โดยมีเจ้าภาพร่วมคือ กระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ธนาคารกลางจีน คณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและประกันภัยจีน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีน สำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศ รัฐบาลฉงชิ่ง ตลอดจนกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม และธนาคารกลางของสิงคโปร์
ในพิธีเปิดงาน นายถัง เหลียงจื้อ นายกเทศมนตรีฉงชิ่งและรองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งฉงชิ่ง ได้กล่าวสุนทรพจน์อย่างน่าประทับใจ ขณะที่แขกผู้มีชื่อเสียง ซึ่งประกอบด้วย นายออง เย คุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและสมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางสิงคโปร์ นายราวี เมนอน กรรมการผู้จัดการธนาคารกลางสิงคโปร์ นายพาน กงเซิ่ง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนและผู้อำนวยการสำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศ ได้ร่วมกล่าวเปิดงานเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,200 คน ประกอบด้วยผู้นำหน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงินจาก 8 ประเทศอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ บรูไน อินโดนีเซีย ลาว และกัมพูชา ผู้บริหารมณฑลและเขตปกครองตนเองอื่น ๆ ผู้บริหารสถาบันการเงินและบริษัทข้ามชาติชื่อดังในเอเชียแปซิฟิก ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในโลกการเงิน เจ้าหน้าที่รัฐบาลจากหน่วยงานการเงินทั้งในระดับเขตการปกครอง อำเภอ และเมือง ตลอดจนผู้บริหารสถาบันการเงินและองค์กรอุตสาหกรรมในฉงชิ่ง และนักข่าวจากองค์กรสื่อชั้นนำที่มาร่วมพิธีเปิดและเป็นสักขีพยานในงานสำคัญนี้
เพื่อให้เป็นไปตามเป้าประสงค์หลักของการประชุม ซึ่งก็คือการนำโครงการสาธิตระดับนวัตกรรมที่เสนอโดยรัฐบาลกลางจีนไปสู่การปฏิบัติจริง รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ บนเส้นทางสายไหมใหม่ (Belt and Road Initiative) และเพื่อสร้างระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) การประชุมสุดยอดในปี 2019 จึงเชิญเจ้าหน้าที่รัฐบาล ผู้บริหารภาคธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญจากจีน สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ เกือบ 300 คนมาร่วมประชุมและหารือกันในหลายหัวข้อ ครอบคลุมการลงทุนและการเงินข้ามพรมแดน เทคโนโลยีการเงิน การเงินที่ทั่วถึง การเงินสีเขียว ระบบการเงินห่วงโซ่อุปทาน การเงินโลจิสติกส์ และการแปรรูปสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยภารกิจในภาพรวมของการประชุมสุดยอดครั้งนี้ก็คือการสร้างหลักประกันเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนที่เหมาะสมสำหรับโครงการ Belt and Road Initiative และการสร้างระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศแห่งใหม่ผ่านทางนวัตกรรม