September 19, 2024

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 23 มกราคม พ.ศ. 2567 – อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว เผยข้อมูลการจองห้องพักช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2024 นี้ พบกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดฮิตอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยว และไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดฮิตอันดับ 2 อีกด้วย โดยเป็นรองเพียงญี่ปุ่นเท่านั้น

ข้อมูลการจองห้องพักของอโกด้ายังแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และญี่ปุ่นเป็น 5 อันดับแรกที่มาท่องเที่ยวในไทยมากที่สุดตามลำดับ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2019 ที่จีนกลับเข้ามาอยู่ใน 5 อันดับแรก ส่วนจุดหมายปลายทางยอดฮิตในไทย 5 อันดับแรกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต หาดใหญ่ พัทยา และเชียงใหม่ตามลำดับ

แม้การเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2024 แต่ปกติแล้วเทศกาลตรุษจีนมักขยายเวลาเป็นวันหยุดยาวในหลายประเทศทั่วทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในจีน ญี่ปุ่น (วันหยุดฤดูใบไม้ผลิ) และเวียดนาม (เต๊ด) ที่หยุดนานถึง 1 สัปดาห์ เทศกาลตรุษจีนถือเป็นช่วงเวลาท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ปีนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2019 ที่จีนติดอันดับ 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด และกลับเข้ามาอยู่ใน 5 อันดับแรกของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางไปอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไทย และเวียดนาม

นักท่องเที่ยวไทยเองก็ให้ความสนใจกับจุดหมายปลายทางต่างประเทศไม่น้อย โดยญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง และเวียดนามเป็นประเทศยอดฮิต 5 อันดับแรก ส่วนเมืองยอดฮิต 5 อันดับแรก ได้แก่ โตเกียว ไทเป โซล โอซาก้า และฮ่องกง

 

คุณเอนริก คาซาลส์, Associate Vice President Southeast Asia, อโกด้า กล่าวว่า “เทศกาลตรุษจีนเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญที่ผู้คนออกไปท่องเที่ยว และปีนี้ก็ไม่ต่างกัน ตั้งแต่ปี 2019 มา โรงแรมและจุดหมาย

ปลายทางต่าง ๆ ก็สร้างตัวเลือกให้ตัวเองน่าสนใจมากขึ้นในสายตานักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น การไม่ต้องขอวีซ่า และสิ่งจูงใจอื่น ๆ ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาไม่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวจากแค่ประเทศเดียว และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นได้ด้วยในขณะเดียวกัน แต่ในปีนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นตั้งตารอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมากขึ้นแน่นอน”

ในระดับภูมิภาค นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนมากมาจากเกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยประเทศที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านี้มากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม แสดงให้เห็นความหลากหลายของวัฒนธรรมและการพักผ่อน ส่วนเมืองต่าง ๆ เช่น กรุงเทพฯ โตเกียว โซล และโอซาก้า ยังคงมีเสน่ห์ในสายตานักท่องเที่ยว ซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเป็นเมืองอันอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาค

แพลตฟอร์มของอโกด้ามีที่พักมากกว่า 3.9 ล้านแห่ง ตั๋วเครื่องบิน และกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย ตอบโจทย์ความต้องการด้านการเดินทางท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คนได้อย่างดีเยี่ยม อโกด้าพร้อมมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ราบรื่นให้นักท่องเที่ยวทุกคนช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นในไทย หรือประเทศอื่น ๆ

ไม่ว่าจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่า วันคริสต์มาส วันหยุดของโรงเรียน หรือช่วงเงียบของที่ทำงาน การท่องเที่ยวทั่วโลกมักจะครึกครื้นมากเป็นพิเศษในช่วง 10 วัน สุดท้ายของปี เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวได้ดีลที่คุ้มราคาที่สุดสำหรับการวางแผนเตรียมไปเที่ยวช่วงปีใหม่ อโกด้า เลยเอา 10 จุดหมายปลายทางทั่วเอเชีย-แปซิฟิกที่ถูกที่สุดในช่วงสิ้นปี 2023 นี้มาแนะนำ เพราะอโกด้ามองหาดีลที่ดีที่สุด และราคาที่ถูกที่สุดอยู่เสมอ

อโกด้าจึงนำราคาห้องพักเฉลี่ยของหลากหลายจุดหมายปลายทาง ระหว่างวันที่ 22-31 ธันวาคม 2023 มาวิเคราะห์ และพบว่าในประเทศไทย หาดใหญ่เป็นจุดหมายปลายทางที่ถูกที่สุด โดยราคาห้องพักเฉลี่ยในเมืองอยู่ที่ 1,549 บาท

10 จุดหมายปลายทางทั่วเอเชีย-แปซิฟิกที่ถูกที่สุดในช่วงสิ้นปี 2023 นี้ ประกอบไปด้วย

หาดใหญ่ (ไทย) ยอกยาการ์ตา (อินโดนีเซีย) กูชิง (มาเลเซีย) ดาลัด (เวียดนาม) กัว (อินเดีย) บาเกียว (ฟิลิปปินส์) นาโกย่า (ญี่ปุ่น) ไทจง (ไต้หวัน) เมลเบิร์น (ออสเตรเลีย) และปูซาน (เกาหลีใต้) ราคาห้องพักเฉลี่ยของแต่ละที่นั้นแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 1,549 บาท ในหาดใหญ่ ถึง 5,692 วอน ในปูซาน

นายพีรพล สง่าเมือง, ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย, อโกด้า กล่าวว่า “เราได้เห็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่ของการเดินทางท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคเอเชียในปี 2023 เพราะผู้คนทั่วโลกกลับมาเดินทางไปท่องเที่ยว พบปะกับเพื่อน ครอบครัว และคนที่รักแล้ว ช่วงวันหยุดสิ้นปีนี้ก็คงไม่ต่างจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเที่ยวคนเดียว หรือเที่ยวกับคนที่รัก การท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นนั้นหมายถึงความต้องการตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก และอื่น ๆ ที่สูงขึ้น ดังนั้นอโกด้าจึงนำ 10 จุดหมายปลายทางทั่วเอเชีย-แปซิฟิกที่มีราคาห้องพักเฉลี่ยประหยัดที่สุดในช่วงสิ้นปี 2023 มาแนะนำ เพื่อให้ทุกคน ไม่ว่าใครจะมีงบมากน้อยเท่าใด ได้เที่ยวฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอย่างมีสไตล์”

แม้จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ถูกที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเลย แต่ละเมืองนั้นมีสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับการไปเที่ยวต้อนรับปีใหม่ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ชายหาด สวนสนุก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และร้านอาหารมากมาย มาดูไฮไลท์สถานที่ที่ไม่ควรพลาดของแต่ละที่กัน

1. หาดใหญ่, ไทย (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 1,549 บาท)

หาดใหญ่ มีร้านกาแฟฮิป ๆ ที่เที่ยวกลางคืนที่มีชีวิตชีวา และร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ อยู่มากมาย ใครที่ชอบเที่ยวแนวเมือง ต้องไปเดินเล่นที่ย่านเมืองเก่าสงขลา สัมผัสวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม ส่วนใครที่อยากเที่ยวแนวธรรมชาติ ต้องไปเล่นน้ำตกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง หาดใหญ่มีกิจกรรมรื่นเริงและเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่มากมายตลอดเดือนธันวาคม สามารถไปดื่มด่ำกับต้นคริสต์มาสยักษ์ และการแสดงไฟคริสต์มาสกันทั้งครอบครัวได้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ และเมื่อถึงเวลาเลือกซื้อของขวัญของที่ระลึก ก็ต้องแวะไปตลาดเก่าแก่ของเมืองอย่างตลาดกิมหยง

2. ยอกยาการ์ตา, อินโดนีเซีย (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 2,019 บาท)

ยอกยาการ์ตา ซึ่งผู้คนมักให้ฉายาว่าเป็น “ใจกลางแห่งวัฒนธรรมชวา” เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับการไปเที่ยวในเดือนธันวาคมที่น่าสนใจมาก ในเมืองนั้นเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมของชาวชวา และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง รวมถึงเกราตัน ยอกยาการ์ หรือพระราชวังสุลต่านอันโด่งดัง ประชากรที่หลากหลายต่างซึมซับมรดกอันยาวนานของเมืองและเอามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างลงตัว นอกจากพระราชวังสุลต่านแล้วก็ยังมีโบสถ์อันสวยงามที่กระจายอยู่ทั่วเมือง และงานประเพณีคริสต์มาสของคนในท้องถิ่นที่แสดงให้เห็นถึงความกลมกลืนกันของวัฒนธรรมต่าง ๆ ให้ชม ให้ลองสัมผัสด้วย

หากต้องการใช้เวลาช่วงสิ้นปีพักผ่อนแบบสงบ ๆ ลองไปเดินสำรวจกลุ่มวัดปรัมบานัน มรดกโลกขององค์การยูเนสโกที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 10 หรือมุ่งหน้าขึ้นเหนืออีกเพียง 25 กม. ไปยังเมืองเล็ก ๆ อย่างคาลูรัง ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาเมราปีอันงดงาม และเมื่อถึงวันสิ้นปี ห้ามพลาดเทศกาลกลางคืนยอกยาการ์ตาที่อาลุน อาลุน คิดุล หรือจัตุรัสใต้ ซึ่งจะมีการแสดงพลุหลากสีสันสุดอลังการต้อนรับปีใหม่

3. กูชิง, มาเลเซีย (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 2,162 บาท)

กูชิง เมืองหลวงอันน่ารื่นรมย์ของซาราวัก มีชื่อเสียงในเรื่องตลาดริมถนนที่ครึกครื้น อาหารข้างทางแสนอร่อย ทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงาม และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง เช่น หมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากใช้เวลาด้วยกันท่ามกลางธรรมชาติ ในเดือนธันวาคม กูชิงจะกลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งเทศกาลที่เต็มไปด้วยด้วยแสงไฟ และของประดับตกแต่งละลานตา ไม่ว่าจะเป็นตรงพื้นที่ริมน้ำกูชิงที่สามารถไปเดินชมวิวได้ หรือรูปปั้นแมวยักษ์ในชุดพร้อมฉลองขึ้นปีใหม่ตรงวงเวียนปาดูงันอันโดดเด่น ใครที่อยากพบปะผู้คนใหม่ ๆ ลองไปร่วมเดินขบวนคริสต์มาสกูชิงประจำปี จากนั้นไปต่อที่ถนนคาร์เพนเทอร์ แหล่งรวมร้านอาหารชื่อดัง และร้านขายของต่าง ๆ ในเมืองที่ยังน่าเดินในยามค่ำคืน

4. ดาลัด, เวียดนาม (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 2,450 บาท)

ดาลัด เมืองแห่งขุนเขาอันมีเสน่ห์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เมืองนี้จะกลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาว ด้วยไฟระยิบระยับ การตกแต่งตามเทศกาล และบรรยากาศที่สนุกสนาน

สภาพอากาศที่เย็นสบายในช่วงสิ้นปี ทำให้เหมาะกับการไปเที่ยวสถานที่ยอดฮิตของเมือง อย่าง เครซี เฮาส์ (Crazy House) ทะเลสาบซวนฮวาง และหุบเขาแห่งความรักที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด

5. กัว, อินเดีย (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 3,315 บาท)

กัว ถือได้ว่าเป็นสวรรค์แห่งปาร์ตี้ของอินเดีย ขึ้นชื่อในเรื่องชายหาด สถานที่เที่ยวกลางคืน ตลาด และอาหารทะเล แม้บางครั้งจะถูกมองข้าม แต่รัฐกัวก็มีด้านสงบที่สวยงามไม่แพ้กัน ที่เที่ยวและกิจกรรมในกัวมีให้เลือกมากมายทั้งปี เช่น น้ำตกดัตซาการ์ในเขตป่าอันเขียวชอุ่ม คาเฟ่ Artjuna ที่มีอิมเมอร์ซีฟเวิร์กช็อป การแสดงดนตรีสด และคอร์สโยคะ หรือถ้าใครอยากเที่ยวสนุกแบบคนในท้องถิ่น ก็มีเทศกาล Bonderam ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม และเกาะดิวาร์ สามารถนั่งเรือข้ามไปเดิมชมโบสถ์เก่าแก่ ลิ้มรสอาหารท้องถิ่นได้

6. บาเกียว, ฟิลิปปินส์ (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 3,423 บาท)

อากาศที่เย็นและสดชื่นทำให้บาเกียวแตกต่างจากเมืองอื่น ๆ ของฟิลิปปินส์ซึ่งตั้งอยู่ในเขตร้อน และได้รับฉายา “เมืองหลวงฤดูร้อนของฟิลิปปินส์” บาเกียวเป็นเมืองที่เที่ยวได้ตลอดปี มีสถานที่สวยงามที่ผู้คนชื่นชอบมากมาย อย่าง กลุ่มต้นสนในสวนสาธารณะ Mines View แคมป์ John Hay และตลาดกลางคืนบาเกียว แหล่งรวมสินค้าวินเทจหลากหลายชนิด นอกจากนี้บาเกียวยังมีมรดกทางงานฝีมือ และศิลปะพื้นบ้านที่โดดเด่น จนได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกอีกด้วย

ภูมิประเทศที่สูงอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองทำให้บาเกียวสามารถปลูกสตรอเบอร์รี่ได้ คนท้องถิ่นจึงนิยมทำทาโฮสตรอเบอร์รี่ (ขนมฟิลิปปินส์ที่ทำมาจากเต้าหู้อ่อน น้ำเชื่อม และไข่มุกเม็ดเล็กที่เรียกว่า สาคู) ไว้สำหรับเช้าวันคริสต์มาส ไปจนถึงไวน์สตรอเบอร์รี่สำหรับจิบฉลองขึ้นปีใหม่กับครอบครัวและคนที่รัก

7. นาโกย่า, ญี่ปุ่น (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 3,855 บาท)

นาโกย่า เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และช่วงสิ้นปีเมืองนี้จะครึกครื้นมากเป็นพิเศษด้วยแสงไฟตกแต่ง กิจกรรมสนุก ๆ และบรรยากาศที่รื่นเริง การแสดงไฟในช่วงฤดูหนาวของนาโกย่าถือเป็นหนึ่งในงานแสดงไฟที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น โดยถนนเล็กใหญ่ รวมไปถึงสวนสาธารณะต่าง ๆ เช่น สวนพฤกษศาสตร์นาบานะ โนะ ซาโตะ ย่านซากาเอะ และย่านโอสึของเมืองจะถูกเปลี่ยนให้เป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวด้วยไฟระยิบระยับนับล้าน

8. ไทจง, ไต้หวัน (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 4,143 บาท)

ไทจง ไม่เพียงแต่มีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน แต่ยังมากไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม ไถจงมีสถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมที่หลากหลาย ให้บริการนักท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าคุณจะเป็นการชมโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม ร้านอาหารอร่อย และธรรมชาติที่มีทั้งป่าไม้และทะเล

นอกจากนี้ ไทจง ยังเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลศิลปะแสง Lishan Guguan ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยครอบคลุมระยะเวลา 1 เดือน แห่งศิลปะการใช้แสงอันน่าหลงใหล นอกจากนี้ยังมีการแสดง และกิจกรรมทางดนตรีมากมาย ผสมผสานบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาเข้ากับการเฉลิมฉลอง นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของงานศิลปะที่ส่องสว่าง ขณะเพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีสด หรือเข้าร่วมการแสดงเต้นรำ และเวิร์คช็อปศิลปะได้

9. เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 5,584 บาท)

เมลเบิร์นได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘อัญมณีแห่งวัฒนธรรม’ ของออสเตรเลียมายาวนาน เนื่องจากมีศิลปะ รวมไปถึงการแข่งขันกีฬาที่มีชีวิตชีวา กาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก และสถานที่เที่ยวกลางคืนอันครึกครื้น เต็มไปด้วยเสน่ห์ ในช่วงคริสต์มาสและช่วงปิดเทอม เมืองริมทะเลแห่งนี้ก็จะเต็มไปด้วยสีสันที่เหมาะสำหรับทั้งครอบครัว ตั้งแต่ตลาดคริสต์มาสไปจนถึงการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น การแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียนโอเพ่น

ด้วยระบบรถรางที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เมลเบิร์นจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินสำรวจชมสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่สวยงาม หรือ Federation Square ผู้คนไปทำกิจกรรม พักผ่อนหย่อนใจกันมากมาย ที่นี่มีอะไรให้ทุกคนทำอยู่เสมอ

10. ปูซาน, เกาหลีใต้ (ราคาห้องพักเฉลี่ย = 5,692 บาท)

ปูซานเป็นจุดหมายปลายทางริมชายฝั่ง ที่มีการผสมผสานระหว่างชายหาดที่สวยงาม ตึกระฟ้าสมัยใหม่ ตลาดแบบดั้งเดิม และตรอกคาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ อย่างลงตัว หากใครที่กำลังหาโอกาสชมทิวทัศน์ของเมืองที่หลากหลายได้ในครั้งเดียว ต้องไม่พลาด Busan X the SKY เป็นหอชมวิวชั้นบนสุดของอาคารที่สูงเป็นอันดับ 2 ในเกาหลีใต้ ซึ่งตั้งอยู่บนหาดแฮอึนแด หากใครอยากไปเดินเล่นแบบเงียบสงบกว่านี้ ลองไปถนนดัลมาจิกิล จะมีร้านกาแฟเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วไป พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของมหาสมุทรสีฟ้า

สำหรับเทศกาลแสงสีฤดูหนาวริมทะเลที่ไม่เหมือนใคร ต้องไม่พลาดหาดกวานกาลีที่จัดงานแสดงแสงโดรน Gwangalli Marvelous สุดตระการตาทุกสัปดาห์ในช่วงเย็นวันเสาร์ โดยแสงไฟจะกระจายไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปลอดโปร่งในฤดูหนาว

นอกจากการเผยจุดหมายปลายทางที่มีราคาย่อมเยาที่สุดให้แล้ว อโกด้ายังช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยฟีเจอร์อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Price Freeze, Price Alerts, ส่วนลดแบบกลุ่ม, ดีลรายวัน และอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ผู้คนออกไปท่องเที่ยวได้มากขึ้นโดยจ่ายน้อยลง

กิจกรรมเวิร์คช็อปด้านเทคโนโลยีโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของอโกด้าสำหรับนักเรียนโรงเรียนนาหลวง

อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ (Saturday School) จัดทำโครงการ Agoda Tech Day Camp กิจกรรมเวิร์คช็อปด้านเทคโนโลยีสำหรับนักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษามหาวิทยาลัยในปี 2566 โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนนาหลวง จำนวน 60 คนได้เข้าร่วมเวิร์คช็อปครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2566  

ในงานดังกล่าว มีบุคคลสำคัญจากหน่วยงานหลักที่ร่วมดำเนินโครงการเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาวเพ็ญลักษณ์ บุญความดี ผู้อำนวยการโรงเรียนนาหลวง และนายออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ อโกด้า โดยมีพนักงานชาวไทยของอโกด้าซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นผู้ดำเนินการอบรมและพัฒนาหลักสูตรขึ้นใหม่โดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสมกับการสอนสร้างเว็บไซต์ให้กับนักเรียนโดยใช้โปรแกรมต่าง ๆ เช่น React-Bootstrap

 

โดยมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษา ได้ร่วมพัฒนาเนื้อหาการอบรมในครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนมากที่สุด ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยี อโกด้ามีความหลงใหลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เช่น การศึกษาด้านเทคโนโลยี Hackathon และ โครงการ Codegoda กิจกรรมแข่งขันเขียนโค้ดซึ่งอโกด้าจัดขึ้นเป็นประจำในทุก ๆ ปี

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความพร้อมที่จะร่วมงานกับอโกด้าในการพัฒนาการศึกษาด้านเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า “การปลูกฝังให้คนรุ่นต่อไปได้เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีนั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราที่จะพัฒนาเมืองอันเต็มไปด้วยชีวิตอย่างกรุงเทพฯ โดยโครงการ 'Agoda Tech Day Camp' จะช่วยส่งเสริมและปลูกฝังแนวคิดด้านดิจิทัลสำหรับนักเรียนไทยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น" ผู้ว่าฯ ยังหวังที่จะขยายความร่วมมือนี้ไปสู่การร่วมกับองค์กรภาครัฐหรือเอกชนอื่น ๆ ในอนาคตเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบุคลากรให้พร้อมรับมือกับสังคมที่กำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในวันข้างหน้า

 

นายออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอโกด้า แสดงความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ กทม. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดยคุณออมรีกล่าวว่า "ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อโกด้ามองว่าหน้าที่หลักของเรา คือการลงทุนและถ่ายทอดทั้งองค์ความรู้และ know-how แก่เหล่าผู้นำในอนาคตเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นมีทักษะที่เหมาะสมซึ่งจะเป็นรากฐานสู่ความสำเร็จได้"

โครงการ 'Agoda Tech Day Camp' ที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระหว่างอโกด้าและกทม. โดยทั้งสองฝ่ายยังมีโครงการอื่น ๆ ที่ได้มีโอกาสดำเนินการร่วมกัน อาทิ โครงการปลูกต้นไม้กลางกรุง กิจกรรม Action Day PM 2.5 BKK และโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนที่ตลาดน้อย

 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความพร้อมที่จะร่วมงานกับอโกด้าในการพัฒนาการศึกษาด้านเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า “การปลูกฝังให้คนรุ่นต่อไปได้เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีนั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราที่จะพัฒนาเมืองอันเต็มไปด้วยชีวิตอย่างกรุงเทพฯ โดยโครงการ 'Agoda Tech Day Camp' จะช่วยส่งเสริมและปลูกฝังแนวคิดด้านดิจิทัลสำหรับนักเรียนไทยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น" ผู้ว่าฯ ยังหวังที่จะขยายความร่วมมือนี้ไปสู่การร่วมกับองค์กรภาครัฐหรือเอกชนอื่น ๆ ในอนาคตเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบุคลากรให้พร้อมรับมือกับสังคมที่กำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในวันข้างหน้า

นายออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอโกด้า แสดงความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ กทม. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดยคุณออมรีกล่าวว่า "ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อโกด้ามองว่าหน้าที่หลักของเรา คือการลงทุนและถ่ายทอดทั้งองค์ความรู้และ know-how แก่เหล่าผู้นำในอนาคตเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นมีทักษะที่เหมาะสมซึ่งจะเป็นรากฐานสู่ความสำเร็จได้"

 โครงการ 'Agoda Tech Day Camp' ที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระหว่างอโกด้าและกทม. โดยทั้งสองฝ่ายยังมีโครงการอื่น ๆ ที่ได้มีโอกาสดำเนินการร่วมกัน อาทิ โครงการปลูกต้นไม้กลางกรุง กิจกรรม Action Day PM 2.5 BKK และโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนที่ตลาดน้อย

Page 2 of 2
X

Right Click

No right click