ผู้ที่กำลังมองหารถมือสองคุณภาพในราคาที่โดนใจ เว็บไซต์ Roddonjai.com โดยทีทีบีไดรฟ์แพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองที่ได้มาตรฐาน รวบรวมรถมือสองสภาพดีในราคาที่คุ้มค่ากว่าใคร เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น จัดแคมเปญสุดคุ้ม ซื้อรถบ้านดูแลดี ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้นเพียง 2.59% ต่อปี โดยเฉพาะรถมือสองจากหมวด “รถบ้านดูแลดี” ที่การันตีเจ้าของขายเอง รถทุกคันผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานสากลสูงสุด 274 จุด ไม่ผ่านการชนหนัก ไม่ผ่านน้ำท่วมสูง และผู้ขายผ่านการตรวจสอบความเป็นเจ้าของก่อนลงขาย จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพรถว่าตรงปกอย่างแน่นอน พร้อมบริการจัดสินเชื่อรถยนต์ทีทีบีไดรฟ์ ทั่วไทย

ผู้ที่สนใจเพียงซื้อ “รถบ้านดูแลดี” ที่ประกาศขายหน้าเว็บไซต์ Roddonjai.com และจัดสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วกับทีทีบีไดรฟ์ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 - 30 มิถุนายน 2567 และเกิดสัญญาเช่าซื้อภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 2.59% ต่อปี กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 4.92%-15.00% เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จับมือ วีซ่า จัดแคมเปญใหญ่ต้อนรับ Olympic Games Paris 2024 มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ร่วมสนุกกับการใช้จ่ายสะสมทีละติ๊ด พิชิตรางวัล ในช่วงระหว่างวันที่ 1 มีนาคม  – 30 เมษายน 2567 ด้วยการมอบสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าใครให้ลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรเครดิต ttb ที่เป็นสกุลเงินบาท ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืน 200 บาท / บัตร ตลอดรายการส่งเสริมการขาย และรับของกำนัลสุดพิเศษเพิ่มเติมจากวีซ่า เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมเพิ่มขึ้นตามขั้นที่กำหนด พิเศษ! ในช่วง 5 วันสุดท้ายของแคมเปญ ระหว่างวันที่ 26 - 30 เมษายน 2567 ผู้ถือบัตรที่มียอดใช้จ่ายสะสมครบ 100,000 บาท รับเพิ่มกระเป๋าเดินทางล้อลาก Trolley Luggage Bag with Reversible Cover มูลค่า 4,000 บาท จำกัดเพียง 250 ใบเท่านั้น

สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับ บัตรเครดิต ttb visa และบัตรเครดิต ttb Global House ยอดใช้จ่ายจากทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม ทุก ๆ 1,000 บาท / เซลล์สลิป รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นโชครางวัลใหญ่ เอ็กซ์คลูซีฟ ทริป ท่องเที่ยวปารีส 5 วัน 4 คืน พร้อมร่วมชมพิธีปิดงาน Olympic Games Paris 2024 จำนวน 1 รางวัล สำหรับ 2 ท่าน มูลค่ากว่า 1.59 ล้านบาท โดยธนาคารจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ทางเว็บไซต์ www.ttbbank.com พร้อมส่ง SMS และโทรศัพท์แจ้งไปยังผู้ได้รับรางวัลภายใน 45 วัน นับจากวันจบรายการ ทริปพิเศษนี้กำหนดเดินทางระหว่างวันที่ 8-12 สิงหาคม 2567

ผู้สนใจร่วมแคมเปญ สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ได้ทุกประเภทบัตร โดยลงทะเบียนครั้งเดียวใช้ได้ตลอดรายการส่งเสริมการขายนี้ ทางแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ PAR ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่หมายเลข 4806026 โดยทีทีบีมุ่งส่งเสริมให้ลูกค้าวางแผนใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น และผ่อนชำระคืนไหว เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าด้านการออม ด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการด้านการออม จัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีดิจิทัล ttb ME save ที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.2% ต่อปี รับเพิ่ม Grab Code มูลค่า 100 บาท เพียงฝากเงินตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป โปรโมชันตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2567

ทีทีบี เดินหน้าส่งเสริมให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้าน โดยเฉพาะด้านการออมเงิน ที่ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินทั้งวันนี้และอนาคต ด้วยการเลือกบัญชีเพื่อออม ttb ME save บัญชีเงินฝากดิจิทัล ให้ดอกเบี้ยสูงสุด 2.2% ต่อปี และเป็นที่ชื่นชอบของนักออมรุ่นใหม่ จัดแคมเปญพิเศษเปิดบัญชี ttb ME save เพียงฝากเงินตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไประหว่างวันที่ 15 เมษายน – 30 มิถุนายน 2567 และคงเงินไว้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเนื่อง 30 วันนับจากวันที่เปิดบัญชี รับทันที Grab Code มูลค่า 100 บาท โดยสามารถกดรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch และใช้เป็นส่วนลดเมื่อสั่งอาหารขั้นต่ำ 300 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน Grab ได้ถึง 30 พฤศจิกายน 2567

บัญชี ttb ME save เป็นหนึ่งในบัญชีเงินฝากดิจิทัลที่ได้รับความนิยม ซึ่งโดดเด่นด้วยรูปแบบการออมที่ง่าย ให้ดอกเบี้ยในอัตราสูง ไม่ต้องฝากประจำ ฝากถอนเมื่อไรก็ได้ ไม่มีขั้นต่ำ และรับดอกเบี้ยพร้อมโบนัสรวมสูงสุดถึง 2.2% ต่อปี เพียงมียอดเงินฝากมากกว่าถอนในแต่ละเดือน สำหรับยอดเงินฝาก 1 แสนบาทแรกสามารถเช็คยอดดอกเบี้ยสะสมได้ทุกวัน และตั้งเป้าหมายการออมผ่าน Savings Goal ได้อีกด้วย จึงเหมาะเป็นบัญชีเพื่อออมเงินสำหรับนักออมรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

ตอกย้ำความสำเร็จ ขึ้นแท่นสุดยอดองค์กรให้บริการด้านการเงินดิจิทัลแห่งปี

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดเม็ดเงินสะพัดช่วงสงกรานต์ปี 2567 ทะยานแตะ 4.2 หมื่นล้านบาท จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และวันหยุดพิเศษที่ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว แนะภาครัฐส่งเสริมต่อยอดและวางแผนการกำหนดวันหยุดให้มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างเม็ดเงินให้สะพัดในภาคการท่องเที่ยวไทย

เทศกาลสงกรานต์เป็นวันหยุดประจำปีของไทยที่เป็นโอกาสสำคัญในการกลับภูมิลำเนาเพื่อพักผ่อนใช้เวลากับครอบครัว เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวที่ตรงตามเทศกาลอย่างน้อย 3 วัน และเมื่อรวมกับวันหยุดสุดสัปดาห์รวมถึงวันหยุดพิเศษตามประกาศของภาครัฐ ย่อมทำให้วันหยุดรวมมีระยะเวลานานเพียงพอที่จะทำให้ผู้จากถิ่นฐานหรือภูมิลำเนาที่เดินทางเข้ามาทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครปริมณฑล และภาคตะวันออก สามารถกลับไปพักผ่อนใช้ชีวิตกับครอบครัวที่ภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลได้ นอกจากนี้ด้วยวันหยุดที่มีระยะเวลานานย่อมส่งผลดีต่อกลุ่มที่มีแหล่งงานในภูมิลำเนาตนเอง หรือกลุ่มที่ไม่ตัดสินใจเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ต่างจังหวัด โดยเลือกที่จะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อเดินทางท่องเที่ยวแบบไม่เหนื่อยจนเกินไปจากจำนวนวันหยุดที่ยาวนานและยังเหลือวันหยุดเพื่อพักผ่อนหลังเดินทางท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม เทศกาลสงกรานต์ในปี 2567 นับเป็นปีที่วันหยุดค่อนข้างเอื้ออำนวยให้กับภาคการท่องเที่ยวสำหรับประชาชนบางกลุ่มที่สามารถลางานในช่วงวันที่ 9-11 เมษายน ได้ นับว่าเทศกาลนี้จะลากยาวถึง 11 วัน เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ก่อนเทศกาลก่อนสงกรานต์ มีวันหยุดชดเชยวันจักรีในวันจันทร์ที่ 8 เมษายน และ วันหยุดพิเศษตามประกาศของรัฐบาลในวันศุกร์ที่ 12 เมษายน และแม้แต่ในส่วนกลุ่มที่ไม่สามารถลางานในสัปดาห์ก่อนวันสงกรานต์ วันหยุดยาวก็ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ ช่วงวันที่ 6-8 เมษายน และวันที่ 12-16 เมษายน ซึ่งก็นับเป็นผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและเม็ดเงินที่คาดว่าจะสะพัดเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

นักท่องเที่ยวชาวไทย ในเทศกาลสงกรานต์ส่วนใหญ่มักเดินทางกลับภูมิลำเนาจากแหล่งงานในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ EEC รายจ่ายในส่วนของการเดินทางกลับภูมิลำเนาไม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากรายจ่ายปกติ แต่อาจเพิ่มขึ้นในส่วนของการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวของกลุ่มที่ไม่ได้กลับภูมิลำเนา หรือกลุ่มที่กลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวไปในภูมิภาคที่ใกล้เคียงกับครอบครัว ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในพื้นที่ภูมิภาคไม่นับกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีรายจ่ายในบางรายการสูงขึ้น เช่น รายจ่ายค่าเดินทางโดยเฉลี่ยต่อคนต่อวันปรับเพิ่มขึ้น 6.9% รายจ่ายเกี่ยวกับอาหารและซื้อสินค้าที่คาดว่าจะปรับตัวจากรูปแบบวิถีชีวิตของชาวไทยที่เมื่อมีการรวมกลุ่ม คาดปรับเพิ่มขึ้น 12.9% ในขณะที่เม็ดเงินค่าใช้จ่ายในภาคโรงแรมโดยเฉลี่ยปรับเพิ่มเพียง 2.7% เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลที่คนส่วนหนึ่งกลับภูมิลำเนาจึงพักอาศัยที่บ้านเกิดของตนแต่อาจได้รับอานิสงส์จากกลุ่มที่ตั้งใจเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภาคตะวันออก และจังหวัดติดทะเลใกล้กรุงเทพฯ โดยจากรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ttb analytics ประเมินเม็ดเงินที่สะพัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยคาดอยู่ที่ 17,200 ล้านบาท

ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรกของปีเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่ได้รับแรงหนุนจากช่วงวันหยุดยาว Golden Week ของชาวจีน และ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวยุโรปหนีความหนาวมาพักพิงในภูมิภาคที่มีความอบอุ่น ส่งผล

ให้ในเดือนเมษายนนี้ แม้จะมีแรงส่งจากเทศกาลสงกรานต์ก็เชื่อว่ายังไม่สามารถชดเชยส่วนต่างที่หายไปจากฤดูท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสแรกของปี แต่จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวด้านจำนวนคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนปี 2567 จะมีจำนวนราว 3 ล้านคน เพิ่มขึ้นเทียบกับปีก่อนหน้ากว่า 42% (เดือนเมษายน 2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวน 2.18 ล้านคน) ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำหรับการท่องเที่ยวไทย โดยเม็ดเงินที่สะพัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดอยู่ที่ 24,300 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อรวมเม็ดเงินจากทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติ พบเม็ดเงินที่สะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เฉพาะวันที่ 12-16 เมษายน คาดว่าจะแตะ 41,500 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงปี 2566 ที่เม็ดเงินสะพัดช่วงสงกรานต์ราว 26,800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 55% ด้วยสาเหตุหลักซึ่งประกอบด้วย เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ ช่วงวันหยุดสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีกว่าปีก่อนที่เทศกาลมีวันหยุดเพียง 4 วัน นอกจากนี้ในปี 2567 เมื่อพิจารณาในระยะเวลาช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์ก่อนสงกรานต์ซึ่งนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเริ่มจับจ่ายตั้งแต่ช่วงวันที่ 6 เมษายน ลากยาวจนเดินทางกลับมาทำงานหลังสงกรานต์ ก็คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินเพิ่มเติมราว 25,800 – 37,400 ล้านบาท เมื่อรวม 2 ช่วงวันหยุดคิดเป็นเงินสะพัดถึง 67,300 – 78,900 ล้านบาท จึงเป็นเครื่องสะท้อนถึงการกำหนดวันหยุดพิเศษต่าง ๆ ที่ควรจะสอดคล้องและเอื้ออำนวยกับภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากแม้จำนวนวันหยุดที่เท่ากันแต่ช่วงเวลาที่ต่างกันย่อมส่งผลต่อเม็ดเงินให้สะพัดเพิ่มมากขึ้นในภาคท่องเที่ยวไทย

นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้ เงินสะพัดอาจจะปรับเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าตัวเลขข้างต้น โดย ttb analytics มองภาครัฐยังสามารถต่อยอดนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ได้เพิ่มเติม เช่น รายจ่ายค่าที่พัก และอาหาร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์สามารถนำมาลดหย่อนภาษี หรือขอความร่วมมือผู้ประกอบการทำโปรโมชันกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อเป็นแรงดึงดูดให้คนไทยที่มีความต้องการเดินทางไปต่างประเทศช่วงสงกรานต์รู้สึกคุ้มค่าเพียงพอในการเลื่อนการเดินทางต่างประเทศออกไปในช่วงเวลาอื่นที่มีวันหยุดยาว เช่น เดือนพฤษภาคม หรือ กรกฎาคม และใช้ช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์เพื่อสร้างเม็ดเงินให้สะพัดในภาคการท่องเที่ยวไทยให้มากขึ้นในปีถัด ๆ ไป

X

Right Click

No right click