ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย

บมจ. ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TIPH รุกเดินหน้า ซื้อ 2 บริษัทรวด! ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นำทัพประกาศส่งบริษัท ทิพย ไอเอสบี จำกัด หรือ TIP ISB บริษัทลูกในฐานะ Flagship Company เข้าซื้อกิจการรวดเดียว 2 บริษัท โดยครั้งนี้ล็อกเป้าที่บริษัทนายหน้าประกันภัย และบริษัทสำรวจภัย ตามแผนที่ได้ให้ไว้กับผู้ถือหุ้น ตั้งเป้าสร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจสนับสนุนธุรกิจประกันภัย และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รองรับการมาของบริษัทประกันภัยใหม่ๆ ภายในกลุ่ม พร้อมทั้งวางเป้าหมายให้บริษัทลูกที่เข้ามาใหม่ในกลุ่มธุรกิจ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายใน 5 ปี

ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2565 ได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท ทิพย ไอเอสบี จำกัด หรือ TIP ISB ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ดำเนินการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท อะมิตี้ อินชัวร์รันซ์ โบรคเกอร์ จำกัด หรือ Amity โดยการซื้อหุ้นร้อยละ 75 จากผู้ถือหุ้นเดิมของ Amity ด้วยมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 54.88 ล้านบาท และเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท ดีพี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ จำกัด หรือ DP Survey  โดยการซื้อหุ้นร้อยละ 75 จากผู้ถือหุ้นเดิมของ DP Survey ด้วยมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 115.97 ล้านบาท

ทั้งนี้การเข้าลงทุนในทั้ง 2 บริษัทดังกล่าวมีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อลงทุนในธุรกิจสนับสนุนประกันภัย (Insurance Supported Business) โดยประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนครั้งนี้ คือผลประโยชน์จากการทำงานร่วมกัน (Synergy) ที่มีให้แก่กลุ่มธุรกิจของ TIPH เพื่อพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มธุรกิจอย่างครบวงจร รวมทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติ อันเป็นการต่อยอด และสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจประกันภัย ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของกลุ่ม TIPH

โดยที่บริษัท อะมิตี้ อินชัวร์รันซ์ โบรคเกอร์ จำกัด หรือ Amity ในปัจจุบันประกอบธุรกิจตัวแทนและนายหน้าประกันวินาศภัย รวมให้บริการงานที่เกี่ยวข้องกับงานสนับสนุนธุรกิจประกันภัย และผลิตภัณฑ์ประกันภัยครบวงจร ขณะที่บริษัท ดีพี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ จำกัด หรือ DP Survey ในปัจจุบันประกอบธุรกิจสำรวจอุบัติเหตุและประเมินความเสียหายในธุรกิจประกันวินาศภัย รวมทั้งตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทำประกันภัย และบริการสนับสนุนงานประกันภัยแบบครบวงจรเช่นกัน

“การเข้าลงทุนในบริษัท Amity และบริษัท DP Survey ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ Forward Integration และ Backward Integration ของกลุ่มธุรกิจประกันภัยในคราวเดียวกัน โดยที่ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการได้ทั้ง 2 บริษัทเข้ามาเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มของ TIPH ในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) ให้กับการดำเนินธุรกิจประกันภัยของกลุ่ม TIPH ในระยะยาว เนื่องจาก TIPH ได้วางเป้าหมายให้บริษัท Amity และบริษัท DP Survey เข้ามาสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ภายในกลุ่มธุรกิจ (Shared Services) เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของ บมจ. ทิพยประกันภัย หรือ TIP ในฐานะบริษัทแกนของกลุ่ม และบริษัทประกันใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ผ่านการแยกหน่วยธุรกิจที่มีศักยภาพของ TIP ออกเป็นบริษัทใหม่ (Spin-Off) ด้วย ตามแผนธุรกิจที่ได้แจ้งต่อผู้ถือหุ้นไว้ในการปรับโครงสร้างการถือหุ้นฯ ที่ผ่านมา” ดร.สมพร กล่าว

“อย่างไรก็ดี เพื่อให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ภายหลังจากที่บริษัท Amity และบริษัท DP Survey เข้ามาเป็นบริษัทย่อยของกลุ่ม TIPH แล้ว ทั้ง 2 บริษัทจะถูกตั้งเป้าหมายให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 5 ปี ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ TIPH ให้ไว้กับบริษัทย่อยภายในกลุ่ม” ดร.สมพร กล่าวทิ้งท้าย

ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ สุดแกร่ง! โตสวนกระแสโควิด-19 ทั้งยอดขายและกำไร โชว์ผลงานงวด 9 เดือน ปี 64 กำไรสุทธิ 1,624.72 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.71 บาท “ดร.สมพร สืบถวิลกุล” ซีอีโอ สุดปลื้ม บริษัทฯ มีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับในทุกผลิตภัณฑ์ ยืนยันไม่มีกรมธรรม์ประกันภัยโควิดประเภท เจอ จ่าย จบ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเต็มสูบ ทั้งในส่วนของธุรกิจประกันภัย และการลงทุนอื่น ๆ หลังจัดทัพใหม่ยกฐานะขึ้นเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ ขณะที่บอร์ดไฟเขียวตั้งบริษัทใหม่ลุยลงทุนธุรกิจประกันภัย ตั้งเป้าปี 65 เล็งซื้อบริษัทประกันภัยเพิ่ม

ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำงวด 9 เดือน สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2564 ว่า TIPH มีผลการดำเนินงานขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสามารถทำกำไรสุทธิรวม 1,624.72 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.71 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1,609.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.68 บาท

ในส่วนของรายได้ บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 19,397.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 17% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับในทุกประเภทผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีกำไรจากการลงทุนรวม 722.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น ดร. สมพร กล่าวว่า บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายฐานการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น

ด้วยประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุด บมจ. ทิพยประกันภัย หรือ TIP ได้รับรางวัล “ประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับหนึ่งประจำปี 2563” ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 และรางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยที่สร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีประกันภัยดีเด่น ประจำปี 2563” จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)  ที่คัดเลือกบริษัทประกันภัย ที่มีการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ฐานะทางการเงินที่มั่นคง ธรรมาภิบาลเป็นเลิศ และบริษัทที่มีทิศทางและกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจสู่การเป็นผู้นำประกันภัยด้านดิจิทัล ออกแบบสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการให้บริการที่ตอบสนองประชาชนโดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตของ TIPH นั้น ดร. สมพร กล่าวว่า นอกจากการผลักดันให้บริษัทฯ มีการขยายตัวของเบี้ยประกันภัยรับอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทฯ มีแผนการขยายธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2564 จนถึงปี 2565 ในการศึกษาแนวทางในการเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่ประกอบธุรกิจสนับสนุนธุรกิจประกันภัย 2-3 ธุรกิจ โดยตั้งเป้าไปที่บริษัทที่ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย และบริษัทที่ประกอบธุรกิจสำรวจภัยและจัดการสินไหม รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งบริษัทประกันภัยใหม่ หรือการเข้าซื้อกิจการที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อรองรับการขยายธุรกิจประกันภัยที่มีศักยภาพ เช่น Digital Insurance รวมถึงการ Spin Off หน่วยธุรกิจออกเป็นบริษัทใหม่

ทั้งนี้สำหรับการลงทุนในธุรกิจสนับสนุนประกันภัย ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัท ทิพย ไอเอสบี จำกัด (TIP ISB) เพื่อเป็นบริษัทเรือธง หรือ Flagship Company สำหรับลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่สนับสนุนธุรกิจประกันภัย (Insurance Supported Business)

“บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ยังคงยืนยันเป้าหมายในการเดินหน้าขึ้นสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงธุรกิจประกันภัยไปสู่มิติใหม่ ขยายขอบข่ายการดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย ควบคู่ไปกับการมอบสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคม รวมถึงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต” ดร.สมพร กล่าว

X

Right Click

No right click