October 13, 2024

บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางด้านการเงินที่ระดับ A- (ยอดเยี่ยม) และจัดอันดับเครดิตผู้ออกหลักทรัพย์ระยะยาวที่ระดับ “a-” (ยอดเยี่ยม) โดย AM Best โดยอันดับเครดิตเหล่านี้มีแนวโน้มอยู่ที่ระดับมีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย มีงบดุลที่แข็งแกร่ง และมีผลการดำเนินงานที่เหมาะสม มีสถานะทางธุรกิจด้านภูมิศาสตร์ที่จำกัด และจัดการความเสี่ยงขององค์กรอย่างเหมาะสม อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ยังได้รับประโยชน์จากอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นของจาก Allianz SE (กลุ่มอลิอันซ์)

การประเมินความแข็งแกร่งของงบดุลของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย อยู่ในระดับที่ดี โดยได้รับแรงหนุนจากระดับเงินทุนที่ปรับตามความเสี่ยงในระดับที่แข็งแกร่งที่สุด ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งประเมินโดยใช้อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนของเบสท์ (Best’s Capital Adequacy Ratio) และคาดว่าจะอยู่ที่ระดับที่แข็งแกร่งมากในระยะกลางเป็นอย่างน้อย บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากความยืดหยุ่นทางการเงินที่และสามารถเข้าถึงตลาดทุนผ่าน บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ [SET: AYUD] นอกจากนี้ AM Best ยังมองว่าแนวทางการลงทุนของบริษัทฯ ค่อนข้างมีความอนุรักษ์นิยม โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะจัดสรรไปที่เงินสด เงินฝาก และพันธบัตรคุณภาพสูง บริษัทฯ พึ่งพาการประกันภัยต่อ (Reinsurance)ในระดับปานกลางด้วยเหตุผลด้านการรับประกันและจัดการความเสี่ยงจากเหตุการณ์ร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงนี้ถูกลดลงบางส่วนโดยคุณภาพเครดิตในระดับสูงของคณะกรรมการการประกันภัยต่อ

ผลประกอบการของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง หลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย และบริษัท เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 โดย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย มีการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการด้านการรับประกันภัยในช่วงปลายปี 2566 ที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่มาจากการขยายธุรกิจ การดำเนินการเพื่อจัดการต้นทุน และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการที่ลดลง แม้ว่าอัตราส่วนการขาดทุนจากสมุดบัญชีธุรกิจจะเพิ่มขึ้นก็ตาม รายได้จากการลงทุนที่มั่นคงของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากดอกเบี้ย ยังคงส่งผลต่อกำไรโดยรวมของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย โดยคาดว่า บริษัทฯ จะยังคงรักษาผลประกอบการในระดับนี้ไว้ได้ จากกลยุทธ์การเติบโต ในขณะที่ยังคงรักษาวินัยด้านการรับประกันภัยและการกำหนดราคา

AM Best ประเมินว่าโปรไฟล์ธุรกิจของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย  อยู่ในระดับที่จำกัด เป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่ดำเนินงานในประเทศไทยและเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่ใหญ่เป็นอันดับเก้าในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 3.5% จากเบี้ยประกันภัยรับตรงในปี 2566 พอร์ตฟอลิโอการรับประกันภัยของบริษัทมีการกระจายความเสี่ยงอย่างดีตามประเภทธุรกิจและช่องทางการจำหน่าย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากมีการเสนอขายเสนอผลิตภัณฑ์เฉพาะในประเทศไทย การควบรวมกิจการกับ เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ ในปี 2566 ทำให้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและการกระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น ทำให้สามารถขยายเข้าสู่ตลาดประกันสุขภาพของประเทศไทยได้ โดยบริษัทฯ คาดว่าเบี้ยประกันภัยจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะกลาง จากการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและเชิงพาณิชย์

อันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากกลุ่มอลิอันซ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยการสนับสนุนอย่างชัดเจน อยู่ในรูปแบบของการประกันภัยต่อจากกลุ่มอลิอันซ์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับประโยชน์ทางอ้อมในด้านต่างๆ เช่น การกำกับดูแลกิจการและบริการการจัดการการลงทุน รวมถึงการเข้าถึงทรัพยากรและบริการที่ใช้ร่วมกันของสายงานต่างๆ แม้ว่าผลประกอบการของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จะมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของรายได้รวมของกลุ่มอลิอันซ์ แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อกลยุทธ์การขยายตัวของกลุ่มอลิอันซ์

หน่วยงานที่ได้รับการจัดอันดับจะทราบการจัดอันดับของตนก่อนที่ข้อมูลจะได้รับการเผยแพร่ เว้นแต่จะมีการระบุไว้เป็นอย่างอื่น การจัดอันดับจะไม่ได้รับการแก้ไขภายหลังจากการสื่อสารดังกล่าวข่าวเผยแพร่ฉบับนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดอันดับเครดิตที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ AM Best ข้อมูลการจัดอันดับทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับข่าวนี้และการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายละเอียดของหน่วยงานที่รับผิดชอบในจัดอันดับแต่ละรายการที่อ้างอิงในข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ สามารถดูได้ที่หน้าเว็บไซต์กิจกรรมการจัดอันดับล่าสุดของ AM Best ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ Best’s Credit Ratings Best’s Performance Assessments Best’s Preliminary Credit Assessments รวมถึงข่าวประชาสัมพันธ์ของ AM Best สามารถดูได้ที่จากคู่มือการใช้งานการจัดอันดับและการประเมินของ Best

M Best เป็นหน่วยงานจัดอันดับเครดิตระดับโลก ผู้เผยแพร่ข่าว และผู้ให้บริการการวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมประกันภัย บริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศ โดยมีสำนักงานภูมิภาคในลอนดอน อัมสเตอร์ดัม ดูไบ ฮ่องกง สิงคโปร์ และเม็กซิโกซิตี้

อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะบริษัทประกันชีวิตและประกันภัยชั้นนำในประเทศไทย พร้อมอยู่เคียงข้างช่วยเหลือลูกค้าเสมอในทุกเงื่อนไขชีวิต ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาและมูลนิธิ SOS เดินหน้าส่งต่อความช่วยเหลือสู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือ พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือครั้งนี้ผ่าน 2 ช่องทางหลัก ได้แก่

  • บริจาคเงิน “ช่วยล้างบ้าน” กับมูลนิธิกระจกเงา เพื่อจ้างอาสาชุมชนและจัดหาอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วมพร้อมดินโคลน เพื่อให้กลับมาอยู่ในสภาพอยู่อาศัยได้หลังน้ำลด โดย อลิอันซ์ อยุธยา จะร่วมสบทบการบริจาคของท่าน ผู้สนใจสามารถบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี: 202-258298-3 ชื่อบัญชี: กองทุนภัยพิบัติ โดยมูลนิธิกระจกเงา และสามารถ อัปโหลดสลิปบริจาคที่ co/FloodDonate เพื่อให้บริษัททำการสมทบยอด
  • บริจาคอาหารพร้อมกิน “ช่วยเติมอิ่ม” กับมูลนิธิกู้ภัยอาหาร SOS เพื่อสนับสนุนหน่วยกู้ภัยและผู้ประสบภัย อาทิ ขนมปังบิสกิต ปลากระป๋อง นมกล่อง ขนมถุง เกลือแร่ โดยสามารถมอบให้ที่จุดรับบริจาค สำนักงานใหญ่ อลิอันซ์ อยุธยา ชั้น 1 อาคารเพลินจิต ทาวเวอร์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 กันยายน 2567 เวลา: 00 – 17.00 น.

อลิอันซ์ อยุธยา จะอยู่เคียงข้างคนไทย และพร้อมจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ประสบภัยในภาวะวิกฤตในครั้งนี้ สำหรับลูกค้าอลิอันซ์ อยุยา สามารถติดต่อศูนย์ดูแลลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าประกันชีวิต โทร 1373 ลูกค้าประกันภัย โทร 1292

อลิอันซ์ ผู้นำด้านการประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์ระดับโลก ประกาศความภาคภูมิใจในการเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปารีส 2024 ในฐานะพันธมิตรประกันภัยระดับโลก โดยมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่ปลอดภัยและเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ การมีส่วนร่วมของอลิอันซ์ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้งบริษัทและงานกีฬาระดับโลก โดยได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนความทุ่มเทและพยายามของนักกีฬาจากกว่า 200 ประเทศ และถ่ายทอดให้ผู้ชมทั่วโลกได้เห็น

การจัดงานกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิกปารีส 2024 สร้างความตื่นเต้นและรวมใจผู้คนหลายพันล้านทั่วโลก แต่สำหรับผู้จัดงาน การจัดงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากสภาพอากาศสุดขั้วหรือเหตุการณ์ไซเบอร์ ด้วยประสบการณ์หลายปี การเรียนรู้ และการวางแผนจัดการความเสี่ยง ทำให้การแข่งขันดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยการสนับสนุนจากประกันภัยมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้งานกีฬาน่าทึ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้

อลิอันซ์ได้นำเสนอความคุ้มครองประกันภัยที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน ประกอบด้วยความคุ้มครองเชิงพาณิชย์ เช่น ประกันความรับผิด ประกันภัยไซเบอร์ และประกันความเสียหายต่อทรัพย์สินสำหรับสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกหลายแห่ง นอกจากนี้ อลิอันซ์ยังจัดหาประกันการยกเลิกตั๋ว เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับแฟนๆ มีการจัดโปรแกรมความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่ครอบคลุมนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครกว่า 155,000 คน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการเสนอประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เพื่อคุ้มครองความเป็นอยู่ที่ดีของทีมชาติต่างๆ

มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า "ในฐานะพันธมิตรโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับนักกีฬาจากประเทศไทยที่คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความพยายามที่ไม่ย่อท้อของทุกคนได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการยืนยันถึงความสามารถและความแข็งแกร่งของนักกีฬาไทย แต่ยังเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่สำหรับประเทศไทยอีกด้วย"

อลิอันซ์ อยุธยา ขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับนักกีฬาไทยที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการคว้า 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง โดยฮีโร่ทัพนักกีฬาไทย ได้แก่ นักกีฬาเหรียญทอง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด หญิง รุ่น 49 กิโลกรัม นักกีฬาเหรียญเงิน กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตัน ชายเดี่ยว ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนัก ชาย รุ่น 61 กิโลกรัม และวีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก ชาย รุ่น 73 กิโลกรัม นักกีฬาเหรียญทองแดง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล หญิง รุ่น 66 กิโลกรัม และสุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก หญิง รุ่น 49 กิโลกรัม

การสนับสนุนนี้ไม่เพียงสร้างช่วงเวลาน่าจดจำ แต่ยังเน้นถึงบทบาทสำคัญของอลิอันซ์ในกีฬาโอลิมปิก โดยความร่วมมือจะดำเนินต่อไปถึงปี 2571 ครอบคลุมการแข่งขันโอลิมปิกมิลาโน คอร์ติน่า 2026 และลอสแองเจลิส 2028 ซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ประกันภัยระดับโลกของอลิอันซ์และสร้างผลกระทบทางธุรกิจในตลาดสำคัญที่มีการเติบโตสูง

อลิอันซ์ อยุธยา รายงานผลการดำเนินธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยไตรมาสสอง ปี 2567 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยธุรกิจประกันชีวิตสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ (NBV) เติบโต 14% เบี้ยประกันรับรวมเติบโต 11%  ขณะที่ธุรกิจประกันภัย สร้างเบี้ยรับรวมเติบโต 6% พร้อมผนึกพลังเดินหน้าสร้างแบรนด์แกร่ง มุ่งสร้างรายได้สมดุลจากทุกช่องทาง ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต สร้างผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลประกอบการไตรมาสสองเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 19,249 ล้านบาท เติบโต 11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโตมากถึง 28% อยู่ที่ 4,580 บาท โดยมาจากช่องทางตัวแทน 1,542 ล้านบาท ช่องทางขายผ่านธนาคาร 2,272 ล้านบาท ช่องทางขายตรง 641 ล้านบาท และ ช่องทางอื่นๆ 125 ล้านบาท

ด้าน มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปี 2567 นี้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย สร้างผลผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งในธุรกิจประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ มีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 6,073 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเติบโต 6% อยู่ที่ 2,284 ล้านบาท ประกันรถยนต์เติบโต 10% เบี้ยประกันมูลค่า 1,705 ล้านบาท และประกันวินาศภัยและทรัพย์สินอื่นๆเติบโต 4% เบี้ยประกันมูลค่า 2,084 พันล้านบาท

จากตัวเลขการเติบโตในทุกธุรกิจ สะท้อนถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยทั้งด้านประกันชีวิตและประกันภัย ซึ่งจะผลักดันธุรกิจไปให้ถึงเป้าหมาย พิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวมธุรกิจประกันชีวิตที่ 4.1 หมื่นล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวมธุรกิจประกันภัยที่ 1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมผลักดันให้แบรนด์อลิอันซ์ อยุธยาครองตำแหน่งผู้นำในธุรกิจประกันสุขภาพเพื่อคนไทย

ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้เช่นกัน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 6.4 % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็น  9.1 หมื่นล้านยูโร (หรือประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7.9 พันล้านยูโร (หรือประมาณ 3.14 แสนล้านบาท) โดยเพิ่มขึ้น 5.3 เปอร์เซ็นต์ ได้รับแรงหนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจ กลุ่มประกันชีวิต/สุขภาพเติบโตในหลายภูมิภาค ในกลุ่มการจัดการสินทรัพย์ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเป็นปัจจัยหลักของการเติบโต ในขณะที่ธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ดได้รับอานิสงค์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งและการดำเนินการของหลักทรัพย์อ้างอิง มีอัตราส่วนเงินทุนของ Solvency II อยู่ที่ 206 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 เทียบกับ 203 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2567


อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2567 : 1 ยูโร = 39.75 บาท  

นายโทมัส วิลสัน (ซ้าย) กรรมการผู้อำนวยการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (AYUD) รับมอบประกาศนียบัตร ESG100 Company ในฐานะบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ประจำปี 2567 จาก ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ขวา) ประธานสถาบันไทยพัฒน์ ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ

บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (AYUD) บริษัทเพื่อการลงทุนในธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจประกันภัย โดยเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในกลุ่มอลิอันซ์ ผู้ประกอบธุรกิจบริการทางการเงินชั้นนำจากประเทศเยอรมนี ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ.2567 โดยสถาบันไทยพัฒน์

นายโทมัส วิลสัน กรรมการผู้อำนวยการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (AYUD) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2567 ด้วยการคัดเลือกจาก 920 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต (Insurance) และบริษัทได้เข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (พ.ศ.2565-2567)

กลุ่มบริษัทและบริษัทร่วม ยึดถือเรื่องความยั่งยืนเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญ ด้วยวิสัยทัศน์ “เราใส่ใจในวันพรุ่งนี้” (We Care for Tomorrow) โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เกิดขึ้นได้จริงและสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้น กลุ่มบริษัทและบริษัทร่วม จึงผลักดันนโยบาย ESG สู่การปฏิบัติจริง มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส มุ่งเน้นการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ “วันพรุ่งนี้” ของทุกคนมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ การจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน

สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่สิบในปีนี้

ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

X

Right Click

No right click