พร้อมเดินหน้าต่อยอดสู่เวทีอาหารโลก ตามแนวคิด Bring Asian Food to the World

กระทรวงพาณิชย์ เผยความสำเร็จของการจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีผู้ซื้อและผู้นำเข้าจากทั่วโลกเดินทางมาชมงานกว่า 138,000 คน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยมูลค่าการสั่งซื้อกว่า 96,000 ล้านบาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า งาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี ได้ร่วมกันจัดงานและผลักดันทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทย เพิ่ม GDP ประเทศ และเน้นย้ำการเป็นศูนย์กลางทางด้านอาหาร ตามวิสัยทัศน์ ‘ไทยแลนด์ วิชัน’ ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมาย

โดยผลการจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA ปีนี้ มีผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มเข้าร่วมแสดงสินค้า 3,133 บริษัท (บริษัทไทย 1,109 บริษัท บริษัทต่างประเทศ 2,024 บริษัท) รวมทั้งสิ้น 6,238 คูหา จาก 52 ประเทศ ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง

สำหรับผู้เข้าชมงานมีจำนวน 138,508 คน เป็นผู้เข้าร่วมเจรจาการค้า 85,850 คน (ชาวต่างประเทศ 19,984 คน ชาวไทย 65,866 คน) ส่วนวันจำหน่ายปลีกมีประชาชนเข้าชมงานมากถึง 52,658 คน

ทางด้านการซื้อขายมีมูลค่ารวม 96,265.80 ล้านบาท เป็นมูลค่าการค้าในวันเจรจาธุรกิจ 96,041.41 ล้านบาท (มูลค่าการสั่งซื้อทันที 651.67 ล้านบาท มูลค่าคาดการณ์ในการสั่งซื้อภายใน 1 ปี 95,389.74 ล้านบาท) ประเทศที่มีการสั่งซื้อมากที่สุด ได้แก่ ไทย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ตามลำดับ และหมวดสินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป ขนมและของขบเคี้ยว เครื่องดื่ม อาหารแช่แข็ง และอาหารทะเล ส่วนมูลค่าการค้าในวันจำหน่ายปลีก รวมทั้งสิ้น 224.39 ล้านบาท ซึ่งจากมูลค่าการค้าที่เกิดขึ้นในงานทั้งหมด เป็นมูลค่าการค้าของผู้ประกอบการไทย 71,359.86 ล้านบาท

“เราตั้งเป้าหมายว่าปีนี้การส่งออกสินค้าอาหารของไทยจะมีมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1.37 ล้านล้านบาท ซึ่งความสำเร็จของงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 นับเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การส่งออกอาหารของไทยในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” นายภูมิธรรม กล่าว

สำหรับการจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2568 โดยผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมแสดงสินค้า สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ผ่านระบบ THAIFEX Online ที่ https://thaifex.thaichamber.org และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่ www.thaifex-anuga.com

ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2  Impact เมืองทองธานี (บูธ U71) บริษัทสหฟาร์ม ผู้ผลิตและส่งออกไก่แช่แข็งรายใหญ่ของไทย ได้เข้าร่วมออกบูธเพื่อประชาสัมพันธ์บริษัท พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค หลากหลายกลุ่ม ทั้งสายรักสุขภาพ ไก่แปรรูปสำหรับเด็กแพ้อาหาร ไก่พร้อมทานสำหรับคนรุ่นใหม่เน้นความสะดวก พร้อมแตกไลน์สินค้าใหม่ “ปลาดุกอนามัย“ ภายใต้แบรนด์สหฟาร์ม โดยผู้ที่มาร่วมงาน ทั้งในและต่างประเทศ ให้ความสนใจกันอย่างเนืองแน่น

ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี การเงิน และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของสหฟาร์ม ที่ได้กลับมาอีกครั้ง ในงาน Thaifex Anuga Asia 2024 ในครั้งนี้ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ เราอยากให้ทุกคนได้ทราบ และรู้จักเราให้มากขึ้นในฐานะบริษัทที่มีศักยภาพและมาตรฐานระดับโลกในการผลิตสินค้าทั้งไก่สดและไก่แปรรูป เพื่อการส่งออก พร้อมประกาศเดินหน้าแผนพัฒนาต่อยอด และทำการปรับองค์กรของเราใหม่ทั้งหมด ในทุกมิติ ทั้งในด้านนโยบาย สินค้า และบุคลากรเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยนำประสบการณ์ 55 ปีที่ผ่านมาในการทำธุรกิจมาต่อยอดพัฒนาสินค้า คุณภาพ รสชาติ และรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา สหฟาร์มยังได้มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์โดยการสร้างยอดขายทะลุ 170,000 ตัน ซึ่งสูงกว่าหลายหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทผู้ส่งออกไก่แช่แข็งอันดับ 1 ของประเทศไทย ในปี 2566

“โดยในงาน นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค แล้วยังถือโอกาส เปิดตัวและแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างสินค้าสำหรับเด็กที่แพ้อาหาร อาทิเช่น แป้งสาลี นม ถั่ว ไข่ ปลา และอาหารทะเลเปลือกแข็ง ภายใต้แบรนด์ “โชริโชริ” ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ยูริกต่ำ สำหรับคนที่รักสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ พอลดีย์ อาหารปรุงสำเร็จ สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่เน้นความสะดวกสบาย ภายใต้แบรนด์ สหฟาร์มอินเตอร์ และน้องใหม่ล่าสุด “ปลาดุกอนามัย” เลี้ยงโดยวิธีการธรรมชาติ ที่ต้องการยกระดับปลาดุกไทยและขยายโอกาสสู่ตลาดโลก เนื้อสัมผัสนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นคาว ให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้ลิ้มลองกันอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเป็นการบอกว่า เราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก และขอขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนสหฟาร์มเสมอมา” ดร. จารุวรรณ กล่าว

ภายในงาน Thaifex Anuga Asia 2024 สินค้าของสหฟาร์มที่นำมาเปิดตัวในงานครั้งนี้ มีทั้งไก่สด เราเป็นฟาร์มไก่เนื้อขนาดใหญ่แบบครบวงจร มีขนาดพื้นที่มากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ด้วยพื้นที่กว่า 40,000 ไร่ มีระบบการจัดการแบบต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีฟาร์มปู่ย่าพันธุ์ พ่อแม่พันธุ์ เป็นของตัวเอง เพื่อการดูแลและควบคุมสายพันธุ์ให้ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภคทั่วไป และผู้บริโภคชาวมุสลิม มีระบบคอมพาร์ทเม้นขนาดใหญ่ ควบคุมอุณหภูมิ แบบ Evaporative Cooling System ทำให้เราได้รับมาตรฐาน Animal welfare จากองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ OIE เลี้ยงด้วยธัญพืชคุณภาพสูง และอาหารไก่สูตรที่เราพัฒนาและปรับปรุงเอง เลี้ยงด้วยน้ำสะอาดที่ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์ เรามีสัตวบาลคอยดูแลไก่ทุกตัว ไก่ของเราจึงปลอดโรค และไม่ต้องฉีดยาปฏิชีวนะ ไม่มีสารเร่งโต ปลอดสารปนเปื้อน 

สหฟาร์มผลิตไก่กว่า 700,000 ตัว/วัน มีโรงงานแปรรูปขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตไก่เนื้อเพื่อการส่งออก มากกว่า 170,000 ตัน/ปี เพราะเรามีทั้งเครื่องจักรที่ทันสมัย และที่สำคัญเรามีผู้เชี่ยวชาญการตัดแต่งชิ้นส่วนไก่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะอยากได้ชิ้นส่วนแบบไหน หรือต้องการความพิเศษแบบใด สหฟาร์มสามารถดูแลและจัดการให้ได้ อีกทั้งยังมีไก่ปรุงสุก โดยสหฟาร์มมีโรงงานอาหารสำเร็จรูปที่เป็นไก่ปรุงสุก สามารถผลิตได้กว่า 5,000 ตัน/เดือน ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยได้มาตรฐาน ทั้ง GMP/ HACCP/ Halal มีแล็บที่ได้มาตรฐานสำหรับตรวจสอบและควบคุมคุณภาพสินค้าด้วยตัวเอง ด้วยโรงงานขนาดใหญ่ จึงสามารถผลิตได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันตามความต้องการของลูกค้า มี OEM ตามความต้องการของลูกค้า เพื่อการผลิตและจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของลูกค้าเอง

อีกทั้งในปีนี้สหฟาร์ม ยังต้องการยกระดับปลาดุกไทย ขยายโอกาสสู่ตลาดโลก เพราะปลาดุก ถือว่าเป็นปลาเศรษฐกิจของไทย ที่คนนิยมทานกันหลากหลาย สหฟาร์มจึงอยากยกระดับปลาดุกไทยขึ้นไปอีก ด้วยการพัฒนาปลาดุกสายพันธุ์ของสหฟาร์มเอง ให้มีรสชาติดี เนื้อสัมผัสแน่น ชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นคาว หนังหนา มีไขมันแทรกในเนื้อ ด้วยกรรมวิธีการเลี้ยงในบ่อดินแบบธรรมชาติ ที่ดูแลและใส่ใจในทุกขั้นตอน จะมีการถ่ายน้ำออกจากบ่อทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้น้ำสะอาดและมีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ ขนาดของบ่อเลี้ยงปลา 1 ไร่ จะจำกัดปริมาณปลาเลี้ยงในปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 20,000 ตัวต่อบ่อ เพื่อลดความแออัด และเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ทำให้ได้ปลาดุกที่มีคุณภาพ แข็งแรง

จนได้รับมาตรฐาน GAP จากกรมประมง (มาตรฐาน GAP คือใบรับรองการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี สำหรับการผลิตสัตว์น้ำ) โดยมีวิธีการจัดการแบบพิเศษ เพื่อให้ปลาขับของเสีย ลดกลิ่นโคลน ลดกลิ่นคาว ทำให้สหฟาร์มได้ปลาดุกอนามัย ที่อร่อย เนื้อมีกลิ่นหอมเวลาย่าง ไม่มีกลิ่นสาบ กลิ่นโคลน และมีขนาดปลาให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ตัวละ 1.5-2 กิโลกรัม ซึ่งจะแบ่งปลาเป็น 2 ประเภท คือแบบหั่นชิ้น เหมาะเอาไว้สำหรับปรุงอาหาร ประเภท แกง ผัด และแบบแล่เนื้อ แบบนี้จะไม่มีก้าง จะได้เนื้อล้วนชิ้นใหญ่ เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังมีโชริ โชริ ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปสำหรับเด็กแพ้อาหาร (Processed Chicken For child with food allergies) มานำเสนอ สหฟาร์มยังให้ความสำคัญกับข้อจำกัดสำหรับเด็กที่แพ้อาหาร จึงพัฒนาและคิดค้นไก่ปรุงสุก  ทั้งปีกกลางไก่อบซอส และปีกบนไก่อบซอส เพื่อเป็นทางเลือกให้สำหรับเด็กที่แพ้อาหาร ซึ่งปราศจากสารก่อภูมิแพ้หลักในอาหาร 8 ชนิดด้วยกัน อาทิ นม ไข่ ปลา อาหารทะเลเปลือกแข็ง ถั่วต่างๆ และแป้งสาลี รวมถึงไม่มีสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่างๆ ทำให้โชริโชริ  จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและถูกปากสำหรับเด็กๆ แน่นอน

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นำมาเปิดตัวในงานคือ พอลดีย์ ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ยูริกต่ำ ทางเลือกของคนรักสุขภาพ

พอลดีย์ ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ด้วยระบบคอมพาร์ทเม้นขนาดใหญ่ ควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบ Evaporative System ทำให้ไก่รู้สึกเย็นสบาย มีพื้นที่กว้าง ทำให้ประชากรไก่ไม่แออัด ไก่มีอิสระที่จะวิ่งเล่น คุ้ยเขี่ยขอนไม้ กองฟาง เพื่อให้ไก่ได้ใช้สัญชาตญาณได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังคัดเลือกแต่ธัญพืชคุณภาพสูง และพัฒนาอาหารไก่ให้มีประโยชน์ต่อไก่มากที่สุด บนพื้นฐาน Feed on Plant-Based Proteins และได้รับรองผ่านมาตรฐาน UFAS อีกด้วย มีระบบน้ำดื่มที่ผ่านการทรีทเม้นกรองโลหะหนักออกจากน้ำ อีกทั้งยังมีสัตวบาลคอยดูแลไก่ทุกตัว และเสริมสมุนไพรให้ไก่ได้จิกกิน ซึ่งทำให้ไก่พอลดีย์ ไม่มีสารเร่งโต ไม่ใช้ฮอร์โมน ไม่มียาปฏิชีวนะ มีการเปิดเพลงคลาสสิคให้ไก่ฟัง เพื่อให้ไก่ผ่อนคลาย จึงเป็นที่มาของไก่อารมณ์ดี ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าไก่ของพอลดีย์มีสุขภาพที่ดีแน่นอน รวมไปถึงพอลดีย์ยังมีมาตรฐานการรับรองจาก Farm First / Biosecurity Animal Welfare อีกด้วย ทำให้ไก่พอลดีย์ จึงเป็นไก่อนามัยที่สด สะอาด ลดการปนเปื้อน เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไขมันแทรกในเนื้อน้อย หนังบาง และยูริกต่ำ เป็นวัตถุดิบชั้นดี และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่รักสุขภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดใหญ่ของสหฟาร์มคือ ตลาด B2B ในต่างประเทศ ซึ่งเป็น ตลาดหลักของสหฟาร์มเกือบ 100% ในขณะที่ตลาดในประเทศก็มีความสำคัญมาก แต่มีรายใหญ่ที่ค่อนข้างแข็งแรงครองตลาดอยู่ การขยายกลับมาในตลาดในประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นแนวทางการดำเนินงานในอนาคตที่ต้องปรึกษากับบอร์ดผู้บริหารท่านอื่นๆ ทั้งนี้ไก่ไทย ถือว่าโดดเด่นในเวทีโลก ซึ่งปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทย เติบโตต่อเนื่อง เนื่องมาจากปัจจัยหนุนด้านความต้องการทั้งจากตลาดในประเทศและตลาดส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศคู่ค้า Middle East ที่ให้ความสนใจกับสหฟาร์มในขณะนี้ ทำให้ในปีนี้สหฟาร์มตั้งเป้ายอดส่งออกคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกราว 10% ดร.จารุวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

Taiwan Award-Winning Foods Pavilion 2024”  รวบรวมผลิตภัณฑ์อาหารจากไต้หวันและภูมิใจนำเสนอผลิตภัณฑ์หลักอย่าง เครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม อาหารทานเล่น  และขนมปังหลากชนิดโดยผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมดภายในงานไม่เพียงแต่ได้รับรางวัลและการรับรองในประเทศเท่านั้นแต่ยังได้รับการการันตีในระดับสากลว่ามีคุณภาพสูงสุดในอุตสาหกรรมอาหารไต้หวันและการเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้เป็นเพียงหนึ่งในมหกรรมที่จะจัดขึ้นในอีกหลายประเทศทั่วเอเชีย

Taiwan Award-Winning Foods Pavilion 2024” งานที่หลายคนให้การยอมรับว่าคือภาพแทนของจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมอาหารไต้หวัน กลับมาจัดแสดงในมหกรรม Thaifex Anuga Asia อีกครั้งระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2024 เวลา 10.00 - 18.00 (Trade Days) และ 10.00 - 20.00 น. (Public Day)  ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อให้คนไทยได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศจากไต้หวัน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานบริหารการค้าระหว่างประเทศ  กระทรวงเศรษฐกิจ และสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไต้หวัน (TAITRA) โดยจุดประสงค์หลักของงานในครั้งนี้คือเพื่ออำนวยความสะดวกให้บริษัทในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไต้หวันเข้ามาสู่ตลาดของประเทศไทย พร้อมส่งเสริมความร่วมมืออันทรงคุณค่าระหว่างอุตสาหกรรมอาหารของทั้งสองประเทศ รวมไปถึงรักษามาตรฐานคุณภาพอาหารระดับสูงสุดจากทั้งสองภูมิภาคไว้

งาน Taiwan Award-Winning Foods Pavilion ในมหกรรม Thaifex Anuga Asia ครั้งนี้ได้รับความสนใจจากทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายอย่างล้นหลามเพราะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์มากถึง 120 รายการจากบริษัทชั้นนำของไต้หวันกว่า 68 แห่ง ซึ่งได้รับรางวัลอาหารยอดเยี่ยมแห่งชาติ โดยผู้เข้าร่วมงานจะลิ้มลองสุดยอดสินค้าต่างๆ จากไต้หวันด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นพายสับปะรดสูตรพิเศษ, บะหมี่คลุกน้ำมันจากห่านผสมหอมแดง, ขนมเปี๊ยะเผือกสูตรเด็ดของไต้หวัน, ชุดขนมนูกัต ตังเมไต้หวัน, เครื่องดื่มจากเห็ดหูหนูขาว, ชุดของฝากไข่ปลากระบอก, ชาสกัดเย็นจากดอกเทรเมลลา, เครื่องดื่มรสพีช-อู่หลงแบบเยลลี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่สำคัญผลิตภัณฑ์เหล่านั้นยังมาพร้อมกับใบรับรองคุณภาพและรางวัลระดับประเทศและนานาชาติ อาทิ Monde Selection, ITQI, Halal, Organic, Clean Label และ A.A. TASTE AWARDS

นอกจากนั้น ทุกผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอในพาวิเลียนล้วนผสมผสานคุณสมบัติเด่น 3 ประการ ได้แก่ คุณภาพเยี่ยม รสชาติเป็นเอกลักษณ์และความหลากหลาย การควบคุมมาตรฐานที่รัดกุมช่วยรับประกันว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้คุณภาพตามใบรับรองระดับชาติและสากลและผู้ประกอบการยังภูมิใจนำเสนอวัตถุดิบจากไต้หวันที่ปลูกในท้องถิ่นรวมทั้งแสดงถึงฝีมืออันประณีตเพื่อมอบประสบการณ์การลิ้มรสที่เหนือชั้นและหาที่ไหนเปรียบไม่ได้โดยผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอทั้งหมดในงานครั้งนี้มีหลากหลายประเภทเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันออกไป

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการแถลงข่าวในหัวข้อ "Taiwan Award-Winning Foods Pavilion, Empowering the Highest Standard Quality of Food" เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 เวลา 11.00 น. - 12.00 น. ภายใต้แนวคิด 'Award-Winning Product' โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอถึงนวัตกรรมที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมอาหารโดยบริษัทจากไต้หวัน

ด้านคุณมีอา เหลียง ผู้อำนวยการ Taiwan Trade Center Bangkok กล่าวขณะแถลงข่าวว่า "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมงาน THAIFEX-Anuga Asia ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก เพื่อนำความโดดเด่นของอาหารไต้หวันมาสู่สายตาผู้บริโภคชาวไทย และประเทศไทยถือเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยในปี 2566 มูลค่าการซื้อขายสุทธิสูงถึง 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเกษตรและอาหาร ไทยเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่อันดับที่ 6 ทั้งด้านการนำเข้าและส่งออก"

"งาน 'Taiwan Award-Winning Foods Pavilion 2024' จัดขึ้นโดยสำนักงานการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจ และ TAITRA งานในครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างสายสัมพันธ์ผ่านวัฒนธรรมด้านอาหาร และนับเป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมความร่วมมือของไทยและไต้หวัน และเติบโตในอุตสาหกรรมดังกล่าวไปพร้อมกัน"

ในวันแรกของมหกรรมอาหารในครั้งนี้มีผู้ร่วมงานอย่างล้นหลามซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับแนวโน้มจำนวนผู้เข้าร่วมงานในวันถัดๆ ไป และตลอดระยะเวลา 5 วันของงาน Taiwan Award-Winning Foods Pavilion ประกอบไปด้วยกิจกรรมน่าสนใจมากมาย อาทิ ของแจกจากผู้จัดงาน ถ่ายภาพเสมือนจริงที่บูธถ่ายรูป และอื่นๆ อีกมากมายซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมงาน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังมีโอกาสลุ้นรับบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ไทเป จำนวน 3 รางวัล โดยการมีส่วนร่วมจากผู้จัดแสดงสินค้าและการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์จะช่วยเสริมสร้างสายสัมพันธ์และโอกาสทางธุรกิจระหว่างไต้หวันและประเทศไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สําหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มหรือท่านใดที่สนใจเยี่ยมชมบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหารไต้หวันสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: https://taiwanfoods.taiwantrade.com/en-us/search?title=Thaifex+Anuga-Taiwan+Pavilion+%28Award+Winning+Products%29 รวมทั้งบุคคลหรือผู้ประกอบการที่สนใจจัดหาผลิตภัณฑ์ไต้หวัน สามารถติดต่อ ไต้หวัน เทรด เซนเตอร์, กรุงเทพฯ (TAITRA) ที่: https://bangkok.taiwantrade.com/home ขอเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมและลิ้มลองรสชาติที่ดีที่สุดของไต้หวัน!

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click