December 23, 2024

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตร “วินด์เซอร์” (WINDSOR) ผู้นำตลาดประตูหน้าต่างไวนิล จากบริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ชูนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างรักษ์โลกจากไวนิล ปูพรมกว่า 78 โครงการบ้านของศุภาลัยทั่วประเทศ จับมือเดินหน้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน พร้อมยกระดับบ้านอยู่สบาย ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและดีไซน์ด้วย “Ultimate Protection” ที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อน ฝุ่น เสียง และการรั่วซึมได้มากขึ้น พร้อมก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ศุภาลัย ประกาศความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง มาตรฐานดี และมีความปลอดภัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อีกทั้งยังสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 โดยเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้วัสดุ Green Product รวมไปถึงการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง รวมถึงการบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยสีเขียวและก้าวสู่การเป็นองค์กร Zero Waste แบบครบวงจร”

ทั้งนี้ ศุภาลัย ยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างนวัตกรรมที่อยู่อาศัยร่วมกัน โดยการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ศึกษา และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพ สามารถนำไปใช้จริง โดยร่วมกับ “วินด์เซอร์” (WINDSOR) ผู้นำตลาดประตูหน้าต่างไวนิล ในกลุ่มธุรกิจ SCGC เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบประตูและหน้าต่าง สามารถลดการใช้พลังงานในการผลิต ส่งผลให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงไปด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเกิดเศษวัสดุเหลือจากกระบวนการประกอบ โดย ศุภาลัยได้คัดสรรเลือกใช้ประตูหน้าต่างไวนิลวินด์เซอร์ ตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน ยาวนานนับหลายสิบปีที่ ผ่านมา จึงมั่นใจได้ว่าบ้านทั่วประเทศของศุภาลัยที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์จาก “วินด์เซอร์” นั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความมุ่งมั่นของศุภาลัยในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

 

นายอภิชาติ พรวรนันท์ ผู้จัดการฝ่ายขายโครงการ และ Profiles Business Sponsor บริษัท  นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ในกลุ่มธุรกิจ SCGC กล่าวว่า “จากสภาวะโลกเดือดที่เป็นปัญหาสำคัญของโลกในขณะนี้ ทุกภาคส่วนต่างตระหนักและร่วมมือกันเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว สำหรับวินด์เซอร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทาง ESG จาก SCGC  ได้มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนด้วยวัสดุประตูหน้าต่างไวนิลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิสัยทัศน์ “WINDSOR for Sustainability” โดยเดินหน้าพัฒนากระบวนการผลิตประตูหน้าต่างไวนิล ในรูปแบบ “Pre-cut” ที่มีเฉพาะในแบรนด์วินด์เซอร์ ทำให้ไม่เกิดเศษเหลือในกระบวนการประกอบ (Zero Waste) ผ่านการรับรองจาก SCG Green Choice  รวมทั้งได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุต พริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (CFP) และฉลากลดโลกร้อน (CFR) จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้พลังงานในการผลิตที่ลดลงได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ SCGC ที่มุ่งเน้นเรื่อง Low Waste, Low Carbon พร้อมทั้งตอบโจทย์แนวทางการสร้างบ้านของศุภาลัยที่มุ่งมั่นเลือกใช้สินค้าคุณภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกบ้าน ควบคู่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”

 

ทั้งนี้ ทุก ๆ การใช้ประตูหน้าต่างไวนิลวินด์เซอร์ในบ้าน 1 หลังของโครงการศุภาลัย ด้วยการใช้กระบวนการประกอบในรูปแบบ Pre-cut สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 39 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ (kgCO2) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 5 ต้น ตอบโจทย์เจ้าของบ้านสายกรีนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทางศุภาลัยได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กรอบประตูหน้าต่างของวินด์เซอร์ในโครงการต่าง ๆ กว่า 78 แห่งทั่วประเทศ รวมพื้นที่หน้าต่างโครงการคิดเป็นปริมาณ CO2 ที่ลดลงกว่า 194,062 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ (kgCO2) เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 22,612 ต้น

นอกจากการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนแล้ว วินด์เซอร์ยังพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับบ้านอยู่สบาย ด้วยคุณสมบัติ “Ultimate Protection” ที่พัฒนาให้มีคุณสมบัติเพื่อปกป้องบ้านและผู้อยู่อาศัยจากสิ่งรบกวน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งในแง่ฟังก์ชันและดีไซน์ ให้บ้าน “เงียบกว่า” เมื่อเทียบกับการใช้บานอลูมิเนียมทั่วไปถึง 40% โดยสามารถลดทอนเสียงรบกวนจากภายนอกสู่ภายในบ้านได้ถึง 32 เดซิเบล  นอกจากนี้ ยัง “เย็นกว่า” ด้วยประสิทธิภาพการป้องกันความร้อน จึงช่วยประหยัดการใช้พลังงานในระยะยาว ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 9,144 บาทต่อปี  “ปลอดฝุ่นกว่า” สามารถป้องกันมลภาวะและฝุ่น PM2.5 จากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้ถึง 3 เท่า เพื่อสุขภาวะที่ดี และ “มั่นใจกว่า” ป้องกันการรั่วซึมของน้ำและอากาศ ต้านทานแรงลมได้ดี ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน พร้อมรองรับทั้งบ้านพักอาศัยและงานอาคารสูง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ “วินด์เซอร์” (WINDSOR) ผู้นำตลาดประตูหน้าต่างไวนิล ในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) เปิดตัวนวัตกรรมสินค้าประตู หน้าต่างไวนิล ยกระดับบ้านอยู่สบาย ด้วย “Ultimate Protection” ป้องกันความร้อน ฝุ่น เสียง ไม่รั่วซึม พร้อมชูรักษ์โลกประหยัดพลังงาน และผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เปิดประสบการณ์การอยู่อาศัยไร้รอยต่อ ภายใต้แนวคิด Seamless Living Experience” ตอบโจทย์งานดีไซน์ทุกสไตล์ ในงาน “สถาปนิก’67” (ASA 2024) ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่ผ่านมา

“วินด์เซอร์” (WINDSOR) เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการคุณภาพ พร้อมมุ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งมอบแรงบันดาลใจแก่ผู้เข้าร่วมชมงานในพื้นที่บูทสองชั้น ยิ่งใหญ่กว่าที่เคย ตอกย้ำศักยภาพด้านงานออกแบบที่พร้อมตอบโจทย์งานดีไซน์ได้ทุกสไตล์ ชวนมาพิสูจน์คุณสมบัติ Ultimate Protection’ ปกป้องบ้านและผู้อยู่อาศัยอย่างสูงสุด ด้วยมุมทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันความร้อน ให้บ้านเย็นกว่า ประหยัดการใช้พลังงานในระยะยาว โดยสามารถประหยัดค่าไฟได้สูงสุด 9,144 บาท/ปี (คำนวณจากบ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร) ป้องกันมลภาวะและฝุ่นจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีกว่าวัสดุทั่วไป 3 เท่า ป้องกันเสียงรบกวนได้ดีกว่าอลูมิเนียมทั่วไปถึง 40% รวมทั้งป้องกันการรั่วซึม มั่นใจว่าบ้านอยู่สบาย นอกจากนี้ วินด์เซอร์ยังมุ่งพัฒนาวัสดุและกระบวนการประกอบประตูหน้าต่างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยทุก ๆ การใช้ประตูหน้าต่างไวนิล วินด์เซอร์ 1 หลัง สามารถลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 39 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 5 ต้น ตอบโจทย์เจ้าของบ้านสายกรีนได้เป็นอย่างดี

วินด์เซอร์ได้นำเสนอนวัตกรรมอื่น ๆ ภายในงาน อาทิ ระบบบานเลื่อนรูปแบบใหม่ ‘SIGNATURE PRO’ ที่ทำความกว้างได้ถึง 5.6 เมตร ความสูงได้ถึง 3 เมตร เชื่อมต่อพื้นที่ภายในสู่ภายนอกอย่างอิสระ มอบสัมผัสแห่งการอยู่อาศัยที่เปิดกว้าง เหมาะสำหรับงานออกแบบที่ต้องการความปลอดโปร่ง เช่น บ้านพักประเภทรีสอร์ต และพูลวิลล่า ที่ต้องการบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเปิดตัวดีไซน์วงกบรูปแบบใหม่ในตระกูล RIGHT Series กับRIGHT XTEND’ ที่มีขนาดวงกบ 10 เซนติเมตร เรียบเสมอกับระดับผนัง ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ แต่ยังคงกลิ่นอายโมเดิร์นที่เป็นเอกลักษณ์ของ RIGHT Series ตอบครบ จบทุกความต้องการเรื่องประตูหน้าต่าง

X

Right Click

No right click