ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยเดินหน้าสนับสนุนสินเชื่อทางการเงิน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตสีเขียวให้แก่ภูมิภาคอาเซียน ธนาคารพร้อมสนับสนุนสินเชื่อทางการเงินภายใต้กรอบแนวคิดเพื่อความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจในทุกภาคอุตสาหกรรมในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission)

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารยูโอบี ได้เข้าร่วมงาน ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย (Future Mobility Asia) และ “ฟิวเจอร์ เอนเนอร์จี เอเชีย” (Future Energy Asia) ประจำปี 2566 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและนำเสนอโซลูชันทางการเงินของธนาคาร ที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านความยั่งยืนให้แก่ภูมิภาค ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนผู้กำหนดนโยบายที่เข้าร่วมงานในปีนี้

นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ ธนาคารยูโอบียึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมผนึกความร่วมมือกับทุกภาคส่วนผ่านโครงการเพื่อความยั่งยืนที่หลากหลายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น ยูโอบีในฐานะธนาคารที่ตอบโจทย์ครบในหนึ่งเดียวเพื่อเข้าถึงโอกาสเติบโตทางธุรกิจทั่วอาเซียน ยืนยันจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงินที่พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม ยั่งยืน และเพื่อสิ่งแวดล้อมให้แก่สังคม ปัจจุบันสภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับพวกเราทุกคน ธนาคารพร้อมนำเสนอกรอบแนวคิดและโซลูชันทางการเงินเพื่อความยั่งยืนที่ช่วยส่งเสริมและสร้างโอกาสให้แก่บริษัทในทุกภาคอุตสาหกรรมในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน”

รายงานการศึกษาขององค์การสหประชาชาติพบว่าภาคธุรกิจพลังงานเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 3 ใน 4 ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่มีการปล่อยทั่วโลก1 ธุรกิจพลังงานจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนในแหล่งพลังงานหมุนเวียนทดแทนเพิ่มขึ้น แทนที่การใช้พลังงานจากก๊าซ ถ่านหิน และน้ำมัน เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

ยูโอบีย้ำถึงบทบาทของธนาคารในการจัดสรรเงินในการลงทุนเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น ซึ่งรายงานการศึกษาของสำนักงานพลังงานทดแทนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency: IRENA) พบว่าต้องมีการจัดสรรเงินลงทุนรวมกว่า 57 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐให้แก่ธุรกิจพลังงานไปจนถึงปี 2573 เพื่อจำกัดอุณหภูมิของโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสตามความตกลงปารีส (Paris Agreement)2 โดยเงินลงทุนประมาณร้อยละ 57 มาจากการปล่อยกู้และการระดมทุนโดยสถาบันการเงิน อีกร้อยละ 25 มาจากเงินลงทุนในบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ (private equity markets) และส่วนที่เหลือมาจากเงินลงทุนของธนาคารเพื่อการพัฒนาต่างๆ และเงินลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (public equity markets)

สำหรับภาคขนส่งที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึงร้อยละ 20 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมยานยนต์พลังงานสะอาดในอนาคตเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ ยูโอบีมองว่าแนวโน้มการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกจะเติบโตถึงร้อยละ 18 ภายในปี 2566 และจะมากถึงร้อยละ 35 ภายในปี 2573 โดยเฉพาะในอาเซียนที่ยอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในหลายประเทศมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 จากนโยบายของรัฐบาลที่เกื้อหนุนต่ออุตสาหกรรมและโมเดลรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในประเทศไทย และประเทศอินโดนิเซียที่รัฐบาลกำหนดให้การพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นนโยบายเศรษฐกิจหลักเพื่อส่งเสริมให้ค่ายผู้ผลิตให้ย้ายฐานการผลิต

ธนาคารยูโอบีพร้อมสนับสนุนโซลูชันทางเงินแบบครบวงจรภายใต้โครงการยู-ไดรฟ์ (U-drive) เพื่อเชื่อมต่อไปยังทุกภาคส่วนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่ บริษัทผลิตรถยนต์ บริษัทผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนรถยนต์(OEMs) ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ผู้ประกอบการสถานีชาร์จแบตเตอรี่ ไปจนถึงผู้บริโภค ให้สามารถนำระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ตลอดจนขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน

นอกจากนี้ธนาคารได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ล้ำสมัยให้ตอบสนองต่อความต้องการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดของภูมิภาค เช่น สินเชื่อทางการเงินเพื่ออนุรักษ์พลังงานสำหรับอาคารและที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการยู-เอนเนอร์จี (U-Energy) ควบคู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมและโครงการต่างๆที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร หรือส่งเสริมความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม

โครงการยู-โซลาร์ (U-Solar) โซลูชันทางการเงินแบบครบวงจรที่สนับสนุนทุกภาคส่วน ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไปให้เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มากขึ้น ความสำเร็จของโครงการในประเทศไทย สิงค์โปร์ อินโดนิเซีย และมาเลเซียช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนและเร่งให้การพัฒนาด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในอาเซียนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน โครงการยู-โซลาร์ของสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 186,000 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า (tCO2e) ทั่วภูมิภาคอาเซียน

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เชิญชวนศิลปินมืออาชีพและศิลปินใหม่หรือสมัครเล่น ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566

เวทีการประกวดงานจิตรกรรมเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ต่อยอดสู่การประกวดระดับภูมิภาค โดยมุ่งสนับสนุนชุมชนศิลปินและศิลปินรุ่นเยาว์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีศิลปะระดับภูมิภาค และปีนี้ยูโอบีได้ขยายการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเวทีการประกวดจิตรกรรมที่ทรงเกียรติที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สู่เวียดนามเป็นประเทศที่ห้า

สำหรับงานเปิดตัวในวันนี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้จัดให้มีการเสวนาแบ่งปันประสบการณ์ เกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสของศิลปินไทยในการมุ่งสู่เส้นทางการเป็นศิลปินในเวทีศิลปะระดับสากล พร้อมบอกเล่าปัจจัยสำคัญที่เอื้อประโยชน์แก่ศิลปินในการเติบโตและประสบความสำเร็จในแวดวงศิลปินระดับโลก อันได้แก่ การสร้าง อัตลักษณ์ทางศิลปะ เทคนิค ความหลงใหล และความมุ่งมั่นอันแรงกล้า นอกจากนี้ งานเสวนายังแบ่งปันวิธีที่ศิลปินใหม่หรือสมัครเล่นจะเรียนรู้จากข้อมูลเชิงลึกและประสบการณ์ของศิลปินอาชีพและผู้เชี่ยวชาญในวงการศิลปะ ซึ่งจะช่วยชี้แนะให้ประสบความสำเร็จในวงการศิลปะที่แข่งขันสูง การเสวนาครั้งนี้นำโดย อาจารย์ อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (สื่อผสม) ปี 2563 และรองอธิบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ประธานคณะกรรมการตัดสิน การประกวดจิตรกรรมยูโอบี ประเทศไทย คุณชมรวี สุขโสม ผู้ชนะการประกวดจิตรกรรมยูโอบีระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2565 และ คุณนริศรา เพียรวิมังสา ศิลปินชื่อก้องผู้สร้างสรรค์ผลงานสีอะคริลิกและผ้า ที่มีประสบการณ์เข้าร่วมโครงการศิลปินในพำนักในประเทศญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอเมริกา

การออกแบบโลโก้การประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 14

การออกแบบโลโก้การประกวดจิตรกรรมยูโอบี ประจำปี 2566 ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงาน ดิสโทเปีย ของคุณชมรวี สุขโสม ศิลปินไทยผู้ชนะการประกวดจิตรกรรมยูโอบีระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2565 รูปทรงกลมที่กำลังเปลี่ยนแปลงรูปร่างสื่อถึงโลกของเราที่พัฒนาและปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ตามวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาในระยะยาวของธนาคารที่จะไม่หยุดพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคและอยู่เคียงข้างชุมชน

นางสาวธรรัตน โอฬารหาญกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปีนี้ ยูโอบีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายการจัดการประกวดจิตรกรรมยูโอบีนี้ไปสู่ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นได้ค้นพบความหลงใหลที่มีต่องานศิลปะ เพราะเราเชื่อว่าศิลปะช่วยยกระดับจิตใจและเชื่อมโยงชุมชนต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยทางธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการเฟ้นหา ฟูมฟัก และสนับสนุนศิลปินผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และความสามารถในประเทศไทยมาเป็นเวลานานกว่า 1 ทศวรรษ ผ่านการประกวดจิตรกรรมยูโอบีประจำปีและโครงการส่งเสริมศิลปะสู่ชุมชนต่างๆ ดิฉันรู้สึกดีใจที่ได้เห็นศิลปินรุ่นพี่ผู้ชนะการประกวดจิตรกรรมยูโอบีมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ความสามารถและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละคน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่เพื่อนศิลปิน และเพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งหมายของธนาคารในการสร้างอนาคตของอาเซียน”

เชิญชวนศิลปินส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 14 พร้อมเงินรางวัลสำหรับประเภทศิลปินใหม่หรือสมัครเล่นที่เพิ่มขึ้น

ในฐานะผู้อุปถัมภ์ศิลปะชั้นนำในเอเชีย การประกวดจิตรกรรมยูโอบีประสบความสำเร็จในการเฟ้นหาศิลปินอาชีพและศิลปะใหม่หรือสมัครเล่นจากประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาค การประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 14 เปิดรับผลงานศิลปะของผู้มีสัญชาติไทยและผู้มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทยผ่านระบบดิจิทัล www.uob.co.th/poy ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ถึง 15 สิงหาคม 2566

พิธีประกาศและมอบรางวัลการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 14 จะจัดขึ้นในวันที่ 11 ตุลาคม 2566 ผลงานชนะเลิศจากประเทศไทยจะได้รับสิทธิเข้าแข่งขันในระดับภูมิภาคร่วมกับผลงานชนะเลิศจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม เพื่อชิงเงินรางวัลอีก 13,000 เหรียญสิงคโปร์ นอกเหนือจากเงินรางวัลระดับประเทศ นอกจากนี้ ผู้ชนะการประกวดจิตรกรรมยูโอบีระดับประเทศยังมีโอกาสได้รับคัดเลือกเป็นศิลปินในพำนัก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นระยะเวลา 1 เดือนอีกด้วย พิธีประกาศและมอบรางวัลการประกวดจิตรกรรมยูโอบีระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะจัดขึ้นที่โรงละครวิคตอเรีย ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566

นอกจากนี้ เพื่อสนับสนุนศิลปินใหม่หรือสมัครเล่นในภูมิภาคในการไล่ตามความฝันในแวดวงศิลปะ ยูโอบีจึงเพิ่มเงินรางวัลสำหรับประเภทศิลปินใหม่หรือสมัครเล่น โดยผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทศิลปินใหม่หรือสมัครเล่นจะได้รับเงินรางวัลเพิ่มเป็น 125,000 บาท

ส่งเสริมศิลปะสู่ชุมชนต่างๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ศิลปินรุ่นเยาว์

เพื่อส่งเสริมให้ศิลปินไทยเติบโตและประสบความสำเร็จในแวดวงศิลปะระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมศิลปะสู่ชุมชนต่างๆ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้เตรียมจัดทำคลิปวิดีโอเพื่อให้ความรู้ โดยมีศิลปินรุ่นพี่ผู้ชนะการประกวดจิตรกรรมยูโอบี อาทิ คุณปานพรรณ ยอดมณี คุณธิดารัตน์ จันทเชื้อ และคุณชมรวี สุขโสม มาร่วมแบ่งปันเทคนิค กระบวนการคิดในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ และทัศนคติที่จำเป็นในการผลักดันผลงานให้เป็นที่รู้จักในเวทีศิลปะระดับสากล ผู้สนใจสามารถชมวิดีโอแบ่งปันความรู้ได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ผ่าน www.facebook.com/uob.th และ www.uob.co.th/uobandart

นอกจากนี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จะจัดเดินสายกิจกรรม “โรดโชว์ศิลปะ” ไปตามสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 20 แห่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่จากทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ชุมชนศิลปะท้องถิ่นและนิสิตนักศึกษาสาขาวิชาศิลปะได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านศิลปะและรับแรงบันดาลใจจากศิลปินอาชีพและศิลปินรุ่นพี่ผู้ชนะการประกวดจิตรกรรมยูโอบีที่ประสบความสำเร็จในแวดวงศิลปะต่างประเทศ

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย มอบสินเชื่อสีเขียวจำนวน 150 ล้านบาทให้แก่บริษัทโพลีเทคโนโลยี จำกัด

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย มุ่งสร้างอนาคตเด็กไทยด้วยทักษะความรู้และภูมิคุ้มกันด้านการเงินให้กับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา ผ่านหลักสูตรการเงินออนไลน์ “UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่งการเงิน” โดยร่วมกับโครงการร้อยพลังการศึกษา ดำเนินงานมาแล้ว 2 ปีนับตั้งแต่ปี 2564 มีนักเรียนมากกว่า 2,300 คน จาก 39 โรงเรียน ได้เข้าเรียนและรับความรู้เรื่องการเงินจากหลักสูตรการเงินทั้งจากห้องเรียนออนไลน์และห้องเรียนในโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเดินหน้าสานต่อในปี 2566

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับตัวแทนคุณครูและนักเรียนที่จบหลักสูตร UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่งการเงิน ปีการศึกษา 2565 ทั้งสิ้น 1,223 คน ณ อาคารยูโอบี พลาซา กรุงเทพ สำนักงานใหญ่ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย โดยมีผู้บริหารจากธนาคารยูโอบี ประเทศไทยและพันธมิตรโครงการเข้าร่วมในงาน

หลักสูตรการเงินออนไลน์ UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่งการเงิน ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นสำหรับเยาวชนโดยเฉพาะจากสถาบันความรู้การเงินมันนี่คลาส เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วิธีจัดการเงินให้มีประสิทธิภาพ และเข้าใจถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถเริ่มต้นวางแผนและตั้งเป้าหมายการเงินได้ตั้งแต่วัยรุ่น โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ UOB My Digital Space ซึ่งมีแผนดำเนินโครงการในระยะยาวเพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาของเด็กที่ด้อยโอกาสทั่วทั้งภูมิภาคให้เข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้ผ่านช่องทางดิจิทัล และเชื่อมโยงพวกเขาสู่โลกแห่งโอกาสการเรียนรู้ดิจิทัล

Page 5 of 9
X

Right Click

No right click