×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 10974

นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้อำนวยการ ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นายอนนต์ อดิโรจนานนท กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์คลาสนิวทริชั่น จำกัด ผู้ผลิตเจลพลังงานรายแรกของประเทศไทย Dever Energy Gel” (ดีเวอร์ เอนเนอร์จี้ เจล) มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี รับส่วนลดสูงสุด 20% เมื่อซื้อสินค้าอุปกรณ์กีฬากับร้านค้าที่ร่วมรายการ และรับส่วนลดเพิ่มหรือเครดิตเงินคืน 13% เมื่อมียอดใช้จ่าย 1,000 บาท ต่อเซลส์สลิป พร้อมใช้คะแนน KTC FOREVER 1,000 คะแนน โดยลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน SMS พิมพ์ ADD เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลัก ส่งมาที่เบอร์โทรศัพท์ 061-384-5000 นอกจากนี้สมาชิกยังสามารถเลือกรับบริการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมรับฟรี Dever Energy Chew ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 พฤษภาคม 2562  ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ อาทิ Ari Running / Ari Football / Avarin / Banana Run / Tank Store / Monster Run / Caveman / Sandy Health / Energy by Sandy / Tri Hub / Sport Dome / TSM ACTIVE / Dilok Store / Teelakow / Run 2 Paraside

 

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือที่เว็บไซต์ www.ktc.co.th/sport สมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์เพื่อสมัครบัตรเครดิตได้ที่นี่ http://bit.ly/2uPcS19

(ในภาพจากซ้ายไปขวา : 1.นางสาวนริสสา ลิมปนาทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซิลิงโก้ ประเทศไทย จำกัด 2.นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีวี ไดเร็ค 3.นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต เคทีซี 4.นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด 5.นางจุรีรัตน์ ก้องเกียรติวงศ์ หัวหน้าสายงานดิจิทัล แผนกเครื่องสำอางชั้นสูง บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด 6.นางสาวกีรติ โรจนกีรติกานต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พอลพ่า บาย ดามาคัน จำกัด)

 

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับ 5 พันธมิตรธุรกิจออนไลน์ “ลาซาด้า” “ทีวี ไดเร็ค” “ซิลิงโก้” “ลอรีอัล ไทยแลนด์” และ “พอลพ่า บาย ดามาคัน” จัดงานเสวนาปันความรู้เพื่อร่วมสร้างสังคมไทยที่ยั่งยืนKTC FIT Talks” ครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นงานเสวนาเพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้และเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องต่างๆ กับสังคมสาธารณะ โดยหัวข้อเสวนาจะปรับเปลี่ยนไปตามเทรนด์และกระแสความสนใจของสังคมในช่วงเวลานั้นๆ ภายใต้กรอบหัวข้อที่เกี่ยวกับการเงิน (Finance) นวัตกรรม (Innovation) และเทคโนโลยี (Technology)

โดยในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เจาะลึกธุรกิจอีคอมเมิร์ซและช้อปปิ้งออนไลน์ ทางออกเศรษฐกิจไทยยุคดิจิทัล” เผยมุมมองและกลยุทธ์การปรับตัวของอีมาร์เก็ตเพลสและธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ท่ามกลางกระแสดิจิทัล ดิสรัปชั่นที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง เพื่อร่วมขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เทรนด์ธุรกิจออนไลน์และทีวี ช้อปปิ้ง ในปี 2562 รวมทั้งโอกาสและความท้าทายของสตาร์ทอัพในการเข้ามาทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ ชี้ช้อปออนไลน์ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด พร้อมแนะนำการใช้เครื่องมือทางการเงินอย่างไรมีแต่ได้กับได้ ณ ห้องประชุมใหญ่ “เคทีซี” ชั้น 14 อาคารสมัชชาวาณิช 2 พร้อมถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ (Facebook Live) ทางเพจ #KTC CSR Club

นางสาวโชษิตา เทพยสุวรรณ (ขวา) ผู้จัดการ – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จับเทรนด์ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 ร่วมกับ นางสาวกิติมา หัตถีรัตน์ (ซ้าย) ผู้ก่อตั้ง ดิวาลี เซ็นเตอร์ ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย แบบองค์รวม และครบวงจร มอบโปรโมชั่นให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ซื้อแพ็คเกจสำหรับใช้บริการที่ดิวาลี เซ็นเตอร์ซึ่งเป็นศูนย์บริการดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง นำเสนอบริการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมและครบวงจร บนพื้นที่ 3 ไร่ ตรงข้ามท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ ปลอดภัยด้วยการออกแบบอาคารก่อสร้าง และอุปกรณ์ตามมาตรฐานสากล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ เน้นการดูแลเชิงป้องกัน โดยให้ความรู้เกี่ยวกับหลักโภชนาการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจากโรคเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง สมองเสื่อม กระดูกพรุน การทรงตัวและการเคลื่อนไหว โดยกิจกรรมจะถูกคัดสรรให้เหมาะกับแต่ละบุคคล โดยทีมแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูโดยตรง พยาบาล นักกายภาพ นักโภชนาการ และเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดี ดิวาลีจึงเปรียบเสมือนสังคมใหม่ที่แรกในประเทศไทยที่มีการดูแลผู้สูงวัยแบบครบวงจร เพื่อปรับสภาพสมดุลทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยภายในแพ็คเกจจะประกอบด้วย

1) โปรแกรมการตรวจสุขภาพภูมิแพ้อาหารแฝง 222 ชนิด โดยอาจารย์พิมพ์ใจ นัยโกวิท และการแนะนำหลักโภชนาการโดย รศ. ดร. สิริชัย อดิศักดิ์วัฒนา

2) โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี                  

3) หัตถการบำบัดเพื่อปรับโครงสร้างร่างกายให้สมดุล

4) วารีบำบัด

5) การออกกำลังกายและกิจกรรมสันทนาการ

6) ห้องพักที่ดิวาลี เซ็นเตอร์ พร้อมอาหารและผู้ดูแลส่วนบุคคล

7) ทริปท่องเที่ยวในประเทศ และ

8) ผลิตภัณฑ์ของดิวาลี ในราคารวม 200,000 บาท จากราคารวมปกติ 348,000 บาท ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2562 – 30 เมษายน 2562

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 080 261 6163  KTC PHONE 02 123 5000 เว็บไซต์ www.ktc.co.th หรือสมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์เพื่อสมัครบัตรเครดิตได้ที่นี่: http://bit.ly/2skCwZ8

ในยุคสมัยที่สังคมธุรกิจเริ่มหวั่นไหวต่อสภาวะแห่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากพัฒนาการของเทคโนโลยี ที่กล่าวกันว่าเริ่มส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมผู้บริโภค จนถึง Lifestyle และที่สุดต่อมาคือเรื่องโครงสร้างการทำธุรกิจ (Business Model) ของหลายๆ กิจการในปี 2561 ได้เริ่มปรากฏภาพที่แจ่มชัดขึ้นว่า ถ้าไม่ปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง ผลสุดท้ายหมายถึงการถูกเปลี่ยนหรือล้มหายตายจาก กรณีตัวอย่างที่ใหญ่ยิ่ง อย่างอุตสาหกรรมการเงินในปีที่ผ่านมาจะพบว่า Fintech หรือเทคโนโลยีการเงินเริ่มขยายตัวและส่งผลต่อต่อวงการธนาคารและวงการธุรกิจธุรกรรมทางการเงินอย่างท้าทาย ภายใต้ความร้อนรุ่มของสภาวการณ์ในปีที่ผ่านมา คาดการณ์กันว่าบรรยากาศจะยิ่งร้อนเร่าและรุนแรงยิ่งขึ้นในปีนี้ 2019 และอนาคตในอีกไม่ช้านาน

Vision 2019

ระเทียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำของธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิตอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ได้เผยถึงได้เผยวิสัยทัศน์และความเห็นต่อประเด็นทิศทางและความท้าทายของอุตสาหกรรมการเงินในปี 2062 ว่า แน่นอนว่าอุตสาหกรรมการเงินในปี 2562 นี้จะถูก Disrupt มากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น เทคโนโลยีหลายอย่างที่ Mature บวกกับการเคลื่อนตัวของโลกที่เปลี่ยนไป ทำให้สถาบันการเงินจำเป็นจะต้องปรับตัว คนที่ปรับตัวไม่ทันหรือปรับตัวช้าก็จะมีปัญหา ที่จริง E-Payment ที่นำมาใช้ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาก็เป็นตัวหนึ่งที่รัฐบาลเห็นถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นและพยายามวางเพลตฟอร์ม แม้ในช่วงแรกจะไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องเปลี่ยน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพาะปีที่ผ่านมา นี่เป็นแค่ก้าวแรกของการเริ่มต้นเท่านั้นเอง ซึ่งคิดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะธนาคารที่เคยมีส่วนต่างที่มากๆ จะเริ่มมีน้อยลง รายได้ที่เคยได้จากหลายๆ ช่องทางก็จะเริ่มหายไป การที่จะหารายได้เพิ่มขึ้นไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย รวมถึงการเข้ามาของคู่แข่งที่ไม่ใช่สถาบันการเงินก็จะทำได้ไม่ยาก

ทั้งนี้ ระเทียร ศรีมงคล ยังเผยว่าต่อ เป็นไปได้ว่าเราจะได้รับผลกระทบระดับหนึ่ง แต่เราพัฒนามาถึงจุดที่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบการเงินจะไม่ทำให้ธนาคารล้มหายตายจาก เพียงแต่ว่าจากที่ธนาคารเคยมีกำไรมี growth มาตลอดอาจจะไม่มี Growth หรือมีได้ยากขึ้นและถ้าปรับตัวได้ไม่ดี Margin ก็อาจจะลดลงไปเรื่อยๆ สิ่งนี้คือข้อควรกังวล แต่สำหรับ KTC เราก็ยังเชื่อว่าในปีนี้จะยังสามารถเติบโตได้ ซึ่งปีที่ผ่านมาเราก็โตจากเดิมเยอะมาก ถ้าในปีนี้ถ้าสามารถทำได้ในอัตราเท่าเดิมก็ถือว่าน่าพึงพอใจ ซึ่งภายในปีนี้เรามีแผนที่จะวางรากฐานสำหรับการก้าวกระโดดในรอบห้าปีถัดไปอีกด้วย

Technology

ไม่น่ากลัว- เลือกให้ถูก -ใช้ให้เป็น

ต่อประเด็นที่เราจะเห็นว่ามี Startup กลุ่ม FinTech รายใหม่ๆ ตลอดจนกิจการในอุตสาหกรรมนอกกลุ่มการเงิน บางรายได้ก้าวเข้ามาสร้างส่วนแบ่งการทำกำไรในตลาดการเงิน ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ โดยใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำลง โดยเราจะเห็นกรณีตัวอย่างของการ ยกเลิกค่าธรรมเนียม รับชำระและค่าบริหาร โอนเงิน ‘ซึ่งเป็นตัวเลขทำกำไรมหาศาลของธนาคาร’ การถูก Disrupt ลักษณะนี้และที่กำลังจะเกิดขึ้น อาจหมายถึงการเปลี่ยนเกมผู้เล่นในอุตสาหกรรมการเงินโดยรวมและสร้างผลกระทบยิ่งใหญ่ในอนาคตต่อไปหรือไม่อย่างไรนั้น CEO ใหญ่ของ KTC แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า

สิ่งนี้ผมคิดว่ายังไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ อย่างเรื่องของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างๆ ที่บอกว่า FinTech เข้ามาแทรกตรงนี้ ถามว่าการที่ค่าธรรมเนียมนั้นหายไป เพราะFinTech นั้น ผมคิดว่า ที่จริงสิ่งเหล่านี้หายไปเพราะถึงเวลาแล้วที่จะต้องหายไป ถ้าไปดูดีๆ จะพบว่ามันหายไปเพราะว่า Players หนึ่งคนต้องการนำเทคโนโลยีที่ mature มา lead เพื่อสร้างฐานลูกค้าขึ้นมาเพราะต้องการเติบโต มากกว่าการที่ถูก FinTech รายใดรายหนึ่งเข้ามาทำให้สิ่งนั้นหายไปซึ่งไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ในระลอกที่ผ่านมายังเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นน้อยมาก ผลกระทบที่น่าจะมาและเกิดขึ้นมากที่สุดคือเรื่องการเปิดให้คนอื่นเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของตนเองหรือ Data Privacy นั่นคือสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่สุด

ระเทียร กล่าวว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยี Mature มาถึงในระดับที่เหมือนกับสินค้าในตลาดที่คุณเลือกซื้อได้ ซึ่งเราต้องเลือกให้ดีเท่านั้นเอง ที่สำคัญคือ Business Model ต่างหาก ทำอย่างไรจึงจะ Embrace เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา เทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Blockchain หรืออะไรก็ตาม แต่ข้อเสียของเทคโนโลยีคือเปลี่ยนเร็วมาก แต่ถ้าเราสามารถนำข้อดีมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถช่วยลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล แล้วก็จะเป็นจุดที่ตัดสินถึงความได้เปรียบเสียเปรียบ สิ่งนี้ไม่ได้ขึ้นกับเทคโนโลยีแต่เป็นความสามารถในการผนวกเทคโนโลยีเข้ากับตัวมนุษย์ที่ทำได้มากน้อยแค่ไหน ทำได้ดีแค่ไหนมากกว่า”

Business Model

เมื่อโครงสร้างพื้นฐานเปลี่ยนไป สิ่งที่ส่งผลตามมาอย่างเห็นได้ชัดคือ พฤติกรรมผู้บริโภค จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมาตั้งแต่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน คนเริ่มโอนเงินกันมากขึ้นโดยไม่ใช้เงินสดเท่าไหร่ นี่คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่สิ่งที่เราต้องตั้งคำถามคือ เราจะทำงานและมองหาโอกาสในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ได้อย่างไร นี่เป็นคำถามที่ตอบยากที่สุด และสิ่งนี้ก็คือ Business Model คือประเด็นที่ ระเทียร ได้ยกให้เห็นและให้กล่าวต่อประเด็นนี้ว่า

“เราต้องมีการปรับ Business Model และกระบวนการในการทำงานให้สอดรับกับแนวโน้มของคนและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ผมว่าเทคโนโลยีจะช่วยเราในเรื่องของต้นทุน การนำเทคโนโลยีมาช่วย ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น เราต้องผนวกคนให้เข้ากับเทคโนโลยีให้ได้ ซึ่งสิ่งนี้ KTC ได้ทำมาตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดการวาง Business Model ที่สามารถตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น สิ่งนี้ก็เป็นโจทย์ที่เราจะค่อยๆ ปรับ เรื่องกำไรไม่ใช่ปัญหาของเรา เราสามารถทำกำไรได้ตลอดที่ผ่านมา โดยกำไรค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาตลอด แต่เราคิดว่าเรามีอีกหน้าที่สำคัญหนึ่งคือ ทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น

สำหรับ KTC เป็นธุรกิจที่มีความท้าทายในหลายๆ ด้านอยู่แล้ว ในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลอาจจะไม่ใช่ปัญหามากนัก เพราะว่ามีเรื่องของดอกเบี้ย อาจจะมีปัญหาบ้างในเรื่องของการแข่งขันกับโปรโมชั่นในหลายๆ แห่ง และผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ซึ่งในธุรกิจของเราก็มี Barrier Entry ระดับหนึ่งในเรื่องของใบอนุญาตเข้ามาเกี่ยวข้อง สำหรับในธุรกิจบัตรเครดิตนั้น มีรายใหญ่ๆ อยู่ไม่ต่ำกว่าห้ารายที่แข่งขันกัน ซึ่งทุกรายอยู่ในระดับที่เขาไม่ได้ขาดทุน แต่เขาจะทำกำไรได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วมีธุรกิจนี้ไว้เพื่อเป็นธุรกิจที่ทำกำไรหรือเป็นธุรกิจสนับสนุนก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละที่ แต่สำหรับ KTC เนื่องจากเราอยู่ในธุรกิจนี้เพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นในเรื่องสนับสนุนอื่นๆ เราไม่มี เราจึงจำเป็นจะต้องทำกำไร รวมถึงอาจจะมีการเข้ามาของบัตรเดบิตและ Wallet ซึ่งจัดโปรโมชั่นแข่งขันกันดุเดือด แต่สำหรับผม คิดว่าการแข่งขันเป็นเรื่องที่ดีเพราะการแข่งขันทำให้เกิดการขับเคลื่อน

KTC Keyword 2019

Customer Service Through Technology

โดยในปีนี้ Keyword ที่เราจะใช้ขับเคลื่อน KTC คือ การเข้าใจความต้องการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ โดยอาศัยเทคโนโลยีมาช่วย แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่สิ่งนี้เป็นเรื่องของ Comparative Degree ถ้าดูบนพื้นฐานจริงๆ ภาพรวมก็ดีขึ้น เศรษฐกิจปีที่ผ่านมาดีขึ้น หาก GDP ตกเราจะรู้สึกได้ อย่างเราเคยนั่งรถที่มีความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าวันนี้รถวิ่ง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราก็จะรู้สึกว่ามันช้า ทั้งๆ ที่มันไม่ได้ถอยหลัง มันก็ยังคงวิ่งต่อไปข้างหน้าแค่วิ่งช้าลง นี่คือความรู้สึกของคน ถ้าเรามีความคาดหวังสูง พอไม่เป็นไปตามที่หวังก็จะทำให้เรารู้สึกว่าแย่ลง ถ้าคาดว่ามันจะแย่ แล้วไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นเราก็จะรู้สึกว่าดีขึ้น โดยรวมผมยังมองบวก เพราะผมอยู่ในธุรกิจที่มองลบไม่ได้ ชีวิตผมต่อให้เกิดปัญหาหนักแค่ไหนก็ต้องมองบวกว่าเรายังสามารถไปได้ เพราะว่าถ้าเราไม่มีความหวังก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้

People Of the Future

เรื่อง ‘คน’ คือ หนึ่งใน Keyword สำคัญของดำเนินธุรกิจ ระเฑียร ศรีมงคล ได้กล่าวถึงมุมมองและแนวทางการสร้างคน และการเตรียมคน ของ KTC รวมถึงแนวคิดที่อยากขยายการพัฒนาจากภายในองค์กรสู่สังคมภายนอก โครงการ CSR ของ KTC ที่หลายปีมานี้ เริ่มดำเนินการภายใต้แนวคิดที่ว่า

การสร้าง ‘ผู้นำ’ หรือการบ่มเพาะ ‘คน’ ต้องอาศัยการใช้เวลา อย่างน้อยต้องหนึ่งเจนเนอเรชั่นในการสร้างคนขึ้นมา และที่สำคัญ หากว่าเราไม่มีระบบการศึกษาที่เหมาะสม เป็นไปแทบไม่ได้เลยที่จะสร้างคนที่มีคุณภาพขึ้นมาได้ ถ้ามองย้อนกลับไป KTC มีการปรับเปลี่ยนมาเยอะมาก อย่างในอดีตถ้ามาถามคน KTC เขาจะรู้จักเฉพาะงานและหน้าที่ในส่วนของเขา วันนี้ถ้าถามเขา เขาจะรู้เรื่องงานและบทบาทของแผนกอื่นๆ มากขึ้น เขาจะเข้าใจความเป็นไปภายในมากขึ้น เราส่งเสริมทัศนคติและแนวคิดต้องเป็นแบบ Holistic คือแนวคิดที่ว่าคุณเป็นเจ้าของบริษัท เมื่อคุณทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแล้วคุณก็ต้องศึกษาความเป็นไปของบริษัทต้องพยายามทำให้บริษัทพัฒนามากขึ้น ภายใต้สิ่งเหล่านี้ KTC ได้ทำเรื่องการศึกษาภายในองค์กร เรามีคอร์สอบรมที่มุ่งเป้าให้พนักงานได้รับการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านต่างๆ โดยที่ผ่านมาเราเริ่มขยายเป้าหมายให้การพัฒนาคนขยายวงออกสู่สังคมภายนอก โดยไม่จำกัดเพียงพนักงานของ KTC กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาและ CSR ไปในแนวทางเดียวกัน เราเชื่อว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แล้วขยายเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นได้ภายใต้ความร่วมมือของทุกคน

บทเรียนรู้ การก้าวข้ามวิกฤติการณ์

7 – 8 ปีก่อนที่เกิดวิกฤต เวลาใครขาดทุนก็มักจะ Downside ตอนนั้นผมการันตีว่าผมจะไม่เอาคนออกแม้แต่คนเดียว จากวันนั้นจนวันนี้ธุรกิจเราโตขึ้นมาเยอะมาก โดยที่เรามีคนจำนวนเท่าเดิม แล้วเราเชื่อว่าจากนี้ไป เราไม่จำเป็นต้องขยายจำนวนคน ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีมา เราก็จะเอาคนของเราเข้าไปเทรน หรือเป็นไปได้ว่าในที่สุดเราอาจจะเพิ่มคนมากขึ้นก็เป็นได้ เพราะว่าเทคโนโลยีมีจุดอ่อน คือ ไม่สามารถสื่อสารแบบเราได้

ผมบอกทีมงาน KTC เราเสมอว่า Technology is very smart but technology doesn't have wisdom, human has wisdom ดังนั้นแล้ว มนุษย์จะต้องใช้ความฉลาดของเทคโนโลยีแต่เอาภูมิปัญญาของเราแล้วใช้ความฉลาดของเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการรับใช้ภูมิปัญญาของเรา ในการสร้างความสำเร็จของเป้าหมายที่เราสร้างขึ้น


เรื่อง ณัฐพัชธ์ สุมา

ภาพ ภัทรวรรธน์ พงษ์บริพันธ์

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดโปรโมชันดันยอดออนไลน์ในหมวดสินค้าแฟชั่น ไตรมาสแรก จับมือ 2 พันธมิตรแฟชั่นออนไลน์ Zilingo และ Looksi.com  มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ดังนี้ Zilingo ออนไลน์แฟชั่นมาร์เกตเพลส รับส่วนลดสูงสุด 10% เมื่อซื้อสินค้าผ่าน Zilingo.com หรือแอปพลิเคชัน Zilingo และชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซีครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อยอดซื้อ พร้อมระบุรหัสส่วนลด “ZLGOKTC10” Looksi.com รับส่วนลด 5% ทันที เมื่อซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Looksi และชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซีตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ พร้อมระบุรหัสส่วนลด “KTCCARD19” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 – 31 มีนาคม 2562

พิเศษ สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยสามารถแลกรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ากับยอดใช้จ่ายออนไลน์ต่อรายการ และรับคะแนน KTC FOREVER 5 เท่า (คะแนนปกติ 1 เท่า และคะแนนพิเศษ 4 เท่า) โดยสามารถลงทะเบียนแลกรับเครดิตเงินคืนและคะแนนสะสม X5 ได้ที่ www.ktc.co.th/shoponline ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 – 30 มิถุนายน 2562 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ http://bit.ly/2uPcS19  หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ

X

Right Click

No right click