December 23, 2025

“ทิพยประกันภัย” ร่วมกับ “สบาย แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์” ในเครือกลุ่มสบาย เปิดขายประกันภัยอุบัติเหตุผ่านตู้เติมสบายพลัส ด้วยแผนประกันภัยที่คุ้มค่า ซื้อง่าย เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 10 บาท รับความคุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาท เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย เพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงกรมธรรม์ประกันภัยได้อย่างง่ายดาย

นางสาวณฐินี ธนะรัชต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่จะส่งเสริมการทำประกันภัย เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อย สามารถเข้าถึงประกันภัยได้ง่ายขึ้น โดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยระยะสั้น ด้วยเบี้ยประกันที่ “คุ้มค่า คุ้มราคา” ซึ่งการทำประกันภัยอุบัติเหตุ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความคุ้มครองในการดูแลลูกค้าเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด และเป็นหลักประกันให้คนข้างหลังให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างดี  โดยบริษัทฯ เสนอขายประกันภัยอุบัติเหตุ เบี้ยประกัน (แผน 1) เริ่มต้นเพียง 10 บาท สำหรับการคุ้มครอง 7 วัน, (แผน 2) เบี้ยประกัน 30 บาท สำหรับการคุ้มครอง 30 วัน , (แผน 3) เบี้ยประกัน 80 บาท สำหรับการคุ้มครอง 90 วัน , (แผน 4) เบี้ยประกัน 150 บาท สำหรับการคุ้มครอง 180 วัน และ(แผน 5) เบี้ยประกัน 300 บาท สำหรับการคุ้มครอง 1 ปี โดยจะได้รับเงินชดเชย 100,000 บาท กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือ 25,000 บาท กรณีเสียชีวิตขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ และเงินชดเชยรายวันกรณีนอนพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในจากอุบัติเหตุ 200 บาท/ วัน (สูงสุด 3 วัน/ครั้ง) ซึ่งถือว่าเป็นแผนความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุราคาประหยัดและตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

ด้านนายไชยพร จันทรเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจประกันภัยรถยนต์ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในอนาคตมีแผนที่จะขยายแผนการประกันภัยให้มีความหลากหลายให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มช่องทางซื้อประกันภัยรถยนต์ร่วมกับทางตู้เติมสบาย เช่น ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 3) ด้วยขั้นตอนการซื้อที่ไม่ยุ่งยากเพียงกรอกข้อมูลผ่านช่องทางตู้เติมสบายพลัส ก็สามารถได้รับความคุ้มครองทันที

นายมารุต พรมมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สบาย แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด เล่าว่าพันธมิตรทั้ง 3 บริษัท ได้เห็นโอกาสและความสำคัญร่วมกันในการส่งเสริมให้คนไทยสามารถเข้าถึงประกันภัยเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการรองรับความเสี่ยงภัยในชีวิต ผ่านช่องทางของตู้เติมสบายพลัส ที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่นำเสนอขายนั้นจะต้องตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าตู้เติมสบายพลัส สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ต้องการสนับสนุนประกันภัยรายย่อย หรือ ไมโครอินชัวรันส์ ให้ประชาชนได้เข้าถึงและได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการประกันภัยได้อย่างทั่วถึง ตามแนวคิดใหม่ “ซื้อง่าย เครือข่ายเยอะ”

นายก่อเกียรติ วัฒนกสิกุล หัวหน้าฝ่ายบริหารช่องทางการขาย บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)  ผู้ให้บริการทางการเงินผ่านตู้เติมเงินอัตโนมัติ “เติมสบายพลัส”  กล่าวทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือกับพันธมิตรทั้ง 2 แห่ง ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจด้านประกัน จะตอกย้ำความเป็นผู้นำของธุรกิจในด้านแพลตฟอร์มการเงินครบวงจรของ เติมสบายพลัสได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการคัดเลือกผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย เชื่อว่าด้วยศักยภาพและความสามารถของกลุ่มสบายและพันธมิตร จะทำให้การเสนอขายกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุครั้งนี้ เป็นที่สนใจของกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งมีตู้บริการมากกว่า 20,000 ตู้ทั่วประเทศ (เฉพาะตู้ที่รองรับบริการดังกล่าว)

ทั้งนี้ การซื้อประกันอุบัติเหตุจากทิพยประกันภัยที่ตู้เติมสบายพลัสทำให้การซื้อประกันภัยในรูปแบบ ต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย เข้าถึงทุกคน ตอบโจทย์ทั้งราคาและความคุ้มครองที่คุ้มค่า สามารถได้รับความคุ้มครองทันที ผู้ที่สนใจสามารถซื้อประกันอุบัติเหตุผ่านตู้เติมสบายพลัส กว่า 20,000 ตู้ทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี(ที่สองจากขวา) ประธานมอบรางวัลเกียรติยศ ในงาน Business+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2023 รางวัลสินค้าและบริการยอดเยี่ยมแห่งปี 2023 ให้แก่ ชารอน ตัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประกันชีวิตและสุขภาพ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รางวัลกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์ (My  Health Plus Double Care) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลดล็อคค่าใช้จ่ายในการรักษา ให้ความคุ้มครองตั้งแต่ 8-30 ล้านบาท และความคุ้มครองจะดับเบิลเป็น 2 เท่าหากได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคร้ายแรงในกลุ่มตามที่กรมธรรม์กำหนด ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสอดรับกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น โดยนิตยสาร Business+ ในเครือบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล มอบให้เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาสินค้าและบริการ ซึ่งถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านประกันชีวิตและสุขภาพ โดยมี นายมินทร์ อิงค์ธเนศ(ขวา) ผู้ก่อตั้ง และนายมนู เลียวไพโรจน์(ซ้าย) ประธานกรรมการ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติถ่ายภาพ พิธีมอบรางวัลจัดขึ้น ณ โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา

มุ่งมั่นส่งเสริมการดูแลสุขภาพผ่านแนวทางเวชศาสตร์ครอบครัว

หัวเว่ยประกาศความพร้อมสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวสู่เมืองอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ

ชวนคณะแพทย์จีน-ไทย แลกเปลี่ยนความรู้ ตอกย้ำการเป็นฟิลเลอร์ระดับโลก

ตอกย้ำเป้าหมายมุ่งสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้ลูกค้าผ่านดิจิทัลโซลูชัน

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตอกย้ำความคุ้มค่าของการเป็นลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี ด้วยข้อเสนอสุดคุ้มโค้งสุดท้ายของปีแบบดีเวอรรร์ ทั้งการซื้อประกันและกองทุน เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีประจำปี 2566 กับแคมเปญพิเศษเพิ่มสิทธิประโยชน์ทั้งเครดิตเงินคืนและรับหน่วยลงทุนเมื่อลงทุนตามที่ธนาคารกำหนด

นางสาวนันทพร ตั้งเจริญศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารความสัมพันธ์และประสบการณ์ลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี ให้ได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่ามากที่สุด ทั้งอัตราดอกเบี้ยพิเศษของผลิตภัณฑ์เงินฝากและสินเชื่อ รวมทั้งกิจกรรมการตลาดที่มีตลอดทั้งปี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในภาพรวมมีผู้เข้าร่วมแคมเปญทั้งหมดในปีนี้เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน

สำหรับช่วงเวลาสองเดือนสุดท้ายของปี เป็นช่วงของการเก็บตกสิทธิประโยชน์เพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันบำนาญ กองทุนทั้ง SSF และ RMF ซึ่งทีทีบีได้จัดแคมเปญพิเศษขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่คุ้มกว่าสำหรับลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี ตอกย้ำความคุ้มค่าที่ได้มากกว่าบัญชีเงินเดือนทั่วไป โดยเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 28 ธันวาคม 2566 รับสิทธิประโยชน์เพื่อลดหย่อนภาษี ปี 2566 ดีเวอรรร์

  1. รับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝาก ทีทีบี สูงสุด 32% เมื่อสมัครซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต พรูเด็นเชียล ที่ร่วมรายการ พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มอีก 3 คุ้ม ได้แก่ 1) รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% หรือคะแนนสะสม ttb rewards plus สูงสุด x10 และแบ่งชำระเบี้ยประกัน 0% นาน 6 เดือน เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิต ทีทีบี 2) รับบัตรกำนัลจากเครือ BDMS สูงสุด 7,500 บาท เมื่อสมัครประกันชีวิตที่ร่วมรายการ และ 3) รับดอกเบี้ยเงินฝากอัตราพิเศษ สูงสุด 25% ต่อปี เมื่อสมัครประกันชีวิตที่ร่วมรายการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและรายชื่อประกันชีวิตที่ร่วมรายการ ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/ba-tax-festival-2023
  2. รับหน่วยลงทุนเพิ่มในกองทุนรวมตราสารตลาดเงิน (Money Market) จำนวน 100 บาท เมื่อลูกค้าลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีทุก ๆ 50,000 บาท ในกองทุนที่ร่วมรายการ กับโพยกองทุนเด็ด SSF ที่จะช่วยให้การลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องง่าย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีและลดหย่อนภาษี โดยทีทีบีได้คัดกองทุนเด็ดและจัดตามระดับความเสี่ยงมาให้แล้ว อาทิ กองทุน UOBSD-SSF, UESG-SSF / UESG-SSF-D, T-ES-GCG-SSF, T-ES-GTECH-SSF, UEV-SSF, ttb smart port-SSF นอกจากนี้ยังมีโพยกองเด็ด RMF ที่เหมาะกับการลงทุนระยาวยาว เพื่อวางแผนเกษียณ อาทิ TMBGRMF, TMBGINCOMERMF, TMBGQGRMF, T-ES-GCG-RMF, TMB-ES-VIETNAM-RMF ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและรายชื่อกองทุนเด็ดที่ทีทีบีคัดมาให้แล้ว ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/rmf-ssf-2023 

“ทีทีบี เข้าใจความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่าจากการลงทุน และช่วงเวลาโค้งสุดท้ายของปีในการลงทุนเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษี โดยทีทีบีได้คัดสรรกองทุนที่มีผลประกอบการดีและเหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้ หรือประกันที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน ซึ่งทีทีบีพร้อมส่งเสริมสร้างวินัยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความมุ่งมั่นของธนาคารที่จะทำให้ลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้าน ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง และนำเสนอแคมเปญพิเศษเพื่อลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี อย่างต่อเนื่อง” นางสาวนันทพร สรุป

รายละเอียดและสิทธิประโยชน์สำหรับพนักงานที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี ที่สนใจวางแผนลดหย่อนภาษี สามารถอ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ttps://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/ba-tax-festival-2023 หรือสอบถามข้อมูลที่ ทีทีบี ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ttb contact center 1428

กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง นำโดย นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร (กลาง) ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล นางสาวกนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ (ซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย และนายวิน พรหมแพทย์, CFA (ขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ รับรางวัล ‘LAUNCH OF THE YEAR’ จากเวที Private Banker International Global Wealth Awards 2023 ซึ่งเกิดจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันด้านการลงทุนเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (Ultra High Net Worth) อาทิ บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ การลงทุนตรงในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนรวมต่างประเทศ หุ้นต่างประเทศ และพันธบัตรต่างประเทศ รวมทั้งหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง หรือ Structured Notes ที่ออกในสกุลดอลล่าร์ เป็นต้น โดยในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในหุ้นนอกตลาด (Private Equity) ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยอัตราผลตอบแทนที่โดดเด่น ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การเป็น Investment Wealth Advisory Bank หรือธนาคารที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการคำแนะนำการลงทุนอย่างแท้จริง

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ร่วมกับ สถาบัน ChangeFusion จัดงาน Impact Day 2023: Where Tourism Meets Social Good กิจการเพื่อสังคมเชื่อมโยงชุมชนและท่องเที่ยวไทย” เปิดโอกาสให้กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) ที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวได้ขยายตลาด เปิดบูธแนะนำสินค้าและบริการ ณ ใจกลางสยามสแควร์ พร้อมจัดกิจกรรมไฮไลท์ เช่น เวทีเสวนาอนาคตธุรกิจเพื่อสังคมและ SE Ecosystem ของไทย การพบปะแลกเปลี่ยนแนวคิดของผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคม และการออกบูธสินค้างานคราฟต์ ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว จากกว่า 20กิจการเพื่อสังคมภายใต้โครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม หรือ Banpu Champions for Change (BC4C) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและขยาย SE Ecosystem ของไทยให้เติบโต สามารถสร้างผลกระทบทางบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส-สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ตลอด 12 ปีของโครงการ พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม (Banpu Champions for Change: BC4C) เราได้สนับสนุนกิจการเพื่อสังคมประมาณ 130 กิจการให้มีโอกาสทดลองดำเนินธุรกิจ ตามแนวคิดและความสนใจของตนเอง ซึ่งกิจการของ SE เหล่านี้ได้สร้างประโยชน์ให้กับคนกว่า 2.5 ล้านคน สำหรับงาน Impact Day ถือเป็นอีเวนต์สำคัญปลายปีของ BC4C ที่เปิดโอกาสให้ SE ได้พบลูกค้าตัวจริง ได้ฟังฟีดแบค (Feedback) และเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น โดยปีนี้เราชูประเด็นความเกี่ยวโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกับกิจการเพื่อสังคม โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เป็น High Season จึงอยากส่งเสริม เทรนด์การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เปลี่ยนการท่องเที่ยวธรรมดาให้สามารถส่งต่อชีวิตชีวาและคุณค่าให้กับชุมชนและสังคมได้”

โดยภายในงานประกอบไปด้วยกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • Talk Session: “อนาคตธุรกิจเพื่อสังคมและ SE Ecosystem ของไทย” ร่วมฉายภาพและชี้เทรนด์อนาคตของการผลักดันธุรกิจเพื่อสังคมไทยให้เติบโต โดย นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการ
    สายอาวุโส-สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) นายสุนิตย์ เชรษฐา ผู้อำนวยการสถาบัน ChangeFusion พร้อมด้วยเหล่าผู้คร่ำหวอดในวงการกิจการเพื่อสังคม ได้แก่ ดร.วรวิทย์
    จิรัฐิติเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม และนายสมศักดิ์ บุญคำ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โลเคิล อไลค์ จำกัด (Local Alike)
  • SE Market: เปิดตลาดช็อปฯ Package ท่องเที่ยวและสินค้างานฝีมือสุดชิคจาก SE ไทย ทั่วประเทศกว่า 20 ร้านค้า
  • มินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน “อะตอม – ชนกันต์”

นอกจากนี้ ภายในงานได้ประกาศผล 3 กิจการเพื่อสังคมระยะเริ่มต้น (Incubation Program) ที่คว้ารางวัลชนะเลิศและทุนสนับสนุนเพื่อต่อยอดธุรกิจทีมละ 250,000 บาท จากโครงการ BC4C ในรุ่นที่ 12 โดยเกณฑ์การคัดเลือกผู้ชนะจะพิจารณาจากโมเดลธุรกิจที่มีแนวทางการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ มีตัวชี้วัดการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง 3 กิจการที่ชนะเลิศในปีนี้ (โดยไม่เรียงลำดับ) ได้แก่

  • คีรีฟาร์ม (Khiri Farm) ธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จาก ‘ฟางข้าว’ หลังฤดูเก็บเกี่ยวเพื่อปลูกเห็ด และต่อยอดสู่แพลตฟอร์มการเรียนรู้ ‘เห็ดก้อน’ ที่สร้างรายได้ให้ทั้งธุรกิจ ชุมชน และเป็นกิจกรรมให้ผู้สูงวัย
  • เติมน้ำ (Termnaam) ธุรกิจ ‘ผงล้างจาน’ ไร้สารเคมีตกค้าง สะดวกต่อการพกพาสำหรับนักเดินทาง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • พื้นที่ปลอดภัยเรื่องเพศในวัยรุ่น (Sex-O-Phone) แพลตฟอร์มให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาและความสงสัยของวัยรุ่นเรื่องเพศ และลด ‘ภาวะท้องไม่พร้อม’ ในวัยเรียน

ด้าน นายสุนิตย์ เชรษฐา ผู้อำนวยการสถาบัน ChangeFusion องค์กรไม่แสวงผลกำไรภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า “เราเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ จะมีผู้ประกอบการ SE เพิ่มขึ้นจากเทรนด์ธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่กำลังมาแรง ดังนั้น เพื่อให้ SE ที่เกิดขึ้นใหม่สามารถเติบโตขึ้นต่อไปได้ ในโครงการ BC4C เราจึงเน้นย้ำถึงหลักการทำธุรกิจเพื่อสังคม 3 ข้อเป็นสำคัญ ได้แก่ การมี Passion คือต้องมีความมุ่งมั่น การรู้จัก Marketplace ธุรกิจต้องสอดรับกับความต้องการของตลาด และที่สำคัญคือการมี SE Ecosystem หรือระบบนิเวศของกิจการเพื่อสังคมเพื่อสนับสนุนเกื้อกูลกัน โดย SE จำเป็นต้องอาศัยเงินจากนักลงทุน บวกกับคำแนะนำจากผู้คร่ำหวอดในวงการตัวจริงที่จะคอยแบ่งปันประสบการณ์ให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และสำคัญที่สุดคือการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งในด้านเงินทุน และการอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะทำให้กิจการเพื่อสังคมของไทยสามารถเจริญเติบโตทัดเทียมกับกิจการเพื่อสังคมของประเทศอื่นๆ ได้”

ประกาศจุดยืนซักที่นี่ ดีต่อโลก ดันธุรกิจสะดวกซักโตแรงน่าลงทุน

X

Right Click

No right click