February 23, 2025

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) มหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีรากฐานการศึกษาแข็งแกร่งในการผลิต วิชาชีพครูชั้นสูงแห่งแรกแห่งเดียวในประเทศไทย กับปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 76 ของมหาวิทยาลัย ภายใต้ปรัชญา “Education is Growth การศึกษาคือความเจริญงอกงาม”  ล่าสุด รองศาสตราจารย์ ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) คนใหม่ กล่าวว่า“ผมตั้งใจจะพัฒนามหาวิทยาลัย ให้ตอบโจทย์สังคมและทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อเตรียมตัวให้นิสิตจบออกไปเป็นบัณฑิตที่พร้อมทั้งด้านวิชาการและเป็นผู้ที่เห็นคุณค่าแก่สังคม พร้อมพัฒนามหาวิทยาลัยทั้งด้านกายภาพ และพัฒนาคุณภาพ การศึกษาให้ก้าวหน้าในระดับสากลด้วยแนวคิดเชิงรุก “Learning University for Society”  LOVES SWU Growth for All” โดยแต่ละประเด็นในการพัฒนาแต่ละด้าน มีรายละเอียดดังนี้    

 

L Lifelong Learning  มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการพัฒนาหลักสูตรนานาชาติ กับแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ผ่านการร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงศูนย์กลางทางวิชาการเพื่อสังคม (SWU Scholar Hub for Society) มีคณาจารย์และนักวิชาการในฐานะผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ต่าง ๆ ที่สามารถสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางความรู้ให้กับสังคมไทย มศว พร้อมที่จะให้นักข่าวมาสัมภาษณ์อาจารย์และนักวิชาการในมหาวิทยาลัยเพื่อคืนความรู้สู่สังคม และ Excellent Center ศูนย์กลางนักวิชาการระดับสากลทั้งในไทยและต่างประเทศ และการส่งเสริมและสนับสนุนนิสิตที่มีศักยภาพให้กลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย (One Faculty, One Teacher)

O   Opportunity โอกาสของทุกคน ผู้เรียนนิสิตให้ทุนการศึกษา ให้สวัสดิการต่างๆ ผลักดันนิสิตสู่การเป็นพลเมือง (Global Citizen) และมี Societal Mindset ให้เด็กเห็นคุณค่าสังคมพร้อมออกสู่สังคมอย่างมีความสุข และสานพลังเสริมศักยภาพในระดับนานาชาติ กับการทำความร่วมมือกับสถาบันต่าง ๆ ที่เสริมสร้างศักยภาพนิสิตและคณาจารย์

V    Value Added ยกระดับคุณค่าขององค์กร พื้นที่การเรียนรู้แห่งอนาคต AI UNIVERSITY และ SWU Holding Company กับการบริหารการลงทุนเพื่อนำองค์ความรู้มาสร้างนวัตกรรมอย่างมืออาชีพ พัฒนางานวิจัยที่ตอบโจทย์รัฐบาลและทิศทางของโลก

E    Environment กับแนวคิด พื้นที่ของทุกคนเพื่อทุกคน University for all ปรับภูมิทัศน์ให้เป็น Universal Design รองรับการใช้พื้นที่สำหรับคนทุกแบบ และเพิ่มศักยภาพ Green University รวมถึง Health and Well-being areas

S Social Engagement พันธกิจสัมพันธ์เพื่อสังคม มศว มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมร่วมผลักดัน  มหาวิทยาลัยเข้าสู่มาตรฐาน ESG โดยการบริการวิชาการสู่สังคม  (OFOC – One Faculty, One Community) 1 คณะ 1 ชุมชน, อโศก โมเดล และ องครักษ์ โมเดล กับการส่งเสริมสุขภาวะทั้งกายและใจ เช่น เปิดพื้นที่การออกกำลังกาย การใช้สนามในการวิ่ง ทำกิจกรรม มีการจัดสอนโยคะ ทุกวันจันทร์และพุธ ช่วง 17.00 และแอโรบิกเพื่อสุขภาพ ทุกเย็นวันอังคารและพฤหัสบดี ณ ลาน 400 ล้าน อาคารนวัตกรรมศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี เริ่ม 17:30 เป็นต้นไป และ เซิร์ฟสเก็ต สเก็ตบอร์ด ทุกเย็นวันพุธ ณ บริเวณลานเล่นล้อ เริ่ม 16:30 เป็นต้นไป

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “มศว” เป็นมหาวิทยาลัยแห่งการเรียนรู้เพื่อสังคมที่มีรากฐานแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำทางการศึกษาในการผลิตครูและวิชาชีพครูชั้นสูงมาถึงวันนี้และเป็นสถาบันการศึกษาที่บ่มเพาะและสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อผลิตคนดีและคนเก่งสู่การรับใช้สังคม

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ผลักดันหลักสูตรสะเต็มกำลังสอง (STEM²) “ถ้าพรุ่งนี้…ไม่มีไฟฟ้า” แก่นักเรียนชั้น ม.ต้น ในโรงเรียนหลายร้อยแห่ง หวังให้เด็กรุ่นใหม่ เข้าใจสถานการณ์ปัญหาพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย

ที่ผ่านมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตรศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) จัดการประกวดผลงานนักเรียน การพูดเชิงสร้างสรรค์ ElectricTalk ในหัวข้อ “เราจะมีพลังงานไฟฟ้าใช้อย่างยั่งยืนได้อย่างไร” ซึ่งกิจกรรมพูดเชิงสร้างสรรค์เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในหลักสูตรสะเต็มกำลังสอง ถ้าพรุ่งนี้…ไม่มีไฟฟ้า มีนักเรียนส่งผลงานทั้งหมด 18 ผลงาน คณะกรรมการได้คัดเลือกผลงาน 6 ทีมเข้ารอบตัดสิน ได้แก่ทีมจากโรงเรียนน้ำพองศึกษา จ.ขอนแก่น / โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) จ.ชลบุรี / โรงเรียนพานพิทยาคม จ.เชียงราย / โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ จ.ลำพูน / โรงเรียนทุ่งเทิงยิ่งวัฒนา จ.อุบลราชธานี และโรงเรียนปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ โดยโรงเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้ ได้แก่ ทีม SMTE309 จาก โรงเรียนปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ สมาชิกในทีมประกอบด้วย ด.ญ.ธนพร บุดดา,ด.ญ.นิราภรณ์ บุตรดี,ด.ญ.ปาณิศา ระยับศรี และ นางสาวภาวินี สุระ เป็นนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีคุณครูนงเยาว์ หงส์โสภา คุณครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ในวิชาพลังงานทดแทน เป็นที่ปรึกษาของเด็ก ๆ ซึ่งคุณครูเผยความรู้สึกว่า เด็ก ๆ ทุกคนมีความตั้งใจมาก รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ความพยายามและความทุ่มเทของเด็ก ๆ ทำให้ชนะเลิศในวันนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรรยา ดาสา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตรศึกษา มศว กล่าวว่า “หลักสูตรสะเต็มกำลังสอง เรื่อง “ถ้าพรุ่งนี้…ไม่มีไฟฟ้า” เป็นการเรียนรู้บูรณาการมาตรฐานและตัวชี้วัดของ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ในระดับชั้นมัธยมตอนต้น มุ่งส่งเสริมสมรรถนะของผู้เรียนในการบูรณาการความรู้และข้อมูลที่ได้จากการเรียนรู้มาออกแบบแผนการผลิตพลังงานไฟฟ้าของประเทศเพื่อให้มีพลังงานไฟฟ้าใช้อย่างมั่นคง ราคาเหมาะสม ลดการปล่อยคาร์บอนสู่สิ่งแวดล้อมและสามารถสื่อสารได้อย่างสร้างสรรค์ภายใต้คำถามสำคัญ “เราจะมีพลังงานไฟฟ้าใช้ให้ยั่งยืนได้อย่างไร” โดยในปีที่ผ่านมามีโรงเรียนลงทะเบียนใช้หลักสูตรมากกว่า 200 โรงเรียน”

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นลินา ประไพรักษ์สิทธิ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้กล่าวในการเปิดงานว่า คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมทั้งด้านการเรียนรู้และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านการบริการวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตรศึกษาที่เป็นเลิศ ซึ่งโครงการพัฒนาหลักสูตรสะเต็มกำลังสอง เป็นหนึ่งในการนำเสนอความเชี่ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้เชิงบูรณาการ สู่การเรียนรู้ที่ส่งเสริมทั้งด้านความรู้ ทักษะ ทัศนคติและเจตคติของผู้เรียน ผสานรวมกันจนเกิดเป็นสมรรถนะของผู้เรียน

นายฉัตรชัย มาวงศ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิศวกรรมและก่อสร้างโรงไฟฟ้า กฟผ. กล่าวว่า “การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตรศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ มศว ได้เริ่มพัฒนาหลักสูตรสะเต็มกำลังสอง เรื่อง “ถ้าพรุ่งนี้...ไม่มีไฟฟ้า” ตั้งแต่ 2559 และผลักดันมาอย่างต่อเนื่องเพราะเล็งเห็นว่าการเรียนรู้แบบบูรณาการช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้ด้วยตนเองอย่างสร้างสรรค์ ผู้เรียนที่ได้เรียนในหลักสูตรนี้จะมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งกิจกรรมการประกวดผลงานนักเรียนที่ดำเนินมาต่อเนื่องทุกปีนี้ สะท้อนผลลัพธ์ หลักสูตร STEM² อย่างน่าพอใจ นักเรียนสามารถตัดสินใจ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับไฟฟ้าทั้งในชีวิตประจำวันและแนวทางการจัดหาไฟฟ้าในอนาคตอย่างเพียงพอและลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่ กฟผ. ผลักดันเพื่อแก้วิกฤติพลังงานอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเป็นมาตรการที่ความจำเป็นเร่งด่วนในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ”

นอกจากนี้ในงาน นายศิริวัฒน์ เจ็ดสี ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมโรงไฟฟ้า ได้กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า นอกจากหลักสูตรสะเต็มกำลังสองแล้ว กฟผ. ยังมีโครงการอื่นด้านการศึกษาที่ส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทางเลือกและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตไฟฟ้า เช่น ห้องเรียนสีเขียว ศูนย์การเรียนรู้ ทั้งนี้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เป็น 1 ใน 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศ ที่ทำบันทึกความเข้าใจในโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนด้านนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒต่อไป ซึ่งเป็นมาตรการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก

วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยวิชาเอกการสื่อสารเพื่อเศรษฐศาสตร์ จัดงาน “Econ-Commu 2023: The Innovation fun(d) day” เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 25566 ที่ผ่านมา ณ หอดนตรีและการแสดงอโศกมนตรี 1 ชั้น 4 อาคารนวัตกรรม: ศาสตราจารย์ดร.สาโรช บัวศรี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ที่สามารถเข้าถึงได้ ให้คนรุ่นใหม่ คนทั่วไป ที่ติดตามเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจสมัยใหม่ ได้เข้าถึงสารที่ง่ายขึ้นด้วยศาสตร์แห่งการสื่อสารและนวัตกรรม

โดยครั้งนี้จัดขึ้นด้วยพลังของนิสิตในวิชาเอกสื่อสารเพื่อเศรษฐศาสตร์ที่ ที่ได้ใช้พื้นที่ของกิจกรรมบริการวิชาการนี้เป็นโอกาสในการฝึกฝนการทำงานในสนามจริง โดยแบ่งเป็น 5 ส่วนงาน ได้แก่

 

1.) Fun(d)amental ที่เป็นการเข้าใจหลักการและที่มาของการสื่อสารเพื่อเศรษฐศาสตร์ โดย ผศ.ดร.นพดล อินทร์จันทร์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม และ ผศ.ดร.อดุลย์ ศุภนัท คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ร่วมเปิดงานและได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนานิสิตจากการให้นิสิตได้ทำงานจริง ๆ กับมืออาชีพ การเชื่อมต่อองค์ความรู้จาก 2 ศาสตร์ คือ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร เพื่อสร้างบุคลากรเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ

 

2.) Fun(d) Innovation ที่เป็นการอัพเดทนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางเศรษฐกิจ โดย ตัวแทนจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ คุณจารุชา คูสมิทธิ์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) คุณภคณัฐ ทาริยะวงศ์ บรรณาธิการ เพจ Future Trends และ คุณวนะชัย รัศมีพลังสันติ Ocean Sky Network (Mandala AI) ซึ่งจากการเสวนา ทั้ง 3 ท่านมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า การเข้ามาของ AI จะทำให้มนุษย์ทำงานได้มีประสิทธิภาพและง่ายขึ้น แต่ AI ยังไม่สามารถทดแทนการทำงานของมนุษย์ได้ สิ่งที่คนทำงานรุ่นใหม่ต้องปรับตัว คือการใช้เทคโนโลยีให้เป็น นอกจากนี้ ความสามารถในการสื่อสารยังจำเป็นต่อการทำงานทุกองค์กร

 

3.) Fun(d) Talk ว่าด้วยการแปลงข้อมูลเศรษฐศาสตร์ให้เข้าถึงได้จากผู้มีประสบการณ์ที่หลากหลาย ได้แก่ คุณสุพริศร์ สุวรรณิก หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยป๋วย อึ๊งภากรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยป๋วย อึ๊งภากรณ์ (PIER) ธนาคารแห่งประเทศไทย กับหัวข้อ “เศรษฐศาสตร์: เข้าใจไม่ยากอย่างที่คิด” คุณศิรัถยา อิศรภักดี Founder WEALTH ME UP, Host THE STANDARD WEALTH ในหัวข้อ “เศรษฐสื่อ” และ คุณศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา นักแสดงและประธานกรรมการบริหาร สังกัด IDOL idol Factory ในหัวข้อ “เศรษฐศาสตร์กับการจัดการความบันเทิงเพื่อคนรุ่นใหม่”

4.) Fun(d) Fair เป็นฐานกิจกรรมที่หน่วยงานภาคีมาร่วมให้ความรู้ และสร้างพื้นที่ของการแลกเปลี่ยนกับนิสิต ผู้ร่วมงาน จำนวน 6 ฐานกิจกรรม ได้แก่ บูธธนาคารแห่งประเทศไทย บูธธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บูธ Future Skill บูธ Mandala AI บูธ BeTask และบูธวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม/การสื่อสารเพื่อเศรษฐศาสตร์

5.) Fun(d) Game กิจกรรมสนุกสาน โดย นิสิตการสื่อสารเพื่อเศรษฐศาสตร์

 

ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ให้กับบุคคลภายนอกและต่อยอดความรู้ให้กับนิสิตวิชาเอกการสื่อสารเพื่อเศรษฐศาสตร์ ได้ฝึกฝนประสบการณ์ในการทำงานจริงร่วมกับองค์กรภายนอกอย่างมืออาชีพ และความรู้จากผู้มีประสบการณ์ที่ได้มาถ่ายทอดเรื่องราวของเศรษฐศาสตร์ในโลกของการทำงานจริง ให้นิสิตและผู้ที่สนใจเข้าฟัง ได้เตรียมความพร้อมต่อไปในอนาคตของการทำงาน

โครงการความร่วมมือกับหัวเว่ยจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในฐานะ “มหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรม” และผู้นำด้านการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลในภาคการศึกษา

X

Right Click

No right click