โครงการพัฒนาดังกล่าวครอบคลุมการติดตั้ง การดำเนินการ และการบำรุงรักษาระบบแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาที่พักอาศัยจำนวน 961 แห่ง และอาคารพาณิชย์และโครงการอุตสาหกรรมอีกกว่า 1,234 แห่ง ในแต่ละปี รวมแล้วจะผลิตไฟฟ้าสะอาดได้ประมาณ 48 เมกะวัตต์สูงสุด (MWp) พร้อมลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 27,900 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 1 ล้านต้น
นายแอนดี้ เฉี่ย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจ Wholesale Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ระบุว่า “ในฐานะที่ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน เราช่วยกระตุ้นและทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เราเชื่อมั่นว่าความช่วยเหลือทางการเงินนี้จะมีส่วนช่วยให้เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่และลูกค้าของบริษัทบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลลงได้”
ข้อตกลงการเข้าถึงเงินทุนสีเขียวกับเชาว์ เอ็นเนอร์ยี่นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในโครงการยู-โซลาร์ ของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเข้าถึงเงินทุนครบจบในที่เดียวที่ช่วยขับเคลื่อนการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ทั่วประเทศ โครงการนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2563 นับเป็นความพยายามของธนาคารในการเชื่อมโยงภาคธุรกิจกับกลุ่มผู้บริโภคในห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด อีกทั้งยังช่วยให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานแบบคาร์บอนต่ำ
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นผ่านโซลูชันด้านพลังงานต่างๆ ของบริษัท การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ในครั้งนี้จะช่วยให้เราขยายการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่สนใจใช้และรับผลประโยชน์จากพลังงานที่สะอาดมากยิ่งขึ้น”
บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในหลายบริษัทในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานต่างๆ และยังคงขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ