

เคยสงสัยหรือไม่? ทำไมคนเราจัดการเรื่องเงินไม่เหมือนกัน บางคนชอบออมทุกบาท ส่วนอีกคนรูดบัตรแบบไม่คิด นั่นเป็นเพราะแต่ละคนมีนิสัยการใช้เงินที่แตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ความเชื่อและทัศนคติ ซึ่งถ้าเข้าใจสไตล์ของตัวเองเราก็จะบริหารเงินได้ง่ายขึ้นเยอะ อย่างเรื่องสำคัญ เช่น การตัดสินใจสมัครบัตรเครดิตให้ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ดีที่สุด วันนี้ ไม่ได้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จะพาไปรู้จักนิสัยการใช้เงินของตัวเองผ่าน Money Language
รู้จักตัวตนผ่าน Money Language
Money Language คือ นิสัยการใช้เงินที่แตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของแต่ละคน มารู้จักตัวตนผ่าน 5 นิสัยการใช้เงินเพื่อบริหารสุขภาพทางการเงินที่ตรงกับความเป็นตัวเองได้อย่างยั่งยืน เช่น
· เก็บออมและคุมงบการใช้จ่าย
· ตัดสินใจเรื่องเงินทองได้อย่างเข้าใจตัวเอง
· มีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนกับความเป็นจริง
· รู้ทันการใช้เงินของตัวเอง เลี่ยงปัญหาทางการเงินในอนาคต
· สร้างนิสัยการใช้จ่ายที่ดีให้กับตัวเอง
5 นิสัยการใช้เงินแต่ละแบบ ต่างกันอย่างไร?
The spend-o-holic
“Spend-o-holic” นักช้อปตัวยง รักการช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ ไม่คิดเยอะ พร้อมใช้เงินซื้อทุกสิ่ง เพราะการช้อปปิ้ง คือ ความสุขหลักทางใจ ซึ่งทำให้ออมเงินเก็บไว้ได้ยาก จนอาจส่งผลต่อสุขภาพทางการเงิน และเกิดวิกฤตจากการใช้เงินเกินตัว ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์ Spend-o-holic ควรทำเมื่อมีบัตรเครดิตอยู่ในมือคือการรักษาสุขภาพทางการเงินให้อยู่ในระดับที่ดีต่อใจผ่านวิธีตั้งค่าการใช้งานบัตรเครดิตแบบรู้ทันตัวเอง เช่น
· มีลิมิตการใช้งานบัตรเครดิตต่อวันและต่อครั้งให้อยู่ในระดับที่มั่นใจว่าตัวเองสามารถชำระคืนได้เต็มจำนวนและตรงเวลา
· ติดตามยอดการใช้จ่ายสม่ำเสมอเพื่อเตือนใจตัวเองไม่ให้ใช้เกินลิมิต · ควบคุมวงเงินการใช้บัตรเครดิตด้วยบัตรเครดิต ttb ผ่านแอป ttb touch ซึ่งเป็นผู้ช่วยนักช้อปให้ยั้งใจก่อนใช้อีกแรง
The Entertainer
“Entertainer” ยอดนักเอ็นเทอร์เทน เพราะชีวิตคือการเอ็นจอยกับประสบการณ์ใหม่ ๆ นิสัยใช้เงินของมนุษย์นักสร้างสีสันจึงมักจะให้คุณค่ากับการใช้จ่ายเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ชอบค้นหาและทดลองกิจกรรมใหม่ ๆ ให้ชีวิตมีสีสัน เนื่องจากเชื่อว่าความทรงจำที่น่าประทับใจคือสิ่งมีค่าในชีวิต ซึ่งสิ่งที่นักเอ็นเทอร์เทนควรทำเมื่อมีบัตรเครดิตอยู่ในมือคือการตั้งงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการตามใจตัวเองเกินไปจะได้ไม่มีเรื่องเงินมาให้เครียดในภายหลัง เช่น
· การจัดลำดับความสำคัญเพื่อหาสมดุลในการใช้จ่าย
· แบ่งค่าใช้จ่ายเรื่องที่จำเป็น และค่าใช้จ่ายเพื่อความเอ็นเทอร์เทนออกจากกัน
· มีเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวให้ตัวเอง
· การวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้าหากเป็นรายจ่ายใหญ่ ๆ
· มีเงินสำรองฉุกเฉิน · ใช้สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตแบบสะสมคะแนนเพื่อแลกเปลี่ยนคะแนนสะสมที่มีเป็นสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
The Worrywart
“Worrywart” จอมกังวลตัวตึง นึกถึงเรื่องเงินเมื่อไหร่ เป็นต้องรู้สึกกังวลสุดขั้ว ทำให้กลายเป็นคนเคร่งครัดและเข้มงวดในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ กับตัวเองตลอดเวลา จนไม่กล้าต่อยอดสร้างโอกาสใหม่ ๆ หลีกเลี่ยงการใช้เงินในทุกวิถีทาง โดยสิ่งที่มนุษย์ Worrywart ควรทำคือการหาสมดุลให้ตัวเอง เพราะแม้ความกังวลจะช่วยให้มีสติยั้งคิดและระแวดระวัง แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการอยู่กับความเป็นจริงเพื่อลดทอนความเคร่งเครียดในจิตใจและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระมากขึ้น ประโยชน์ที่มนุษย์จอมกังวลจะได้รับจากการมีบัตรเครดิตคือ การเพิ่มเครื่องมือทางการเงินที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น
· สามารถช่วยติดตามการใช้จ่าย เห็นประวัติการใช้เงินของตัวเองที่ตรงความจริง
· สร้างเครดิตทางการเงิน มีหลักฐานความน่าเชื่อถือทางการเงินของตัวเอง เมื่อถึงคราวต้องขอสินเชื่อในอนาคตก็มีวินัยของตัวเองเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน
· เป็นผู้ช่วยในยามจำเป็น เพราะบัตรเครดิตมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย เช่น บัตรเครดิต ttb ที่สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ปลอดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 50 วัน นับจากวันแรกของรอบบัญชีไปจนถึงวันกำหนดชำระเงินหากชำระเต็มจำนวนตามวันครบกำหนด หากมีเหตุจำเป็นต้องใช้จ่ายเร่งด่วนก็พึ่งพาได้โดยจะไม่ถูกคิดดอกเบี้ยสำหรับ 50 วันนั้นเพียงชำระคืนแบบเต็มจำนวนและตรงเวลา
The Super Saver
“Super Saver” ตัวจริงเรื่องเก็บออม รักความคุ้มค่า มองหาทุกหนทางเพื่อเพิ่มโอกาสประหยัดรายจ่าย มีจุดหมายในการเก็บเงินเพื่อสร้างความมั่นคงให้ตัวเองอย่างแน่วแน่และสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสถานะทางการเงินจะมั่นคงในระยะยาว ซึ่งสิ่งที่มนุษย์ Super Saver ควรทำคือการวางแผนเรื่องลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน เพื่อต่อยอดด้วยการลงทุนระยะยาว จะช่วยขยายกำไรให้งอกเงยเพิ่มขึ้น แต่ต้องไม่ลืมเรื่องความยืดหยุ่นและการให้รางวัลตัวเองเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง ซึ่งบัตรเครดิตประเภทเครดิตเงินคืนจะตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่ามากกว่าเงินสด เช่น บัตรเครดิตเงินคืน บัตรเครดิตสำหรับนักออมเงินเน้นความคุ้มค่า รับเงินคืนทุกการใช้จ่าย 1% เข้าบัญชีเงินฝาก ทีทีบี โนฟิกซ์ สูงสุด 2,000 บาทต่อบัญชีบัตร ต่อรอบบัญชี ทุกร้านค้าตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ไม่ต้องรอโปร ฟรีค่าธรรมเนียมทั้งแรกเข้าและรายปี
The Happy Medium
“Happy Medium” มนุษย์ตรงกลาง บาลานซ์ความต่างหาสมดุลระหว่างโจทย์ทางการเงินและความสุขในชีวิตได้อย่างลงตัว มีแผนสำรองไว้ล่วงหน้า พร้อมสนุกกับชีวิตและมีความรับผิดชอบต่อตัวเองไปพร้อมกัน ทั้งยังรอบคอบกับการใช้จ่ายและการเก็บออม โดยสิ่งที่มนุษย์ Happy Medium ควรทำเพื่อรักษาความแฮปปี้ในจิตใจให้ยั่งยืนนั้น คือ การตั้งเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อหาสมดุลให้ตัวเองอยู่เสมอ พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทุกเมื่อ เช่น มีเครื่องมือทางการเงินอย่างบัตรเครดิตที่สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้ไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้น มีทางเลือกในการจ่ายเงิน เพราะได้รับสิทธิประโยชน์จากคะแนนสะสมหรือเครดิตเงินคืนที่ตอบโจทย์ความหลากหลาย จัดการรายจ่ายได้อย่างยืดหยุ่นทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงินไปพร้อมกัน
รีบสำรวจเลย! เพราะการรู้จักนิสัยการใช้เงินของตัวเองผ่าน Money Language และเลือกบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์กับนิสัยการใช้จ่าย นอกจากจะทำให้ใช้บัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่าและได้สิทธิประโยชน์กลับคืนมามากที่สุดแล้ว ยังช่วยให้เราใช้เงินได้อย่างมีความสุขและฉลาดขึ้น ยิ่งถ้าเราเข้าใจนิสัยการใช้เงินของคนใกล้ตัว ก็จะช่วยลดปัญหาทะเลาะกันเรื่องเงินได้ด้วย
รู้หรือไม่? บัตรเครดิตทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นหากเข้าใจวิธีใช้งานอย่างถูกต้องและชาญฉลาด ก็จะเป็นตัวช่วยจัดการชีวิตการเงินที่ดี ซึ่งมือใหม่ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนคงมีคำถามมากมาย fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ ชวนมาทำความรู้จักกับบัตรเครดิต พร้อมแนะนำการใช้งานโดยเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เพื่อจะได้ใช้บัตรเครดิตอย่างมั่นใจ ปลอดภัยและคุ้มค่าในแบบฉบับตัวเอง
รู้จักบัตรเครดิต เลือกแบบไหน? ให้เหมาะกับคุณ
บัตรเครดิต คือ เครื่องมือทางการเงินที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายสินค้าและบริการแทนเงินสดได้ โดยธนาคารจะจ่ายเงินให้ร้านค้าก่อน และผู้ถือบัตรต้องชำระคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด หากจ่ายช้ากว่ากำหนดจะต้องเสียดอกเบี้ย เหมาะสำหรับการซื้อสินค้าราคาแพงหรือการผ่อนชำระ ซึ่งบัตรเครดิตมีหลายประเภท โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บัตร การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้จ่ายสะดวกและมีประโยชน์มากขึ้น
สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ หรือมีความจำเป็นต้องซื้อของจากเว็บไซต์ต่างประเทศคงสงสัยว่าบัตรเครดิตใช้ต่างประเทศได้ไหม? บัตรเครดิตสามารถนำไปใช้งานที่ต่างประเทศได้ แต่ต้องเลือกใช้งาน International Credit Card ซึ่งใช้งานได้ทั่วโลกและสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายในสกุลเงินที่คุณสะดวกได้ อย่างไรก็ตาม ควรระวังค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน และค่าธรรมเนียมรายปีที่สูงกว่าบัตรเครดิตประเภทอื่น ๆ
สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายและไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายในต่างประเทศ ควรทำบัตรเครดิตประเภท Local Credit Card เนื่องจากเหมาะกับการใช้งานได้ภายในประเทศ บัตรประเภทนี้จะออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารในประเทศไทย จึงมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันตามธนาคาร และมักจะไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน อีกทั้งมีค่าธรรมเนียมรายปีที่ต่ำกว่า International Credit Card โดยผู้ถือบัตรมักจะได้รับโปรโมชันบัตรเครดิตและส่วนลดกับร้านค้าในประเทศ
ผู้ที่ชื่นชอบและเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ต่าง ๆ สามารถเลือกใช้บัตร Private Label Card ที่ออกโดยห้างสรรพสินค้า ร้านค้า หรือกลุ่มธุรกิจเฉพาะ ซึ่งจุดเด่นคือ มีโปรโมชันและส่วนลดพิเศษของร้านค้าในเครือ เช่น บัตรเครดิตสะสมคะแนนเพื่อแลกเป็นส่วนลดหรือสินค้าฟรีภายในร้านค้าอย่างการใช้บัตรเครดิตเติมน้ำมันนั่นเอง
บัตรเครดิตที่มอบโอกาสให้ผู้ถือบัตรได้รับเงินคืนบางส่วนจากยอดซื้อที่ทำในแต่ละรายการ โดยมักจะกำหนดเป็นร้อยละของยอดซื้อหรือจำนวนเงินที่กำหนดไว้ เช่น 1% หรือ 2% เป็นต้น การรับเงินคืนมักจะเป็นเงินที่จ่ายกลับในบัญชี หรือจะนำมาใช้หักจากบิลค่าใช้จ่ายต่อไปได้ตามกฎระเบียบของแต่ละธนาคารหรือผู้ออกบัตรเครดิต
ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรประเภทนี้จะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลอย่างถูกต้อง มีสถานประกอบการที่แน่นอน รวมถึงเอกสารแสดงรายได้ ซึ่งบัตรนี้ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงินให้กับองค์กรธุรกิจหรือบริษัท เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการการเงินและการใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการ
บัตรหลักเป็นบัตรที่ธนาคารหรือสถาบันทางการเงินออกให้กับผู้ที่สมัครบัตร โดยผู้สมัครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อยอดใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น และมีสิทธิ์สมัครบัตรเสริมให้กับคนอื่นด้วย เช่น สมาชิกในครอบครัว
บัตรเครดิตที่ผูกกับบัตรหลัก โดยออกให้กับคนอื่น ๆ มีวงเงินใช้จ่ายภายในวงเงินของผู้ถือบัตรหลัก กำหนดโดยผู้ถือบัตรหลัก ผู้ใช้บัตรเสริมสามารถใช้จ่ายสินค้าและบริการ ชำระค่าธรรมเนียม และสะสมคะแนนได้เช่นเดียวกับบัตรหลัก แต่ผู้ถือบัตรหลักจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อยอดใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับบัตรเสริม
ประโยชน์และข้อดีต่าง ๆ ของบัตรเครดิต
แม้บัตรเครดิตจะมีข้อดีและประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้งาน ดังนี้
บัตรเครดิต คือ ตัวช่วยทางการเงินของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้จ่ายอย่างสะดวกสบาย เพียงแค่พกบัตรใบเดียวแทนการใช้เงินสด นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระยอดเงินได้ในภายหลัง ช่วยให้จัดการการเงินได้ดีขึ้น แต่บางบัตรเครดิตอาจมีค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เราควรเลือกใช้จ่ายตามความจำเป็น หรือตามไลฟ์สไตล์ เพื่อจะได้เป็นตัวช่วยในการชำระเงินได้อย่างชาญฉลาด ปลอดภัย และคุ้มค่าอีกด้วย
การทำธุรกรรมทางการเงินในปัจจุบันมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยต้องเดินทางไปทำธุรกรรมที่สาขาธนาคาร กลับเปลี่ยนมาเป็นการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเคย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย โดยหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ แต่หลายคนอาจยังมีคำถามในใจว่า เปิดบัญชีออนไลน์ปลอดภัยจริงหรือไม่? วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จะมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ให้กระจ่าง ช่วยให้คุณทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจประเภทของบัญชีเงินฝากก่อนว่า มีกี่ประเภทและแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร โดยสามารถแยก ประเภทของบัญชีเงินฝาก ได้ดังนี้
1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (Savings Account)
บัญชีที่ให้ความยืดหยุ่นในการฝากถอนเงินได้ตลอดเวลา โดยสามารถใช้ร่วมกับบัตรเดบิต ได้รับอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินหลาย ๆ ครั้งเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น รับเงินเดือน จ่ายค่าสาธารณูปโภค หรือใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
2. บัญชีเงินฝากประจำ (Fixed Deposit Account)
บัญชีที่มีกำหนดระยะเวลาในการฝากถอนเงิน ซึ่งให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ก่อนครบกำหนด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนจากดอกเบี้ย
3. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน (Current Account)
บัญชีที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับการบริหารจัดการทางการเงิน เพื่อใช้ในธุรกิจและการค้าขาย โดยบัญชีเงินฝากกระแสรายวันนี้จะไม่มีสมุดคู่ฝาก แต่สามารถตรวจสอบยอดการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์และการแจ้งยอดบัญชีรายเดือน
เมื่อรู้จักถึงประเภทบัญชีเงินฝากทั้ง 3 ประเภทแล้ว มาดูกันว่าการเปิดบัญชีออนไลน์ จะมีข้อดี และข้อความระวัง หรือเคล็ดลับการเปิดบัญชีออนไลน์ให้ปลอดภัย ห่างไกลมิจฉาชีพกันเถอะครับ
ข้อดีของการเปิดบัญชีออนไลน์
การเปิดบัญชีออนไลน์ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวที่ธนาคาร ไม่ต้องรอเวลาปิด-เปิดสาขาธนาคารที่จำกัด แค่ใช้แอปพลิเคชันของธนาคารก็สามารถเปิดบัญชีและจัดการธุรกรรมได้ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมออนไลน์ยังเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลธนาคารและไม่สะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่อาจไม่มีสาขาธนาคารใกล้ ๆ รวมทั้งการขอรายการเดินบัญชีหรือทำธุรกรรมอื่น ๆ ก็สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันทันที ไม่ต้องรอหรือเก็บเอกสารแบบเดิม ๆ อีกต่อไป
เคล็ดลับเปิดบัญชีออนไลน์อย่างปลอดภัย ห่างไกลมิจฉาชีพ
1. เลือกธนาคารที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกธนาคารที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและมีนโยบายในการป้องกันและเยียวยาผู้ใช้บริการหากเกิดความเสียหายจากการโจรกรรมทางไซเบอร์
2. ใช้ระบบยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยสูง ควรตรวจสอบว่าธนาคารที่ใช้มีระบบยืนยันตัวตนหลายชั้น เช่น การสแกนใบหน้า การสแกนม่านตา และการตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกแฮก
3. ตั้งรหัสผ่านอย่างรอบคอบ การตั้งรหัสผ่านต้องไม่ซ้ำกับรหัสอื่น ๆ ที่เคยใช้ หรือตั้งรหัสง่ายเกินไปจนมิจฉาชีพคาดเดาได้ง่าย หรือ ไม่ควรใช้ข้อมูลส่วนตัวในการตั้งรหัส เช่น วันเดือนปีเกิด หรือหมายเลขโทรศัพท์
4. ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวและเครือข่ายที่ปลอดภัย เลือกทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์และ Wi-Fi หรือสัญญาณเครือข่ายส่วนตัว หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะที่อาจเสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูล
5. เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของธนาคารที่น่าเชื่อถือ มักจะให้กรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ อีเมลและรับแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันของธนาคารเอง ขั้นตอนการเปิดบัญชีออนไลน์จำเป็นต้องตรวจสอบง่าย แจ้งเตือนทุกความเคลื่อนไหวของการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์แบบเรียลไทม์
สำหรับคนที่สนใจเปิดบัญชีออนไลน์กับ ทีทีบี สามารถทำได้ผ่านแอป ttb touch ทั้งสะดวกและปลอดภัย แจ้งเตือนทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี ttb all free ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ส่วนลด
ร้านอาหาร ที่พัก และโค้ดส่วนลดแอปสั่งอาหารออนไลน์ พิเศษ! ฝากเงินตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป รับฟรีประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 3 ล้านบาท ไม่ต้องสำรองจ่าย
แม้การเปิดบัญชีออนไลน์อาจจะดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับบางคน แต่ถ้าเรารู้จักใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและรู้เท่าทัน การทำธุรกรรมออนไลน์ก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และปลอดภัย ไม่ว่าจะเปิดบัญชีออนไลน์หรือทำธุรกรรมอย่างอื่น ก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล และห่างไกลมิจฉาชีพ
ช่วงนี้นอกจากข้าวของแพง เงินทองหายากแล้ว ชีวิตยังต้องลำบากกับการรับมือกลโกงมิจฉาชีพที่ระบาดหนักขึ้นทุกวัน แถมรูปแบบการหลอกลวงก็มีความหลากหลายและแนบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งช่องทางพื้นฐาน ไปจนถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำให้ใครหลาย ๆ คน ถูกดูดเงินออกจากกระเป๋าไปง่าย ๆ เพียงเพราะความประมาท ขาดสติ และเท่าไม่ทันกลโกง วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จึงอยากชวนรู้ทันกันโกงของเหล่านักโจรกรรมทางการเงิน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เราสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางไปธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน แต่หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้น อย่าหลงเชื่อ เพราะเพียงแค่มีโลโก้ชื่อธนาคารหลอกให้ทำธุรกรรมปลอม หรือปล่อยสินเชื่อ
โดยมีวิธีการตรวจสอบง่าย ๆ ดังนี้
เช็กให้ชัวร์! ก่อนตกเป็นเหยื่อ
ยุคสมัยที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกล มิจฉาชีพก็ขยันหาวิธีหลอกลวงใหม่ ๆ มาใช้มากมาย โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ ซึ่งนอกจากปลอมเป็นธนาคารแล้ว ยังมีวิธีต่าง ๆ อาทิ ล่อด้วยของรางวัลน่าสนใจ และส่ง URL หลอกให้คลิกลิงก์ผ่านทางข้อความ SMS, E-mail ที่สามารถหลอกดูดเงินได้อีกหลายทาง หรือกลโกงอีกแบบที่น่ากลัวคือ แฝงตัวมาบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ แอบอ้างเป็นแบรนด์ดัง และทำการซื้อโฆษณาเพื่อเชื่อมโยงไปเว็บไซต์ปลอมเพื่อหลอกเอาข้อมูล หรือสามารถสวมรอยเพื่อดูดเงินในบัญชีได้ เป็นต้น
หากไม่อยากตกเป็นเหยื่อของภัยทางการเงินป้องกันได้! อย่าเปิดโอกาสให้คนร้ายใช้จุดอ่อนมากระตุ้นให้หลงเชื่อ เพราะภัยที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่มักเกิดจากอารมณ์ “โลภ” และ “กลัว” จนขาดสติ ดังนั้น ควรระมัดระวังและตั้งสติทุกครั้ง ไม่หลงเชื่อใครง่าย ๆ ท่องไว้ว่า อย่ากด อย่าโอน อย่าแชร์ข้อมูลให้ใคร จะช่วยเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด อย่ากลัวเทคโนโลยีที่เข้ามาอำนวยความสะดวกสบาย ขอแค่ให้ใช้อย่างสติ รับรองว่าห่างไกลภัยทางการเงินได้ไม่ยาก
มนุษย์เงินเดือน หากจัดการเงินไม่เป็น ติดสไตล์สายเปย์ ก็มักจะหลงเข้าไปในวงจรการเงินแบบเดือนชนเดือน วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ ชวนคุณมาเปลี่ยน...จากมนุษย์เงินเดือนสายเปย์ไม่เลือก เป็นมนุษย์เงินเดือนสายเปย์แบบสมาร์ทให้คุณรู้จัก วางแผนใช้จ่าย เก็บออม และพร้อมลงมือทำ เพื่อการเงินที่ดีทั้งวันนี้และในอนาคต เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการเปิดบัญชีเงินฝาก พร้อมตัวช่วยอย่าง “บัตรเดบิต”
บัตรเดบิต ตัวช่วยให้คุณไม่ต้องพกเงินสด ซึ่งแต่ละการใช้จ่าย ยอดจะถูกตัดจากเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่ผูกกับบัตร ช่วยให้บริหารรายจ่ายได้ง่ายขึ้น ไม่เกินตัว เกินกำลัง ตามเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ก่อนจะทำบัตรเดบิตสักใบ มาดูกันกับ “5 เรื่องบัตรเดบิตต้องรู้”
บัตรเดบิตของแต่ละธนาคารย่อมมีเงื่อนไขการใช้แตกต่างกัน ก่อนสมัครจึงควรทำความเข้าใจกับเงื่อนไขของแต่ละบัตรให้ดีเพื่อเลือกทำบัตรที่ตรงกับความต้องการ อาทิ มีค่าธรรมเนียมอย่างไร มีเงื่อนไขฝากขั้นต่ำครั้งแรกหรือไม่ ซึ่งบัตรเดบิต ttb all free เป็นบัญชีเงินฝากใหม่ที่ให้ฟรีสารพัดรายการไม่ว่าจะเป็น
บัตรเดบิตเป็นการทำบัตรกดเงินที่ผูกเข้ากับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เพราะฉะนั้นเมื่ออยากเปิดบัญชีเงินฝากให้ตรงกับความต้องการจึงควรเลือกดูทั้งเรื่อง ค่าธรรมเนียม เงินฝากขั้นต่ำ อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เงื่อนไขในการถอนเงิน เพื่อเปรียบเทียบประเภทบัญชีเงินฝากที่ตอบโจทย์มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องการเปิดบัญชีไว้ใช้จ่ายเป็นหลัก เก็บออมเป็นรอง ประเภทบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ฟรีอาจเป็นคำตอบที่ดีของใครหลายคน เช่น บัตรเดบิต ttb all free ที่สามารถใช้จ่ายได้อย่างอิสระ ไม่มีบวกเพิ่มค่าธรรมเนียมให้เป็นภาระการใช้จ่าย ใช้จ่ายบิล ซื้อของออนไลน์ หรือใช้จ่ายต่างประเทศก็ทำได้ ยิ่งถ้าเป็นคนชอบช้อปออนไลน์ ใช้จ่ายออนไลน์ หรือทำอะไรบนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ บัตรเดบิต ttb all free ดิจิทัล จะช่วยตอบโจทย์ได้มาก ที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียมออกบัตรและรายปี
ใส่ใจกับการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ฝึกทักษะทางการเงิน และการรับผิดชอบตัวเอง พร้อมตรวจสอบ และติดตามยอดเงินบัตรเดบิตผ่านแอปธนาคารฯ จะได้รู้ตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าเมื่อไหร่ใช้จ่ายเยอะเกินไป
เมื่อมีบัตรเดบิตเป็นของตัวเอง สิ่งสำคัญ คือ วิธีเก็บบัตรให้ปลอดภัย โดยเฉพาะในยุคที่มิจฉาชีพเกลื่อนเมืองแถมเข้าถึงตัวได้ทุกเมื่อ ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังเรื่องของข้อมูลบัตรเดบิตเป็นพิเศษ ไม่ถ่ายรูปบัตรลงโซเชียลโดยเด็ดขาด รวมทั้งไม่บอกและไม่กรอกข้อมูลบัตรสุ่มสี่สุ่มห้า หากมีเหตุทำบัตรหล่นหาย หาบัตรไม่เจอ มีการแจ้งเตือนกดเงินที่ไม่ได้เป็นคนกดเอง
สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรก คือ การอายัดบัตร โดยลูกค้าทีทีบีสามารถอายัดบัตรผ่านแอป ttb touch ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
ข้อเปรียบเทียบสุดท้ายก่อนจะเลือกทำบัตรเดบิตสักใบคือเรื่องของความคุ้มค่า หลายคนจึงมองหาบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่าการเก็บเงินไว้เฉย ๆ เช่น การเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ฝากเงินไว้ครบตามเงื่อนไขก็จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี และมีบัตรเดบิตที่คุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย เช่น บัตรเดบิต ttb all free ฝากเงินไว้ได้ฟรีประกันอุบัติเหตุ เพียงเก็บเงินไว้ในบัญชีอย่างน้อย 5,000 บาท ก็ได้รับสิทธิ์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาก่อน
ง่าย ๆ เพียงแสดงบัตร all free E-Care Card ในแอปพลิเคชัน ttb touch สถานพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ คุ้มครองสูงสุด 3,000 บาท/อุบัติเหตุ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
จะเห็นได้ว่าบัตรเดบิตก็สามารถเป็นตัวช่วยในการจัดการเรื่องเงินให้ดีขึ้นได้ และเป็นได้มากกว่าบัตรเดบิต ด้วยสิทธิประโยชน์อื่น ๆ หรือการดูแลคุ้มครอง…รู้อย่างนี้แล้ว มาวางแผนการเงินให้ดีขึ้นได้ด้วย บัตรเดบิตที่ตอบโจทย์ชีวิตมนุษย์เงินเดือนด้วยกันเถอะ!