December 24, 2024

KTC ปี 61 เผยผลกำไร 9 เดือน มากกว่า 3,911 ล้านบาท เผยแผนปี '62 ยังเน้นย้ำ“ การเติบโตอย่างยั่งยืน”

December 21, 2018 3010

ก้าวอีกก้าวของ KTC  ปี 2561 ภายใต้การนำของ ระเทียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTC ร่วมกับทีมบริหารทั้งชุดสร้างความสำเร็จของเป้าหมายปี 2561 ด้วยผลกำไร 9 เดือน 3,911 ล้านบาท หรือ65%   ตอกย้ำฐานสมาชิกรวมทั้งบัตรทั้งเครดิต และสินเชื่อบุคคล มากถึง 3.2 ล้านบัญชี

ระเทียร  ศรีมงคล  ซีอีโอ ของ KTC  บอกเล่าถึงย่างก้าวของความสำเร็จของปีนี้  และเป้าหมายในปี 2562 ร่วมกับคณะผู้บริหารและทีมงาน KTC   ภายใต้บรรยายการล่องเรือตามแม่น้ำไนล์  เมืองไคโร ประเทศอิยิปต์เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า 

ในปี 2561 เคทีซีได้ผ่านบททดสอบจากความท้าทายหลายปัจจัย ทั้งจากมาตรการต่างๆ วิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว  และการแข่งขันในการทำธุรกิจที่ทวีความรุนแรง ทำให้เราต้องช่วยกันคิดพลิกหากระบวนกลยุทธ์หลายอย่าง เพื่อให้ธุรกิจผ่านไปได้ โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับสมาชิกของเราที่มีอยู่ และต้องขอบคุณอุปสรรคเหล่านั้น ที่ทำให้เราแข็งแกร่งและกลับมีผลงานเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ด้วยผลกำไร 9 เดือน ที่สูงขึ้นถึง 65% เท่ากับ 3,911 ล้านบาท มีจำนวนสมาชิกรวมบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล 3.2 ล้านบัญชี อีกทั้งรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ในอัตราที่ต่ำมากๆ และยังคงต่ำกว่าอุตสาหกรรม”

                                                                                         

ซีอีโอ’ ของ KTC  ยังเผยต่อว่า “ ในปี 2562 เราคาดหวังว่าจะมีกำไรเพิ่มจากสิ้นปี 2561 ประมาณ 10% ด้วยความเชื่อว่าปีหน้าเศรษฐกิจของประเทศไทยน่าจะเติบโตได้จากหลายปัจจัยทางการเมืองและภาคเศรษฐกิจที่ได้วางรากฐานไว้แล้ว ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้น  ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคดีไปด้วย สำหรับ KTC จะเห็นอะไรใหม่ๆ ออกมาแน่นอน เรื่องหนึ่งคือการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อผลักดันฐานรายได้ให้สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด  โดยจะเพิ่มธุรกิจนาโน-พิโกไฟแนนซ์  ซึ่งตอนนี้ได้มีการเตรียมโมเดลธุรกิจและจัดกระบวนทัพทุกอย่างไว้รอแล้ว เมื่อได้รับการอนุมัติจากธนาคารกรุงไทยและธนาคารแห่งประเทศไทย เราพร้อมจะมุ่งทำการตลาดอย่างเข้มข้นเต็มที่ทุกธุรกิจ บนพื้นฐานของความยืดหยุ่นและระมัดระวัง ทุกฝ่ายต้องทำงานประสานร่วมกันยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องมีพันธมิตรหลากหลายธุรกิจที่จะช่วยเรา  เติมเต็มผลิตภัณฑ์และบริการให้สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงการพัฒนาด้านไอทีต่างๆ ซึ่งสมาชิก KTC จะได้พบกับนวัตกรรมบริการด้านการเงินใหม่ๆ ที่จะมาเป็นผู้ช่วยให้สมาชิกได้รับความสะดวกในการใช้จ่ายอย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและผูกติดกับแบรนด์ KTC อย่างยั่งยืน”

 

พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี”  ได้ร่วมเผยถึงกลยุทธ์การตลาดธุรกิจบัตรเครดิตในปี 2562 ว่า

 

พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต เคทีซี  ได้ร่วมเผยถึงกลยุทธ์การตลาดธุรกิจบัตรเครดิตของปี 2562 ว่า 

 “กลยุทธ์หลักด้านการตลาดของเคทีซีจะคงรักษาจุดแข็งของความร่วมมือด้านการตลาดกับพันธมิตรร้านค้าที่หลากหลาย ในการสร้างสรรค์โปรโมชั่นที่น่าสนใจและแตกต่างเพื่อกระตุกความสนใจของสมาชิก ทั้งหน้าร้านค้าและออนไลน์ เน้นการสื่อสารที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมาและมีความคุ้มค่า ตรงใจ ครอบคลุมทุกกลุ่มสมาชิกเป้าหมายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วย 3 อาวุธหลัก คือ

 1) รายการสะสมคะแนน KTC FOREVER ที่ยืดหยุ่น แลกง่าย และแลกได้จริง 

2) บริการผ่อนชำระ KTC FLEXI เพื่อตอบโจทย์ร้านค้าและสมาชิกบัตร 

3) บริการ KTC World Travel Service สำหรับคนรักการท่องเที่ยว

นอกจากนี้เคทีซียังเล็งเห็นถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ผู้บริโภคนิยมทำอะไรด้วยตนเอง ทั้งการค้นหาข้อมูลที่สนใจและการทำรายการ เราจึงได้พัฒนาบริการและช่องทางการสื่อสาร โดยปรับปรุงการใช้งานโมบายแอปพลิเคชัน “KTC Mobile” (เปลี่ยนชื่อจาก TapKTC) เพื่อให้สมาชิกเข้าถึงการใช้งานได้สะดวกและมั่นใจในความปลอดภัย โดยปัจจุบันมี

จำนวนสมาชิกที่ลงทะเบียนใช้แอปฯ KTC Mobile เกือบ 1 ล้านราย หรือประมาณ 60% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด รวมทั้งจะมีการปรับปรุงเว็บไซต์ www.ktc.co.th  และ www.ktcworld.co.th เพื่อให้ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกบัตรมากขึ้นอีกด้วย

พิทยา  วรปัญญาสกุล  ได้ทิ้งท้ายในถ้อยแถลงว่า  “ ในปีหน้า  2562  KTC ก็คาดหวังที่จะสร้างยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโต 15%  ซึ่งถือนับเป็นความท้าทายอย่างไม่หยุดยั้ง

พิชามน  จิตรเป็นธรรม  ผู้อำนวยการ- ธุรกิจสินเชื่อบุคคล KTC   ได้ร่วมแถลงถึงสภาพการณ์ธุรกิจและการตลาด ในปี 2562  พร้อมแนวทางของ KTC  ที่ประกอบด้วยทั้งการตั้งรับ และเชิงรุกว่า “ สภาวะการแข่งขันธุรกิจสินเชื่อบุคคลจะยิ่งมีความร้อนแรงมากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดรวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ๆ

โดยกลยุทธ์การตลาดของเคทีซีในปี 2562 จะมุ่งขยายจำนวนสมาชิกให้ได้ถึง 1 ล้านราย และตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเติบโตของยอดลูกหนี้ 10% โดยจะเดินหน้าแบ่งเบาภาระคนไทยให้ได้รับสินเชื่อที่เป็นธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและร่วมลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบในปัจจุบัน

เคทีซียังได้พัฒนาบริการเบิกเงินสดออนไลน์ผ่านแอปฯ “KTC Mobile”  ที่ให้ความรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น และสามารถเบิกได้ตามวงเงินสูงสุดที่มีในบัตรตลอด 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์ สะดวกสบายไม่ต้องใช้ PIN เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้ KTC ยังมีแผนจะเพิ่มจำนวนธนาคารรองรับความต้องการในอนาคตเพื่อให้สมาชิกเลือกโอนเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น   ซึ่งล่าสุดสมาชิกสามารถเลือกผ่อนชำระตามแบบที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนชำระเป็นงวดที่เท่ากัน หรือเลือกผ่อนชำระขั้นต่ำ 3% หรือ 300 บาทได้”

พิชามน ยังกล่าวแผนการเพิ่มจำนวนสมาชิกของ KTC ว่า “  แคมเปญการตลาดหลายรูปแบบ มีเป้าหมายเพื่อทั้งการรักษาฐานสมาชิกเดิม และเพิ่มเติมการสร้างสมาชิกใหม่  ภายใต้แนวคิดการจัดกิจกรรมที่เน้นความ แตกต่าง ตรงใจ และช่วยแบ่งเบาภาระสมาชิก ในหลายมิติ  อย่างเช่น การลดดอกเบี้ยในรูปแบบใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน, ส่งเสริมการมีวินัยในการใช้จ่ายอย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างประสบการณ์ที่ดีจากแคมเปญการตลาดที่โดนใจแบบเจาะจงเฉพาะกลุ่ม รวมถึงแคมเปญการตลาดเพื่อให้สมาชิกในวงกว้างมีการใช้บัตรกดเงินสดอย่างต่อเนื่อง และได้รับประโยชน์จากการลด และเบาเบาภาระหนี้  เป็นต้น”

ผู้อำนวยการธุรกิจสินเชื่อบุคคล KTC ยังกล่าวถึง กิจกรรมสัมพันธ์สมาชิกที่ทำต่อเนื่องกันมาว่า  สามารถสร้างความผูกพัน์ในฐานสมาชิกได้อย่างต่อเนื่องและเหนียวแน่น โดยในปี 2562 ก็จะมีรูปแบบเวิร์คช้อปแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์ อาทิในด้านการบริหารเงิน เสริมสร้างอาชีพและรายได้ เป็นต้น

ปิยศักดิ์ เตชะเสน  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส - ช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้า “เคทีซี”   ผู้บริหารฐานพันธมิตรอันกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในฐานของความเข้มแข็งของ KTC  ได้กล่าวถึงกลยุทธ์การบริหารช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้าในปี  2562 ว่า

“การขยายฐานผลิตภัณฑ์ของเคทีซีในปีหน้า จะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพในการนำเสนอขายให้มากขึ้น โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย  โดยจะใช้ตัวแทนขายอิสระ (Outsource Sales) และสาขาของธนาคารกรุงไทยเป็นช่องทางหลัก และใช้ช่องทางออนไลน์เป็นยุทธศาสตร์ในระยะยาว โดย KTC ได้เตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อรองรับการเติบโตทั้งแพลทฟอร์มแบบเปิด (Open Platform) ของเว็บไซต์ใหม่ เพื่อให้พันธมิตรทุกรายสามารถทำงานกับเคทีซีได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่สมาชิกเองก็จะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจจากการใช้งานบนเว็บไซต์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสมัครโดยการฝากชื่อและเบอร์ติดต่อเพื่อให้เจ้าหน้าที่ Telesales บริการ หรือจะดำเนินการสมัครเองด้วยขั้นตอนที่ง่าย สะดวกและทราบผลได้อย่างรวดเร็ว 

ปิยศักดิ์   ได้เน้นย้ำถึงความพิเศษ ว่า ลูกค้าสมัครสินเชื่อบุคคลที่ “เคทีซี ทัช” ทั้ง  20 สาขาในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ สามารถรอฟังผลอนุมัติและและรับเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที และในเดือนมกราคม 2562 จะเริ่มทดลองให้บริการรับสมัครและทราบผลภายใน 60 นาที ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยในห้างสรรพสินค้าอีกด้วย

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ KTC ยังคงเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำในทุกอาชีพ และมุ่งเน้นกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานและยังไม่มีสินเชื่อ และจะขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบนให้มากขึ้น โดยจะร่วมกับธนาคารกรุงไทยสรรหาสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมี่ยมให้กับสมาชิกบัตรเคทีซี-เคทีบี พรีเชียส วีซ่าซิกเนเจอร์ / เคทีซี-เคทีบี พรีเชียส พลัส วีซ่า ซิกเนเจอร์ และเคทีซี-เคทีบี พรีเชียส พลัส วีซ่า อินฟินิท

ปิยะศักดิ์  กล่าวถึงเป้าหมายในการขยายฐานสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี พราว" ที่กำหนดการเติบโตไว้ที่  10% จากสิ้นปี 2561”  และถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ประกาศในนโยบายของปี 2562 

ในส่วนของ  “กลยุทธ์การบริหารธุรกิจร้านค้ารับบัตร  ของปี  2562 นั้น KTC มีกำหนดแผนเชิงรุกที่จะขยายเข้าธุรกิจร้านค้าประเภทใหม่ๆ และตลาดต่างจังหวัด รวมทั้งมุ่งเจาะธุรกิจร้านค้าออนไลน์เพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทรนด์ดิจิทัล และสนับสนุนธุรกิจร้านค้าให้เปลี่ยนจากการรับเงินสดมาเป็นผ่านบัตรเครดิตด้วยเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ  ขานรับกับกระแสความเป็นไปของพฤติกรรมผู้บริโภคในสังคมไร้เงินสดตามนโยบายของรัฐ

โดยส่วนหนึ่งของแผนงานประกอบด้วย

 1) พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของธุรกิจร้านค้าสมาชิกที่ปัจจุบันยังรับเงินสดเป็นหลัก พร้อมทั้งนำเสนอ Payment Solutions ที่หลากหลายและเหมาะสมกับแต่ละร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น QR Pay สำหรับบัตรเครดิต หรือ NFC Pay โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของการทำธุรกรรม ซึ่งจะต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

2) มุ่งจับกลุ่มธุรกิจลูกค้าชาวจีนที่เดินทางมาใช้จ่ายในประเทศไทย โดยยังจะขยายตลาดร้านค้าที่รองรับ Alipay Wallet อย่างต่อเนื่อง และจะรุกขยายตลาด Alipay Online ในปีหน้า

3) มุ่งเน้นธุรกิจ DCC (Dynamic Currency Conversion) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ร้านค้าที่รับลูกค้าต่างชาติ สามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการผ่านสกุลเงินต่างๆ ได้กว่า 30 สกุล”

ชุติเดช ชยุติ  ซีเอฟโอ (CFO- Chief Financial Officer ) “เคทีซี” 

ได้แถลงถึงนโยบายการบริหารการเงินของ KTC ว่า “ในปีนี้ KTC  ยังคงมีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็งมาก โดยคาดว่าสิ้นปี 2561 นี้จะสามารถทำกำไรได้ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท ด้วยการขยายฐานบัตรที่มากขึ้น อีกทั้งคุณภาพพอร์ตที่ดีทำให้การตั้งสำรองลดลง และการควบคุมต้นทุนการเงินที่ดี “

อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 อาจเป็นปีที่หลายธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่ง KTC ตระหนักดีและได้เตรียมการไว้รองรับเรื่องดังกล่าว โดยในปีหน้า KTC  จะยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ ด้วยการบริหารต้นทุนเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการหาต้นทุนที่ต่ำและเพิ่มสัดส่วนของเงินกู้ระยะยาวมากขึ้น ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้ในระยะยาว 5-10 ปีมากขึ้น เพื่อให้สามารถควบคุมเงินทุนให้อยู่ในระดับต่ำ โดยได้ออกหุ้นกู้ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 45,885 ล้านบาท หรือประมาณ 90% ของเงินกู้ยืมทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนเงินของบริษัทฯ ปรับขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าดอกเบี้ยตลาด และในปี 2562 บริษัทฯ มีแผนจะระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทฯ และทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดประมาณ 5,300 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มโครงการทดลองนำร่องใช้ RPA (Robotic Process Automation) มาช่วยการทำงานของฝ่ายบัญชี ในส่วนของงานที่มีวิธีการทำงานซ้ำๆ เดิมใน 5 ด้าน โดยเทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จในหลายประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหมายว่าการนำโรบอท (Robot) เข้ามาช่วยจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากกว่า 30% ในระยะยาว โดยบุคลากรที่เคยทำหน้าที่เดิมนี้ จะได้ขยับขึ้นไปรับงานที่สร้างมูลค่ามากขึ้น”

 

X

Right Click

No right click