November 24, 2024

ออสสิริส คาดการณ์ราคาทองเดือนมิถุนายน ปี 66

June 01, 2023 3626

ดีลเพดานหนี้สหรัฐฯ ผ่านดอลลาร์ อาจเกิด Sell on Fact ทองลุ้นไปต่อ

ออสสิริส (Ausiris) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Gold Investment เผยแนวโน้มราคาทองคำเดือนมิถุนายน 2566 คาดดีลเพดานหนี้สหรัฐฯ ผ่านดอลลาร์ อาจเกิด Sell on Fact ทองอาจลุ้นไปต่อ ต้องจับตา 5 ปัจจัยผลกระทบ

นายพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ นักวิจัยอาวุโส แผนก Ausiris Intelligence บริษัท ออสสิริส จำกัด กล่าวถึงสรุปสถานการณ์ราคาทองในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวทำจุดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,080 usd/oz ขณะที่ราคาทองในประเทศ ราคาทองคำแท่ง 96.5% ขายออกสูงสุดถึงบาทละ 32,650 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกสูงสุดบาทละ 33,150 บาท อ้างอิงราคาจากสมาคมค้าทองคำ โดยได้รับแรงหนุนในช่วงต้นเดือนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย หลังธนาการสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณการหยุดพักการขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราว กดดันดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า ฉุดบอนด์ยีลด์ร่วง อีกทั้งความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐฯ และเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ปรับตัวต่ำกว่าคาดการณ์หนุนความเป็นไปได้ที่เฟดอาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนที่จะปรับตัวลดลงในช่วงเข้าสู่ช่วงกลาง-ปลายเดือนพฤษภาคม หลังนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลในการเจรจาการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ไม่สามารถตกลงกันได้

“สำหรับแนวโน้มราคาทองคำเดือนมิถุนายนนี้ ยังคงน่าจับตามอง โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเดือนมิถุนายน ประเด็นสำคัญแรก ก่อนวันที่ 1 มิ.ย. ต้องจับตาการเจรจาปรับเพดานหนี้สหรัฐฯ  หลังการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้รอบใหม่ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน และประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะบรรลุการเจรจารขยายเพดานหนี้ครั้งสำคัญ ก่อนเส้นตายนี้ไปได้ ในแง่ผลกระทบทองคำในช่วงระหว่างการเจรจารอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อและทองอาจปรับตัวร่วง ทั้งนี้หากการเจรจารครั้งนี้บรรลุไปด้วยดีระวังเกิด Sell on fact ดอลลาร์สหรัฐนั้นอาจโดนเทขายทำกำไรแทน เพราะปัจจุบันดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเก็งกำไร อาจส่งผลให้ทองปรับตัวขึ้นแทนที่จะลงได้ ในตรงกันข้าม หากการเจรจาครั้งนี้ไม่สำเร็จสหรัฐฯ อาจจะเผชิญการผิดนัดชำระหนี้ในครั้งประวัติศาสตร์ ผลที่ตามมาคือดอลลาร์สหรัฐฯ จะถูกขายอย่างรุนแรงเพราะผิดชำระหนี้ แน่นอนว่าพันธบัตรจะถูกลดเครดิตลงจากสถาบันจัดลำดับต่าง ๆ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปทั่วโลก ทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอาจพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง” นายพีระพงศ์ กล่าว

และต่อมาคือ ประเด็นที่สอง ในวันที่ 2 มิ.ย. ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ว่าตัวเลขแรงงานยังแข็งแกร่งหรือไม่ ซึ่งจะเป็นมาตรวัดหนึ่งที่เฟดจะใช้ในการประเมินทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 15 มิ.ย. ซึ่งออสสิริสมองว่า หากตัวเลขแรงงานออกมาดี อาจเพิ่มแนวโน้มโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป สำหรับดอกเบี้ยสหรัฐฯ ล่าสุดอยู่ที่ 5.00-5.25% ล่าสุดวันที่ 26 พ.ค. 2566 Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 57.4.% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ในตรงกันข้าม หากเฟดมองว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นอาจทำให้กลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อทอง

และประเด็นที่ 3 พลาดไม่ได้คือในช่วงวันที่ 13 มิ.ย. ยังคงต้องจับตาอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เนื่องจากล่าสุดอัตราเงินเฟ้อยังคงตัวในระดับสูงในเดือน เม.ย. อยู่ที่ระดับ 4.9% ซึ่งยังห่างจากของเป้าของเฟดอยู่ที่ 2% ทำให้มองแนวโน้มว่าเฟดยังขึ้นดอกเบี้ยต่อในครึ่งปีที่เหลืออาจแตะ 5.25%-5.50% ต้องมาติดตามกันต่อในส่วนของตัวเลขเดือนพฤษภาคม ว่าเงินเฟ้อจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด หากปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจกดดันให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟด มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่อ นับเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ

กราฟแสดง ความเคลื่อนไหวอัตราเงินเฟ้อสหรัฐตั้งแต่ปี 2022 ถึงปัจจุบัน ล่าสุดอยู่ที่ 4.9%ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2021

และอีกประเด็นสำคัญคือเรื่องดอกเบี้ยเฟด ประเด็นที่ 4 ในวันที่ 15 มิ.ย. นี้จับตาการประชุมเฟดคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 0.25% และอาจส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้น ผลคืออาจทำให้ราคาทองถูกกดดันช่วงก่อนการประชุมและอาจปรับตัวขึ้นหากเฟดส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเริ่มส่งผลกระทบต่อบางอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย เนื่องจากต้นทุนจำนองเพิ่มขึ้น อีกทั้งภาคสถาบันการเงินอาจเสี่ยงล้มเพิ่มเติม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่คงตัวอยู่ในระดับสูง

กราฟแสดง ความเคลื่อนไหวอัตราดอกเบี้ยสหรัฐตั้งแต่ปี 2022 ถึงปัจจุบัน

ต่อด้วยประเด็นที่ 5 วันที่ 29 มิ.ย. จับตาประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ว่าการขยายตัวจากการบริโภคและการลงทุนในสหรัฐฯเพิ่มหรือไม่ หากมีการขยายตัวเพิ่มค่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวแข็งค่าและกดดันราคาทอง

นอกจากนี้ปัจจัยอื่น ๆ ประเด็นสงครามระหว่างรัฐเซียและยูเครนยังคงร้อนระอุ ล่าสุดส่งผลให้นาโตวิตก อาจถูกโจมตีเหมือนกับที่ยูเครนที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ล่าสุดนาโต ทำ ‘War Game’ ซ้อมรบครั้งใหญ่ในเอสโตเนีย มีแผนจะซ้อมรบถึง 18 ครั้ง ระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ย. เพื่อเป็นการข่มขวัญรัสเซียที่กำลังทำสงครามในยูเครนและไม่มีทีท่าจะยุติลงในอนาคตอันใกล้ ปัจจัยดังกล่าวยังเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่จะหนุนราคาทองต่อไปหากสงครามยังไม่สิ้นสุด นายพีระพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

สถิติที่น่าสนใจสำหรับราคาทองในตลาดโลกเดือนมิถุนายน 10 ปีย้อนหลัง

  1. ราคาทองมีความผันผวนสูง ส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดของเดือนค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 111 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  2. ราคาทองทองคำส่วนใหญ่จะปิดลบมากกว่าปิดบวกอยู่ที่ 60%

กราฟแสดง ราคาไฮ High และ Low ต่ำสุดสำหรับราคาทองคำในตลาดโลกในช่วงเดือนมิถุนายนแต่ละปีตั้งแต่ปี 2013-2022

แนวโน้มราคาทองคำในมุมทางเทคนิค

แนวโน้มราคาทองคำคาดอยู่ในช่วงพักตัวบริเวณแนวรับสำคัญบริเวณ 1,950-1,935 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดแนวรับดังกล่าว คาดว่าจะมีแรงเทขายออกมามากและอาจปรับตัวลงไปที่แนวรับ 1,907-1,876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากหลุดกรอบเทรนด์ไลน์คู่ขนานขาขึ้นใน TF1DAY ทั้งนี้หากราคาทองคำสามารถกลับตัวบริเวณแนวรับดังกล่าว เราอาจเห็นราคาทองกลับมาทดสอบแนวต้านบริเวณ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือมากกว่านั้นอีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเบรคเหนือแนวต้าน 1,986 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขาขึ้นจะกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง กลยุทธ์การลงทุนแนะนำย่อซื้อหากยังไม่หลุดกรอบเทรนด์ไลน์ขาขึ้น

แนวรับ/แนวต้าน เดือนมิถุนายน 2566
แนวรับ S1:1935 /S2:1907 /S3:1876 
แนวต้าน R1:2000/R2:2050/R3:2080

 

X

Right Click

No right click