นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ ได้เปิดเผยถึงมติจากที่ประชุมกรรมการบริษัทในเรื่องที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 990.66 ล้านบาท เป็น 1,651.11 ล้านบาท โดยจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 6,604.45 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นมูลค่า 660.45 ล้านบาท จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเดิมในสัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นใหม่ระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2564 โดยจะขอมติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่กำหนดประชุมในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น
บริษัทฯ ได้ชี้แจงพิ่มเติมว่า เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้ในโครงการที่อยู่ในแผนของบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วย โครงการพัฒนาธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โครงการพัฒนาธุรกิจสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) ซึ่งประกอบด้วย การให้สินเชื่อประเภทลีสซิ่ง สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อเช่าซื้อ นอกจากนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนสำรองสำหรับการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่บริษัทฯ ซึ่งหมายถึงธุรกิจอื่นๆ ที่มีอัตราการเติบโตสูงในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น ขณะที่เงินจากการเพิ่มทุนบางส่วนจะถูกนำไปชำระหนี้ธุรกิจเดิม ได้แก่ ธุรกิจการเป็นผู้จัดจำหน่ายซื้อขายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมถึงนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น เพื่อลดภาระดอกเบี้ยสำหรับธุรกิจเดิม เพื่อให้ธุรกิจสามารถฝ่าวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปได้ภายใต้ต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม
“TWZ มองหาโอกาสใหม่ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาเราเปิดตัวโครงการรถยนต์ไฟฟ้าให้เช่าระยะยาว ผ่านการถือหุ้นในบริษัท สกายเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท อีวี สมาร์ท เมเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัท สกายเวลล์ ลีสซิ่ง จำกัด โดยมีพันธมิตร ได้แก่ บริษัท ดีจริง ออโต้ ที่มีความเข้มแข็งทั้งฐานลูกค้ารถยนต์ให้เช่าและฐานการเงินที่แข็งแกร่งเข้ามาสนับสนุน ซึ่งในส่วนของสกายเวลล์ ลีสซิ่ง ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) นั้น นอกจากจะให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อแล้ว เรายังมีแผนจะให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งโครงการเหล่านี้มีพัฒนาการตามแผนที่เราวางไว้ โดยคาดว่าจะดำเนินการภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้” นายพุทธชาติกล่าว
ประธานกรรมการ TWZ กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนอื่นๆ สำหรับการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดและจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมทุนกับโรงงานผลิตถุงมือยางและคู่ค้า (เทรดเดอร์) ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้คณะกรรมการบริหารเข้าศึกษาความไปได้ของโครงการ ตลอดจนศึกษาแนวทางป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หากได้ข้อสรุปจากการศึกษา บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 300 ล้านบาทเพื่อวางมัดจำ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาเท่านั้น
“ต้องยอมรับว่า ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้เราต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงในลักษณะพลิกโฉมหรือ Transformation ด้วยการสร้างโมเดลที่มีศักยภาพสูงมากพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจได้ จากเดิมที่ผลประกอบการของบริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายซื้อขายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมากส่งผลให้อัตรากำไรค่อนข้างต่ำ เมื่อเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบกับกิจกรรมหลักของธุรกิจ ขณะที่ช่องทางขายแบบเดิมก็ได้รับผลกระทบ บริษัทฯ จึงได้ส่งทีมงานพัฒนาธุรกิจร่วมกันหาแนวทางในการขยายกิจการเข้าสู่ธุรกิจอื่นที่มีการเติบโตสูง ซึ่งการตัดสินใจลงทุนจะเป็นไปอย่างรอบคอบและอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสม ทั้งอัตราผลตอบแทนและความคุ้มค่าของเงินลงทุน เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน” ประธานกรรมการ TWZ กล่าว