เอเซียติคฯ ปลื้ม “อัมพวา” กะทิแท้ 100% ขึ้นแท่นท็อปแบรนด์ดาวรุ่งที่เติบโตสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร การันตีด้วยรางวัล Top Risers จากเวที “แบรนด์ยอดนิยมประจำปี 2561 – Brand Footprint Award 2018” ตอกย้ำผู้นำและปฏิวัติวงการกะทิสำเร็จรูปตัวจริง พร้อมเดินหน้าวิจัยและพัฒนาสินค้าคุณภาพดีเกรดพรีเมียมออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
นายณัฐพล วิสุทธิไกรสีห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซียติค อุตสาหกรรมเกษตร จำกัด ผู้ผลิต แปรรูป และส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้เปิดตัว “อัมพวา” (Ampawa) กะทิแท้ 100% ในรูปแบบขวด PET เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติวงการกะทิสำเร็จรูปสัญชาติไทยในขวด PET รายแรกของโลกที่คัดสรรจากมะพร้าวคุณภาพชั้นดี นำมาคั้นทันทีตั้งแต่กะเทาะเปลือก ผ่านการแปรรูปและบรรจุลงในขวดกันรังสียูวีด้วยเทคโนโลยีการบรรจุเย็นด้วยระบบปลอดเชื้อที่ทันสมัย (Cold Aseptic Filling Technology) ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง เพื่อเก็บรักษาความขาว ข้น หอม มันของกะทิคั้นสดแบบธรรมชาติ ปราศจากการปรุงแต่ง ด้วยนวัตกรรมและกระบวนการคิดค้นโดยมีเกณฑ์มาตรฐานคือ กะทิสดจากธรรมชาติ เพื่อให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีมากทั้งจากคู่ค้าและผู้บริโภค
ล่าสุดกะทิแท้ 100% “อัมพวา” ได้รับรางวัล Top Risers หรือแบรนด์ดาวรุ่งที่เติบโตสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร จากเวที “แบรนด์ยอดนิยมประจำปี 2561 – Brand Footprint Award 2018” ซึ่งสำรวจและจัดอันดับโดยบริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (Kantar Worldpanel Thailand : KWP) ผู้นำด้านการวิจัยพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเชิงลึกที่มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีอัตราการบริโภคสูง (Fast Moving Consumer Goods : FMCG) และก่อนหน้านี้ “อัมพวา” ประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศด้วยกระแสการตอบรับที่ดีมากจนชนะใจเชฟชาวฝรั่งเศส และได้รับการโหวตให้ได้รับรางวัลและตราพิเศษ Flavors of The Year Restoration 2018 จากหน่วยงาน “Monadia Organisateur Centre de Qualite” ของฝรั่งเศส
นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของแบรนด์ “อัมพวา” เกิดจากแนวคิดเชิงรุกและคิดนอกกรอบที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาดว่า ทำอย่างไรให้กะทิสำเร็จรูปมีคุณภาพดีเยี่ยมใกล้เคียงกับกะทิคั้นสด รวมถึงการใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเป็นขวด PET รายแรกของโลก จึงทำให้พร้อมสำหรับการใช้งาน
สะดวกต่อการเก็บรักษา สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาความสะดวกสบายในการทำอาหารด้วยกะทิสำเร็จรูป รวมถึงการสื่อสารและลักษณะของแบรนด์ “อัมพวา” ที่ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย และพิสูจน์ได้จริง
“จากความสำเร็จของแบรนด์อัมพวาและการเติบโตของตลาดกะทิสำเร็จรูป ส่งผลให้มีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาในตลาด และผลิตสินค้าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ซึ่งบริษัทฯ มองว่าเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ผู้ผลิตคิดค้นพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลให้ตลาดเติบโตและแข่งขันกันอย่างเต็มที่ ในขณะที่ผู้บริโภคก็จะมีโอกาสได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจการแปรรูปมะพร้าว ควบคู่ไปกับการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อนำเสนอสินค้าไทยคุณภาพระดับพรีเมียมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้คนไทยรวมถึงทั่วโลกได้บริโภคสินค้าที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย พร้อมทั้งขอขอบคุณผู้บริโภคที่ให้การตอบรับและไว้วางใจในคุณภาพ ทำให้กะทิอัมพวาประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างรวดเร็ว” นายณัฐพล กล่าว
นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการถ่ายทอดและแบ่งปันผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก (Sharing Coconut Culture with the World) ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัย และครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐานสินค้าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมการบริหารจัดการธุรกิจด้วยระบบ Zero Waste Management โดยให้ความสำคัญกับการใช้ทุกส่วนของมะพร้าวอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตติดอันดับ 1 ใน 3 ของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มะพร้าวของคนไทยออกสู่ตลาดโลก