นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร มีคู่ค้าที่ผลิตวัตถุดิบและสินค้าต่างๆ กว่า 10,000 ราย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตและส่งมอบอาหารคุณภาพ ปลอดภัยให้ผู้บริโภคได้ต่อเนื่อง ขอขอบคุณธนาคารกรุงเทพที่ร่วมมือในโครงการ "CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง...เคียงข้างคู่ค้า" เพื่อสนับสนุนคู่ค้าของ CPF ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนดีขึ้น สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของจำนวนคู่ค้าทั้งหมด เป็นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสน้อยในการเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ช่วยให้เติบโตและยกระดับเป็นผู้ผลิตขนาดใหญ่ในอนาคต
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกันพัฒนาและต่อยอดความร่วมมือกับ CPF เพื่อสนับสนุนคู่ค้าให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำ สำหรับใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ผ่านบริการสินเชื่อหมุนเวียนของธนาคารกรุงเทพ โดยธนาคารได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาและระบบงานดิจิทัลเข้ามาช่วยสนับสนุนให้คู่ค้าสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งการสนับสนุนผู้ประกอบการให้ฟื้นธุรกิจกลับมาได้อย่างเข้มแข็งอีกครั้ง ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของธนาคารกรุงเทพในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” ที่อยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์ และพร้อมสนับสนุนบริการทางการเงินอย่างครบวงจรให้แก่ผู้ประกอบการและห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ด้านนายพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวธนาคารได้ออกแบบสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับคู่ค้าของ CPF ให้วงเงินสูง อนุมัติไว ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ลูกค้าสามารถเบิกใช้วงเงินได้ง่าย ชำระคืนได้ทุกวัน และตรวจสอบวงเงินสินเชื่อผ่านออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงจัดการให้สอดคล้องกับสภาพคล่องของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและเบาใจเรื่องภาระดอกเบี้ย
นางสาวธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า โครงการ "CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง...เคียงข้างคู่ค้า" เป็นโครงการต่อยอดจากโครงการ Faster Payment ที่ซีพีเอฟดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นมา โดยลดระยะเวลาเครดิตเทอมภายใน 30 วัน ช่วยเหลือคู่ค้า SME จำนวน 6,000 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ได้มีเงินหมุนเวียนใช้ในการดำเนินธุรกิจได้เร็วขึ้นและต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการ SME พึงพอใจมาก เพราะช่วยให้คู่ค้า SME สามารถนำเงินไปต่อยอดธุรกิจได้เร็วขึ้น มีความเข้มแข็งทางการเงิน ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
นอกจากนี้ CPF ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับขีดความสามารถคู่ค้าสามารถปรับตัวรับสถานการณ์ปัจจุบัน ดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยซีพีเอฟ ร่วมกับ ภาครัฐ และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ถ่ายทอดความรู้เพื่อให้คู่ค้าได้พัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานสู่มาตรฐานสากล ทั้งด้านแรงงาน ความปลอดภัยและสุขอนามัยในกระบวนการผลิตและสถานที่ทำงาน การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้คู่ค้าเติบโตเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ขึ้น หรือยกระดับเป็นผู้ผลิตระดับประเทศและระดับโลกต่อไป./