เดินหน้าบุกตลาดตระกูล OLED ชูฟีเจอร์อัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี AI ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ช่วงต้นปี 2567 ซัมซุงได้เริ่มต้นยุคของ AI บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้แพร่หลายขึ้น ด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series พร้อมคำมั่นสัญญาของซัมซุงที่จะนำ Galaxy AI1 ไปใช้บนอุปกรณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ซัมซุงจะนำ Galaxy AI มาปรับปรุงฟีเจอร์การดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยมบน Galaxy Watch ด้วยการผสมผสานความสามารถของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model : LLM) แบบ on-device เข้ากับแอป Samsung Health ทำให้ซัมซุง สามารถสร้างประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่มีความปลอดภัยและตอบโจทย์ชีวิตผู้ใช้งานแต่ละคนโดยเฉพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ความฉลาดขั้นสูงเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างแรงจูงใจที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น

ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ด้านการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขั้นสูงให้แก่ผู้ใช้ โดยเริ่มต้นจากการใช้ข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญและนำไปใช้ได้จริง มาช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบสุขภาพของคุณได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้มีการรวม Galaxy AI เข้ากับ Samsung Health ฟีเจอร์ใหม่ด้านสุขภาพที่จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพที่ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นในทุกวันด้วย Energy Score2 ที่ออกแบบมาให้คุณเข้าใจสภาวะร่างกายของคุณในแต่ละวันได้ดี ผ่านการวิเคราะห์ตัวชี้วัดสุขภาพส่วนบุคคลร่วมกับข้อมูลการนอนหลับ การทำกิจกรรม และอัตราการเต้นของหัวใจ3 ช่วยให้คุณดำเนินชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ การรวม LLM แบบ on-device4 เข้ามายังช่วยให้คุณได้รับข้อมูลส่วนบุคคลในเชิงลึกมากขึ้น และอธิบายรายละเอียดค่าคะแนนของคุณ รวมทั้งยังมี Wellness Guide (TBD)5 ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพ โดยให้ข้อมูลและเคล็ดลับที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ

แม่นยำและถูกต้องมากยิ่งขึ้น

มาตรวัดสุขภาพที่ถูกต้องและครอบคลุมทุกมิติเป็นพื้นฐานในการสร้างประสบการณ์ด้านสุขภาพอันชาญฉลาดที่สุด ด้วยอัลกอริทึมด้านการดูแลสุขภาพที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และเครื่องมือติดตามขั้นสูงช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม พร้อมข้อมูลเฉพาะบุคคลที่นำไปใช้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำงานร่วมกับ AI เนื่องจากสุขภาพที่ดีเริ่มต้นด้วยการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มในเวลากลางคืน ซัมซุงจึงพัฒนาอัลกอริทึม AI สำหรับ Sleep Score เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับ ช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบการนอนของตนเองและสร้างนิสัยการนอนที่ดีขึ้น โดยมีตัวชี้วัดที่ใส่เข้ามาเพิ่ม ได้แก่ การเคลื่อนไหวระหว่างการนอนหลับ ระยะเวลาที่ใช้อยู่บนเตียง อัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนหลับ ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนหลับ อัตราการหายใจระหว่างการนอนหลับ นอกเหนือจากตัวชี้วัดเดิมที่มีอยู่อย่าง เวลานอน วงจรการนอนหลับ และเวลาตื่นนอน

ฟีเจอร์ออกกำลังตัวใหม่ มอบประสบการณ์การวัดสมรรถภาพทางกายที่ชาญฉลาดและใช้งานง่ายดาย เพื่อให้ออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสม 

  • สามารถตรวจวัดระดับความเข้มข้นในการวิ่งได้ถึง 5 ระดับ
  • ใน Personalized Health Rate Zone มีตัววัดโซนอัตราการเต้นของหัวใจ Aerobic Threshold (AT) / Anaerobic Threshold (AnT) Heart Rate Zone6 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้มีความละเอียดมากขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนการวิ่งให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการวิ่งอย่างรวดเร็วไปด้วย
  • นักปั่นจักรยานสามารถคำนวณตัววัด Functional Threshold Power (FTP) ได้อย่างง่ายดายภายในเวลาเพียง 10 นาที7 และออกกำลังกายได้อย่างมืออาชีพโดยใช้ดัชนีพลังงาน (Power Index) ส่วนบุคคลที่อิงจากการวิเคราะห์ข้อมูล AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
  • มีเครื่องมือติดตามการออกกำลังกายที่ช่วยให้คุณติดตามผลการออกกำลังกายและความคืบหน้าของกิจกรรมที่กำลังทำได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น และด้วยฟีเจอร์ Workout Routine แบบใหม่ คุณสามารถออกแบบผสมผสานการออกกำลังกายต่าง ๆ ในรูปแบบเฉพาะของตัวเอง หรือเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายจากประเภทหนึ่งไปอีกประเภทหนึ่งได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดพัก
  • ฟีเจอร์ Race8 ช่วยเติมกำลังใจให้คุณ และติดตามความคืบหน้าในการวิ่งหรือปั่นจักรยานได้อย่างสะดวก ตลอดจนสามารถดูข้อมูลประสิทธิภาพการออกกำลังกายในปัจจุบันเปรียบเทียบกับรอบที่ผ่านมาบนเส้นทางเดียวกันได้

“จากการที่ซัมซุงได้แผ่ขยายพลังอำนาจของ Galaxy AI ไปทั่วทั้งระบบนิเวศ เรามุ่งมั่นที่จะเปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ใหม่ทั้งหมดด้วยประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะสมและเชื่อมต่อกันไปอีกขั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น” Junho Park, VP and Head of the Galaxy Ecosystem Product Planning Team, MX Business ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “การนำ Galaxy AI มาใช้ใน Galaxy Watch เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการเหล่านี้ และเราตื่นเต้นมากที่จะแสดงให้เห็นการทำงานร่วมกันเพิ่มเติมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Galaxy ของเราในไม่ช้านี้”

เตรียมสัมผัสประสบการณ์การใช้งานฟีเจอร์ใหม่ทั้งหลายเหล่านี้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Galaxy Watch รุ่นใหม่ ผ่าน One UI 6 Watch ปลายปีนี้ สาวก Galaxy Watch จำนวนจำกัดจะได้รับโอกาสเข้าถึง One UI 6 Watch Beta9 ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป นับเป็นประสบการณ์เล็ก ๆ ที่เราจะมอบให้จากการทดลองสินค้า ซึ่งเราตื่นเต้นมากที่จะแสดงให้เห็นพลังอันเต็มเปี่ยมของ Galaxy AI เมื่อผนวกเข้ากับฮาร์ดแวร์ขั้นสูงที่ได้รับการอัปเกรดสำหรับ Galaxy Watch Series ใหม่ โปรดติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เร็ว ๆ นี้


1 การเข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้ Samsung อาจจำเป็นสำหรับการใช้ฟีเจอร์ Samsung AI บางรายการ โดย Samsung ไม่ขอสัญญา รับรอง หรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ที่ได้รับจากฟีเจอร์ AI ความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์ Galaxy AI อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นของอุปกรณ์ โดยฟีเจอร์ Galaxy AI จะเปิดให้บริการฟรีจนถึงสิ้นปี 2568 บนอุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่รองรับ และอาจมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปโดยบุคคลที่สามสำหรับการใช้งาน

2 Energy Score ได้รับการพัฒนาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปเท่านั้น Energy Score สามารถใช้งานได้บนโทรศัพท์ Android (ระบบปฏิบัติการ Android 10 ขึ้นไป) และต้องใช้แอป Samsung Health (เวอร์ชัน 6.27 ขึ้นไป) รวมทั้งใช้งานผ่านระบบบัญชีผู้ใช้ Samsung บริการดังกล่าวใช้ได้เฉพาะสำหรับผู้ลงทะเบียน Galaxy Watch (Galaxy Watch 4 ขึ้นไป) ในการตรวจสอบ Energy Score ข้อมูลสุขภาพจาก Galaxy Watch จะซิงค์กับแอป Samsung Health โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูลกิจกรรมและการนอนหลับ รวมทั้งอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนหลับในวันก่อนหน้า ทั้งนี้ ความพร้อมใช้งานอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

3 ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนวิธีการเดิม

4 พร้อมใช้งานสำหรับซีรีส์ Galaxy S24 โดยรองรับภาษาจีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี โปรตุเกส (บราซิล) และสเปน (เม็กซิโก)

5 Wellness Guide สามารถใช้งานบนโทรศัพท์ Android (ระบบปฏิบัติการ Android 10 ขึ้นไป) และต้องใช้แอป Samsung Health (เวอร์ชัน 6.27 ขึ้นไป) รวมทั้งใช้งานผ่านระบบบัญชีผู้ใช้ Samsung ความพร้อมใช้งานอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ทั้งนี้ มิได้มุ่งเน้นการตรวจจับ การวินิจฉัย หรือการรักษาทางการแพทย์ใด ๆ หากแต่มุ่งเน้นผลลัพธ์เพื่อใช้อ้างอิงเป็นการส่วนบุคคลเท่านั้น โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำเพิ่มเติม

6 Personalization of Heart Rate Zone สามารถเปิดใช้งานได้ เมื่อเลือกกิจกรรมการวิ่งกลางแจ้ง ซึ่งต้องวิ่งอย่างต่อเนื่องเกิน 10 นาทีขึ้นไปด้วยความเร็วไม่น้อยกว่า 4 กม./ชม.

7 ในการวัด FTP ส่วนบุคคล สมาร์ทโฟน Galaxy จะต้องเชื่อมต่อกับ Power Meter ในการคำนวณค่า FTP ให้แม่นยำยิ่งขึ้น จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Galaxy Watch กับสมาร์ทโฟน ค่า FTP จะถูกคำนวณโดยอัตโนมัติเมื่อมีการปั่นจักรยานที่ระดับความเข้มข้นปานกลางถึงสูงเป็นเวลาเกิน 4 นาที โดยมี Power Meter ติดอยู่กับจักรยานของคุณ โดยใช้การเรียนรู้ของเครื่อง การปั่นจักรยานซ้ำหลายครั้งจะทำให้ค่าการคำนวณ FTP แสดงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้แม่นยำขึ้น Power Meter เป็นอุปกรณ์เสริมที่มีจำหน่ายแยก โดยปกติการวิเคราะห์ FTP บนอุปกรณ์มืออาชีพจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง

8 Race มีให้สำหรับการวิ่งกลางแจ้งและการปั่นจักรยานกลางแจ้งเท่านั้น สำหรับการวัดเชิงเปรียบเทียบ จำเป็นต้องวิ่งในเส้นทางเดียวกับเส้นทางที่สร้างไว้ล่วงหน้า ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลปัจจุบันกับข้อมูลเก่า 1 รายการที่เคยบันทึกไว้ในช่วงเวลาไม่เกิน 14 วันที่ผ่านมา การเปรียบเทียบข้อมูลบน Race สามารถทำได้เฉพาะเมื่อเริ่มต้นกิจกรรมในจุดเริ่มต้นเดียวกันเท่านั้น และการบันทึกจะถูกเปลี่ยนเป็นโหมดวิ่งโดยอัตโนมัติหากจุดเริ่มต้นต่างกัน

9 โปรแกรม One UI 6 Watch Beta จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ Galaxy Watch 4, Galaxy Watch 4 Classic, Galaxy Watch 5, Galaxy Watch 5 Pro, Galaxy Watch 6 และ Galaxy Watch 6 Classic ในสหรัฐฯ และเกาหลีผ่านแอป Samsung Members

AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีนี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงาน ให้ทุกการเชื่อมต่อเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น ทั้งผ่านสมาร์ทโฟน ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านกว่าพันล้านเครื่องทั่วโลก โดย AI เข้ามาปลดล็อกประสบการณ์การใช้งานให้มีความเฉพาะตัวบุคคลมากขึ้น ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและง่ายขึ้นกว่าเดิม

ซัมซุงใช้ประโยชน์จากพลังของ AI เพื่อยกระดับชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้น โดยมุ่งมั่นนำเอาเทคโนโลยีนี้มาช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่และผลักดันให้เกิดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะทำให้ชีวิตมีความเท่าเทียม ยั่งยืน และเข้าถึงโอกาสได้มากขึ้น ซึ่ง Samsung Galaxy รุ่นล่าสุดถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ AI ได้เข้าไปมีบทบาทบนมือถือในการจัดการชีวิตประจำวันของผู้ใช้ ตั้งแต่ช่วยยกระดับความคิดสร้างสรรค์ เชื่อมต่อทุกการสื่อสาร และเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิต

ในบทความนี้ นาย คาร์ล นอร์เดนเบิร์ก รองประธานและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจโมบายล์เอ็กซ์พีเรียนส์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ได้แนะนำความสามารถของฟีเจอร์ AI ที่บอกว่าทำไมวันนี้ AI ถึงสามารถเข้ามาเปลี่ยนให้ชีวิตและการทำงานง่ายขึ้นกว่าเดิม

พลัง AI บนมือถือเปลี่ยนชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คิด

ปัจจุบันผู้คนสามารถก้าวข้ามอุปสรรคทางภาษาได้ง่ายกว่าเดิมผ่านฟีเจอร์แปลภาษา Live Translate ที่ใช้ AI ช่วยให้พูดคุยแบบเรียลไทม์ได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ ไม่ว่าจะคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานจากทั่วโลก หรือถ้าใครกำลังมองหาแรงบันดาลใจดี ๆ Generative Edit พร้อมช่วยปรับเนรมิตรูปภาพให้สวยได้ง่าย ๆ เช่น เปลี่ยนพื้นหลัง ลบองค์ประกอบที่ไม่ต้องการ และปรับภาพให้ดูสวยสมบูรณ์แบบด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว และสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น Circle to Search with Google ตอบโจทย์ทุกความสงสัยให้การค้นหาง่ายขึ้น เพียงแค่วงภาพที่อยากรู้บน Galaxy ก็ค้นพบทุกคำตอบที่ตามหา ไม่ว่าจะเป็นแลนด์มาร์กสวยตรึงตาในภาพถ่ายเก่า ๆ หรือเสื้อสุดน่ารักที่ไอดอลคนโปรดใส่ในวิดีโอที่เห็นบน YouTube

ขยายขีดความสามารถของฟีเจอร์ Galaxy AI ไปบนอุปกรณ์ Galaxy อื่น ๆ

ซัมซุงมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่องด้วย Galaxy AI และทำให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงได้ง่ายผ่านการอัปเดต One UI 6.1 ตัวใหม่ เพื่อให้ซัมซุงขยายขีดความสามารถของ Galaxy AI ไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น โดยเริ่มจาก Galaxy S24 Series รุ่นใหม่ล่าสุด และปรับให้สามารถใช้งานได้ดีขึ้นบนอุปกรณ์ Galaxy อีกหลายรุ่น เช่น Galaxy S23 Series, Galaxy S22 Series, Galaxy S23 FE, Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Fold4, Galaxy Z Flip5, Galaxy Z Flip4, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Tab S8 Series

เร่งอัปเดต Galaxy AI ให้รองรับภาษาได้มากขึ้น

นอกเหนือจากการทำให้ฟีเจอร์พร้อมใช้งานบนอุปกรณ์หลายรุ่นแล้ว ซัมซุงยังต้องการให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์จาก Galaxy AI มากขึ้น โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ที่มีผู้ใช้พูดภาษาถิ่นอย่างบาฮาซา อินโดนีเซีย, อังกฤษ (ออสเตรเลีย) และกวางตุ้ง ให้สามารถดาวน์โหลดภาษาถิ่นที่รองรับเพิ่มเติมบน Galaxy AI ได้ ช่วยยกระดับการสื่อสารภาษาอื่นให้ดีขึ้น นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ จีน ไทย และเวียดนามที่ Galaxy AI รองรับอยู่แล้ว

การใช้ภาษาอินโดนีเซียกับ Galaxy AI

ทดสอบฟีเจอร์ Galaxy AI บนแอป Try Galaxy

สามารถทดลองใช้ฟีเจอร์สุดว้าวเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์ ผ่านแอป Try Galaxy ที่ออกแบบมาให้สามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้บนอุปกรณ์ Android ใดก็ได้ รวมถึงบน Galaxy รุ่นเก่า โดย Try Galaxy จะช่วยให้ผู้ใช้ Galaxy ได้เรียนรู้ฟังชันการใช้งานอื่น ๆ เช่น การเชื่อมต่อกับหลายอุปกรณ์โดยไม่สะดุด การแชร์ไฟล์ และการดูข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายผ่าน Samsung Health

อนาคตเป็นของ AI บนมือถือ

ซัมซุงเชื่อมั่นในศักยภาพของ AI และเทคโนโลยีมือถือที่จะมาปฏิวัติชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น โดยเป้าหมายในปี 2567 นี้ ซัมซุงต้องการนำ Galaxy AI ให้เข้าถึงผู้ใช้อีกกว่า 100 ล้านคน เพื่อให้สอดรับกับยุคแห่ง AI ที่สมาร์ทโฟนได้ก้าวข้ามการสื่อสารธรรมดาไปสู่การยกระดับความคิดสร้างสรรค์ และสร้างความเป็นไปได้ที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ซัมซุงเชื่อว่า AI บนมือถือจะเป็นคำตอบแห่งอนาคต ประกอบกับความพร้อมและความล้ำสมัยของอุปกรณ์ Galaxy ทำให้ซัมซุงอยากเห็นผู้ใช้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียกล้าฝัน กล้าลงมือทำ และบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้จากการใช้ Galaxy AI อันทรงพลัง

ซัมซุงคว้ารางวัลชนะเลิศ จาก Thailand Social Awards ครั้งที่ 12 ในกลุ่มรางวัล Best Brand Performance on Social Media หรือ แบรนด์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย สาขากลุ่มธุรกิจ Mobile ได้รางวัลติดต่อกันมา 5 ปีซ้อน โดยการได้รับรางวัลนี้เป็นหลักฐานยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จของซัมซุงในการใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์รวมถึงโซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์และมีประโยชน์

มากไปกว่านั้นซัมซุงยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของโซเชียลมีเดียที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และจะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์การสื่อสารที่เป็นประโยชน์รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยซัมซุงไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นแบรนด์ที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง

ซัมซุงเปิดงานซัมซุง AI ฟอรัม 2023 เพื่อเป็นพื้นที่นำเสนอความก้าวหน้าล่าสุดด้าน AI และวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างเทคโนโลยี เซมิคอนดักเตอร์ในยุคต่อไปของ ซัมซุง

โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 1,000 คน

งานวันแรกของฟอรัมจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ที่ศูนย์ประชุมซูวอน จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลี โดยจัดภายใต้หัวข้อหลัก “Large-scale AI for a better tomorrow” โดยมีสถาบันเทคโนโลยีขั้นสูงของซัมซุง SAIT (the Samsung Advanced Institute of Technology) เป็นเจ้าภาพ ในขณะที่งานวันที่สองนั้น จัดขึ้นโดยมีซัมซุงรีเสิร์ชเป็นเจ้าภาพ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาของซัมซุงในกรุงโซล ประเทศเกาหลี

คเย ฮยุน คยุง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแผนกโซลูชันอุปกรณ์ ซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ กล่าวในตอนหนึ่งของคำกล่าวเปิดงานว่า “ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เทคโนโลยี Generative AI เป็นสิ่งที่กำลังถูกจับตามอง เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ช่วยเสริมศักยภาพให้เราสามารถค้นพบโซลูชันใหม่ๆ หรือแก้ไขอุปสรรคที่แก้ไขไม่ได้มานาน อย่างไรก็ดีความต้องการในการวิจัยเชิงลึกทั้งด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และความยั่งยืนของ AI นั้นก็เพิ่มสูงขึ้นไปพร้อมกันด้วย”

ผู้พูดหลักในงาน SAIF 2023 จากซ้ายไปขวา; ศาสตราจารย์โยชัว เบนจิโอ มหาวิทยาลัยมอนทรีออล,คเย ฮยุน คยุง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แผนกโซลูชันอุปกรณ์ ซัมซุงอิเลคโทรนิคส์, จิม เคลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทนส์ทอร์เรนท์

งานในวันแรกนั้นได้พูดถึงสองหัวข้อหลัก ดังนี้ ความปลอดภัยของ AI โดยศาสตราจารย์โยชัว เบนจิโอ จากมหาวิทยาลัยมอนทรีออล เสนอแนวทางการใช้การเรียนรู้ของเครื่องจักรเพื่อปกป้องโมเดลภาษาขนาดใหญ่ไม่ให้พัฒนาไปสู่ทิศทางที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้พัฒนา และการพัฒนาสารกึ่งตัวนำโดยใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดย จิม เคลเลอร์ ประธาน

เจ้าหน้าที่บริหารของเทนส์ทอร์เรนท์ เสนอแนวทางการใช้สถาปัตยกรรมชุดคำสั่งระบบเปิด (open instruction set architecture) สำหรับหน่วยประมวลผลประเภท RISC-V เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์ของ AI

ในงานวันที่สองนั้นมีทีมงานของซัมซุงรีเสิร์ชเป็นผู้นำและมี Generative AI เป็นหัวใจหลักของงาน การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี Generative AI ถือเป็นการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ที่คาดหมายกันว่าจะปรับเปลี่ยนทั้งวิถีชีวิตและการทำงาน จึงได้มีการจัดฟอรัมที่มีผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากหลากหลายอุตสาหกรรมและจากแวดวงวิชาการมาร่วมอภิปรายแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนา นำเสนอเทรนด์ล่าสุดทางเทคโนโลยี และซัมซุงเกาส์ โมเดล Generative AI ที่พัฒนาโดยซัมซุงรีเสิร์ช

“เรายังคงมุ่งมั่นสนับสนุนและร่วมมือทางด้าน Generative AI กับทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ” แดฮยุน คิม รองประธานบริหารของศูนย์ AI สากล ซัมซุงรีเสิร์ช (the Samsung Research Global AI Center) กล่าวในตอนหนึ่งของคำกล่าวเปิดงาน

ในช่วงการอภิปรายช่วงแรกของภาคเช้า ดร. ฮยุง วอน ชุง จาก OpenAI บริษัทวิจัยและประยุกต์ใช้ AI อธิบายถึงกระบวนการทำงานของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (large language models - LLMs) ในช่วงหนึ่งของคำกล่าวหัวข้อ “โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (ในปี 2023)” อีกทั้งยังกล่าวถึงอุปสรรคที่ OpenAI พบในแต่ละขั้นตอน และยังคาดการณ์ทิศทางในอนาคต ตามด้วย

เจสัน เหว่ย นักวิจัยของ OpenAI และผู้เขียนบทความวิจัยเรื่อง “ห่วง-โซ่-ความคิด Chain-of-Thoughts” นำเสนอถึงเหตุผลที่โมเดลภาษาขนาดใหญ่จะช่วยผลักดันการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ด้านAI ในการนำเสนอหัวข้อ “กระบวนทัศน์ใหม่ในยุครุ่งเรืองของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ - New Paradigms in the Large Language Model Renaissance.”

นอกจากนี้ ฮองซุก เซา ศาสตราจาย์จากมหาวิทยาลัยเกาหลี ขึ้นกล่าวในหัวข้อ “ก้าวสู่ AI แบบมัลติโมเดลที่สนทนาได้ -- Towards multimodal conversational AI.” โดยนำเสนอเทรนด์ต่างๆ ด้าน AI แบบมัลติโมเดล ซึ่งสามารถประมวลผลข้อมูลหลากหลายประเภท รวมไปถึงข้อความและภาพได้พร้อมกัน

ซึง วอน ฮวาง ศาสตราจาย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ได้นำเสนอกระบวนการค้นหาและกระบวนการสร้างโค้ดที่มีประสิทธิภาพโดยมีรากฐานจาก Generative AI โดยมีทีมของ ศาสตราจาย์กุนแฮ ร่วมสาธิตการใช้กระบวนการมัลติโมเดลเพื่อช่วยกระบวนการการให้เหตุผลเชิงปริภูมิ (spatial reasoning)

ร่วมด้วยศาสตราจาย์มินจอน โซ จากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเกาหลี (the Korea Advanced Institute of Science and Technology -- KAIST) แนะนำเกี่ยวกับขีดความสามารถทางการประเมินผลแบบละเอียดที่อยู่ในโมเดลภาษาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีทีมงานนำโดย ศาสตราจาย์จองฮยุน ชอย จากมหาวิทยาลัยยอนเซ ขึ้นกล่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีการเปลี่ยนข้อความเป็นภาพ ซึ่งใช้เทคโนโลยีเพื่อทำความเข้าใจบริบทในหลากหลายประโยคที่ยาวและซับซ้อนให้เป็นภาพ

ผู้ร่วมงานจะได้รับชมการนำเสนอซัมซุงเกาส์และเทคโนโลยี AI ซึ่งโมเดลปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุงประกอบด้วยส่วน โมเดลภาษา (Samsung Gauss Language) โมเดลโค้ด (Samsung Gauss Code) และโมเดลด้านภาพ (Samsung Gauss Image) โดยชื่อซัมซุงเกาส์มาจากชื่อของคาร์ล ฟริดริช เกาส์ นักคณิตศาสตร์ระดับตำนานผู้คิดค้นทฤษฎีการแจกแจงแบบปกติ (normal distribution theory) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการเรียนรู้ด้วยเครื่องจักรและAI การใช้ชื่อซัมซุงเกาส์ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์สูงสุดของซัมซุงสำหรับโมเดล AI เหล่านี้ โดยใช้ปรากฎการณ์และความรู้ทั่วมาช่วยยกระดับวิถีชีวิตของผู้บริโภคทั่วโลก

โมเดลภาษา (Samsung Gauss Language) เป็นโมเดล Generative ด้านภาษาที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานโดยช่วยเสริมการทำงานต่างๆ เช่น การเขียนอีเมล สรุปเอกสาร และแปลเนื้อหา นอกจากนี้ เมื่อผสานโมเดลนี้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ โมเดลนี้ยังช่วยเสริมประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคโดยช่วยให้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้แบบอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น

โมเดลโค้ด Samsung Gauss Code และระบบช่วยโค้ด (code.i) ทำงานโดยใช้โมเดลซัมซุงเกาส์ โค้ดเป็นพื้นฐานเพื่อพัฒนาสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของซัมซุง โมเดลนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเขียนโค้ดได้ง่ายและเร็วขึ้น โมเดลนี้รองรับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การอธิบายโค้ด และการสร้างกรณีทดสอบต่างๆ โดยใช้ส่วนประสานผู้ใช้แบบอินเตอร์แอคทีฟ

โมเดลด้านภาพ Samsung Gauss Image เป็นโมเดล Generative ด้านภาพที่สามารถสร้างและแต่งภาพแบบครีเอทีฟได้ รวมถึงการเปลี่ยนสไตล์และแต่งเติมสิ่งต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนภาพจากความละเอียดต่ำให้สูงขึ้นได้

ปัจจุบันซัมซุงนำซัมซุงเกาส์ มาใช้เพื่อเพิ่มผลิตภาพให้กับพนักงาน และพร้อมจะขยายการใช้งานไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ ซัมซุงเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ ในอนาคตอันใกล้

ซัมซุงไม่เพียงแต่พัฒนาเทคโนโลยี AI แต่ยังพัฒนาโครงการต่างๆ ที่จะช่วยให้การใช้AIเป็นสิ่งที่ปลอดภัย โดยทีมเอไอเรดทีม (AI Red Team) ของซัมซุงจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำจัดหรือติดตามภัยคุกคามทั้งด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในกระบวนการพัฒนาทุกขั้นตอน ทั้งการรวบรวมข้อมูลไปจนถึงการพัฒนาโมเดล AI การเริ่มประยุกต์ใช้โมเดล และผลลัพธ์ที่มาจาก AI โดยคำนึงถึงหลักการจริยธรรมด้าน AI

Page 1 of 4
X

Right Click

No right click