เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ หมายเลขทะเบียน บก 1499 สะหวันนะเขต ซึ่งจ้างเหมาโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด 789 รุ่งเรือง (กาฬสินธุ์) เพื่อพานักท่องเที่ยวชาวไทยจากจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดขอนแก่น จำนวน 24 คน เดินทางกลับจากการท่องเที่ยวที่จังหวัด เว้ห์ ดานัง ฮอยอัน ซึ่งเป็นจังหวัดในภาคกลางของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยรถแล่นมาตามถนนหมายเลข 9 ใกล้กับโรงงานน้ำตาล บ้านเหลียนไช เมืองอาจสะพังทอง แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เกิดอุบัติเหตุชนประสานงากับลูกพ่วงของรถบรรทุกพ่วงอย่างแรง เป็นเหตุทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเสียชีวิต 3 ราย นักท่องเที่ยวชาวลาว 2 ราย นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 1 ราย และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยบาดเจ็บจำนวน 18 ราย โดยถูกนำส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมุกดาหาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 นั้นเบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดมุกดาหาร ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยและครอบครัว เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด 789 รุ่งเรือง (กาฬสินธุ์) ทำประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (แบบพิเศษ) ไว้กับ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 สิ้นสุดวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 โดยกรมธรรม์ดังกล่าว มีความคุ้มครองจากการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือ ทุพพลภาพสิ้นเชิง อบ. 1 จำนวน 1,000,000 บาท และการค่ารักษาพยาบาลต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งต่อคน ต่อระยะเวลาเดินทางไม่เกินวงเงิน จำนวน 500,000 บาท
สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้ง 3 ราย ในเบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 1,000,000 บาท ในส่วนของผู้บาดเจ็บ 18 ราย ที่ถูกนำส่งเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. จังหวัดมุกดาหาร ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลดังกล่าว พร้อมประสานบริษัทเมือง ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่ออำนวยความสะดวก และรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาล โดยผู้บาดเจ็บไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาตัวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ทุกประการ
ในส่วนของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น 2 ราย และจังหวัดกาฬสินธุ์ 1 ราย
ทางสำนักงาน คปภ. จังหวัดมุกดาหาร ได้ประสานไปยังสำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น และสำนักงาน คปภ.จังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลพื้นที่ดังกล่าว ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และเร่งประสานบริษัทประกันภัยเพื่อพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างเร่งด่วน สำหรับนักท่องเที่ยวชาวลาว 2 ราย และนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 1 ราย ที่เสียชีวิต ได้ประสานบริษัทฯ เพื่อตรวจสอบสิทธิว่าจะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์หรือไม่ต่อไป
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและมีความห่วงใยต่อผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และพร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และกับทุกคน โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด จึงขอให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทำประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย