ธนาคารไทยพาณิชย์ ขับเคลื่อนแนวคิดการพัฒนา SME Tech Academy เพื่อจุดประกายความรู้ทางด้านดิจิทัลแบบ 360 องศาให้กับผู้ประกอบการไทย ครั้งนี้พัฒนาหลักสูตร The Dots Digital CommerceX บ่มเพาะเอสเอ็มอีให้มีความพร้อมสำหรับการทำธุรกิจในยุคดิจิทัลที่มีความท้าทาย โดยผสานพลัง ช้อปปี้ (ประเทศไทย) พร้อมพันธมิตร Social Commerce และ E-Commerce ระดม กูรูตัวจริงในเรื่องดิจิทัลและการค้าออนไลน์ ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ มุมมอง เทคนิค กลยุทธ์ และความรู้ในทุกแง่มุมให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการขยายขีดความสามารถในการแข่งขันและคว้าโอกาสใหม่ๆ จากเทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด หลักสูตรนี้อัดแน่นเนื้อหาอย่างเข้มข้นและเจาะลึกตลอดระยะเวลา 6 สัปดาห์ ด้วยการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ โดยเปิดกว้างให้เอสเอ็มอีจากทั่วประเทศได้เข้าร่วมหลักสูตรจำนวนกว่า 200 บริษัท โดยไม่ต้องเป็นลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกคนเข้าถึงความรู้และนำไปสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจอย่างแท้จริง โดยมีนางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ นายศิวกร สิริวงศ์ภาณุพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) และนายอุกฤษฎ์ ตั้งสืบกุล SCB SME Mentor และผู้อำนวยการหลักสูตร The Dots CommerceX ร่วมเปิดหลักสูตร

 นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) เติบโตอย่างมากในระยะ 2- 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 การค้าขายมีมูลค่าสูงกว่า 3 ล้านล้านบาท มีผู้ประกอบการในธุรกิจ E-Commerce นับล้านราย อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการอีกเป็นจำนวนมากที่ยังปรับตัวได้ช้า และต้องการเสริมความรู้ทางด้านนี้เพื่อนำไปปรับใช้ในธุรกิจของตนให้เท่าทันกับความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากขณะนี้สังคมโลกรวมถึงประเทศไทยได้ก้าวสู่เทรนด์ธุรกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทุกธุรกิจจึงควรต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในวันข้างหน้า ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นแหล่งความรู้ของผู้ประกอบการผ่านการพัฒนา SME Tech Academy จึงได้ร่วมกับพันธมิตรจัดทำหลักสูตร The Dots Digital CommerceX สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการปรับตัวและพัฒนาช่องทางการขายใหม่ในรูปแบบออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความรู้ที่เข้มข้นและมุมมองที่ลึกซึ้งในชั้นเรียนจากกูรูทางด้านดิจิทัล ด้าน E-Commerce และ Social Commerce พร้อมกิจกรรม Workshop รวมกว่า 10 ครั้ง เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งมั่นใจว่าผู้เข้าร่วมหลักสูตรทั้งที่เป็นลูกค้าและไม่ใช่ลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์กว่า 200 ราย จะสามารถตักตวงความรู้และต่อยอดสู่การพัฒนาธุรกิจให้เติบโตในช่องทางออนไลน์ได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ หลักสูตร The Dots Digital CommerceX มีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การสร้างความเข้าใจในกระบวนการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจดิจิทัล ที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค การพัฒนา แบรนด์ในรูปแบบใหม่ๆ การใช้ประโยชน์สูงสุดจากฐานข้อมูล การพัฒนาการตลาดดิจิทัล การสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์และโซเชียลมีเดีย การใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อจัดการระบบหลังบ้านตั้งแต่ต้นจนสินค้าส่งถึงมือลูกค้า เป็นต้น อีกทั้งหลักสูตรยังให้มากกว่าความรู้ แต่ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมเข้ารับคำปรึกษาทางธุรกิจแบบตัวต่อตัวจากผู้อำนวยการหลักสูตร และทีมที่ปรึกษา SCB Mentor ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายวงการ ตลอดจนสามารถเข้าร่วมการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) กับเครือข่ายเอสเอ็มอีของธนาคารไทยพาณิชย์ โดยทุกกิจกรรมไม่มีการค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

นายศิวกร สิริวงศ์ภาณุพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยของประเทศให้สามารถฟื้นฟูและต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศนั้น ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญของช้อปปี้ ตามเจตนารมณ์ที่จะมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งช้อปปี้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในโครงการ The Dots Digital CommerceX โดย โดยช้อปปี้ ในฐานะ อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มชั้นนำของประเทศ จะใช้ประโยชน์จากความชำนาญด้านทักษะอีคอมเมิร์ซที่มีอย่างรอบด้านเข้ามาช่วยติดอาวุธความรู้ ซึ่งถือเป็นต้นทุนทางธุรกิจที่สำคัญให้กับผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเข้าถึงโอกาสที่มีอยู่อย่างมหาศาลบนโลกอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายปีกับมหกรรม Shopee 11.11 Big Sale ซึ่งถือว่าเป็นมหกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ที่คึกคักที่สุดของปีที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นได้อย่างเต็มศักยภาพ

 นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมหลักสูตร The Dots Digital CommerceX ยังจะได้รับสิทธิพิเศษจาก บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด พันธมิตรสำคัญในครั้งนี้ ในการเข้าร่วมโครงการ Go Online คลาสเรียนสอนเทคนิคในการทำธุรกิจ E-Commerce แบบฉบับ Shopee เป็นระยะเวลา 3 เดือน และมอบสิทธิพิเศษสำหรับกลุ่มผู้ผลิตและผู้ค้าส่งในการสมัครเข้าร่วมโปรแกรมเพื่อรับการสนับสนุนจาก Shopee รวมมูลค่าสูงถึง 200,000 บาทต่อร้าน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ Shopee กำหนด) ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถติดตามกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์จากธนาคารไทยพาณิชย์ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.scbsme.scb.co.th Facebook: www.facebook.com/groups/scbsme/ หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลธุรกิจได้ทาง SCB SME Business Call Center โทร.02 7222222

###

ไทยพาณิชย์ หนุนร้านอาหารแก้เกมส์ธุรกิจพลิกฟื้นรายได้ด้วยกลยุทธ์การตลาด

ถอดเคล็ดลับ ZEN Group - Phoenix Lava ต่อยอดจุดแข็งสร้างโอกาสใหม่อย่างทรงพลัง

 กิจการร้านอาหารเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และถึงแม้ประเทศไทยจะผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ให้ผู้บริโภคสามารถนั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้แล้ว แต่การพลิกฟื้นยอดขายและรายได้คงไม่สามารถกลับมาเป็นเช่นเดิมตราบใดที่สถานการณ์โควิดยังคงมีต่อเนื่อง การปรับแผนธุรกิจและทบทวนกลยุทธ์การตลาดให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและเทรนด์ในอนาคตอาจจะเป็นหนทางพลิกวิกฤตสู่โอกาสให้กับธุรกิจอย่างที่คาดไม่ถึง

 นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ซบเซาลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ประกอบการร้านอาหารมียอดขายและรายได้ที่ลดลงอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันมีธุรกิจร้านอาหารอีกส่วนหนึ่งที่กลับมียอดขายเพิ่มขึ้น ธุรกิจเติบโตจนต้องขยายสาขาเพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้า ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้เพราะเจ้าของธุรกิจไม่อยู่นิ่งเฉย แต่พยายามปรับแผนธุรกิจให้เท่าทันกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก กลาง และขนาดใหญ่ ล้วนต่างต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดในวันนี้และพร้อมที่จะก้าวต่อไปในวันข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง ธนาคารไทยพาณิชย์มีตัวอย่างร้านอาหารที่สามารถดึงจุดแข็งของตัวเองมาใช้เพื่อการปรับแผนธุรกิจและพัฒนากลยุทธ์การตลาดจนประสบความสำเร็จ จากประสบการณ์จริงของ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของเชนร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำของไทย และร้าน Phoenix Lava ซึ่งปัจจุบันมีสาขามากกว่า 10 แห่ง โดยร่วมถอดประสบการณ์ในเวทีสัมมนา “เปิดสูตรลับ ปรับกลยุทธ์ธุรกิจอาหารต้องรอด” ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

 นายศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ธุรกิจของเซ็นกรุ๊ปได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากถึง 80% เนื่องจากร้านอาหารส่วนใหญ่อยู่ในห้างและยอดขายจากบริการเดลิเวอรี่ทำได้เพียง 20 - 30% จากที่เคยขายได้ ในวิกฤตครั้งนี้แบรนด์ “เขียง” เป็นเหมือนฮีโร่ของกลุ่มเพราะยังสามารถทำยอดขายได้ดีสวนกระแส มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขยายสาขาแล้วมากกว่า 100 สาขา และตั้งเป้าหมายที่จะขยายสาขาให้ได้ 5 - 6 สาขาต่อเดือน มีร้านอาหารหลากหลายแบรนด์ที่อยู่ภายใต้เซ็นกรุ๊ป ซึ่งเราประเมินแล้วว่าการแก้เกมส์ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้คงไม่สามารถใช้ยาตัวเดียวแก้ปัญหาให้กับทุกแบรนด์ได้ เพราะแต่ละแบรนด์มีลักษณะตัวตนและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำอย่างแรกคือ 1) ทำความเข้าใจลูกค้าของตัวเองให้ชัดเจน แล้วจึงปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้อง เช่น ร้านตำมั่วได้ปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์เป็นปลาร้า และแจ่วบองบรรจุขวด เพื่อให้ลูกค้าทำส้มตำเองที่บ้านได้รสชาติอร่อยเหมือนที่ร้าน ส่วนร้านเขียง

ซึ่งเป็นร้านข้าวแกงยุคใหม่ใช้กลยุทธ์การเร่งเปิดสาขาเพราะสาขายิ่งใกล้บ้านลูกค้ามากเท่าใด ค่าส่งอาหารอาจจะฟรีหรือเสียน้อยมาก แต่ถ้าเขียงยังมีสาขาน้อยค่าส่งอาจแพงกว่าค่าอาหาร ซึ่งอาจเป็นผลให้ลูกค้าเลือกที่จะไม่สั่งสินค้าของเรา 2) วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและมองภาพอนาคตหลังวิกฤต การแก้เกมส์ในช่วงโควิดเจ้าของร้านอาหารต้องใจเย็นและไม่ทำตามกระแส เราควรศึกษาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ว่าโควิดจะอยู่อีกนานเพียงใด ธุรกิจของเราควรอยู่นิ่งๆ หรือลุกขึ้นมาออกผลิตภัณฑ์และสร้างแบรนด์ใหม่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหากโควิดจบลงก่อนก็จะเป็นการใช้พละกำลังอย่างสูญเปล่า หรือหากคาดว่าโควิดจะอยู่อีกยาวก็จะต้องคิดวางแผนอย่างรอบคอบ กรณีของเซ็นกรุ๊ปเราวิเคราะห์แล้วว่า เขียงเป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพจึงวางกลยุทธ์ให้เขียงมีสาขาที่กระจายให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากที่สุดและต้องทำให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างรายรับมาหล่อเลี้ยงบริษัทอย่างเพียงพอในสถานการณ์เช่นนี้

 สิ่งสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้ร้านอาหารได้อย่างดีคือการจัดโปรโมชั่น โดยเซ็นกรุ๊ปยึดแนวทางว่า 3) ทุกแคมเปญต้องตั้งต้นที่ลูกค้า ด้วยหลักคิดแบบ Outside-In เราเชื่อว่าการจัดโปรโมชั่นหรือให้ของแถมในสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ผลลัพธ์มักออกมาดีเสมอ ในทางตรงข้ามหากนำอาหารที่ขายไม่ดีมาจัดโปรโมชั่นเพียงเพราะต้องการจะระบายสินค้าผลลัพธ์ก็จะออกมาไม่ดีและไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการจะสร้างผลลัพธ์แบบ Win Win แต่ทั้งนี้ร้านจะต้องคำนวณปริมาณการขายที่คุ้มทั้งคนซื้อและคนขาย หากแบรนด์ต้องการเป็นที่รักของสังคมจังหวะนี้จึงควรหยิบยื่นโอกาสถ้าพอแบ่งปันได้ เมื่อสถานการณ์กลับมาปกติลูกค้าจะกลับมาหาเราอย่างแน่นอน

 นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างการปรับตัวของธุรกิจร้านขนมที่สามารถรักษาการเติบโตของยอดขายได้อย่างดีตลอดช่วง โควิด-19 นายปริญญ์ สุขสมิทธิ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Phoenix Lava เล่าว่า ยอดขายที่ดีในวันนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลลัพธ์จากการปรับตัวเมื่อครั้งธุรกิจต้องเผชิญกับวิกฤตตั้งแต่ช่วง 3 - 4 ปีที่แล้ว เดิม Phoenix Lava มีสินค้าเป็นซาลาเปาเพียงอย่างเดียวและได้รับความนิยมอย่างมาก แต่วันหนึ่งเมื่อกระแสหมดไปยอดขายก็ตกลงอย่างหนัก เราจึงเริ่มปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจใหม่และวางโมเดลธุรกิจให้สอดรับกับตลาดกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย และเจาะตลาดลูกค้าในกลุ่มเดลิเวอรี่มากขึ้น ดังนั้นเมื่อเกิดโควิด-19 ธุรกิจของเราจึงยังไปต่อได้ แต่เรายังคงปรับตัวต่อเนื่องและทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วยหลักดังต่อไปนี้ 1) เพิ่มรายได้จากทรัพยากรที่มีอยู่เดิม กล่าวคือลองสร้างสรรค์เมนูใหม่จากวัตถุดิบประเภทเดียวกัน ทางร้านจึงออกเมนูใหม่มาเป็น ข้าวแกงกระหรี่ ซึ่งมีการใช้เนยเป็นวัตถุดิบหลักเช่นเดียวกับซาลาเปา จึงสามารถใช้เครื่องจักรร่วมกันได้ และใช้สาขา Phoenix Lava ทำเป็นครัวเล็กๆ ด้านหลังและเป็นช่องทางกระจายสินค้าให้กับไรเดอร์และจำหน่ายหน้าร้านได้ด้วย 2) ขยายพันธมิตรสร้างโอกาสให้ธุรกิจ การทำธุรกิจเพียงลำพังให้อยู่รอดในภาวะแบบนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เราลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีการขยายความร่วมมือทั้งการทำ Cloud Kitchen ในร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ ทำให้เราอยู่ในพื้นที่ที่ใกล้ลูกค้ามากขึ้น และปัจจุบันยังได้ต่อยอดสู่การขายแฟรนไชส์สำหรับจัดหาวัตถุดิบโดยเฉพาะ รวมถึงการนำแกงกะหรี่ไปให้กับโรงแรมและร้านอาหารพันธมิตรช่วยเป็นช่องทางการขาย ซึ่งส่งผลให้มียอดขายเติบโตค่อนข้างดี 3) จัดสรรพื้นที่หน้าร้านให้ตอบโจทย์กับเทรนด์ปัจจุบัน ด้วยเทรนด์รักษาระยะห่างอย่างในปัจจุบัน พื้นที่ Full Service หน้าร้านอาจไม่จำเป็นเสมอไป เราจึงลองปรับขนาดพื้นที่หน้าร้านให้เล็กลงเน้นการบริการสำหรับการขายแบบ Grab and Go และ Delivery

อย่างละ 50% โดยการขยายสาขาแฟรนไชส์ที่ตั้งเป้าหมายไว้เดือนละ 1 สาขาก็จะเดินไปในแนวทางนี้ ซึ่งมีประโยชน์ในการลดต้นทุนเปิดร้านและค่าเช่าพื้นที่ได้ด้วย รวมถึงการทดลองโมเดลใหม่ๆ เพื่อพัฒนารูปแบบธุรกิจที่มีต้นทุนในระดับที่ต่ำกว่าที่เคยทำให้ได้ เพื่อความสำเร็จในการต่อสู้กับเกมส์ที่ยังไม่รู้จุดสิ้นสุด

 ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถติดตามข้อมูลเคล็ดลับธุรกิจ และกิจกรรมงานสัมมนาที่จะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจจากธนาคารไทยพาณิชย์และพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ตลอดทั้งปี ผ่านช่องทางเว็บไซต์www.scbsme.scb.co.th Facebook: www.facebook.com/groups/scbsme/ หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลธุรกิจได้ทาง SCB SME Business Call Center โทร.02 7222222

 ###

SCB Tech X บริษัทในกลุ่มไทยพาณิชย์ (SCB Group) ประกาศแต่งตั้ง ตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปักธงสู่การเป็นผู้นำด้านฟินเทคระดับภูมิภาค

 

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 4 ตุลาคม 2564 - บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด (SCB Tech X) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ดำเนินธุรกิจด้านแพลตฟอร์ม (Platform-as-a-Service) ให้บริการนวัตกรรมที่เกี่ยวกับการธนาคารและไม่เกี่ยวกับการธนาคารแบบครบวงจรแก่กลุ่มลูกค้าองค์กร และกลุ่มลูกค้าทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศแต่งตั้ง นายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับภารกิจสำคัญในการเป็นหัวเรือใหญ่นำ SCB Tech X เพื่อช่วยผลักดันสถาบันการเงินพัฒนาบริการต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในโลกยุคดิจิทัล

 

SCB Tech X บริษัทในกลุ่มไทยพาณิชย์ (SCB Group) ประกาศความพร้อมให้บริการด้านเทคโนโลยีแบบครบวงจร มุ่งให้คำปรึกษา ตลอดจนพัฒนาแพลตฟอร์มและโซลูชันทางดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน พร้อมทั้งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของลูกค้าในระยะยาวท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ

 

นายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “ผมมีความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SCB Tech X ในครั้งนี้ โดยมุ่งหวังที่จะนำเสนอนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจ พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมายของลูกค้า รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกอย่างทัดเทียมให้กับลูกค้า ทั้งนี้ เรามีเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำด้านฟินเทคแพลตฟอร์มในภูมิภาคอาเซียนภายใน 5 ปี”

 

นายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มากด้วยประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญด้าน Technology Operations and Platforms โดยร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2554 มีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง และมีบทบาทสำคัญในการร่วมวางโครงสร้างทางด้านเทคโนโลยีให้กับธนาคาร ก่อนหน้าร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ นายตรัยรัตน์ มีโอกาสได้ร่วมงานกับองค์กรขนาดใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ในตำแหน่ง Executive IT Specialist มากว่า 21 ปี และ บริษัท ABB ประเทศไทย จำกัด ในตำแหน่ง Project Engineer ด้านการศึกษา นายตรัยรัตน์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

###################

X

Right Click

No right click