November 22, 2024
×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 6855

บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าภาพต้อนรับคณะผู้แทนจากมหาวิทยาลัยพันธมิตรทั้ง 7 แห่งของไทยในการประชุมโครงการมหาวิทยาลัยเดลต้าประจำปี 2567 ร่วมกับสมาคมมหาวิทยาลัย ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู โดยงานประจำปีนี้มุ่งหวังให้พันธมิตรทุกภาคส่วนได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับความร่วมมือที่กำลังดำเนินอยู่ของโครงการห้องปฏิบัติการเดลต้า ออโตเมชัน (Delta Automation Lab) และห้องปฏิบัติการพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ (Delta Power Electronics Lab) ตลอดจนหารือเกี่ยวกับวิธีการยกระดับการฝึกอบรมและการวิจัยและพัฒนา เพื่อส่งเสริมความสามารถและการพัฒนานวัตกรรมในท้องถิ่น

นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเดลต้า ประเทศไทย ได้กล่าวต้อนรับคณาจารย์และสรุปแผนงานปี 2567 สำหรับโครงการพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ว่า “ปีนี้ถือเป็นก้าวใหม่ของการเติบโตสำหรับเดลต้า ประเทศไทย โดยเรามีการขยายการผลิตอุปกรณ์พาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและการวิจัยและพัฒนาสำหรับลูกค้าทั่วโลก เพื่อสนับสนุนความคิดริเริ่มของรัฐบาลในการส่งเสริมเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Value-Based Economy) นอกจากนี้ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า เราจะเปิดตัวการแข่งขันเดลต้า คัพ (Delta Cup) ในประเทศไทยหลังจากประสบความสำเร็จในการร่วมแข่งขันมาหลายปี พร้อมกันนี้เรายังมีจุดมุ่งหมายที่จะขยายโครงการดังกล่าวไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผมรอคอยที่จะได้ร่วมหารือเกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคตของทั้งโครงการเดลต้า ออโตเมชัน อะคาเดมี (Delta Automation Academy) และโครงการห้องปฏิบัติการพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย"

นายแจ็คกี้ จาง ประธานบริษัทเดลต้า ประเทศไทย กล่าวว่า “เดลต้า ประเทศไทยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมซึ่งมอบโอกาสพิเศษให้กับชาวไทยที่มีความสามารถด้านวิศวกรรม โดยเราแตกต่างจากผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในประเทศ เนื่องจากแผนกวิจัยและพัฒนาของเรามอบโอกาสและขอบเขตการทำงานที่กว้างขึ้นให้กับวิศวกรในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งหมด นอกจากนี้ในทุกปีเรารับยังนักศึกษาฝึกงานกว่า 100 คนสำหรับการฝึกอบรมที่โรงงานเดลต้าประเทศไทย รวมทั้งเรายังเป็นบริษัทเพียงแห่งเดียวที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยได้มีโอกาสศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของไต้หวัน และได้ทำงานที่โรงงานของเดลต้าในประเทศไต้หวันในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือนักศึกษาฝึกงาน”

ผู้จัดการจากหน่วยงานภาครัฐและกิจการสาธารณะ (GPA) พร้อมทั้งฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม (IA) ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และฝ่ายสื่อสารองค์กรของเดลต้า ได้นำเสนอข้อมูลอัปเดตล่าสุดและการดำเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับด้านนวัตกรรม ธุรกิจ บุคลากรศักยภาพสูง และการสร้างแบรนด์ในประเทศไทย นอกจากนี้ทางคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยบูรพา ยังได้นำเสนอเกี่ยวกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ของแต่ละมหาวิทยาลัย ห้องปฏิบัติการเดลต้า และกิจกรรมที่ทำร่วมกัน

ตั้งแต่ปี 2559 เดลต้าได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตร 7 แห่งในประเทศไทย ในโครงการเดลต้า ออโตเมชัน อะคาเดมี (Delta Automation Academy) ซึ่งมีบุคลากรศักยภาพสูงในระดับแนวหน้าเข้าร่วมแข่งขันในรายการการแข่งขัน Advance Automation ระดับนานาชาติ หรือเดลต้า คัพ (Delta Cup) ซึ่งในปีนี้เดลต้า ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยพันธมิตรยังได้มีการหารือเกี่ยวกับการการเปิดตัวการแข่งขันระดับภูมิภาคด้านอุตสาหกรรมอัตโนมัติ และโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย เพื่อแทนที่การแข่งขันเดลต้า คัพ (Delta Cup) ระดับนานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศจีน การพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านการผลิตในระดับโลก และการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน  

ในปี 2565 เดลต้า ประเทศไทย ได้เปิดตัวห้องปฏิบัติการพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ (Power Electronics Lab) แห่งแรก ที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย โดยห้องปฏิบัติการแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่มจพ. ทั้งนี้ในปี 2566 เดลต้ายังได้เปิดตัวห้องปฏิบัติการพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ (Power Electronics Lab) แห่งที่สองที่สจล. ซึ่งบริษัทยังมีแผนที่จะเปิดห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมในมหาวิทยาลัยพันธมิตร โดยห้องปฏิบัติการเดลต้าพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ (Delta Power Electronics Labs) มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบห้องปฏิบัติการในการทดลองที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้แก่นักศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ของไทยให้สามารถพัฒนาทักษะขั้นสูงได้ อีกทั้งยังส่งเสริมการวิจัยด้านพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ในท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์พาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของเดลต้า 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เดลต้าได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรในพื้นที่ เพื่อฝึกอบรมนักศึกษาวิศวกรรมไทยประมาณ 3,000 คนและคณะอาจารย์กว่า 30 คนในโครงการเดลต้า ออโตเมชัน อะคาเดมี (Delta Automation Academy) นอกจากนี้เดลต้ายังได้มอบอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกมูลค่า 5.3 ล้านบาท ให้กับห้องปฏิบัติการเดลต้าพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ (Delta Power Electronics Labs) ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งมีนักศึกษากว่า 60 คนเข้าร่วมกับห้องปฏิบัติการเดลต้าพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ (Delta Power Electronics Labs) แห่งแรกที่มจพ. ในปีแรกที่เปิดตัว

-บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เป็นเวลา 3 ปี ในการวิจัยและพัฒนาโซลูชันระบบอัตโนมัติด้วยผลิตภัณฑ์เดลต้าและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพรังสีอัลตราไวโอเลต-ซี (UV-C)

ภายใต้ข้อตกลง เดลต้าจะสนับสนุนโครงการเดลต้า ออโตเมชั่น อะคาเดมี (Delta Automation Academy) ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อพัฒนาทักษะของนักศึกษาในด้านวิทยาการหุ่นยนต์, ระบบอัตโนมัติ, IoT, อิเล็กทรอนิกส์ และพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่ห้องแล็บระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมของเดลต้า (Delta Industrial Automation Lab) นายแจ็คกี้ จาง ประธานบริษัทเดลต้า ประเทศไทย และ ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนาม MOU ดังกล่าว พร้อมมอบเกียรติบัตรและรางวัลแก่ทีมนักศึกษา Gaia จากมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขัน Delta Cup ประจำปี 2565 จากการนำเสนอโครงงาน Carbon Polymerizing System ระบบจุลินทรีย์อัตโนมัติที่สามารถเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นพลาสติกที่ย่อยสลายทางชีวภาพที่เรียกว่า Polyhydroxybutyrate (PHB) โดยสามารถย่อยสลายได้ถึง 90% ภายในเวลา 10 วันโดยไม่ทิ้งเศษเมื่อสิ้นสุดวงจรชีวิตของมัน โดยโครงงานทดลอง Carbon Polymerizing System Project ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติของเดลต้า ดังต่อไปนี้:

· อุปกรณ์ควบคุมระบบ AS200 PLC 1 ตัว

· ระบบ DIAView SCADA

· ซอฟต์แวร์ DIACloud

· หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะ DRV70L 1 ตัว

· AC มอเตอร์ไดรฟ์ ASDA-A3 5 ตัว

· เซอร์โวมอเตอร์ ECMA-C20401SS AC กำลังไฟ 400W 5 ตัว

· วาล์วควบคุม 3 ตัว

· ปั๊ม 1 ตัว

· มิเตอร์วัดพลังงานไฟฟ้า DPM-C530 1 ตัว

ในการร่วมมือครั้งนี้ เดลต้าจะสนับสนุนชุดฝึกอบรมระบบอัตโนมัติขั้นสูงและหุ่นยนต์อุตสาหกรรมสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อฝึกอบรมที่ Delta Industrial Automation Lab

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมของเดลต้าจะจัดหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับคณาจารย์เกี่ยวกับอุปกรณ์ควบคุมระบบ (PLC), หน้าจอสัมผัสรับ-ส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้กับเครื่องจักร (HMI), อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ (VFD) รวมถึง เซอร์โวมอเตอร์/ไดรฟ์ และการรวมระบบ 

โดยก่อนหน้านี้ เดลต้าและมหาวิทยาลัยมหิดลได้ร่วมมือกันเพื่อเฟ้นหาและพัฒนาผู้มีความสามารถด้านวิศวกรรมระบบอัตโนมัติ โดยการบันทึกข้อตกลงนี้ ถือเป็นก้าวใหม่ที่ทำให้มหาวิทยาลัยมหิดลอยู่ในรายชื่อพันธมิตรของสถาบัน Delta Automation Academy ในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ๆ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและธนบุรี

นอกจากนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงนี้ จะช่วยให้นักศึกษาและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยมหิดลมีโอกาสพัฒนาโครงการนวัตกรรมที่สอดคล้องกับธุรกิจระบบอัตโนมัติและพลังงานสีเขียวของเดลต้าให้เป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่งาน Delta Angel Fund สำหรับสตาร์ทอัพประจำปีอีกด้วย โดยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 เดลต้าและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดตั้งกองทุน Angel Fund ที่มุ่งพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในประเทศไทย และบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ตอัปเพื่อสนับสนุนแผนพัฒนาประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0

นายแจ็คกี้ จาง กล่าวในพิธีว่า “เดลต้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเริ่มต้นความร่วมมือบทใหม่กับมหาวิทยาลัยมหิดล ในขณะที่เรายังคงบุกเบิกการพัฒนาการศึกษาด้านระบบอัตโนมัติซึ่งสนับสนุนแผนการพัฒนาประเทศไทย 4.0 อย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของภาคการผลิตในท้องถิ่น และยกระดับมูลค่าของประเทศไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก” โครงการ เดลต้า ออโตเมชัน อะคาเดมี ได้ให้การฝึกอบรมแก่นักศึกษาวิศวกรรมไทยกว่า 1,000 คน รวมถึงบุคลากรระดับแนวหน้าซึ่งได้รับรางวัลจากการแข่งขัน Delta Advanced Automation Competition ระดับนานาชาติหรือ Delta Cup ที่จัดขึ้นทุกปีระหว่างทีมนักศึกษาวิศวกรรมชั้นยอดจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน จีน อินเดีย และ ยุโรป"

X

Right Click

No right click