December 13, 2025

เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ทรานสฟอร์มธุรกิจสุขภาพสู่ Digital Healthcare Provider เต็มรูปแบบ

ดร. พลรัตน์ เอกโยคยะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานกลยุทธ์ คุณชัยรัตน์ วงศ์รัตนานุกูล ผู้จัดการส่วนอาวุโส ศูนย์นวัตกรรมทิพยประกันภัย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย คุณวิศน สุนทราจารย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน คุณสมสฤษฎิ์ ตรีประเสริฐสุข ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจบริการยานยนต์  และคุณวงศ์สถิตย์ สุวรรณสุทธิ ผู้จัดการฝ่ายตลาดหล่อลื่น บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ร่วมจัดแคมเปญยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี “ฟรีแล้ว! ฟรีอีก!” พบกับโปรโมชันสุดแรง ทั้งลด แลก แจก แถม ด้วยโปรแรงเกินห้ามใจ ให้ลูกค้า FIT Auto และทิพยประกันภัย ได้ฟิตรถเตรียมพร้อมเดินทางแบบสบายกระเป๋า มั่นใจไปกับทีมช่างมืออาชีพที่เชี่ยวชาญ พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า แบบ 2 ต่อจากทิพยประกันภัย เมื่อนำรถมาใช้บริการที่ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto

  • ต่อที่ 1 ลงทะเบียนรับฟรี ประกันภัยอุบัติเหตุจากทิพยประกันภัย ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท จำนวน 100,000 สิทธิ์
  • ต่อที่ 2 รับส่วนลดประกันภัยสูงสุด 15 % จากทิพยประกันภัย อาทิ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันอัคคีภัย และอื่นๆอีกมากมาย ให้คุณได้เดินทางได้แบบไร้กังวล

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันอื่นๆ อีกมากมายจาก FIT Auto อาทิ บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นราคาพิเศษ ส่วนลดและโปรโมชันสำหรับการซื้ออะไหล่ต่างๆ สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก Blue Card รับคะแนนสะสม 2 เท่า สิทธิพิเศษส่วนลดเครื่องดื่ม Café Amazon มูลค่า 55 บาท สิทธิพิเศษบริการเช่ารถจาก Budget Car and Truck Rental และสิทธิพิเศษรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิกบนท้องถนน จาก FIXX โดยเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

พบกับโปรโมชัน ฟรีแล้ว! ฟรีอีก! ปรากฏการณ์โปรโมชันครั้งยิ่งใหญ่สุดแรงแห่งปี พร้อมแล้วติดเครื่องยนต์รีบไปฟิตรถกันเลยที่ ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2565 - 15 มกราคม 2566 ทุกสาขาทั่วประเทศ สามารถค้นหาสาขา FIT Auto ได้ที่ https://www.pttfitauto.com/th/branch หรือสอบถามเพิ่มเติม Contact Center โทร. 1365 กด 17

อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (NYSE: BABA และ HKEX: 9988, “อาลีบาบา” หรือ “อาลีบาบา กรุ๊ป”) ประกาศผลประกอบการทางการเงิน สำหรับไตรมาสเดือนกันยายน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565

"เรายังคงส่งมอบผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ผ่านมา แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพแวดล้อมระดับมหภาคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถในการปรับตัว ความยืดหยุ่นของธุรกิจ และความไว้วางจากลูกค้าที่มีต่อเรา อย่างไม่มีองค์กรใดเทียบได้" แดเนียล จาง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วทุกภูมิทัศน์ของโลก ยิ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราที่ต้องการสร้างขีดความสามารถ เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและมีคุณภาพสูงสำหรับทั้งลูกค้าและองค์กรของเราในระยะยาว  ซึ่งความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นของอาลีบาบาช่วยให้เราสามารถพัฒนาองค์กรมาได้อย่างต่อเนื่องตลอด 23 ปีที่ผ่านมา และเรามุ่งมั่นที่จะยกระดับผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นไปพร้อม ๆ กับการเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตของอาลีบาบา”  

“ถือเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่เราสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ที่ดี ซึ่งเติบโตขึ้นกว่า 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แม้จะต้องเผชิญกับผลกระทบจากอุปสงค์การบริโภคในช่วงหลังการฟื้นตัวของโควิด-19 ในประเทศจีน และสถานการณ์การค้าข้ามพรมแดนที่ชะลอตัวลง เนื่องจากต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่สูงขึ้นและความผันผวนของสกุลเงินต่างประเทศ” ซู หง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “เรายังคงยึดวิธีการบริหารงานโดยพิจารณาองค์ประกอบจากทุกมิติ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการจัดการต้นทุนทางธุรกิจที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้ กำไรก่อนหักค่าเสื่อมราคา (EBITA) ที่ปรับแล้ว โตขึ้น 29% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ด้วยสถานะเงินสดสุทธิและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง เราจึงได้ซื้อหุ้นคืนราว 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืน วงเงิน 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ที่เราได้ดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมการของเราได้อนุมัติให้มีการขยายโครงการซื้อหุ้นคืนอีก 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และขยายโครงการไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2568”

ผลประกอบการทางธุรกิจที่น่าสนใจ

จากไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565

  • รายได้ (Revenue) อยู่ที่ 207,176 ล้านหยวน (29,124 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • รายได้จากการดำเนินงาน (Income from operations) อยู่ที่ 25,137 ล้านหยวน (3,534 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบเป็นรายปี การเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปีนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรก่อนหักค่าเสื่อมราคา (EBITA) ที่ปรับแล้ว และการลดลงของรายจ่ายที่ใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ โดยเราได้แยกรายจ่ายที่ใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ ออกจากการวัดผลแบบ non-GAAP ของเรา สำหรับ กำไรก่อนหักค่าเสื่อมราคา (EBITA) ที่ปรับแล้ว ซึ่งเป็นการวัดผลแบบ non-GAAP นั้น ขยับเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็น 36,164 ล้านหยวน (5,084 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • การขาดทุนสุทธิของผู้ถือหุ้นสามัญ (Net loss attributable to ordinary shareholders) อยู่ที่ 20,561 ล้านหยวน (2,890 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่ การขาดทุนสุทธิ (Net loss) อยู่ที่ 22,467 ล้านหยวน (3,158 ล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 3,377 ล้านหยวน ในไตรมาสเดียวกันของปี 2564 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการขาดทุนสุทธิที่สูงขึ้น อันเนื่องมาจากการลดลงของมูลค่าหน่วยลงทุนในตราสารทุนของเราในตลาดสาธารณะ และการลดลงของส่วนแบ่งตามส่วนได้ส่วนเสียของผู้ลงทุน โดยส่วนหนึ่งถูกชดเชยด้วยการเพิ่มกำไรก่อนหักค่าเสื่อมราคา (EBITA) ที่ปรับแล้ว ทั้งนี้ เราไม่นับรวมกำไรหรือการขาดทุนสุทธิที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของเงินลงทุนของเรา จากการวัดผลแบบ non-GAAP ขณะที่รายได้สุทธิ (net income) แบบ non-GAAP อยู่ที่ 33,820 ล้านหยวน (4,754 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • การขาดทุนต่อหุ้นที่ปรับลดในตลาดหุ้นสหรัฐ (Diluted loss per ADS) เท่ากับ 77 หยวน (1.09 เหรียญสหรัฐ) และการขาดทุนต่อหุ้นที่ปรับลด (Diluted loss per share) เท่ากับ 0.97 หยวน (0.14 เหรียญสหรัฐ หรือ 1.07 เหรียญฮ่องกง) ขณะที่ กำไรต่อหุ้นที่ปรับลดในตลาดหุ้นสหรัฐ คำนวณแบบ Non-GAAP (Non-GAAP diluted earnings per ADS) อยู่ที่ 12.92 หยวน (1.82 เหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ กำไรต่อหุ้นที่ปรับลด คำนวณแบบ non-GAAP (Non-GAAP diluted earnings per share) เท่ากับ 1.61 หยวน (0.23 เหรียญสหรัฐหรือ 1.78 เหรียญฮ่องกง) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • เงินสดสุทธิที่ได้มาจากการดำเนินงาน (Net cash provided by operating activities) อยู่ที่ 47,112 ล้านหยวน (6,623 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับ 35,830 ล้านหยวน ในไตรมาสเดียวกันของปี 2564 กระแสเงินสดอิสระ (Free cash flow) ซึ่งเป็นการวัดสภาพคล่องแบบ non-GAAP อยู่ที่ 35,709 ล้านหยวน (5,020 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเปรียบเทียบกับ 22,239 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปี 2564

นางสาววรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ (แถวยืนหน้า-ที่ 9 จากซ้าย) รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH โดย ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายวิบูลย์ เฟื่องพานิชเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน (CFO) ร่วมนำเสนอข้อมูลผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2565 พร้อมเปิดเผยความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัทประกันภัยดิจิทัล 100% แห่งแรกในประเทศไทยภายใต้ชื่อ InsurVerse ตั้งเป้าเริ่มขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ภายในสิ้นปีนี้ ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity day) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านทางช่องทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 โดยสามารถรับชมย้อนหลังได้ผ่านทาง YouTube Channel และเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้  https://www.youtube.com/watch?v=8VCtmfqymos  และ https://classic.set.or.th/streaming/vdo/6010?title=Opp%20Day 

บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับโลกอย่าง นีเวีย และยูเซอริน

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นับตั้งแต่กระแสดิจิทัลดิสรัปชั่นเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลขององค์กรต่างๆ (Digital transformation)

ในยุคปัจจุบันที่การชำระเงินแบบดิจิทัลเพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

X

Right Click

No right click