปิดิกส์เฉพาะทางด้านข้อเข่าและข้อสะโพก เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่าในแต่ละปีมีประชากรผู้สูงวัย และกลุ่มนักกีฬาทั้งชายและหญิงในประเทศมักประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคที่เกิดบริเวณข้อเข่า โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาข้อเข่าเสื่อม จากการใช้ข้อเข่ามานาน และจากการเล่นกีฬาแบบลงน้ำหนัก เป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลให้บางรายเกิดอาการเจ็บปวด จนรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน และไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวกเหมือนเดิม

“จากการวิจัยของสถาบันกระดูกและข้อ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ที่ผ่านมา จนต่อยอดสู่การเปิดตัวนวัตกรรมในการรักษาผู้ป่วยด้วย Nano Patch นับเป็นที่แรก และเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่นำมาใช้ในการรักษา ลดอาการเจ็บปวดและอักเสบข้อเข่าด้วยเข็มจิ๋ว ใช้งานแปะเพียง 4-5 ชม. ตัวยาจะมุ่งบริเวณที่ปวดโดยตรง ลดการทานยา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยสูงวัย ทำให้ไม่ส่งผลเสียต่อผู้ที่มีปัญหาด้านโรคหัวใจ โรคไต เป็นการดูแลรักษา เพื่อชะลอหรือเลี่ยงการผ่าตัด เป็นการยกระดับในกระบวนการรักษาดูแลปัญหาข้อเข่าเสื่อม เพื่อตอบโจทย์กับการรักษาในปัจจุบัน”

ทางสถาบันกระดูกและข้อ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล  ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านชีวภาพ ซึ่งเป็นการรักษาแบบองค์รวม ตั้งแต่การประเมินโอกาสเกิดความเสื่อมของข้อเข่าสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการยังไม่มาก ผู้ป่วยบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือบาดเจ็บเล็กน้อย สามารถรักษาอาการบาดเจ็บด้วยเทคโนโลยีชีวภาพในการรักษา อาทิ การตรวจค่า Urine CTX-II, การตรวจอัลตราซาวด์ Synovial Joint ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติของคนไข้ได้เร็วยิ่งขึ้น การรักษาแบบ PRP Cold Brew ซึ่งมีเฉพาะที่สถาบันกระดูกและข้อ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เท่านั้น เป็นการคงอุณหภูมิรอบปั่นรักษาเกล็ดเลือดสำคัญช่วยฟื้นฟูการบาดเจ็บ ภายในเกล็ดเลือดจะประกอบไปด้วยสารชีวภาพสำคัญที่มีผลต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น แต่สารสำคัญเหล่านั้นมักถูกทำลายไปในระหว่างขั้นตอนปั่นคัดแยก ซึ่งทางการแพทย์ในปัจจุบันได้มีการใช้เครื่องปั่นคัดแยกที่ช่วยคงคุณสมบัติต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ โดยแพทย์สามารถกำหนดความเข้มข้นของเกล็ดเลือดได้ตามต้องการ พร้อมควบคุมอุณหภูมิระหว่างการปั่น เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสารชีวภาพของเกล็ดเลือด จึงช่วยรักษาสารสำคัญต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ยังคงจะนำนวัตกรรมทางการแพทย์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องและหลายแขนง เพื่อยกระดับและพัฒนาการรักษาที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และครอบคลุมทุกการรักษา ให้ผู้รับบริการทุกท่านได้รับผลการรักษาที่แม่นยำอย่างดีที่สุด มุ่งเน้นการเป็นฮับในการรักษาข้อเข่าเสื่อมครบวงจร โดยปัจจุบันการให้บริการการรักษาของสถาบัน ในการดูแลสำหรับข้อเข่าเสื่อมครบวงจรแบบ HOLISTIC CARE เป็นการดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันในกลุ่มเสี่ยง ดูแล ฟื้นฟู และรักษาแบบครบวงจร ซึ่งมี 4 ขั้นตอน ด้วยกันประกอบไปด้วย

  1. การตรวจค่า Urine CTX II

คือ การตรวจในเชิงป้องกันผ่านกรดยูริคจากปัสสาวะ เพื่อประเมินโอกาสเสี่ยงโรคทางข้อเข่าของผู้ป่วยนั้นๆ ว่าในอนาคตจะมีโอกาสเสี่ยงข้อเข่าเสื่อมหรือไม่ (ซึ่งไม่สามารถตรวจพบจากการเอกซเรย์ได้) รอผลตรวจประมาณ 2 สัปดาห์ กลุ่มที่แนะนำให้ควรมาตรวจ คือ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคทางข้อเข่าหรือเคยได้รับการผ่าตัดข้อเข่า กลุ่มช่วงอายุ 45-50 ปี (ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ก็เริ่มมีอาการปวดข้อเข่าแล้ว) และกลุ่มนักกีฬา เช่น นักวิ่ง ผู้ที่ชอบเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม เป็นต้น

  1. การรักษาแบบ PRP Cold Brew

คือ การนำเลือดของผู้ป่วยมาใช้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น จึงเป็นวิธีรักษาที่ร่างกายยอมรับได้ โดยมีหัวใจสำคัญเป็นสารชีวภาพหรือเกล็ดเลือดเข้มข้น

            - PRP (Platelet Rich Plasma) วิธีการเจาะเลือดจากบริเวณหลังมือ หรือข้อพับแขนของผู้ป่วยออกมาประมาณ 11-22 ml. (ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บ) ก่อนจะนำไปปั่นคัดแยกเอาน้ำเลือดกับเม็ดเลือดแดงและขาว (ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการอักเสบ) ออกจากกัน โดยยังคงสารชีวภาพภายในเกล็ดเลือดไว้ให้มากที่สุด เพราะภายในเกล็ดเลือดประกอบไปด้วยสารชีวภาพสำคัญที่มีผลต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น (แต่สารสำคัญเหล่านั้นมักถูกทำลายไปในระหว่างขั้นตอนปั่นคัดแยก)

            - วิธี PRP Cold Brew เป็นการคงอุณหภูมิรอบปั่นรักษาเกล็ดเลือดสำคัญ ด้วยเทคนิคที่แตกต่าง เป็นการใช้เครื่องปั่นคัดแยกที่ช่วยคงคุณสมบัติต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ โดยแพทย์สามารถกำหนดความเข้มข้นของเกล็ดเลือดได้ตามต้องการ พร้อมควบคุมอุณหภูมิระหว่างการปั่น เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสารชีวภาพของเกล็ดเลือด จึงช่วยรักษาสารสำคัญต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. แผ่นแปะ Nano Patch

Nano Patch ถือเป็นนวัตกรรมล่าสุด ช่วยรักษาอาการปวดเข่าด้วยการนำแผ่น Nano Patch ที่มีเข็มจิ๋วที่ถูกดีไซน์  อยู่ด้านใน มีช่องสำหรับฉีดตัวยาค็อกเทลที่ทำการผสมตัวยาเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการที่จะทำการแปะแผ่น Nano Patch ที่หัวเข่าของผู้ป่วยเท่านั้น ใช้เวลาในการเดินยาประมาณ 4-5 ชั่วโมง มีระยะของการออกฤทธิ์ยาได้ยาวถึง 1 เดือน ตัวยาจะมุ่งเป้าไปยังบริเวณที่ปวดโดยตรง วิธีนี้ข้อดีคือ ลดการทานยา โดยเฉพาะกลุ่มยา NSAIDs ที่เมื่อทานยากลุ่มนี้ไประยะยาวจะไปทำลายตับ ไต และหัวใจได้ ยิ่งในกลุ่มผู้สูงวัยยิ่งควรต้องระวังอย่างมาก สำหรับตัวยาค็อกเทลที่ผสมขึ้นสำหรับ Nano Patch นี้มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ผลข้างเคียงพบน้อยมาก ไม่ส่งผลต่อตับ ไต และในผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยชะลอ  การผ่าตัด หรือในบางรายอาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเลย

  1. การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Knee Replacement)

“ข้อเข่าเสื่อม” เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ โดยวิธีที่ช่วยลดความทรมานจากอาการปวดข้อเข่ารุนแรงให้สามารถกลับมาใช้งานข้อเข่าได้อย่างเป็นปกติสุขอีกครั้ง คือ การรักษาด้วยการ “ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม” โดยในปัจจุบันวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมก้าวหน้าไปมาก ทั้งยังมีนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนเสริม ทำให้แพทย์ทำการรักษาผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

ศ.นพ.ธไนนิธย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “นอกจากเรื่องจุดเด่นของการเป็นฮับ ศูนย์กลางการป้องกัน รักษา ฟื้นฟูแบบ HOLISTEC CARE ที่ครอบคลุมและต่อเนื่องแล้ว อีกจุดเด่นคือเราได้รวบรวมทีมแพทย์เฉพาะทางที่ชำนาญการในแต่ละสาขา เช่น ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ ข้อเทียม ข้อสะโพกและข้อเข่า เวชศาสตร์การกีฬา การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา และเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ให้ความสำคัญกับการรักษาเฉพาะทางอย่างมาก โดยแพทย์เฉพาะทางแต่ละท่านมีประสบการณ์สูงในการทำเคสเฉพาะทางที่ยากและซับซ้อน และสามารถใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยหรือใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษา เช่น การผ่าตัดส่องกล้องในข้อที่มีความละเอียดสูง หรือใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (Robotic Surgery) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยขั้นสูง”

สยามคูโบต้า นำโดย คุณพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ เข้าร่วมรับรางวัลบนเวที Marketing Award of Thailand 2023 (MAT Award) จัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ซึ่งในปีนี้คว้า 3 ประเภทรางวัล ได้แก่ Silver Award ประเภทแคมเปญการตลาดที่มีความเป็นเลิศ ด้านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างผลลัพธ์ใหม่ (Innovations & Martech) จากผลงาน 45 Days: 45 วัน เกี่ยวดีไม่มีสะดุด และ Bronze Award ประเภทแคมเปญการตลาดที่มีความเป็นเลิศ ด้านความยั่งยืน (Sustainable Marketing) จากผลงาน KUBOTA Share For The Better และแคมเปญการตลาดที่มีความเป็นเลิศด้านการสร้างคุณค่าของแบรนด์ (Brand Experience & Communication) จากผลงาน Impossible Growth ตอกย้ำแบรนด์ผู้นำนวัตกรรมเกษตรที่สร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า มุ่งผลักดันสิ่งใหม่ๆ เน้นผลลัพธ์ที่มีคุณค่าเชิงบวก เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเติบโตร่วมกัน ณ ไปรษณีย์กลาง กรุงเทพฯ

เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายโยฮัน ดีทอย (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน เป็นตัวแทนรับรางวัล “บริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่น ประจำปี 2566” หรือ “2023 AMCHAM Corporate Social Impact Award” ระดับ Platinum จากสภาหอการค้าอเมริกันแห่งประเทศไทย (The American Chamber of Commerce in Thailand: AMCHAM) ซึ่ง นายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตประจำสถานทูตอเมริกาในประเทศไทย เป็นประธานมอบรางวัล โดยมีนายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก และนางสาววิภากร โกมลกิติสกุล (ขวาสุด) รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมในพิธีรับมอบรางวัลดังกล่าว ซึ่งงานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ

สำหรับรางวัล “บริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่น” (AMCHAM Corporate Social Impact Award) นับเป็นรางวัลอันทรงคุณค่า ซึ่งเอไอเอ ประเทศไทย ได้รับติดต่อกันต่อเนื่องมาเป็นเวลา 12 ปี จากการเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโดยยึดหลัก ESG ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล มาตลอดระยะเวลา 85 ปีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตลอดจนยังมีการส่งเสริมด้านกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทในการสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives”

ทีทีบีไดรฟ์ โดยทีเอ็มบีธนชาต ผู้นำในตลาดสินเชื่อรถยนต์ มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์และบริการที่ดี เพื่อให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้าน จัดโปรโมชันหนักส่งท้ายปีสำหรับผู้ต้องการมีรถ เมื่อออกรถยนต์ใหม่ภายในงาน Motor Expo 2023 พร้อมสมัครสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ทีทีบีไดรฟ์ จะได้รับเงินคืนถึง 3 ต่อ สูงสุดไม่เกิน 8,000 บาท พร้อมของสมนาคุณและสิทธิพิเศษอื่น ๆ จากบัตรเครดิต ttb

เงินคืนต่อที่ 1 : รับเงินคืน 1% จากยอดเงินดาวน์ เมื่อดาวน์ตั้งแต่ 25% ขึ้นไป รับเงินคืนสูงสุด 3,000 บาท และดาวน์ 30% ขึ้นไป รับเงินคืนสูงสุด 5,000 บาท เมื่อสมัครสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ทีทีบีไดรฟ์ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2566 และได้รับการอนุมัติทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทั้งนี้ลูกค้าต้องมีบัญชี ttb all free โดยชื่อบัญชีจะต้องตรงกับชื่อในสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ และสมัครใช้งานแอป ttb touch ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567

เงินคืนต่อที่ 2 : รับเงินคืนเพิ่ม 2,000 บาท เมื่อซื้อประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อรถยนต์  Smile Car Plus หรือรับเงินคืน 1,000 บาท เมื่อซื้อประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อรถยนต์ Smile Car 

เงินคืนต่อที่ 3 : รับเงินคืนเพิ่มอีก 1,000 บาท เมื่อสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติ

นอกจากนี้ทีทีบีไดรฟ์ ยังจัดโปรโมชันพิเศษเพิ่มเติมให้กับผู้สมัครสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ทีทีบีไดรฟ์ ในงาน Motor Expo 2023 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2566

ด้วยการมอบของสมนาคุณ เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ มูลค่า 1,290 บาท ที่บูธทีทีบีไดรฟ์ พร้อมทั้งสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต ttb สำหรับการสมัครบัตรใหม่ หรือ มียอดใช้จ่ายบัตรเครดิต ttb ในงาน รับความคุ้มเพิ่มเติมอีกมากมาย 

ดูรายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่  https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/motor-expo-2023

ห้าดาว (Five star) ร่วมมือกับ BSGF ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน ส่งต่อนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ไม่ทิ้ง ไม่ทอด มาผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ภายใต้โครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” พร้อมขับเคลื่อนร้านห้าดาว 5,000 สาขาทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการภายในปี 2567 ผลักดันนวัตกรรมสีเขียว เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจห้าดาวและร้านอาหาร บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ห้าดาวร่วมโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” กับบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด หรือ  BSGF ภายใต้การร่วมลงทุนของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ธนโชคออยล์ ไลท์ จำกัด และ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF จากน้ำมันใช้แล้ว โดย BSGF เป็นผู้ที่รับน้ำมันจากห้าดาวและเถ้าแก่ห้าดาวถึงจุดขาย ในเฟสแรกห้าดาวร่วมกับเถ้าแก่ห้าดาวรวม 139 สาขา ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เข้าร่วมโครงการทอดไม่ทิ้ง และตั้งเป้าขยายสาขาเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5,000 สาขา ภายในปี 2567

“ธุรกิจห้าดาว ผู้ดำเนินธุรกิจจุดจำหน่ายอาหารในรูปแบบแฟรนไชส์ ที่ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนไทยเป็นเถ้าแก่เติบโตบนเส้นทางธุรกิจอย่างยั่งยืน มานานกว่า 39 ปี ปัจจุบันมีผู้แฟรนไชส์รวม 5,000 รายในประเทศไทย ห้าดาวมีนโยบายสำคัญในการตัดวงจรน้ำมันทอดซ้ำ ที่ถือเป็นอีกหนึ่งความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือกับบางจากในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนวัตกรรมสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายสุนทร กล่าว

ทางด้าน นายนิพนธ์ เลิศทัศนีย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บางจาก กล่าวว่า โครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” โดย BSGF เป็นการรณรงค์ให้ประชาชน “ไม่ทิ้ง” น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วสู่พื้นที่สาธารณะ ป้องกันปัญหาการทิ้งของเสียอย่างไม่ถูกวิธี ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ “ไม่ทอดซ้ำ” ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเชิญชวนประชาชนและผู้ประกอบการนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว มาจำหน่ายที่สถานีบริการบางจากหรือจุดรับซื้อที่บริษัทฯ กำหนด เพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันเครื่องบิน SAF ที่ตอบโจทย์โมเดลเศรษฐกิจ BCG ทั้ง Bio-Circular-Green Economy เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว ได้อย่างครบวงจร.

X

Right Click

No right click