ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) เดินหน้าเปิดตัวกล้องดิจิตอลมิลเลอร์เลสอย่างต่อเนื่อง ปลุกกระแสตลาดกล้องให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ล่าสุดกับการเปิดตัว FUJIFILM GFX100S และ FUJIFILM X-E4 ชูนวัตกรรมและเทคโนโลยี ปรับฟังก์ชั่นการใช้งานให้หลากหลาย พร้อมขนาดกล้องที่เล็ก พกพาสะดวก น้ำหนักเบา ให้คุณภาพไฟล์ภาพที่ดีเยี่ยม รองรับกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ  และได้งานคุณภาพมืออาชีพ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน  ฟูจิฟิล์มมองเห็นถึงการต่อยอดของตลาดในกลุ่มนี้  ซึ่งสามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่และขยายตลาดให้มีความหลากหลายมากขึ้น พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำกล้องระดับไฮเอนด์

มร.ซึโตมุ  วาตะนาเบ้ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “หลักจากที่ฟูจิฟิล์มได้เปิดตัวกล้อง FUJIFILM X-S10 กล้องระดับกลาง (Middle, Hi-End) ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา กระแสตอบรับเป็นที่น่าพอใจ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดกล้องเป็นอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้ไม่สามารถเเดินทางท่องเที่ยว และถ่ายภาพได้ ทำให้ปีนี้ฟูจิฟิล์มจึงต้องปรับกลยุทธ์การตลาด โดยเน้นไปที่กลุ่มคนที่รักการถ่ายภาพ และกำลังมองหากล้องคุณภาพที่ดีไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ของไลฟ์สไตล์ที่ต้องเปลี่ยนแปลง หรือเพื่อสร้างอาชีพใหม่จากการถ่ายภาพ ฟูจิฟิล์มจึงมองเห็นโอกาสจึงได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลมิลเลอร์เลสรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ FUJIFILM GFX100S และ FUJIFILM X-E4 ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มนี้ จะมองหาความน่าเชื่อถือของแบรนด์ คุณภาพของสินค้า ฟังก์ชั่นการใช้งาน และราคาก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งกล้องทั้ง 2 รุ่นนี้  ได้มีการการปรับฟังก์ชั่นการใช้งานให้หลากหลายมากขึ้น มากับบอดี้กล้องและดีไซน์ที่มีขนาดกล้องเล็กลง  พกพาสะดวก มีความคล่องตัว น้ำหนักเบา ให้คุณภาพไฟล์ภาพที่ดีเยี่ยม ตามปรัชญาของฟูจิฟิล์ม“คุณภาพไฟล์ภาพเป็นอันดับ 1”  (The No.1 Image Quality)  ในราคาที่จับต้องได้  เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์การใช้กล้องฟูจิฟิล์มเพื่อให้เกิดฐานลูกค้าใหม่ ฟูจิฟิล์มไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านการถ่ายภาพ เพื่อปลุกกระแสตลาดกล้องให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และตั้งเป้าเป็นผู้นำกล้องระดับไฮเอนด์ต่อไป”

ด้าน คุณพรหมมินทร์ ชราเขต Business Unit Manager Electronic Imaging Division  บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่าในปีที่ผ่านมา ตลาดกล้องก็ได้รับผลกระทบจากการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอย่างมาก และพอเริ่มคลี่คลายก็กลับมาเจอการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง ทำให้เศรษฐกิจโดยภาพรวมประสบกับปัญหาอย่างมาก ผู้บริโภคหลายคนเริ่มชะลอการซื้อ เพื่อรอดูสถานการณ์ออกไปก่อน เรียกว่าเป็นการท้าทายการทำตลาดเป็นอย่างมาก และในปีนี้ฟูจิฟิล์มได้วางแผนการทำตลาด โดยการขยายฐานลูกค้าใหม่ เน้นไปที่กลุ่มคนรักการถ่ายภาพและกำลังมองหากล้องมาใช้งาน ต้องการคุณภาพไฟล์ภาพที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพมืออาชีพ หรือการถ่ายภาพในสตูดิโอ  หรือบุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแนว Landscape หรือ สาย Street และอยากมีกล้องคุณภาพที่ดีติดไว้ใช้งาน จากการการสำรวจพบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มนี้จะมองหาและศึกษาตัวกล้อง ทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือของแบรนด์สินค้า ฟังก์ชั่นการใช้งาน การออกแบบดีไซน์ตัวกล้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เล็กพกพาไปได้ทุกที่ในราคาที่จับต้องได้ ฟูจิฟิล์มจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกมา คือ FUJIFLM GFX100S และ FUJIFILM X-E4 ซึ่งกล้องทั้ง 2 รุ่นนี้ มีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

FUJIFILM GFX100S กล้อง Medium Format เป็นกล้องระดับไฮเอนด์พรีเมี่ยม ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆที่ทำให้ GFX100S เป็นกล้อง Medium format ที่สามารถนำไปใช้งานได้ในทุกๆที่ โดยที่ไม่ยึดติดอยู่กับการใช้งานใน Studio อีกต่อไป จุดเด่นคือมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 44 x 33 มม. ความละเอียด 102MP พร้อมกันสั่นในบอดี้ ทำงานร่วมกับกันสั่นในเลนส์ ชดเชยความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 6 สตอป ถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 fps ระบบออโต้โฟกัสแบบ Phase Detection ครอบคลุมพื้นที่ 100% บนเซนเซอร์ ให้ประสิทธิภาพสูงสามารถโฟกัสในที่แสงน้อยได้ถึง -5.5 EV FUJIFILM GFX100S สามารถบันทึกวิดีโอแบบ 4K30P แบบ 4:2:2 10bit 400Mbps บันทึกลง SD Card  ได้ในตัว  และสามารถบันทึกวีดีโอแบบ Prores RAW 12Bit เมื่อบันทึกลง HDMI Recorder อีกทั้งยังรองรับ F-Log และ Hybrid Log Gramma ช่องมองภาพแบบ EVF (Electronic Viewfinder)  ขนาดใหญ่ มีจอแสดงข้อมูลภาพ LCD ตัวกล้องมีปุ่มใช้งานถนัดมือ น้ำหนักเบา ให้คุณภาพไฟล์ภาพที่ดีเยี่ยม ยังมีฟังก์ชั่น Pixel Shift ที่ตัวกล้องจะถ่ายภาพ 16 ภาพ เพื่อนำภาพไปรวมบน software เพื่อส่งไฟล์ความละเอียดสูงถึง 400 MPixel

สำหรับ FUJIFILM X-E4 กล้อง minimal กับดีไซน์คลาสสิคเอกลักษณ์ของกล้องฟูจิฟิล์มที่มีความ unique เอาใจสาย Street Photo คนที่รักการท่องเที่ยว และกลุ่มที่ชอบสร้าง Content Creator เป็นกล้องที่พกติดตัวไปได้ทุกที่ ตัวกล้องถูกออกแบบขนาดให้เล็กกระทัดรัด น้ำหนักเพียง 364g. ทำให้สะดวกในการพกพา มีความคล่องตัวในการใช้งาน และฟังก์ชั่นการใช้งานยังคงประสิทธิภาพ และคุณภาพของไฟล์ภาพ ด้วย Sensor X-Trans CMOS 4 ความละเอียด 26.1 ล้านพิกเซล ระบบประมวลผล X-Processes 4 ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 8 FPS (เมื่อใช้ Mechanical Shutter) 20 FPS (เมื่อใช้ Electronic Shutter) แบบเต็มความละเอียด และ 30 FPS (เมื่อใช้ Electronic Shutter) แบบครอปความละเอียด 1.25X สามารถ่ายวิดีโอ 4K แบบ DCI และยังสามารถบันทึกภาพถ่ายวิดีโอ 4K แบบมืออาชีพได้  มีช่องมองภาพ OLED ทำให้สะดวกในเวลาถ่ายในที่มีแสงสว่างมาก  นอกจากนี้ยังมีโหมดจำลองสีฟิล์มที่เป็นเอกลักษณ์ของฟูจิฟิล์มให้เลือกใช้ในการสร้างสรรค์ภาพมากถึง 18 รูปแบบ ทำให้ได้ภาพเหมือนใช้กล้องฟิล์ม  และมีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.0 นิ้ว ปรับหน้าจอได้ 2 ทิศทาง กางหน้าจอขึ้นได้ถึง 180 องศา และกางลงได้ประมาณ 85 องศา ช่วยให้ได้ภาพที่หลากหลายมุมมอง

พรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า “สำหรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของกล้อง FUJIFILM ในปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมแผนในการสื่อสารไปยังผู้บริโภค โดยเน้นที่สื่อ Online เป็นหลัก เพื่อให้การสื่อสารครั้งนี้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ฟูจิฟิล์มได้นำเสนอ Key Opinion Leader (KOL) ที่มีประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ คุณแรมมี่ นารูลา, คุณธนสรณ์ เจนการกิจ และคุณ ธนวุฒิ งามวุฒิวงศ์ ที่จะมาถ่ายทอดฟังก์ชั่นของกล้องในแต่ละรุ่น เพื่อสื่อสารตรงไปถึงกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้เราได้มีการเปิด e-commerce ภายใต้ชื่อ FUJIFILM X-Space Official Store ร้านค้าออนไลน์ที่รวบรวมสินค้าทั้งกล้อง เลนส์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ภายใต้การดูแลของฟูจิฟิล์ม ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้ามาเลือกซื้อของได้ง่ายขึ้น เพียงแค่คลิก https://www.fujifilm-xspace.com/  สั่งซื้อง่าย สะดวก รวดเร็ว สินค้ารับประกันศูนย์ไทยของแท้ 100% เพิ่มอีกหนึ่งช่องทางการขาย และลูกค้าสามารถติดตามข่าวประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ผ่าน ทุก Platform online ทั้ง Facebook, Instagram : Fujifilm X Thai และ Line Official Account: @FujifilmXThai

ฟูจิฟิล์มพร้อมก้าวเป็นผู้นำและสร้างภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์กล้องมิลเลอร์เลสระดับมืออาชีพ (Professional Level) และหวังว่าการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพจะมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้บริโภคและมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” พรหมมินทร์ กล่าว