EXIM BANK คว้ารางวัล Best Green Bond จาก The Asset Triple A Awards for Sustainable Finance 2024 จัดโดยนิตยสาร The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชีย จากการเสนอขายพันธบัตรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อ SMEs (SME Green Bond) อายุ 3 ปี มูลค่า 3,500 ล้านบาท ในปี 2566 ที่ผ่านมา ภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance Framework) เพื่อระดมทุนไปใช้สนับสนุนสินเชื่อแก่ธุรกิจ SMEs ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้พลังงานสะอาด ตอกย้ำบทบาทการเป็นผู้นำด้านการเงินสีเขียว เติมเต็ม Green Finance Ecosystem ให้ครบวงจรมากขึ้น

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า รางวัล Best Green Bond ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ในการเดินหน้าสู่บทบาท “Green Development Bank” ด้วยการเติมเงินทุนสีเขียวให้กับผู้ประกอบการไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ EXIM BANK ที่มุ่งเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนของไทยให้เติบโตในเวทีโลกอย่างยั่งยืน โดยกำหนดแนวทางขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุวิสัยทัศน์ผ่านยุทธศาสตร์ 7S ที่ตอบโจทย์ ESG และมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดคงค้างสินเชื่อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากปัจจุบัน 35% เป็น 50% ของยอดคงค้างสินเชื่อรวมของธนาคารภายในปี 2571 สอดรับกับเป้าหมายของประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2608

“EXIM BANK ได้พัฒนาเครื่องมือทางการเงินสีเขียว โดยระดมทุนผ่าน Green Bond และ SME Green Bond มาอย่างต่อเนื่องในปี 2565-2566 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะใช้จุดแข็งและความเชี่ยวชาญของธนาคารทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนา โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ผ่านนวัตกรรมทางการเงินสีเขียว (Greenovation) เพื่อเพิ่มพอร์ตสินเชื่อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต และผลักดัน SMEs ไทยเข้าสู่ Green Supply Chain ที่เชื่อมโยงกับเวทีการค้าโลกยุคใหม่ ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสมดุลในทุกภาคส่วน” ดร.รักษ์ กล่าว

สนับสนุนนวัตกรรมสินค้าและบริการ รุกตลาด CLMV และพัฒนา EEC

ผู้ประกอบการที่สนใจขยายธุรกิจสู่ตลาดการค้าออนไลน์ระดับโลกเข้าร่วมอบรมโครงการ “The Road to Global E-Commerce 2024” ในวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 9.00-16.30 น. EXIM BANK สำนักงานใหญ่

ผู้เข้าอบรมจะได้รับการ “เติมความรู้” Global E-commerce Trends 2024 ชี้โอกาสการค้าขายออนไลน์และการเริ่มต้นธุรกิจส่งออกแบบ B2B และ B2C ช่องทางขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกกับ E-commerce Platform ระดับโลก เช่น Alibaba ซึ่งมีจำนวนสมาชิก 305 ล้านคน และ Amazon ร้านค้าปลีกออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 300 ล้านคนทั่วโลก การจัดการขนส่งสินค้า การบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ พร้อมรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อ “เติมโอกาส” ความสำเร็จบนตลาดการค้าออนไลน์ รวมทั้ง “เติมเงินทุน” เพื่อเริ่มต้นธุรกิจส่งออกจาก EXIM BANK

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ EXIM Contact Center โทร. 0 2169 9999 และติดตามข่าวสารของ EXIM BANK ได้ที่ Facebook Fanpage : EXIM Bank of Thailand และ Line Official : @EXIMThailand

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำโดย ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ EXIM BANK เข้าพบและประชุมกับหน่วยงานพันธมิตรและบริษัทลูกค้าของธนาคารในประเทศญี่ปุ่น เพื่อสานสัมพันธไมตรีและหารือแนวทางการขยายความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อต่อยอดไปสู่การขยายการค้าการลงทุนไทย-ญี่ปุ่น การจัดหาเงินทุนร่วมกัน (Co-financing) และการให้กู้ยืม (Lending) แก่ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด ซึ่งถือเป็นเป้าหมายของ EXIM BANK ที่มุ่งสู่บทบาท Green Development Bank โดยมีนายชิน โฮซากะ ปลัดกระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น นายมาเอดะ ทาดาชิ ประธานกรรมการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) และนายอัตสึโอะ คุโรดะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร องค์กรรับประกันแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEXI) ให้การต้อนรับ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเร็ว ๆ นี้

ในโอกาสนี้ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้นำเสนอทิศทางการดำเนินงานและเป้าหมายของ EXIM BANK สู่บทบาท Green Development Bank พร้อมแนวทางขยายความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการค้าและการลงทุนไทย-ญี่ปุ่น ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายของประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) โดยมุ่งเน้นแนวทางสร้าง End-to-End Supply Chain สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและการผลิตรถยนต์ เพื่อบริหารจัดการกับยานพาหนะที่หมดอายุการใช้งานแล้วในประเทศไทยต่อไป และแลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบาย Soft Power ซึ่งญี่ปุ่นใช้ตัวการ์ตูนมังงะและเกมเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ขณะที่รัฐบาลไทยมุ่งสนับสนุนการใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) รับรางวัล Leadership Excellence Award จากนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานในพิธีมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) ครั้งที่ 22 ประจำปี 2566 จัดโดยคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เพื่อมอบให้แก่ผู้บริหารองค์กรที่ยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการจนมีผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศสะท้อนความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์และโดดเด่น ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567

EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง มุ่งมั่นดำเนินพันธกิจและภารกิจ โดยสานพลังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทำหน้าที่ “มากกว่าธนาคาร” พร้อมยกระดับบทบาทสู่ Green Development Bank โดยใช้กรอบแนวคิดรางวัลคุณภาพแห่งชาติเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับการบริหารจัดการองค์กรและปรับปรุงพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กร เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันอย่างสมดุลและยั่งยืน

X

Right Click

No right click