“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดโปรโมชันดันยอดออนไลน์ในหมวดสินค้าแฟชั่น ไตรมาสแรก จับมือ 2 พันธมิตรแฟชั่นออนไลน์ Zilingo และ Looksi.com  มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ดังนี้ Zilingo ออนไลน์แฟชั่นมาร์เกตเพลส รับส่วนลดสูงสุด 10% เมื่อซื้อสินค้าผ่าน Zilingo.com หรือแอปพลิเคชัน Zilingo และชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซีครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อยอดซื้อ พร้อมระบุรหัสส่วนลด “ZLGOKTC10” Looksi.com รับส่วนลด 5% ทันที เมื่อซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Looksi และชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซีตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ พร้อมระบุรหัสส่วนลด “KTCCARD19” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 – 31 มีนาคม 2562

พิเศษ สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยสามารถแลกรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ากับยอดใช้จ่ายออนไลน์ต่อรายการ และรับคะแนน KTC FOREVER 5 เท่า (คะแนนปกติ 1 เท่า และคะแนนพิเศษ 4 เท่า) โดยสามารถลงทะเบียนแลกรับเครดิตเงินคืนและคะแนนสะสม X5 ได้ที่ www.ktc.co.th/shoponline ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 – 30 มิถุนายน 2562 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ http://bit.ly/2uPcS19  หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ

ก้าวอีกก้าวของ KTC  ปี 2561 ภายใต้การนำของ ระเทียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTC ร่วมกับทีมบริหารทั้งชุดสร้างความสำเร็จของเป้าหมายปี 2561 ด้วยผลกำไร 9 เดือน 3,911 ล้านบาท หรือ65%   ตอกย้ำฐานสมาชิกรวมทั้งบัตรทั้งเครดิต และสินเชื่อบุคคล มากถึง 3.2 ล้านบัญชี

ระเทียร  ศรีมงคล  ซีอีโอ ของ KTC  บอกเล่าถึงย่างก้าวของความสำเร็จของปีนี้  และเป้าหมายในปี 2562 ร่วมกับคณะผู้บริหารและทีมงาน KTC   ภายใต้บรรยายการล่องเรือตามแม่น้ำไนล์  เมืองไคโร ประเทศอิยิปต์เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า 

ในปี 2561 เคทีซีได้ผ่านบททดสอบจากความท้าทายหลายปัจจัย ทั้งจากมาตรการต่างๆ วิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว  และการแข่งขันในการทำธุรกิจที่ทวีความรุนแรง ทำให้เราต้องช่วยกันคิดพลิกหากระบวนกลยุทธ์หลายอย่าง เพื่อให้ธุรกิจผ่านไปได้ โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับสมาชิกของเราที่มีอยู่ และต้องขอบคุณอุปสรรคเหล่านั้น ที่ทำให้เราแข็งแกร่งและกลับมีผลงานเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ด้วยผลกำไร 9 เดือน ที่สูงขึ้นถึง 65% เท่ากับ 3,911 ล้านบาท มีจำนวนสมาชิกรวมบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล 3.2 ล้านบัญชี อีกทั้งรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ในอัตราที่ต่ำมากๆ และยังคงต่ำกว่าอุตสาหกรรม”

                                                                                         

ซีอีโอ’ ของ KTC  ยังเผยต่อว่า “ ในปี 2562 เราคาดหวังว่าจะมีกำไรเพิ่มจากสิ้นปี 2561 ประมาณ 10% ด้วยความเชื่อว่าปีหน้าเศรษฐกิจของประเทศไทยน่าจะเติบโตได้จากหลายปัจจัยทางการเมืองและภาคเศรษฐกิจที่ได้วางรากฐานไว้แล้ว ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้น  ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคดีไปด้วย สำหรับ KTC จะเห็นอะไรใหม่ๆ ออกมาแน่นอน เรื่องหนึ่งคือการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อผลักดันฐานรายได้ให้สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด  โดยจะเพิ่มธุรกิจนาโน-พิโกไฟแนนซ์  ซึ่งตอนนี้ได้มีการเตรียมโมเดลธุรกิจและจัดกระบวนทัพทุกอย่างไว้รอแล้ว เมื่อได้รับการอนุมัติจากธนาคารกรุงไทยและธนาคารแห่งประเทศไทย เราพร้อมจะมุ่งทำการตลาดอย่างเข้มข้นเต็มที่ทุกธุรกิจ บนพื้นฐานของความยืดหยุ่นและระมัดระวัง ทุกฝ่ายต้องทำงานประสานร่วมกันยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องมีพันธมิตรหลากหลายธุรกิจที่จะช่วยเรา  เติมเต็มผลิตภัณฑ์และบริการให้สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงการพัฒนาด้านไอทีต่างๆ ซึ่งสมาชิก KTC จะได้พบกับนวัตกรรมบริการด้านการเงินใหม่ๆ ที่จะมาเป็นผู้ช่วยให้สมาชิกได้รับความสะดวกในการใช้จ่ายอย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและผูกติดกับแบรนด์ KTC อย่างยั่งยืน”

 

พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี”  ได้ร่วมเผยถึงกลยุทธ์การตลาดธุรกิจบัตรเครดิตในปี 2562 ว่า

 

พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต เคทีซี  ได้ร่วมเผยถึงกลยุทธ์การตลาดธุรกิจบัตรเครดิตของปี 2562 ว่า 

 “กลยุทธ์หลักด้านการตลาดของเคทีซีจะคงรักษาจุดแข็งของความร่วมมือด้านการตลาดกับพันธมิตรร้านค้าที่หลากหลาย ในการสร้างสรรค์โปรโมชั่นที่น่าสนใจและแตกต่างเพื่อกระตุกความสนใจของสมาชิก ทั้งหน้าร้านค้าและออนไลน์ เน้นการสื่อสารที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมาและมีความคุ้มค่า ตรงใจ ครอบคลุมทุกกลุ่มสมาชิกเป้าหมายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วย 3 อาวุธหลัก คือ

 1) รายการสะสมคะแนน KTC FOREVER ที่ยืดหยุ่น แลกง่าย และแลกได้จริง 

2) บริการผ่อนชำระ KTC FLEXI เพื่อตอบโจทย์ร้านค้าและสมาชิกบัตร 

3) บริการ KTC World Travel Service สำหรับคนรักการท่องเที่ยว

นอกจากนี้เคทีซียังเล็งเห็นถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ผู้บริโภคนิยมทำอะไรด้วยตนเอง ทั้งการค้นหาข้อมูลที่สนใจและการทำรายการ เราจึงได้พัฒนาบริการและช่องทางการสื่อสาร โดยปรับปรุงการใช้งานโมบายแอปพลิเคชัน “KTC Mobile” (เปลี่ยนชื่อจาก TapKTC) เพื่อให้สมาชิกเข้าถึงการใช้งานได้สะดวกและมั่นใจในความปลอดภัย โดยปัจจุบันมี

จำนวนสมาชิกที่ลงทะเบียนใช้แอปฯ KTC Mobile เกือบ 1 ล้านราย หรือประมาณ 60% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด รวมทั้งจะมีการปรับปรุงเว็บไซต์ www.ktc.co.th  และ www.ktcworld.co.th เพื่อให้ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกบัตรมากขึ้นอีกด้วย

พิทยา  วรปัญญาสกุล  ได้ทิ้งท้ายในถ้อยแถลงว่า  “ ในปีหน้า  2562  KTC ก็คาดหวังที่จะสร้างยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโต 15%  ซึ่งถือนับเป็นความท้าทายอย่างไม่หยุดยั้ง

พิชามน  จิตรเป็นธรรม  ผู้อำนวยการ- ธุรกิจสินเชื่อบุคคล KTC   ได้ร่วมแถลงถึงสภาพการณ์ธุรกิจและการตลาด ในปี 2562  พร้อมแนวทางของ KTC  ที่ประกอบด้วยทั้งการตั้งรับ และเชิงรุกว่า “ สภาวะการแข่งขันธุรกิจสินเชื่อบุคคลจะยิ่งมีความร้อนแรงมากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดรวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ๆ

โดยกลยุทธ์การตลาดของเคทีซีในปี 2562 จะมุ่งขยายจำนวนสมาชิกให้ได้ถึง 1 ล้านราย และตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเติบโตของยอดลูกหนี้ 10% โดยจะเดินหน้าแบ่งเบาภาระคนไทยให้ได้รับสินเชื่อที่เป็นธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและร่วมลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบในปัจจุบัน

เคทีซียังได้พัฒนาบริการเบิกเงินสดออนไลน์ผ่านแอปฯ “KTC Mobile”  ที่ให้ความรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น และสามารถเบิกได้ตามวงเงินสูงสุดที่มีในบัตรตลอด 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์ สะดวกสบายไม่ต้องใช้ PIN เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้ KTC ยังมีแผนจะเพิ่มจำนวนธนาคารรองรับความต้องการในอนาคตเพื่อให้สมาชิกเลือกโอนเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น   ซึ่งล่าสุดสมาชิกสามารถเลือกผ่อนชำระตามแบบที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนชำระเป็นงวดที่เท่ากัน หรือเลือกผ่อนชำระขั้นต่ำ 3% หรือ 300 บาทได้”

พิชามน ยังกล่าวแผนการเพิ่มจำนวนสมาชิกของ KTC ว่า “  แคมเปญการตลาดหลายรูปแบบ มีเป้าหมายเพื่อทั้งการรักษาฐานสมาชิกเดิม และเพิ่มเติมการสร้างสมาชิกใหม่  ภายใต้แนวคิดการจัดกิจกรรมที่เน้นความ แตกต่าง ตรงใจ และช่วยแบ่งเบาภาระสมาชิก ในหลายมิติ  อย่างเช่น การลดดอกเบี้ยในรูปแบบใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน, ส่งเสริมการมีวินัยในการใช้จ่ายอย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างประสบการณ์ที่ดีจากแคมเปญการตลาดที่โดนใจแบบเจาะจงเฉพาะกลุ่ม รวมถึงแคมเปญการตลาดเพื่อให้สมาชิกในวงกว้างมีการใช้บัตรกดเงินสดอย่างต่อเนื่อง และได้รับประโยชน์จากการลด และเบาเบาภาระหนี้  เป็นต้น”

ผู้อำนวยการธุรกิจสินเชื่อบุคคล KTC ยังกล่าวถึง กิจกรรมสัมพันธ์สมาชิกที่ทำต่อเนื่องกันมาว่า  สามารถสร้างความผูกพัน์ในฐานสมาชิกได้อย่างต่อเนื่องและเหนียวแน่น โดยในปี 2562 ก็จะมีรูปแบบเวิร์คช้อปแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์ อาทิในด้านการบริหารเงิน เสริมสร้างอาชีพและรายได้ เป็นต้น

ปิยศักดิ์ เตชะเสน  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส - ช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้า “เคทีซี”   ผู้บริหารฐานพันธมิตรอันกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในฐานของความเข้มแข็งของ KTC  ได้กล่าวถึงกลยุทธ์การบริหารช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้าในปี  2562 ว่า

“การขยายฐานผลิตภัณฑ์ของเคทีซีในปีหน้า จะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพในการนำเสนอขายให้มากขึ้น โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย  โดยจะใช้ตัวแทนขายอิสระ (Outsource Sales) และสาขาของธนาคารกรุงไทยเป็นช่องทางหลัก และใช้ช่องทางออนไลน์เป็นยุทธศาสตร์ในระยะยาว โดย KTC ได้เตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อรองรับการเติบโตทั้งแพลทฟอร์มแบบเปิด (Open Platform) ของเว็บไซต์ใหม่ เพื่อให้พันธมิตรทุกรายสามารถทำงานกับเคทีซีได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่สมาชิกเองก็จะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจจากการใช้งานบนเว็บไซต์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสมัครโดยการฝากชื่อและเบอร์ติดต่อเพื่อให้เจ้าหน้าที่ Telesales บริการ หรือจะดำเนินการสมัครเองด้วยขั้นตอนที่ง่าย สะดวกและทราบผลได้อย่างรวดเร็ว 

ปิยศักดิ์   ได้เน้นย้ำถึงความพิเศษ ว่า ลูกค้าสมัครสินเชื่อบุคคลที่ “เคทีซี ทัช” ทั้ง  20 สาขาในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ สามารถรอฟังผลอนุมัติและและรับเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที และในเดือนมกราคม 2562 จะเริ่มทดลองให้บริการรับสมัครและทราบผลภายใน 60 นาที ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยในห้างสรรพสินค้าอีกด้วย

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ KTC ยังคงเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำในทุกอาชีพ และมุ่งเน้นกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานและยังไม่มีสินเชื่อ และจะขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบนให้มากขึ้น โดยจะร่วมกับธนาคารกรุงไทยสรรหาสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมี่ยมให้กับสมาชิกบัตรเคทีซี-เคทีบี พรีเชียส วีซ่าซิกเนเจอร์ / เคทีซี-เคทีบี พรีเชียส พลัส วีซ่า ซิกเนเจอร์ และเคทีซี-เคทีบี พรีเชียส พลัส วีซ่า อินฟินิท

ปิยะศักดิ์  กล่าวถึงเป้าหมายในการขยายฐานสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี พราว" ที่กำหนดการเติบโตไว้ที่  10% จากสิ้นปี 2561”  และถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ประกาศในนโยบายของปี 2562 

ในส่วนของ  “กลยุทธ์การบริหารธุรกิจร้านค้ารับบัตร  ของปี  2562 นั้น KTC มีกำหนดแผนเชิงรุกที่จะขยายเข้าธุรกิจร้านค้าประเภทใหม่ๆ และตลาดต่างจังหวัด รวมทั้งมุ่งเจาะธุรกิจร้านค้าออนไลน์เพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทรนด์ดิจิทัล และสนับสนุนธุรกิจร้านค้าให้เปลี่ยนจากการรับเงินสดมาเป็นผ่านบัตรเครดิตด้วยเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ  ขานรับกับกระแสความเป็นไปของพฤติกรรมผู้บริโภคในสังคมไร้เงินสดตามนโยบายของรัฐ

โดยส่วนหนึ่งของแผนงานประกอบด้วย

 1) พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของธุรกิจร้านค้าสมาชิกที่ปัจจุบันยังรับเงินสดเป็นหลัก พร้อมทั้งนำเสนอ Payment Solutions ที่หลากหลายและเหมาะสมกับแต่ละร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น QR Pay สำหรับบัตรเครดิต หรือ NFC Pay โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของการทำธุรกรรม ซึ่งจะต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

2) มุ่งจับกลุ่มธุรกิจลูกค้าชาวจีนที่เดินทางมาใช้จ่ายในประเทศไทย โดยยังจะขยายตลาดร้านค้าที่รองรับ Alipay Wallet อย่างต่อเนื่อง และจะรุกขยายตลาด Alipay Online ในปีหน้า

3) มุ่งเน้นธุรกิจ DCC (Dynamic Currency Conversion) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ร้านค้าที่รับลูกค้าต่างชาติ สามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการผ่านสกุลเงินต่างๆ ได้กว่า 30 สกุล”

ชุติเดช ชยุติ  ซีเอฟโอ (CFO- Chief Financial Officer ) “เคทีซี” 

ได้แถลงถึงนโยบายการบริหารการเงินของ KTC ว่า “ในปีนี้ KTC  ยังคงมีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็งมาก โดยคาดว่าสิ้นปี 2561 นี้จะสามารถทำกำไรได้ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท ด้วยการขยายฐานบัตรที่มากขึ้น อีกทั้งคุณภาพพอร์ตที่ดีทำให้การตั้งสำรองลดลง และการควบคุมต้นทุนการเงินที่ดี “

อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 อาจเป็นปีที่หลายธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่ง KTC ตระหนักดีและได้เตรียมการไว้รองรับเรื่องดังกล่าว โดยในปีหน้า KTC  จะยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ ด้วยการบริหารต้นทุนเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการหาต้นทุนที่ต่ำและเพิ่มสัดส่วนของเงินกู้ระยะยาวมากขึ้น ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้ในระยะยาว 5-10 ปีมากขึ้น เพื่อให้สามารถควบคุมเงินทุนให้อยู่ในระดับต่ำ โดยได้ออกหุ้นกู้ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 45,885 ล้านบาท หรือประมาณ 90% ของเงินกู้ยืมทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนเงินของบริษัทฯ ปรับขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าดอกเบี้ยตลาด และในปี 2562 บริษัทฯ มีแผนจะระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทฯ และทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดประมาณ 5,300 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มโครงการทดลองนำร่องใช้ RPA (Robotic Process Automation) มาช่วยการทำงานของฝ่ายบัญชี ในส่วนของงานที่มีวิธีการทำงานซ้ำๆ เดิมใน 5 ด้าน โดยเทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จในหลายประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหมายว่าการนำโรบอท (Robot) เข้ามาช่วยจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากกว่า 30% ในระยะยาว โดยบุคลากรที่เคยทำหน้าที่เดิมนี้ จะได้ขยับขึ้นไปรับงานที่สร้างมูลค่ามากขึ้น”

 

 

หนึ่งในกลยุทธ์ที่บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) วางไว้ คือกลยุทธ์ด้านไอทีและดิจิทัล  ซี่งประกอบด้วย 3 แนวทางหลัก คือ ระบบมีความเสถียร โมเดลธุรกิจที่จับต้องได้ และกระบวนการทำงานถูกต้องและมีประสิทธิภาพ หลังจากประกาศไปไม่กี่วัน KTC ก็นำเสนอความสดใหม่ให้กับวงการด้วย โมบายแอพพลิเคชัน TapKTC โฉมใหม่ เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์ Customer Experience ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย การใช้งานที่สะดวก และฟีเจอร์ที่สามารถเลือกใช้งานได้เอง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับทางเลือกในการยืนยันตัวตนใหม่ล่าสุดกับเทคโนโลยีสแกนม่านตา

ธศพงษ์  รังควร  ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า “เคทีซีเพิ่มความปลอดภัยระดับสูงสุดให้สมาชิกมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยทางเลือกในการยืนยันตัวตนหรือ อัตลักษณ์ (Biometrics) นอกเหนือจากการใช้รหัส (Pin) ที่เพิ่มความปลอดภัยด้วยแป้นพิมพ์ไดนามิค (Dynamic Keyboard) ในการล็อคอินเข้าใช้บริการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำรายการธุรกรรมการเงินผ่านโมบาย แอพฯ “TapKTC” ทั้งการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) และใหม่ล่าสุดกับเทคโนโลยีการสแกนม่านตา (Iris) กับบริการซัมซุง พาส (Samsung Pass) ซึ่งเคทีซีนับเป็นสถาบันการเงินรายแรกและรายเดียวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่ 3 ของโลกที่เริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ โดยความร่วมมือกับซัมซุง ซึ่งผู้ใช้สมาร์ทโฟนซัมซุง แกแล็คซี่ (Samsung Galaxy) ที่มีอินฟราเรด สแกนม่านตา เช่น S8 / S8+ และ Note 8 สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยที่ข้อมูลทางชีวภาพของสมาชิกจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยที่คลาวด์ (Cloud) ในชื่อ FIDO (Fast Identity Online) ไม่เก็บที่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน (Devices) ต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยการ Log in เข้าใช้บริการ TapKTC ด้วย การสแกนม่านตา (Iris) กับบริการซัมซุง พาส (Samsung Pass) นั้น ปัจจุบันได้อยู่ในการทดลองให้บริการ Regulatory Sandbox ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และนับจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ต่อเนื่องถึงปี 2561 “TapKTC” จะเป็นช่องทางสำคัญในการทำกิจกรรมการตลาดเชิงรุกเข้าถึงสมาชิกที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งเราเชื่อว่า “TapKTC” เป็นโมบายแอพพลิเคชันที่ดีที่สุดของวงการบัตรเครดิตในขณะนี้”

 

ในส่วนของฟีเจอร์ภายใน ปริญญา อรรถพรมงคล  ผู้จัดการอาวุโส – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” บอกจุดเด่นว่า “เคทีซีเพิ่มฟีเจอร์สำคัญและจำเป็นที่สมาชิกสามารถทราบข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับบัญชีส่วนตัวได้กับลุคใหม่ที่ใช้งานง่ายและสะดวกใน My Account สามารถดูข้อมูลได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะมีบัตรเคทีซีกี่ใบ ทั้งบัญชีบัตรหรือเช็คคะแนนสะสม การแสดงยอดเงินรวมของบัตรทุกใบที่ใช้ และวงเงินรวมคงเหลือของบัตรทุกใบ การบริหารจัดการข้อมูลที่เลือกได้เอง อาทิ การตั้งค่าแจ้งเตือนรายการเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรโดยสามารถกำหนดยอดเงินให้ระบบแจ้งเตือน / การตั้งค่าแจ้งเตือนกำหนดชำระค่าใช้จ่ายล่วงหน้า / การอายัตบัตรชั่วคราวเมื่อสูญหาย / การกำหนดยอดการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงยังสามารถสมัครหรือปรับเปลี่ยนวิธีการรับใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง”

 “นอกจากนี้ ยังสามารถใช้คะแนนสะสมแลกสินค้าและบริการได้เอง ไม่ว่าจะเป็นไมล์สะสมรอยัล ออร์คิด พลัส / แอร์ เอเชีย / ฟลายเออร์ โบนัส ของบางกอก แอร์เวยส์ / การแลกรับเงินคืน (Cash back) หรือการบริจาค / การโอนคะแนนสะสมระหว่างบัตรได้ง่ายๆ โดยไม่จำกัดคะแนนขั้นต่ำในการโอน / การบริหารค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้คล่องตัวขึ้นด้วย KTC FLEXI บริการแบ่งชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเคทีซี โดยเลือกทำรายการเองได้ทันใจผ่านบริการออนไลน์ / การเบิกถอนเงินสดออนไลน์ทันทีได้ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านบัตรเครดิตเคทีซี หรือบัตรสินเชื่อพร้อมใช้   “เคทีซี พราว” โดยเงินจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากที่มีกับธนาคารกรุงไทย”

 

เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี  ผู้จัดการอาวุโส – บริหารจัดการข้อมูลลูกค้า “เคทีซี” กล่าวถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับสมาชิกผ่าน TapKTC ว่า “เคทีซีพัฒนาแอพพลิเคชันที่ตอบโจทย์และมีคุณค่ากับสมาชิกอย่างแท้จริง เน้นให้ทุกฟังก์ชันมีประโยชน์ สะดวก และไม่เป็นภาระกับผู้ใช้งาน ตามแนวคิดใหม่ของแบรนด์ เคทีซี “ทำให้ง่ายและเข้าใจง่าย” (Smart Simplicity) โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับสมาชิก (Customer Experience) ผ่าน 3 แกนหลัก คือ 1. Smart Design ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ทันสมัย เรียบง่ายและสบายตา เมนูการใช้งานอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม สมาชิกสามารถพบข้อมูลและฟังก์ชันที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และเลือกใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย 2. Smart Process เน้นให้สมาชิกใช้เวลาทุกขั้นตอนบนแอพพลิเคชันให้น้อยที่สุด ตัดกระบวนการที่ยุ่งยาก (Customer Pain Points) และไม่จำเป็นออก เช่น การลงทะเบียน ที่ปรับให้เหลือแค่การกรอกข้อมูลเพียง 2 ฟิลด์ หรือหน้า My account ที่สมาชิกไม่จำเป็นต้องเพิ่มข้อมูลบัญชี ข้อมูลทุกผลิตภัณฑ์ของเคทีซีจะแสดงอัตโนมัติหลังลงทะเบียนเสร็จ โดยในทุกฟังก์ชันบนแอพพลิเคชัน สมาชิกจะสามารถทำได้โดยการกด (Tap) เพียงไม่กี่ครั้ง 3. Smart Move ใช้หลักการ Business Agility คือ ปรับเปลี่ยนและอัพเดทแอพพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ รวดเร็ว และต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ เป็นระยะ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของสมาชิกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ให้สมาชิกได้รับประสบการณ์ที่ดี และเกิดความประทับใจในระยะยาว”

X

Right Click

No right click