นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “วันนี้ (30 มีนาคม 2563) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเริ่มกระจายในวงกว้างมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐได้ขอความร่วมมือเอกชนในหลายช่องทางให้พิจารณาความจำเป็นในการจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นและกระจายสู่บุคคลทั่วไปได้โดยง่าย ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ได้คำนึงถึงประเด็นต่างๆ อย่างรอบคอบ และมีมติอนุมัติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ออกไปไม่มีกำหนด (เดิมกำหนดไว้วันที่ 3 เมษายน 2563 เวลา 9.00 น. ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล) ซึ่งการเลื่อนการประชุมดังกล่าว จะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ”
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.88 บาท รวมเป็นเงินปันผลจำนวนทั้งสิ้น 2,268,933,982 บาท สำหรับผลประกอบการปี 2562 ตามงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ รอบบัญชีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ แล้ว โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 17 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นกำหนดวันเดิมที่เคยแจ้งผู้ถือหุ้นไว้แล้ว และเมื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในครั้งนี้แล้ว ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ที่จะมีขึ้นต่อไป จะไม่มีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลอีก
เคทีซีทุบสถิติใหม่ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน เปิดกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 5,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5%
นายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส – คอร์ปอเรท ไฟแนนซ์ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค เปิดเวทีเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อ “KTC FIT Talks 6: เจาะลึก..อะไรจะเกิดขึ้น? เมื่อมาตรฐาน TFRS9 เข้ามา” โดยเชิญ ดร.ศุภมิตร เตชะมนตรีกุล หุ้นส่วนสำนักงานด้านการสอบบัญชี บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด ร่วมเป็นวิทยากรพิเศษ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เมื่อมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (Thai Financial Reporting Standards: TFRS 9) เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 และการรับมือของสถาบันการเงินไทย ความเปลี่ยนแปลง ความเสี่ยงและผลกระทบที่เกี่ยวข้อง โดยคุณชุติเดชได้ยืนยันว่ามาตรฐาน TFRS9 ทำให้การรายงานตัวเลขทางการเงินของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีผลกระทบอย่างใดกับการปฏิบัติงานจริง งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุมใหญ่ “เคทีซี”ชั้น 14 อาคารสมัชชาวาณิช 2 พร้อมออกอากาศสดผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ (Facebook Live) ทางเพจ #KtcCsrClub
ดร.ศุภมิตร กล่าวถึงสาระสำคัญของมาตรฐาน TFRS 9 ว่า “TFRS 9 คือ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 : เครื่องมือทางการเงินที่ใช้ลงบัญชีของกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (PAEs: Publicly Accountable Entities) อันได้แก่ บริษัทมหาชน กิจการที่ต้องระดมเงินในวงกว้างโดยการออกตราสารหนี้ ตราสาร ทุน หรือเอกสารแสดงสิทธิ เช่น สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์และกองทุนรวม ฯลฯ รวมถึงกิจการที่กำลังขอจดทะเบียนออกตราสารในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้มีการบังคับใช้มาตรฐาน TFRS9 ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา”
มาตรฐาน TFRS9 ได้ปรับเปลี่ยนหลักการเกี่ยวกับการจัดประเภทและการวัดมูลค่าของเครื่องมือทางการเงิน และการด้อยค่าของเครื่องมือทางการเงิน โดยมีส่วนที่สำคัญคือ การกันเงินสำรองเพื่อรองรับผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากสินทรัพย์และภาระผูกพัน เช่น เงินให้สินเชื่อ เงินลงทุนในตราสารหนี้ สัญญาค้ำประกันทางการเงิน วงเงินที่ยังไม่ได้เบิกใช้ จากแนวคิดเดิมที่กันเงินสำรองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว (Incurred Loss) มาเป็นการกันสำรองเพื่อรองรับความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (Expected Loss: EL) เพื่อให้เงินสำรองสะท้อนความเสี่ยงด้านเครดิตตลอดอายุของลูกหนี้ โดยกำหนดให้พิจารณาจากข้อมูลทั้งในอดีต ปัจจุบัน และเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (Forward-looking Information) โดยพิจารณากันเงินสำรองต่างกันตามสถานะหรือชั้น (Stage) ของลูกหนี้
ลูกหนี้ Stage 1 กลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตไม่เปลี่ยนแปลงจากวันแรกของการให้สินเชื่อ ให้กันเงินสำรองเพื่อรองรับความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 1 ปีข้างหน้า (1-year EL)
ลูกหนี้ Stage 2 กลุ่มที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ลูกหนี้Stage 3 กลุ่มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing loan: NPL) ให้กันเงินสำรองรองรับความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตลอดอายุของลูกหนี้ (Lifetime EL) ทำให้สถาบันการเงินรับรู้เงินสำรองเร็วขึ้นตามสถานะของลูกหนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป และงบการเงินสะท้อนฐานะที่แท้จริงอย่างเป็นปัจจุบัน
“สำหรับงบการเงินจะเปลี่ยนแปลงการแสดงรายการแบบใหม่ ตามแนวทางการจัดประเภทและการวัดมูลค่าที่เปลี่ยนแปลง โดยจะเพิ่มบางรายการ เช่น สินทรัพย์ หนี้สินทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุน (Fair value through PL: FVTPL) และงบกำไรขาดทุนจะมีการเปลี่ยนแปลงบางรายการ เช่น กำไร (ขาดทุน) จากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงินประเภทต่างๆ ผ่านกำไรขาดทุน (FVTPL) หรือกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น (Fair Value through Other Comprehensive Income: FVOCI) และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้งบการเงินทราบถึงรูปแบบการประกอบธุรกิจ และวัตถุประสงค์ในการถือครองสินทรัพย์ของกิจการ หากมีวัตถุประสงค์ในการถือครองสินทรัพย์เพื่อมุ่งหวังกำไรระยะสั้น จะรับรู้กำไรหรือขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเข้างบกำไรขาดทุน (FVTPL) แต่หากถือเพื่อมุ่งหวังกระแสเงินสดและขายในอนาคต จะรับรู้กำไรหรือขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเข้างบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น (FVOCI) แต่หากถือเพื่อมุ่งหวังเพียงกระแสเงินสดตามสัญญา จะวัดมูลค่าด้วยวิธีราคาทุนตัดจำหน่ายและมีการกันสำรองตามที่กล่าวข้างต้น สำหรับอัตราส่วนทางการเงินบางรายการก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เช่น เงินให้สินเชื่อใน Stage 2 ratio อาจมากกว่า Special Mention (SM) ratio เดิม เนื่องจากขอบเขตการนับลูกหนี้ที่กว้างกว่า ในขณะที่ Net Interest Margin (NIM) อาจกว้างขึ้นแต่ไม่มาก เนื่องจากการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากส่วนที่คาดว่าจะได้รับคืนของลูกหนี้ NPL”
นายชุติเดช กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับเคทีซีบนมาตรฐาน TFRS 9 ว่า “การนำมาตรฐานบัญชี TFRS9 มาใช้สำหรับงบการเงินเคทีซีที่มีรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไปนั้น จะเป็นการเปลี่ยนแปลงในการรายงานตัวเลขทางการเงินมากกว่าที่จะเป็นผลกระทบต่อการปฏิบัติงานจริง ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดจะมาจากแนวทางการตัดหนี้สูญที่เข้มข้นกว่ามาตรฐานเดิม โดยรายงานตัวเลขทางการเงินตาม TFRS9 จะแตกต่างไปจากเดิม 5 เรื่องด้วยกัน ดังนี้
ทั้งนี้ ด้วยจำนวนของสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่เคทีซีมีอยู่ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เมื่อได้คำนวณตาม ECL Model แล้ว มีส่วนที่เกินอยู่จำนวนหนึ่ง ฝ่ายจัดการของบริษัทฯ จึงพิจารณา Management Overlay จำนวนหนึ่งเพิ่มเติมตามกำหนดในมาตรฐาน TFRS9 จึงทำให้เมื่อเข้าสู่ TFRS9 จะไม่มีสำรองส่วนเกิน”
เคทีซีมีผลประกอบการ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ดังนี้ กำไรสุทธิ 5,524 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมเท่ากับ 85,834 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 3.4 ล้านบัญชี แบ่งเป็นธุรกิจบัตรเครดิต 2,510,914 บัตร พอร์ตลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 56,653 ล้านบาท NPL รวม 1.06% NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 0.93% ธุรกิจสินเชื่อบุคคลมีจำนวนทั้งสิ้น 888,342 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวม 28,933 ล้านบาท NPL ของสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 0.92%
รองศาสตราจารย์นายแพทย์นริศ กิจณรงค์ (กลางขวา) รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รับมอบเงินบริจาคจำนวน 16,336,546 บาท จากนางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช (กลางซ้าย) ผู้อำนวยการ - ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งสมาชิกบัตรเคทีซีได้ร่วมกันบริจาคผ่านช่องทางต่างๆ ของเคทีซี เพื่อสมทบทุนเข้าศิริราชมูลนิธิในการนำไปช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยโรงพยาบาลศิริราชต่อไป ณ ตึกอำนวยการ ชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ สมาชิกบัตรเคทีซีที่มีคะแนน KTC FOREVER สามารถร่วมบริจาคเข้าศิริราชมูลนิธิได้ โดยทุกๆ 1,000 คะแนน จะแทนเงินบริจาค 100 บาท และเคทีซีจะร่วมสมทบทุนเพิ่มอีก 100 บาท ทุกๆ การบริจาค 1,000 คะแนน ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2563
“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ “สกิลเลน” (SkillLane) แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับคนทำงานคุณภาพมากกว่า 500 คอร์ส สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและสถาบันชั้นนำจากประสบการณ์จริงกว่า 400 ท่าน มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี รับส่วนลด 300 บาททันที พร้อมรับคะแนน KTC FOREVER เมื่อสมัครคอร์สออนไลน์ผ่าน www.SkillLane.com ครบ 2,000 บาทต่อรายการ โดยระบุรหัสส่วนลด “KTCSKL300” ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 31 มกราคม 2563
“SkillLane (สกิลเลน)” หรือ Digital Learning Platform ชั้นนำของไทย เป็นแพลตฟอร์มเพื่อให้คนทำงานเข้าถึงความรู้ที่เน้นการพัฒนาทักษะตามความต้องการ (on-demand) เพื่อเพิ่มพูนทักษะการทำงานและการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้เองตามใจแม้จะมีเวลาว่างเพียง 15 นาทีในแต่ละวัน ปัจจุบันมีคอร์สเรียนออนไลน์ครอบคลุมมากกว่า 15 หมวดหมู่ ทั้งหมวดการเงินการลงทุน หมวดอสังหาริมทรัพย์ หมวดธุรกิจ หมวดการตลาด หมวดพัฒนาตนเอง หมวดภาษา หมวดคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงหมวดไลฟ์สไตล์ อัดแน่นด้วยอาจารย์ผู้สอนที่เชี่ยวชาญและสถาบันชั้นนำ อาทิ ลูกเกด-เมทินี / อาจารย์อดัม แบรดชอว์ / ครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ / กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล / ภาววิทย์ กลิ่นประทุม / หยง-ธำรงชัย เอกอมรวงศ์ / 2Morrow Group, SCBS, SCG, AIS The StartUp ฯลฯ
นอกจากนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซียังสามารถแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ากับยอดซื้อต่อรายการ และรับคะแนน KTC FOREVER สูงสุด X12 (คะแนนปกติ 1 เท่า + คะแนนพิเศษสูงสุด 11 เท่า) เพียงใช้จ่ายและลงทะเบียนรับสิทธิที่ www.ktc.co.th/shoponline ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 และวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เท่านั้น
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชั่นออนไลน์อื่นๆ ของเคทีซีได้ที่ www.ktc.co.th/shoponline แหล่งรวมโค้ดส่วนลดจากพันธมิตรออนไลน์ที่มากที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ http://bit.ly/2uPcS19 หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ #สุขสุดคุ้ม กับบัตรเคทีซี