×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 6855

TWZ มาตามนัด หลังประกาศลุยธุรกิจใหม่ ตั้งเป้าสร้างรายได้จากธุรกิจศูนย์การเรียนรู้และจัดการทดสอบด้วยระบบดิจิทัลและ AI โดยใช้ศักยภาพด้านเทคโนโลยีที่มีอยู่ ผนึกความร่วมมือกับ “ดิจิตอล เอ็ดดูเคชั่น” และมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ปรับปรุงและพัฒนาอาคาร 5 ชั้น พร้อมวางระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้านการเรียนรู้และการวัดผลประเมินผล ให้เป็นอาคารการเรียนรู้และการทดสอบรูปแบบดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ซึ่งพร้อมให้บริการแล้ว 100% ด้วยเทคโนโลยียืนยันตัวตนของผู้เรียนและผู้สอบ ระบบตรวจประเมินพฤติกรรมของผู้เรียนและผู้สอบ ระบบการป้องกันการทุจริตการสอบเต็มรูปแบบทุกมิติ เผยหน่วยรัฐและเอกชนต่อคิวใช้บริการแน่น ด้านผู้บริหาร TWZ มั่นใจธุรกิจจัดการการสอบด้วยระบบดิจิทัลยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก พร้อมทยอยรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมตั้งแต่ปลายไตรมาสแรกของปีนี้

นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า หลังจาก TWZ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมทุน (เอ็มโอยู) กับบริษัท ดิจิตอล เอ็ดดูเคชั่น จำกัด หรือ DE เพื่อขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดตั้งและบริหารศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบผ่านระบบดิจิทัล โดย TWZ จะเข้าลงทุนในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 70% ใน DE ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญทางด้านการจัดการเรียนรู้ การจัดการสอบหรือทดสอบวัดความรู้ด้วยระบบดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัย โปร่งใส ป้องกันการทุจริตในทุกรูปแบบ ได้ผลการสอบรวดเร็ว สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ซึ่งระบบนี้จะวัดผลและประเมินผลได้มากกว่าคะแนนสอบ เพราะจะทราบถึงพฤติกรรมเชิงลึกในมิติต่างๆของผู้เรียนและผู้สอบ โดยก่อนหน้านี้ DE ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือ เพื่อจัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบดิจิทัลกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ต่อมา TWZ และ DE ได้พัฒนาโครงการร่วมกันจนเกิดเป็น ศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบดิจิทัล สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร หรือ PNRU DLEx Center ซึ่งเป็นศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้านการเรียนรู้และการทดสอบที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ศูนย์ดังกล่าวมีความพร้อมเปิดให้บริการกับหน่วยงานต่างๆ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“จากที่ TWZ มองเห็นโอกาสในการเติบโตของศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบระบบดิจิทัล ซึ่งจะกลายเป็นกระแสหลักในอนาคต และได้ผนึกความร่วมมือกับ ‘ดิจิตอล เอ็ดดูเคชั่น’ หรือ DE เพื่อรุกธุรกิจการสอบด้วยระบบดิจิทัลและ AI โดยเราได้ทำสัญญาความร่วมมือเป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อพัฒนาและปรับปรุง อาคาร 13 ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ให้เป็นอาคารศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบดิจิทัลทั้ง 5 ชั้น ด้วยงบประมาณในการปรับปรุงและวางระบบต่างๆ กว่า 100 ล้านบาท” นายพุทธชาติกล่าว

สำหรับจุดเด่นของศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบนี้ นอกจากจะเป็นศูนย์สอบที่มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับจำนวนผู้เข้าสอบจำนวนถึง 2,165 ที่นั่ง ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย โดยศูนย์สอบมีจุดลงทะเบียนที่ทันสมัย รวดเร็ว แม่นยำ โดยการนำตู้บริการอัตโนมัติ (kiosk) มาใช้สำหรับการยืนยันตัวตนผู้เข้าสอบ แจกบัตรเลขที่นั่งสอบและคีย์การ์ดตู้ล็อคเกอร์ฝากของสำหรับผู้เข้าสอบ มีระบบตรวจนับจำนวนคนและยืนยันตัวบุคคลผู้เข้าออกเพื่อความสะดวกและปลอดภัย รวมถึงมีระบบการประเมินพฤติกรรมของผู้เรียนและผู้เข้าสอบเพื่อป้องกันการทุจริตและประเมินผลการเรียนรู้ในมิติต่างๆ เชิงลึก ด้วยการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดระบบ AI ที่สามารถตรวจความผิดปกติต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในอาคารกระจายครอบคลุมทุกจุด มีระบบซอฟต์แวร์ที่สามารถควบคุมและแยกแยะผู้เรียนและผู้เข้าสอบแต่ละบุคคลได้ มีระบบการสำรองไฟฟ้า ระบบเตือนภัยที่ได้มาตรฐาน รวมถึงระบบให้บริการทางการแพทย์ที่เหมาะสม และสามารถเดินทางสะดวกด้วยบริการรถไฟฟ้าและรถสาธารณะผ่านหลายสาย

นอกจากนี้ ยังมีการนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่ออกแบบมาสำหรับการสอบและการเรียนการสอนโดยเฉพาะ ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 หน้าจอขนาด 15 นิ้ว และออกแบบพัฒนา Software เพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้านการเรียนรู้และการทดสอบในมิติต่างๆ โดยเฉพาะด้านการตรวจสอบพฤติกรรมการเรียนรู้และการทดสอบ เพื่อเป็นฐานข้อมูลนำมาใช้ฝึกสอนระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งกล่าวได้ว่า อาคารที่พัฒนาขึ้นนี้เป็นอาคารปัญญาประดิษฐ์เพื่อการเรียนรู้และการวัดผลประเมินผลแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย

“ศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบดิจิทัล สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร หรือ PNRU DLEx Center เป็นศูนย์สอบที่ได้มาตรฐานสูง ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ) ได้มอบความไว้วางใจและเลือกใช้บริการ โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคม ทางศูนย์ฯ ได้เริ่มเปิดเป็นสนามสอบวัดความรู้ทั่วไป (ภาค ก.) สำนักงาน ก.พ. โดยมีผู้ที่มาเข้าสอบจำนวนกว่า 10,000 คน มากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และยังจะเปิดเป็นสนามสอบให้กับอีกหลายๆ หน่วยงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายได้หลักจากธุรกิจนี้จะมาจากค่าธรรมเนียมการสอบ การฝึกอบรมและหลักสูตรต่างๆ โดยคาดว่าจะคืนทุนภายในระยะเวลา 2-3 ปี และมั่นใจว่าธุรกิจนี้จะสร้างความแข็งแกร่งและความท้าทายใหม่ให้กับ TWZ ในอนาคตอย่างแน่นอน” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น กล่าว

บรรยายภาพ

นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (ซ้าย) และ ดร.ฉัตรภัฏณ์ เลิศวิริยะภากร กรรมการบริษัท ดิจิตอล เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (ขวา) ร่วมเปิดตัว ศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบดิจิทัลสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร หรือ PNRU DLEx Center ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้และการทดสอบด้วยระบบดิจิทัล มีระบบปัญญาประดิษฐ์(AI)ที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย

นายพุทธชาติ รังคสิริ (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการลงนามในสัญญาสนับสนุนการวิจัยเรื่องการศึกษาสภาวะการให้แสงที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชกัญชงในโรงเรือน ระหว่าง นายสกล ปวิตรานนท์ (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการ บริษัท ซีบีดี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CBD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TWZ กับศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอำรุง (ที่ 3 จากซ้าย) คณบดีสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร ในนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ณ โครงการวิจัยและพัฒนากัญชาคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ มทส. สวนเกษตรเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา บรมราชกุมารี

สำหรับการวิจัยดังกล่าว จะทำการศึกษาสภาวะการให้แสงที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชกัญชงพันธุ์ Charlotte’s angel เพื่อใช้เป็นตัวแทนในการทดลอง เนื่องจากกัญชงพันธุ์ดังกล่าว สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ให้สาร CBD ในปริมาณสูงและสาร THC ในปริมาณต่ำ เหมาะแก่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ อีกทั้งพืชกัญชงยังได้รับความสนใจจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเวชภัณฑ์ยา กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเครื่องดื่มและอาหารเสริม (Super Food) กลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษ กลุ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอเสื้อผ้า เป็นต้น โดยคณะผู้วิจัยมีความสนใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยี LED เพื่อการปลูกพืชกัญชงที่ โดยมุ่งเน้นการทดลองหา

อัตราส่วนระหว่างแสงที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชกัญชงในโรงเรือน เพื่อส่งเสริมการปลูกกัญชงในเชิงพาณิชย์และการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โดยมีระยะเวลาในการศึกษาวิจัยรวม 8 เดือน

ทั้งนี้ บริษัท ซีบีดีฯ  ซึ่งบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท TWZ ที่ลงทุนในธุรกิจ กัญชง กัญชา ได้สนับสนุนด้านงบประมาณ รวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยี LED ให้กับ มทส. ในการทำวิจัย ซึ่งผลของการวิจัยสามารถไปเพิ่มผลประโยชน์ต่างๆ มากมายได้จริง โดยบริษัท ซีบีดีฯ และ มทส.จะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในลิขสิทธิ์ สิทธิบัตรจากการศึกษาวิจัยโครงการนี้ และพร้อมให้บริษัท ซีบีดีฯ เตรียมต่อยอดผลวิจัยออกไปในเชิงพาณิชย์แต่เพียงผู้เดียวในผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี LED ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกพืชกัญชงกัญชาในประเทศไทยต่อไป

ปัจจุบัน บริษัท ซีบีดีฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย อุปกรณ์เทคโนโลยี LED เพื่อการเพาะปลูก กัญชง และกัญชา โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มเกษตรและบริษัทเอกชน ผู้ขออนุญาตผลิต (ปลูก) พืชกัญชง กัญชาเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม กับทาง อย. โดยได้รับอนุญาตแล้ว 1,255 ราย เป็นเนื้อที่รวมกว่า 1 หมื่นไร่มีโอกาสที่จะใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มผลผลิต เบื้องต้นมีผู้ที่สนใจและติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อแล้ว โดยบริษัท ซีบีดีฯ สามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีในไตรมาสแรกของปี 2565 เป็นเงิน 50 ล้านบาท และบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขาย อุปกรณ์เทคโนโลยี LED  ไม่น้อยกว่า 10,000 ชุด ในปี 2565 รวมเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท พร้อมกับเดินหน้าพัฒนาความร่วมมือกับผู้ผลิตตั้งโรงงานในประเทศไทยในอนาคต

TWZ ร่วมกับ ‘เอเอ ไบโอ’ ตั้งบริษัท สยาม เมดิคอล แคนนาบิส จํากัด

X

Right Click

No right click