SCB WEALTH จัดสัมมนา SCB FIRST Exclusive Dinner

January 06, 2024 439

เจาะลึกภาพรวมเศรษฐกิจการลงทุนระดับโลก เปิดกลยุทธ์การเลือกสินทรัพย์ลงทุนต่อยอดความมั่งคั่งในปี 2024

ดร.ยรรยง ไทยเจริญ (กลาง) รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ WEALTH ธนาคารไทยพาณิชย์ นำทีมผู้บริหารจัดงาน SCB First  Exclusive Dinner ให้แก่กลุ่มลูกค้า First  เพื่อเปิดมุมมองวิเคราะห์เจาะลึกภาพรวมเศรษฐกิจ การลงทุนระดับโลก พร้อมกลยุทธ์การเลือกสินทรัพย์ลงทุนเพื่อต่อยอดความมั่งคั่ง ในปี  2024 โดยมี นายศรชัย สุเนต์ตา  (ที่ 1 ขวา)  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product  กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ คุณรัฐยา ทองรัตน์  (ที่ 2 ขวา)  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth Strategy and  Enablement ธนาคารไทยพาณิชย์  คุณนายสุกิจ อุดมศิริกุล (ที่ 1 ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด และ ดร.กำพล อดิเรกสมบัติ (ที่2ซ้าย) ผู้อำนวยการอาวุโสและหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office (SCB CIO)  ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมงานสัมมนา  ณ โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์  เมื่อเร็วๆนี้

โดยวัตถุประสงค์การจัดงานสัมมนาในครั้งนี้  เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนในปี  2024 ให้กับกลุ่มลูกค้า First ของธนาคาร ซึ่งในปี 2023  นับเป็นปีที่มีความท้าทาย จากภาวะลงทุนในตลาดโลกที่มีความผันผวนตลอดทั้งปี โดยคุณสุกิจ อุดมศิริกุล มองว่า ในปี  2024  ดัชนี SET จะปรับเพิ่มขึ้น แต่จะมีความผันผวนตลอดทั้งปี โดยในเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ประมาณ 1,650 – 1,750 จุด และจุดเข้าซื้อที่สำคัญอยู่ที่  1,400  - 1,450 จุด สำหรับการเลือกหุ้นในปี 2024 มีหลักในการพิจารณา ดังนี้ 1 ) เลือกธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน  มีความสามารถในการบริหารต้นทุน เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต้นทุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวน จากสภาวะ อากาศแปรปรวน หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ 2) เลือกหุ้นที่มีนวัตกรรมช่วยสร้างธุรกิจที่เป็น New S – Curve 3) สัดส่วนหนี้สินต่ำ ความสามารถในการชำระหนี้สูง 4)  เหมาะสมกับ Invesment theme ในปี 2024 เน้นวัฐจักรเศรษฐกิจนประเทศ 5 ) ให้ความสำคัญกับ ESG อย่างชัดเจน 6) ระมัดระวังธุรกิจที่พึ่งพาการส่งออก และอาจได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศแปรปรวน  และ 7) ราคายังคง  Undervalue  สำหรับหุ้นแนะนำในการลงทุนแบบ DCA  (Dollar -Cost – Averaging ) ได้แก่  BBL  BDMS  BEM  CPALL PTT และSCC

ดร. กำพล  อดิเรกสมบัติ  กล่าวว่า  ในปี  2023 เป็นปีแห่งความผันผวน  ในขณะที่ปี 2024  เป็นปีแห่งความคาดหวังแต่ต้องระมัดระวัง โดยมองว่า เศรษฐกิจแต่ละประเทศชะลอตัวไม่เหมือนกัน เนื่องจากผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง  สภาพคล่องทางการเงินที่ตึงตัวขึ้น   การปล่อยสินเชื่อที่มีความเข้มงวดมากขึ้น  นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการเลือกตั้งในหลายประเทศ  และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ  อย่างไรก็ตาม ในปี2024   คาดว่านักลงทุนจะมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น  แต่ยังแนะนำให้เน้นลงทุนในกลุ่มคุณภาพสูงสำหรับทุกสินทรัพย์ เช่น หุ้นกู้คุณภาพสูง ( Investment Grade bonds)  และ ทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม  Quality growth  ที่มี balance sheet  แข็งแกร่งในสหรัฐฯ  ญี่ปุ่น  และอินเดีย

X

Right Click

No right click