ได้กำหนดให้ตรงกับวันที่ 9 มีนาคม 2566 พร้อมการเฉลิมฉลองทั่วโลก โดยที่ประเทศไทยจะร่วม เฉลิมฉลองโอกาสสำคัญนี้ด้วยหลากหลายกิจกรรมน่าตื่นตาตื่นใจที่กำหนดจัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 7 - 17 มีนาคม 2566 ณ สามศูนย์การค้าสุดชิคของกรุงเทพ ฯ ได้แก่ ไอคอนสยาม เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ตามลำดับ
อิตาเลียนดีไซน์เดย์มุ่งที่จะโปรโมทฝีมือการดีไซน์ของประเทศอิตาลีไปทั่วทุก มุมโลก เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแนวทาง Made in Italy ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสู่ ความสำเร็จในภาคการผลิต และเป็นรากฐานสำคัญของสินค้าส่งออกของประเทศ ธีมที่คัดสรรสำหรับงานปีนี้คือ “Light on Made in Italy” ที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้ม ความสนใจทั่วโลกในเรื่องของความยั่งยืน รวมถึงการใช้แนวคิดการออกแบบเป็น เครื่องมือทรงประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานอย่างมีจริยธรรม และคุ้มค่า
งานมหกรรมดีไซน์ในปีนี้จัดขึ้นด้วยความร่วมมืออย่างแข็งขันของสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และสำนักพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย ร่วมกับหอการค้าไทย-อิตาเลียน และสมาคมการออกแบบอุตสาหกรรมอิตาลี (Association for Industrial Design –ADI) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของ การออกแบบที่มีพลวัตและอยู่ภายใต้ บริบทของโลกตลอดจนส่งเสริมการ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการ ใช้ชีวิตให้คำนึงถึงระบบนิเวศ โดยการประยุกต์ใช้นวัตกรรม ทางเทคโนโลยีอิตาเลียนดีไซน์เดย์ครั้งนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ดังนี้:นิทรรศการ “ITALIA GENIALE” จากฝีมือการรังสรรค์ของ ADI ที่ชนะใจผู้ชมนานาชาติ จากการจัดแสด งที่กรุงโรมและในอิตาเลียนพาวิลเลียนที่งานเวิลด์เอ็กซ์โป ดูไบ 2020 ซึ่งจะจัดแสดงที่ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 7 - 16 มีนาคม 2566 โดยกรุงเทพฯ ได้รับ เลือกให้เป็นจุดแรกในอาเซียนทัวร์ของนิทรรศการชุดนี้
“Italia Geniale” เป็นนิทรรศการที่เชิดชูความเป็นผลิตภัณฑ์ Made in Italy ผ่าน 71 ชิ้นงานที่เป็นสัญลักษณ์ระดับตำนานของการออกแบบอุตสาหกรรมของอิตาลีในทุกแขนง ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ การกีฬาจนถึงการออกแบบอาหาร เสื้อผ้า หรือแม้แต่หุ่นยนต์ ทุกชิ้นล้วนมาอวดความงาม ความคิดริเริ่มและแนวทาง สร้างสรรค์ในการออกแบบอุตสาหกรรมของอิตาลีที่ได้รับความชื่นชอบและโด่งดังไปทั่วโลก
ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี (Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย นาย และนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมจะร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ “Italia Geniale” ในวันที่ 7 มีนาคม 2566 เวลา 16.00 น ในงานเดียวกันนี้ จะมีการมอบรางวัลให้กับนักศึกาษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ออกแบบตราสัญลักษณ์เนื่องในอากาสการเฉลิมฉลองครบรอบ 155 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-อิตาลีในปีนี้
ในวันที่ 8 มีนาคม แฟชั่นโชว์ในงาน “DOLCE ITALIA” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ของงาน มีกำหนดจัดขึ้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างเวลา 17.30-20.00 น. ที่ยกขบวนผลงานการออกแบบแฟชั่นและสินค้า ไลฟ์สไตล์ของอิตาลีมา ขึ้นเวที มาเผยโฉมเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของอิตาลีให้ผู้รับชม ภายใต้สัญญาความร่วมมือระหว่างสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ITA) และห้างเซ้นทรัลที่ร่วมมือกันจัดแคมเปญ ‘Dolce Italia’ เพื่อส่งเสริมแฟชั่นอิตาเลียน และสินค้าแผนกความ งามและเครื่องใช้ในบ้านมอบความพิเศษและกิจกรรมต่างๆ ที่ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์และ เซ็นทรัลชิดลม ตั้งแต่วันที่ 8มีนาคม - 30 เมษายน 2566
ในวันที่ 9 มีนาคม เวลา 11.00 น. ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย จะเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ Italian Lighting Exhibition ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ชั้น 4 ซึ่งจัดแสดงอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่เน้น คุณภาพ นวัตกรรม การใช้งานและการประหยัดพลังงาน โดยผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายโคมไฟและ อุปกรณ์ให้แสงสว่างจากอิตาลี เช่น Euro Creations Lamptitude และ Motif รวมถึงผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากอิตาลี ในประเทศเมียนมา Supremo Vita ที่จะนำเสนอโคมไฟหลากหลายประเภทจากบริษัทชั้นนำของอิตาลีซึ่งมีการออกแบบอุปกรณ์ ที่เน้นการใช้ในเมืองแห่งอนาคต โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและการปกป้อง สิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับความสวยงามของสินค้า มิติดังกล่าวนี้ คือ ประเด็นหลักที่ใช้ ในการเสนอตัวชื่อของกรุงโรมเพื่อเป็นเจ้าภาพงานเอ็กซ์โป 2030
ในวันเดียวกัน เวลา 14.00 น. สถาปนิก อเล็กซานเดอร์ มาเรียน เบลแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์แสงสว่างที่มากด้วยประสบการณ์จนเรียกได้ว่าเป็นผู้การันตี คุณภาพงานดีไซน์อิตาเลียน จะมาเปิดมาสเตอร์คลาส ฟรี สำหรับผู้สนใจการ ออกแบบเชิงสร้างสรรค์ที่ Open House เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ชั้น 6
นอกจากนี้ ในปีนี้ ประเทศกัมพูชาจะจัดงานอิตาเลียนดีไซน์เดย์ขึ้นเช่นกัน โดย มีกำหนดจัดในวันที่ 9 มีนาคม เวลา 17.00 - 20.00 น. ที่ Vespa Cambodia กรุงพนมเปญ ภายใต้แนวคิด “คุณภาพที่ส่องสว่าง:พลังแห่งการออกแบบสำหรับผู้คน และสิ่งแวดล้อม” โดยสมาคมธุรกิจอิตาเลียน-กัมพูชา (Italian-Cambodian Business Association) เป็นผู้ประสานงานด้วยการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และ สำนักพาณิชย์อิตาเลียน ทั้งนี้โดยสถาปนิกคนดัง อเล็กซานเดอร์ มา เรียน เบลแมน จะเข้าร่วมงานแบบออนไลน์ด้วย
ในขณะเดียวกัน จากการประสานงานและร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลี ณ กรุงย่างกุ้ง กลุ่มผู้แทนจากประเทศเมียนมา ประกอบด้วย มัณฑณากร นักออกแบบแฟชั่น และผู้ประกอบการนำเข้าสินค้า จะเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆในงานอิตาเลียนดีไซน์ เดย์ที่กรุงเทพฯ ด้วย