ก้าวเข้าสู่ปี 2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ใช้ประโยชน์จากคลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ : DBD DataWarehouse+ วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตพร้อมเปิดโผ 9 ประเภทธุรกิจที่มาแรงโดดเด่นข้ามปีและคาดว่าจะทำผลกำไรต่อเนื่อง เพื่อให้นักธุรกิจชาวไทยและต่างชาติใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน นำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มประสิทธิภาพ กำหนดทิศทาง และเลือกประเภทธุรกิจที่จะลงทุนได้ตรงตามความต้องการ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ทุกปีเมื่อกำลังก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ใช้ประโยชน์จากคลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศของกรมฯ (DBD DataWarehouse+) มาทำการวิเคราะห์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจเพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน รวมทั้ง ประชาชนทั่วไปสามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อยอดให้เกิดประโยชน์ด้านต่างๆ เป็นการบริหารจัดการข้อมูลภาครัฐให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ธุรกิจที่มีความโดดเด่นและน่าจับตามองในปี 2567 กรมฯ ได้ทำการวิเคราะห์โดยประเมินข้อมูลธุรกิจจากหลายภาคส่วน ทั้งสถิติข้อมูลภายในของกรมฯ ในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ อัตราการเติบโต ผลประกอบการของธุรกิจ และการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจ ร่วมกับข้อมูลปัจจัยทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจต่างๆ โดยใช้หลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์ ดังนี้ (1) จำนวนและอัตราการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจ ร้อยละ 50 (2) ผลประกอบการ (กำไรและรายได้) ร้อยละ 20 (3) อัตราการเลิกของธุรกิจ ร้อยละ 20 และ (4) ปัจจัยภายนอก ร้อยละ 10 ได้แก่ แนวโน้ม กระแสความนิยม พฤติกรรมของธุรกิจ นโยบายรัฐบาล และดัชนีทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า จากผลการวิเคราะห์ สามารถแบ่งกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามองและน่าสนใจในปี 2567 ออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ 9 ประเภทธุรกิจ ประกอบด้วย
กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ถือเป็นธุรกิจที่ได้รับผลดีจากปัจจัยบวกในการเปิดประเทศและมาตรการสนับสนุนภาครัฐที่ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องสามารถดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ สร้างโอกาส และรายได้ให้กับกลุ่มธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ
กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ
กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ การรักษารูปร่าง หน้าตา และการดูแลสุขภาพของบุคคล สำหรับกลุ่มที่มีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ มีประเภทธุรกิจที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องรูปแบบการใช้ชีวิต
กลุ่มธุรกิจนี้ ถือเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน มีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา โดยประเภทธุรกิจที่น่าสนใจประกอบด้วย
กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริการดิจิทัลและซอฟต์แวร์
เป็นกลุ่มธุรกิจตอบโจทย์โลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลและนวัตกรรม ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ ครอบคลุมทุกช่วงวัยของประชากรในสังคม มีมูลค่าทางการตลาดระดับสูง โดยมีประเภทธุรกิจที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าปี 2567 การประกอบธุรกิจของภาคเอกชนจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยต้องพิจารณารวมกับปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ เช่น เศรษฐกิจของโลกและเศรษฐกิจประเทศต่างๆ หรือปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆ ของเศรษฐกิจประเทศ ขอแนะนำว่า 9 ประเภทธุรกิจดังกล่าวข้างต้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยสามารถนำไปเป็นข้อมูลส่วนหนี่งประกอบการตัดสินใจลงทุน อย่างไรก็ตาม นอกจากกระแสธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมแล้ว ความชื่นชอบและความถนัดก็เป็นอีกคุณสมบัติที่ต้องคำนึง เนื่องการลงทุนมีความเสี่ยง การลงทุนทำธุรกิจต้องรอบคอบมากที่สุด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป สามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล และแนวโน้มธุรกิจต่างๆ ผ่านระบบ DBD DataWarehouse+ บนเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th หรือ ผ่านแอปพลิเคชัน DBD e-Service ซึ่งสามารถดาวน์โหลดผ่านระบบ Android และ IOS โดยสามารถใช้บริการได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ และ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ผนึกกำลัง จัดงาน “ไทล็อก-โลจิสติกซ์ 2023”
กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมให้สินค้าจากยางพาราเต็มสูบ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ถ่ายภาพร่วมกับนางภรณี ช็อมบร็อง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหารบัญชีลูกค้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย (Amazon Global Selling Thailand) ในพิธีเปิดการอบรมโครงการ “ติดปีกสินค้าไทย ขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกับ Amazon” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม-18 กรกฎาคม 2566 ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ และอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทยให้มีความพร้อมในการพัฒนาธุรกิจสู่ตลาดการค้าออนไลน์อย่างมั่นใจ ผ่านการฝึกอบรม จับคู่ทางธุรกิจ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน แนะนำเครื่องมือบริหารความเสี่ยง และ Workshop การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross Border E-commerce: CBEC) ไปยังตลาดสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงเครือข่ายลูกค้าของ Amazon.com กว่า 300 ล้านคนทั่วโลก ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้