ส่องนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ของ SCGP ตอบโจทย์เทรนด์ความยั่งยืนในทุกมิติ

June 11, 2024 250

อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร (Food for the Future) เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพและมีความสำคัญกับประเทศไทย ซึ่งล่าสุดไทยได้ก้าวขึ้นมาอยู่อันดับที่ 12 ของผู้ส่งออกอาหารของโลก จากข้อมูลของ สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ที่รายงานว่า ในปี 2566 ยอดการส่งออกสินค้าอาหารของไทย มีอัตราเติบโตถึง 3.2% คิดเป็นมูลค่า 1.31 ล้านล้านบาท ส่วนสถานการณ์การส่งออกอาหารในอนาคตมีมูลค่าราว 1 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8.2% ของอาหารทั้งหมด และคาดว่าในปี 2567 จะมีแนวโน้มที่ดีและคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องด้วย

และด้วยอานิสงส์การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารนี้เอง ที่ทำให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ หรือแพคเกจจิ้ง มีอัตราการเติบโตควบคู่ไปด้วย ทำให้ในปัจจุบันมีการวางแนวทางการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจกับทุกรายละเอียด ตั้งแต่การออกแบบและการเลือกใช้วัตถุดิบที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายง่าย การเลือกใช้วัสดุ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีการผลิต การแปรรูป รวมถึงการต่อยอดไปถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

ในวันนี้ จึงกล่าวได้ว่าทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของไทยได้หมุนไปตามเทรนด์โลกที่ให้ความสำคัญกับภารกิจ Net Zero Emissions และเทรนด์ความยั่งยืน ดังที่เกริ่นมานี้อย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อให้เห็นภาพที่กล่าวมานี้อย่างชัดเจนขึ้น ต้องขอยกตัวอย่างการสร้างสรรค์โซลูชันนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือ Innovative Solutions for Sustainability ของบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ผู้ผลิตและให้บริการบรรจุภัณฑ์ครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งโซลูชันนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของ SCGP นี้ เปิดตัวแล้วในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจและเสียงตอบรับที่ดีจากผู้บริโภครุ่นใหม่จำนวนมาก

คุณเอกราช นิโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูง และ Enterprise Marketing Director บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงโซลูชันนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือ Innovative Solutions for Sustainability ของ SCGP ว่า  “สำหรับผู้ผลิตสินค้าในยุคนี้ บรรจุภัณฑ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพื่อบรรจุสินค้า แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของการสร้างประสบการณ์ผู้บริโภค ลูกค้าต้องการบรรจุภัณฑ์ที่สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้รับ และยิ่งในยุคนี้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของลูกค้าอย่างสะดวกสบาย และมีความปลอดภัยในการบรรจุอาหารเพื่อบริโภคด้วย”

“SCGP จึงตั้งใจนำเสนอ โซลูชันนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน แก่ลูกค้าและธุรกิจ จากมุมมองของผู้ผลิตที่ใส่ใจรอบด้าน เพื่อตอบโจทย์องค์รวมของห่วงโซ่คุณค่าของบรรจุภัณฑ์ (Packaging Value Chain) กับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในกระบวนการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ โดยการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรขั้นสูง ทำให้สามารถผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าทุกระดับขณะเดียวกัน SCGP ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่มีคุณสมบัติในการย่อยสลายตัวได้ หรือการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้”

จากแนวทางที่ชัดเจนนี้เองที่นำมาสู่การออกแบบโซลูชันนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือ Innovative Solutions for Sustainability ที่ได้มาเปิดตัวในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 โดย คุณเอกราช ได้หยิบเอาไฮไลต์ของ “นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์” ภายใต้แบรนด์ SCGP มาบอกเล่าให้ฟังว่า

"ในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 เราได้นำเสนอนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ของ SCGP ที่มีความหลากหลาย สอดรับกับเทรนด์และตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยเราพร้อมเป็นคู่ธุรกิจที่ร่วมพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศร่วมกัน"

และตัวอย่างโซลูชันนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนภายในงานปีนี้ของ SCGP ได้แก่

  • บรรจุภัณฑ์อาหารประเภท Foodservice จาก Fest by SCGP ที่ตอบโจทย์ความต้องการและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น Fest Fresh Pak (Frozen) นวัตกรรมถาดกระดาษสำหรับเนื้อสัตว์แช่แข็ง สามารถใช้งานได้ในอุณหภูมิต่ำถึง -40 องศาเซลเซียส โดยที่บรรจุภัณฑ์ยังคงความแข็งแรงตลอดกระบวนการบรรจุและการขนส่งจนถึงมือผู้บริโภค ผลิตจากวัตถุดิบหมุนเวียนที่สามารถปลูกใหม่ทดแทนได้อย่างน้อย 94%
  • บรรจุภัณฑ์กระดาษ จาก SCGP ที่มีการนำเสนอโซลูชันช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ เช่น Heat seal-able paper บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible packaging) ผลิตจากกระดาษที่มีคุณสมบัติปิดผนึกได้ด้วยความร้อน สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เป็นทางเลือกของผู้ประกอบการที่ต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible packaging) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่รีไซเคิลได้ง่าย หรือทำมาจากวัสดุรีไซเคิล จาก SCGP เช่น บรรจุภัณฑ์ R1+ นวัตกรรม Mono-material flexible packaging ที่ผลิตจากพลาสติกเพียงชนิดเดียว สามารถนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่าย และยังคงคุณภาพและความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน บรรจุภัณฑ์มีคุณสมบัติในการป้องกันการซึมผ่านของอากาศและความชื้น ที่ช่วยปกป้องสินค้าประเภทอาหารได้ดี

นอกจากนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุมแล้ว ภายในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 ยังมีโซลูชันด้าน Healthcare จาก SCGP ที่ช่วยควบคุมคุณภาพกระบวนการผลิตอาหาร และตรวจสอบอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ PATHfinder – Microbiology Contaminants ชุดน้ำยาตรวจเชื้อจุลินทรีย์ในอาหารและน้ำ และนวัตกรรมที่ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของ SCGP ที่สามารถผลิตออกมาเป็นผลิตภัณฑ์อย่างแบรนด์ ALMIND by SCGP ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่และลูกน้อย ที่มีความปลอดภัย อ่อนโยน ผ่านการรับรองจากหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง

ที่สุดแล้ว คุณเอกราช ได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายสำคัญที่ SCGP ต้องการจะขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นในอนาคต ในการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจว่า

“เป้าหมายหลักในการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์และโซลูชันด้านต่าง ๆ ในอนาคตของ SCGP จะสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ และยังมุ่งเน้นการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่มีคุณสมบัติในการย่อยสลายตัวได้ หรือการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยในปี 2566 สัดส่วนปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิล ใช้ซ้ำ หรือสลายตัวได้อยู่ที่ 99.7% ซึ่ง SCGP ยังคงมุ่งมั่นก้าวต่อไปในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อมุ่งสู่การผลิตบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด 100% ที่สามารถใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ หรือสลายตัวได้ ภายในปี 2573 ต่อไป

Related items

X

Right Click

No right click