รับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนกว่า 262.212 ล้านบาทซึ่งแสดงในงบกำไรขาดทุน (สุทธิจากการหักค่าเผื่อมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับอีกกว่า 249 ล้านบาท)  และ กำไรจาการตีราคาสินทรัพย์ซึ่งโอนเข้ากำไรสะสมโดยตรงอีกจำนวนกว่า 869.2 ล้านบาท รวมเป็นผลกระทบต่อกำไรสะสมของกลุ่มบริษัทจากการขายเลเจนด์ สยามกว่า 1,066 ล้านบาทหลังหักภาษีแล้ว และบริษัทมีโครงสร้างรายได้มาจากหลายส่วนธุรกิจ โดยเฉพาะรายได้จากการขายเครื่องมือแพทย์และธุรกิจการแพทย์กว่า 160.252 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนสะสมของบริษัทลดลงจาก 3,631.508 ล้านบาทในงวดสิ้นสุดปี 2564 เป็น 2,905.494 ล้านบาท ในงวดปัจจุบัน ลดลงกว่า 726.014 ล้านบาท

นายวิษณุกล่าวว่า โครงสร้างธุรกิจของบริษัทได้แตกไลน์มากขึ้นจากเดิม มีธุรกิจการแพทย์ และธุรกิจด้านกัญชง กัญชา พืชสมุนไพร มาเสริมรายได้ของบริษัท โดยปัจจุบันได้รับรู้รายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชาภายในไตรมาสที่ 3 นี้ นอกจากนี้บริษัทยังขยายโรงพยาบาลในเฟสสองที่โรงพยาบาลพานาซี พระรามสอง อีก 1 อาคาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจการแพทย์ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการในส่วนต่อขยายได้ภายในไตรมาสที่ 4/65 นี้ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ในทันที โดยคาดว่าจะเป็นรายได้ที่สำคัญในปีต่อไป และจะนำธุรกิจนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

จากการดำเนินงานมาตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เติบโตรวมถึง 1293.180 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 256.82% เมื่อปีกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ทำให้เรามีความมั่นใจว่า เป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่จะทำให้บริษัทมีรายได้รวมกว่า 3,800 ล้านบาทในปีนี้ จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีกำไรสุทธิอย่างแน่นอน